บททั้งหมดของ เกิดใหม่อีกครั้งกับยัยขี้เหร่: บทที่ 71 - บทที่ 80
255
บทที่ 71
ชายชราถอนหายใจ ที่ซู่หรูหลานพูดมันก็เป็นความจริง หลานสาวอีกสองคนก็ไม่ได้แย่เช่นกัน แต่ชีวิตนี้เขาเจอผู้คนมามากมายหลายแบบเกินไป เขามีความรู้สึกว่า เฉินมู่น่ะดีที่สุดแล้วพอเห็นชายชราลังเล หญิงสาวจึงยื่นข้อเสนอทันที “คุณพ่อดูสิคะ ถ้าให้ชิงเสวี่ยกับเสี่ยวมู่ไปที่ค่ายฝึกภาษาที่นั่นด้วยกัน นี่มันก็เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมดีนะคะ แม้ว่าครั้งนี้ชิงเสวี่ยจะไปต่างประเทศไม่ได้ อย่างน้อยให้เรียนรู้อะไรไว้บ้าง จะได้ไม่ต้องก่อเรื่องในตระกูลทำให้คุณพ่อไม่พอใจอีก ไม่ดีหรือคะ?”ชายชราโบกมืออย่างคนเหลืออด “พวกเธอสามีภรรยาตัดสินใจกันเองเถอะ!”ในใจของซู่หรูหลานรู้สึกยินดีขึ้นมาทันที “ชิงเสวี่ย! ยังไม่รีบมาขอบคุณคุณปู่อีก!”ตอนนั้นเอง เฉินมู่ที่เดินออกไปได้กลับเข้ามาอีกครั้ง เธอก้าวขายาว ๆ พลันโยนผลตรวจในมือใส่หน้าของเฉินชิงเสวี่ยพร้อมพูดเสียงเย็นเยียบ “นี่ไงหลักฐานที่เธอต้องการ! รอบหน้าถ้าจะทำร้ายฉันช่วยทำให้มันสะอาดกว่านี้หน่อย พอทำเรื่องชั่ว ๆ เสร็จจะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้ในบ้านแบบนี้อีก!”เฉินชิงเสวี่ยทำเพียงชำเลืองมองแวบหนึ่ง ก่อนจะขยี้กระดาษจนเป็นก้อนแล้วปาลงบนพื้นทันที เธอทำทีร้องไห้ลั่น “นี่
Read More
บทที่ 72
“คุณปู่คะ!” เฉินชิงเสวี่ยเข้ามาประชิดแล้วตระโกนเสียงดัง “เฉินมู่! แกทำอะไรของแกเนี่ย!”เฉินมู่ยกขาถีบอีกฝ่ายออกไป “เรียกรถพยาบาลสิ! เธออยากให้ปู่ตายวันนี้หรือไงกันห๊ะ?”เฉินชิงเสวี่ยไม่ได้โต้แย้งกลับมาเหมือนตอนปกติ เธอเรียกรถพยาบาลอย่างตื่นตระหนก ทุกคนในบ้านต่างรีบร้อนตามไปที่โรงพยาบาลด้านนอกห้องฉุกเฉิน สมาชิกครอบครัวเฉินล้วนเฝ้ารอผลอย่างใจจดใจจ่อ เฉินมู่เองก็ไม่ต่างกัน ความผูกพันทางสายเลือดที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเธอมันร้องเตือนเธอว่านี่คือปู่แท้ ๆ ของเธอเฉินลี้ซานสาวเท้าอย่างเร็วไปหยุดตรงหน้าของเฉินมู่และฟาดฝ่ามือตบลงบนหน้าลูกสาว!เฉินมู่ถูกตบจนเซ ร่างบางใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มเบา ๆ เพื่อบรรเทาความเจ็บอยู่พักหนึ่ง ก่อนมองไปยังเฉินลี้ซาน “เห็นแก่สายเลือด หนูจะไม่ตอบโต้ก็แล้วกัน พ่อก็อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”“แกยังกล้าจะตอบโต้อีกเหรอ?” เฉินลี้ซานยกมือขึ้นเตรียมฟาดลงมาอีกครั้ง “แกทำให้บ้านมีแต่เรื่องร้าย ๆ! คนเป็นพ่ออย่างฉันไม่สามารถสอนแกได้อีกแล้วใช่ไหม?”ซู่หรูหลานค่อย ๆ ดึงเฉินลี้ซานพลางพูดเสียงนุ่มนวล “ที่รัก อย่าตีเลย เสี่ยวมู่ไม่ได้ตั้งใจ”หล่อนยิ้มเยาะมองใบหน้าบวมแดงครึ่งหนึ่
