All Chapters of ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา: Chapter 1901 - Chapter 1910

2394 Chapters

บทที่ 1901

เป็นไปตามคาด หลิงอวี๋เห็นใบหน้าที่งดงามทว่าโหดร้ายนั้น และนั่นก็คือศัตรูที่นางมิอาจลืมเลือน...จ้าวหรุ่ยหรุ่ย!ชั่วขณะนั้นดวงตาของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พลางนึกอยากจะรุดเข้าไปฉีกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นชิ้น ๆ เพียงหลับตา นางก็มิอาจควบคุมตนมิให้นึกถึงฉากที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเตะต่อยตนความเจ็บปวดและเลือดสด ๆ อีกทั้งความทุกข์ทรมานจากการสูญเสียลูกไปทำให้หลิงอวี๋มิอาจลืมความเกลียดชังที่ตนมีต่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้เลย!คาดมิถึงว่าศัตรูจะปรากฏตัวต่อหน้าตนเช่นนี้!หลิงอวี๋ตื่นตัวมากจนร่างกายสั่นเทา แต่นางก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้นางมิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย การวู่วามลงมือมีแต่จะเป็นการรนหาที่ตายเท่านั้นหลิงอวี๋สูดหายใจเข้าลึกพลางมองเด็กสาวที่ประกาศสงครามกับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเด็กสาวคนนี้ดูอายุราว ๆ สิบหกสิบเจ็ดปี มีรูปร่างสูง ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโค้งเหมือนพระจันทร์เสี้ยว และดวงตาแวววาวสดใสผมสีดำสนิทของนางถูกแสกกลางและถักเป็นเปียยาวสองข้างพันไว้รอบมวยผม ข้าง ๆ มวยผมนั้นมีปิ่นมุกปักประดับอยู่สองอันเด็กสาวสวมชุดกระโปรงสีม่วงควันธูป และเมื่อดูจากเนื้อผ้าแล้ว นางน่าจะเป็นค
Read more

บทที่ 1902

ต่งเฉิงมองหลิงอวี๋พลางพยักหน้ารัว ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับลูบเคราของตัวเองว่า “สาวน้อยนางนี้รู้จักเครื่องยาสมุนไพรมากมายเช่นนี้นับว่าหายาก!”เครื่องยาสมุนไพรเหล่านี้มิใช่สมุนไพรธรรมดาทั้งหมด นอกจากเครื่องยาสมุนไพรที่ใช้ในการกลั่นโอสถระดับต้นแล้ว ยังมีระดับกลางและระดับสูงจำนวนเล็กน้อยอีกด้วยโดยทั่วไป ผู้เข้าสอบที่ตอบได้เจ็ดสิบถึงแปดสิบชนิดก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว ทว่าหลิงอวี๋สามารถตอบได้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ถือว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์สูงเลยทีเดียวเพิ่งเข้ามาก็ทำคะแนนได้ดีถึงเพียงนี้ หากนางได้เรียนอย่างเป็นระบบก็คงแซงหน้าบัณฑิตคนอื่นได้ในมิช้า“ตึง ตึง ตึง!”เมื่อเสียงกลองดังขึ้นสามครั้ง การสอบแข่งขันของกลุ่มนี้ก็สิ้นสุดลง“หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ดคะแนน!”กลองหยุดลงแล้ว และบนใบหน้าของศิษย์พี่หญิงก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเป็นครั้งแรก นางหยิบป้ายส่งให้หลิงอวี๋พร้อมรอยยิ้ม“การสอบแข่งขันรอบต่อไปจะจัดขึ้นในช่วงบ่าย! ความสามารถในการจำแนกเครื่องยาสมุนไพรของเจ้าดีที่สุดในรอบนี้ ทำให้ดีล่ะ!”“ขอบคุณศิษย์พี่หญิง!”หลิงอวี๋รับป้ายมาด้วยความตื่นเต้น พลางหันไปดูผู้เข้าสอบคนอื่น ๆ ที่กำลังมองนางด้
Read more