Read More
บทที่ 73
ฮั่วหยุนเซียวใส่ยาให้เธอและทำแผลตรงนิ้วให้ด้วย แต่พอเห็นว่าหญิงสาวกำลังสับสน อีกทั้งมีท่าทางที่ลำบากใจ เขาจึงยกมือขึ้นลูบผมของเธอเบา ๆ “เอาเถอะ พูดไม่ออกก็ไม่ต้องพูดแล้ว”เฉินมู่ที่เหมือนได้รับการให้อภัยก็รีบข้ามหัวข้อสนทนานี้ทันที “คุณชายฮั่วคะ คุณมาหาคุณหมอโอวที่โรงหยาบาลเหรอคะ?”ฮั่วหยุนเซียวส่ายหน้า “ผมมาหาคุณ”เฉินมู่ชะงักไป “มาหาฉันทำไม?”แต่พอเธอนึกถึงตอนเจอหน้ากันที่ห้องทำงานของโอวจินเมื่อวานนี้แล้ว ก็ดันรู้สึกไม่มีความสุขขึ้นมาไม่ว่าใครก็ตามที่ใช้ชีวิตผ่านวันเหล่านั้นมาอย่างยากลำบาก หลังจากที่พยายามมาอย่างหนักแต่สิ่งที่ได้รับมากลับเป็นแค่สูตรตำราอาหารพิลึกยากที่จะเข้าใจเล่มหนึ่ง ก็คงจะไม่มีความสุขกันทั้งนั้นแหละฮั่วหยุนเซียวดึงเธอให้ลุกขึ้น แล้วพาเดินออกจากโรงพยาบาล “ไปกับผม”เฉินมู่ถูกฮั่วหยุนเซียวพาขึ้นมาบนรถเพื่อตรงไปยังอพาร์ทเมนท์เธอเดินตามชายหนุ่มเข้าประตูไปพร้อมความสงสัย “คุณชายฮั่วคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”ร่างบางเปลี่ยนรองเท้าพลางเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น สักพักก็ได้กลิ่นหอมโชยมาปะทะหน้า เฉินมู่ตกตะลึง “มีคนอยู่ในครัวเหรอคะ?”เธออ้อมไปทางห้องครัวแล้วหยุดที่ห
Read More
บทที่ 74
วันนี้ผู้ชายคนนี้ต้องตั้งใจเตรียมการแน่ ๆ เฉินมู่ถึงรู้สึกได้ว่ารูปร่างหน้าตาของเขามันดูดีเหลือเกิน เธอพยักหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก “อื้ม อื้ม สำเร็จแล้ว”ฮั่วหยุนเซียวยกยิ้มมุมปาก “งั้นทานข้าว”เฉินมู่นั่งลง พลางคีบปีกไก่เข้าปาก สายตาคมดูตื่นเต้นเพราะได้ลิ้มลองอาหารรสเลิศ เธอเลิกคิ้วและจ้องไปยังฮั่วหยุนเซียว “คุณเอากระดูกออกจากปีกไก่ด้วยเหรอคะเนี่ย?!”ฮั่วหยุนเซียวหยักหน้า “ในอินเตอร์เน็ตบอกว่า ผู้หญิงไม่ชอบแทะกระดูก”เฉินมู่วางตะเกียบลงอย่างเงียบ ๆ เธอเอามือปิดหน้าแล้วหมอบกับโต๊ะอยู่พักใหญ่โรงละครสีชมพูพิลึกนี่มันคืออะไรกันนะ!! เธอโตมาตั้งขนาดนี้ยังไม่เคยได้กินปีกไก่ไม่มีกระดูกมาก่อนเลย!คุณนึกภาพที่ฮั่วหยุนเซียวพับแขนเสื้อขึ้นแล้วเลาะกระดูกออกหรือเปล่า? สมองของเฉินมู่หมุนไปแปดร้อยรอบ ปรากฎว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก “เฉินมู่?” ฮั่วหยุนเซียวเรียกเธอเฉินมู่เงยหน้าขึ้น “คะ?”“น้ำลายยืดแล้ว”เฉินมู่รีบเช็ดมุมปาก ไม่เห็นจะมีน้ำลายอยู่เลย แต่กลับกลายเป็นการทำให้ฮั่วหยุนเซียวขำออกมาอาหารมื้อนี้ เฉินมู่รู้สึกว่าเป็นการกินที่น่าพึงพอใจมาก เธอเอนตัวพิงเก้าอี้แล้วลูบพุงเบา ๆ ก่อนเร
Read More
บทที่ 75
เฉินมู่ส่ายหน้าทันที “ไม่ใช่นะคะ! แต่ก่อนฉันเคยตามแม่เลี้ยงไปโรงพยาบาลหลาย ๆ แห่งและพบหมอมาแล้วตั้งหลายคน ทุกคนล้วนบอกว่าแผลลึกเกินไป รอยแผลเป็นนี้ไม่สามารถลบออกได้”แววตาของฮั่วหยุนเซียวเข้มขึ้น เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปยังเฉินมู่ “ถึงแม้ว่าโอวจินจะเป็นบุคคลอัจฉริยะในวงการแพทย์เหมือนแพทย์ชำนาญการหลาย ๆ คน แต่เขาก็พูดอย่างชัดเจน แผลเป็นนี้ไม่ใช่โรคร้ายที่รักษาไม่หาย ดังนั้น บางทีหมอที่คุณไปพบคงจะมีความชำนาญในการรักษาไม่เพียงพอ หรือ...”เฉินมู่พูดต่อประโยคอย่างเนิบนาบ “หรือว่า แม่เลี้ยงผู้เพียบพร้อมของฉันคนนี้อาจจะไม่ได้อยากให้ฉันหายดีตั้งแต่แรก...”เธอเข้าใจขึ้นมาในทันที ความรักและความแค้นของตระกูลเฉินมันไม่ได้หยุดลงที่การกลั่นแกล้งแบบง่าย ๆอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รอยแผลเป็นที่รักษาไม่หายมานาน สิ่งที่ทำลายชีวิตทั้งชีวิตของเฉินมู่แต่คนที่ประสบความสำเร็จกลับเป็นซู่หรูหลานที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงผู้ใจบุญ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เฉินชิงเสวี่ยก็ได้โดดเด่นขึ้นในเมืองปินไห่เธอกำหมัดแน่น พลางพ่นลมหายใจออกมาแล้วยิ้มเยาะ “เป็นผู้หญิงที่จิตใจชั่วช้ามาก! ฉันตาสว่างแล้วจริ
Read More
บทที่ 76
พอเฉินลี้ซานได้ยินคำพูดนี้ เขาจึงกวาดตามองเฉินมู่ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไปเฉินมู่หันกลับสนใจปู่ตัวเองอีกครั้ง “แม่ของหนูเหรอคะ? ยังไงเหรอคะ?”ชายชราเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก “เป็นลูกสะใภ้ที่ดี ฉลาดและสวยงาม เก่งเรื่องการบริหารครัวเรือน หลานโตมาเหมือนเธอมาก ๆ”เฉินมู่ยิ้มออกมาจาง ๆ “ขอบคุณที่ชมค่ะ คุณปู่”ชายชรายื่นมือออกไปเรียกเธอ “เสี่ยวมู่ ฟังให้ดี ๆ นะ ไม่ต้องไปถือสาเรื่องเล็ก ๆ กับคนพวกนั้นหรอก พ่อของหลานลำเอียงจนชินไปแล้ว คิดเล็กคิดน้อยไปก็ไร้ประโยชน์”เฉินมู่ยกยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรชายชราปิดตาลงพักสายตาครู่หนึ่งถึงได้พูดออกมาอีกว่า “พอแล้วล่ะ ยังไงหลานก็ไม่ฟังอยู่ดี เพียงแค่อย่าทำเรื่องไม่เหมาะสมก็พอ จะทำตระกูลเฉินขายหน้าไม่ได้นะ”เฉินมู่ไม่ได้อยู่ต่อนานกว่านี้ เธอหมุนตัวเดินไปทางประตู พลันชะงักฝีเท้าไปครู่หนึ่ง “ปู่คะ บางทีการถือสาหรือไม่ถือสาก็อาจจะไม่ใช่แค่หนูที่พูดด้วยแล้วเรื่องจะจบ หากมีมดมาขวางทาง ยังจะต้องให้ช้างเดินอ้อมมันอีกเหรอคะ?”พูดจบเธอก็ปิดประตูอย่างเบามือ ไม่ได้เห็นภาพที่ชายชราในห้องค่อย ๆ ลืมตาขึ้นพลางถอนหายใจ เสียงแหบแห้งพูดออกมาประโยคหนึ่ง “สมแล้วที่เ
Read More
บทที่ 77
ซู่หรูหลานพูดอย่างจริงจังหนักแน่นว่า “ชิงเสวี่ย ลูกจะต้องแย่งทุกอย่างของเฉินมู่มาให้แม่ให้ได้ ส่วนผู้หญิงคนนั้น หล่อนตายไปตั้งหลายปีแล้ว ของของหล่อนก็คือของของเรา ชื่อเสียงเกียรติยศอะไรที่เป็นของหล่อน ตราบใดที่ลูกหยิบมันมาไว้ในมือ ทุกอย่างก็ล้วนเป็นของลูก!”เฉินชิงเสวี่ยพยักหน้า “แม่คะ แม่วางใจได้เลย โอกาสนี้มันเป็นของหนู หนูจะไม่มีวันยอมมอบให้นังเฉินมู่แน่!”พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชิงเสวี่ยก็ดีใจไม่น้อย ครั้งนี้เธอต้องได้ไปงานเลี้ยงกองทุนเทียนสื่อเพื่อเฉิดฉายความสำเร็จอันโดดเด่น ทำให้คุณปู่และคนทั้งตระกูลเฉินมองด้วยสายตาที่อึ้งทึ่งกันเลยทีเดียว!เฉินชิงเสวี่ยวิ่งเหยาะ ๆ ขึ้นไปเก็บสัมภาระ เธอไม่เชื่อหรอก แค่นังเฉินมู่คนเดียวทำไมจะเอาไม่อยู่?เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินมู่กับเฉินชิงเสวี่ยอาศัยคนขับรถของตระกูลไปส่งที่ค่ายอบรมเพราะเป็นการเรียนรู้แบบปิด ดังนั้นคนทั้งสิบสองคนในชั้นเรียนจะต้องอาศัยอยู่ในคฤหาสน์สไตล์ตะวันตก สี่คนใช้หนึ่งห้องเป็นหอพัก ทว่าเฉินมู่ดันบังเอิญได้พักห้องเดียวกับเฉินชิงเสวี่ยเฉินชิงเสวี่ยรีบบิดเอวเล็ก ๆ ของเธอและพุ่งเข้าไปยึดเตียงที่อยู่ติดกับระเบียงพร้อมส่งสายตายั่วยุ
Read More
บทที่ 78
สาวผมสั้นดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เธอมองเฉินมู่อย่างกระอักกระอ่วนแล้วกระซิบเสียงเบาว่า “ขอโทษนะ...”เฉินมู่เองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เธอหันไปรอบ ๆ พลันพิงหัวเตียงเลื่อนโทรศัพท์เล่นไปมา สัญญาณของเครื่องติดตามยังคงไม่แสดงผลสัปดาห์นี้เธอไม่สามารถไปที่ฐานลับได้ ทำได้เพียงแค่ดูความคืบหน้าบนมือถือเท่านั้นหญิงสาวผมสั้นสงบสติอารมณ์ลง ก่อนเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง “ขอโทษค่ะ คุณช่วยฉันย้ายกล่องหน่อยได้ไหมคะ? ฉันย้ายไม่ไหว...”เฉินมู่ไม่ได้ถือสาอะไร ร่างบางขยับกายลุกขึ้นเดินตามหญิงสาวไปแล้วช่วยขนกล่องกระดาษเข้ามาหญิงสาวคนนั้นอธิบายเสียงเบา “นี่คือหนังสือของฉันเอง ฉันเปลี่ยนวิชาเอกที่มหาวิทยาลัยน่ะ เลยจำเป็นต้องเรียนรู้วิชาใหม่ ๆ”เฉินมู่ตอบเพียง “อืม” พร้อมเตรียมตัวกลับไปที่ตำแหน่งของตัวเอง แต่หญิงสาวก็รั้งเธอไว้อีกรอบ “ฉันชื่อเฉินหยวนนะ เธอชื่ออะไรเหรอ?”“เฉินมู่”เฉินมู่พูดจบก็เตรียมเดินออกไป ทว่าหญิงสาวกลับตื้อถามไม่จบ “งั้น อีกสักพักฉันไปทานข้าวกับเธอได้ไหม?”เฉินมู่ขมวดคิ้วมองอีกฝ่ายจนหญิงสาวก้มหน้าพูดเสียงเบา “ขอโทษนะ ฉันก็ไม่รู้จักใครเลย ฉันเห็นว่าเธอแตกต่างจากพวกนั้น ก็เลย...”พวกนั
Read More
บทที่ 79
แค่จ้าวหรงเอ๋อคิดก็มีความสุขแล้ว เฉินมู่จะอธิบายอย่างไรล่ะทีนี้?ชายหนุ่มผู้เป็นว่าที่สามีที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่วัยเยาว์? แต่ตอนนี้เขาไม่เอาเธอแล้ว และได้กลายเป็นแฟนของน้องสาวแท้ ๆ ของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?“พูดสิเฉินมู่ พูดไม่ออกหรือไง?” จ้าวหรงเอ๋อยิ้มอย่างยั่วยุดังนั้นเฉินมู่จึงลุกขึ้นยืนแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “The shoes I don't want” (หมายความว่า “รองเท้าที่ฉันไม่ต้องการ”)เฉินชิงเสวี่ยหน้าแดงขึ้นมาทันที นังเฉินมู่หมายความว่าอย่างไรกัน! นี่หล่อนหมายความว่าเธอเก็บขยะที่คนอื่นไม่ต้องการแล้วมาใช้อย่างนั้นใช่ไหม?!ความรู้ภาษาอังกฤษของจ้าวหรงเอ๋อมีจำกัด จึงไร้ปฏิกิริยาไปครู่หนึ่งเฉินมู่ยืนพร้อมมองไปยังเฉินชิงเสวี่ย ร่างบางยกยิ้มมุมปากจาง ๆ “คำตอบนี้ มันน่าพอใจใช่ไหมล่ะ? Ragpicker?” (หมายความว่า “คนเก็บขยะ”)พูดจบเธอพาเฉินหยวนเดินออกไปไกลแล้ว แต่เฉินชิงเสวี่ยยังคงยืนโกรธจนมือสั่นอยู่ที่เดิม!จ้าวหรงเอ๋อเข้ามาดึงตัวเธอแล้วถามอย่างร้อนใจ “เมื่อกี้ที่หล่อนพูดมันหมายความว่าอะไรน่ะ?”เฉินชิงเสวี่ยขบกรามไปมาแล้วตอบ “ฉัน...ฉันไม่รู้...”จ้าวหรงเอ๋อไม่สบอารมณ์ หล่อนดึงแขนเฉินชิงเสวี่
Read More
บทที่ 80
“แก!” จ้าวหรงเอ๋ออยากจะพุ่งไปที่ด้านหลังแล้วฉีกใบหน้าที่ดูเรียบเฉยของเฉินมู่ออก!“กริ๊ง กริ๊ง...” เสียงกริ่งหลังเลิกเรียนดังขึ้น จ้าวหรงเอ๋อรู้สึกราวกับได้รับการอภัยโทษ หล่อนลากเฉินชิงเสวี่ยออกจากห้องเรียนไปอย่างหมดอาลัยตายอยากทว่าเฉินหยวนกลับดึงเฉินมู่ไว้แล้วกระซิบถาม “ที่จริงแล้วภาษาอังกฤษของเธอน่ะดีมากเลยใช่ไหมล่ะ? ฉันเห็นตอนครูอธิบายเธอไม่ได้จดอะไรเลยสักคำ!”เฉินมู่จนปัญญา จะให้เธอจดโน้ตอะไรล่ะ? เธอพูดภาษาต่างประเทศได้มากกว่าครูคนนี้เสียอีก!กลับไปที่หอพักในตอนเย็น เฉินชิงเสวี่ยกับจ้าวหรงเอ๋อไม่อยู่ทั้งคู่ เฉินมู่เองก็ไม่ได้สนใจ เธออยากจะพักผ่อนเต็มทีหลังจากนั้นตอนกลางดึก ประตูหอพักถูกผลักให้เปิดออก มีคนเดินเหยียบรองเท้าส้นสูงเข้ามาแล้วหยุดอยู่บริเวณด้านข้างเตียงของเฉินมู่“หรงเอ๋อ พวกเราทำแบบนี้ไม่ดีหรอกมั้ง?” เป็นเสียงของเฉินชิงเสวี่ย“มีอะไรไม่ดีตรงไหน? มันกล้าทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าคนอื่นในชั้นเรียน ฉันต้องสั่งสอนมันอยู่แล้ว!” จ้าวหรงเอ๋อพูดต่อ “อีกอย่าง แค่สาดเหล้าแค่นิดเดียว แล้วบอกครูว่ามันแอบออกไปเที่ยวที่บาร์ข้างนอก ให้มันโดนหักคะแนนสักหน่อยก็ยังดี!”เฉินชิงเสวี่ย
Read More
ก่อนหน้า
1
...
678910
...
26
DMCA.com Protection Status