บทที่ 1903

ศิษย์น้องหญิงนางนี้พูดจาอวดดีราวกับสำนักศึกษาชิงหลงเป็นของตระกูลนาง!หลิงอวี๋อดมิได้ที่จะรู้สึกสนใจศิษย์น้องหญิงนางนี้มากขึ้นกว่าเดิมมิรู้ว่าใครเป็นคนกล่าวคำนี้ไว้ ศัตรูของศัตรูคือมิตร!ตอนนี้หลิงอวี๋มิใช่คู่ต่อสู้ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยอีกต่อไปแล้ว แต่นั่นก็มิอาจหยุดยั้งนางจากการใช้ศัตรูของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเพื่อแก้แค้นอีกฝ่ายได้ดูเหมือนว่าศิษย์น้องหญิงจะเกลียดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก บางทีนางอาจจะร่วมมือกับตนเพื่อจัดการจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้“เหวินเหวิน ศิษย์น้องหญิงนางนั้นเป็นใครกัน? ข้าว่านางดูบ้าบิ่นมากเลย!”หลิงอวี๋ถามด้วยความสงสัย“แน่นอนว่านางทำตัวบ้าบิ่นได้อยู่แล้ว เพราะนางสกุลหลงอย่างไรเล่า!”เมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋มิรู้ตัวตนของศิษย์น้องหญิงจริง ๆ เหลยเหวินจึงเลิกเคืองหลิงอวี๋แล้วกระซิบบอกนาง“นางชื่อหลงอิง แม้นางจะมิได้มาจากตระกูลจักรพรรดิมังกร แต่ก็ยังถือว่าเป็นคนของตระกูลหลงอยู่ดี และยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในหมู่คนภายนอกอีกด้วย!”หลิงอวี๋ตระหนักได้ทันทีว่าใต้หล้าในแดนเทพนี้เป็นของตระกูลหลง คนเดียวที่ประสบความสำเร็จในตระกูลนี้ทำให้ทุกคนรอบข้างได้รับประโยชน์ แม้แต่พวกไร้สถานะอำนาจยังดูสู
Read more

บทที่ 1904

“หากมิทำให้ยากขึ้นมาหน่อยแล้วจะคัดคนมากมายออกได้อย่างไร!”จงเจิ้งเฟยกลอกตาไปที่เหลยเหวินอีกครั้งพลางยิ้มเยาะ “บางคนมาที่สำนักศึกษาชิงหลงเพียงเพื่อแสวงหาชื่อเสียง และบางคนก็มาเพื่อหาสามีที่ร่ำรวย ไม่มีใจที่จะศึกษาหาความรู้ด้วยซ้ำ!”“หากมิคัดคนเช่นนี้ออกไป ก็รังแต่จะทำให้ชื่อเสียงของเหล่าปรมาจารย์ต้องเสื่อมเสีย!”"เจ้าก็มั่นใจในตัวเองหน่อย เจ้ามิได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย!"หลิงอวี๋รับคำพูดของจงเจิ้งเฟยมาเป็นกำลังใจให้ตัวเอง นางมิด้อยกว่าใครแน่นอน นางจะต้องเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงและพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นให้ได้ เพื่อที่นางจะได้แก้แค้นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสุดท้ายทั้งสามคนก็ไปกินอาหารเย็นด้วยกัน หลังจากที่พักผ่อนกันครู่หนึ่งก็กลับมาที่สำนักย่อยเพื่อเข้าร่วมการประเมินรอบต่อไปเนื่องจากในรอบแรกมีคนถูกคัดออกไปเป็นกลุ่มใหญ่ ผู้เข้าสอบที่สำนักย่อยจึงน้อยลงไปมาก ดังนั้นผู้เข้าสอบทุกคนจึงสามารถเข้าไปสังเกตการณ์ในรอบที่สองได้การสอบแข่งขันยังคงจัดขึ้นแบบกลุ่ม และผู้ที่อยู่ห้าอันดับแรกจะได้ผ่านไปยังการประเมินรอบสุดท้ายสิ่งที่ทำให้ผู้เข้าสอบทุกคนตื่นเต้นก็คือ ครั้งนี้นอกเหนือจากรองเจ้า
Read more

บทที่ 1905

ขณะที่หลิงอวี๋กำลังจะก้าวขึ้นไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ ก็ได้ยินจงเจิ้งเฟยพูดขึ้นเสียงเรียบ “เสี่ยวอวี๋ เป้าหมายของเจ้าคือการได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาปรุงโอสถ เท่านั้นก็พอแล้ว อย่าได้ทำตัวโดดเด่นจนเกินไปล่ะ!”“ในสำนักศึกษาชิงหลง หากทำตัวโดดเด่นเกินหน้าเกินตาแต่ไม่มีคนหนุนหลังจะทำให้สร้างศัตรูได้ง่าย!”จงเจิ้งเฟยพูดเช่นนี้ด้วยความหวังดีการที่หลิงอวี๋ได้อันดับหนึ่งในรอบแรกก่อให้เกิดการถกเถียงกันในหมู่ผู้คนมากมาย จงเจิ้งเฟยกังวลว่าสหายใหม่คนนี้จะมิเข้าใจวิถีของสังคม นางจึงให้คำชี้แนะอีกฝ่ายคำพูดเหล่านี้เปรียบเสมือนอ่างน้ำเย็นที่ทำให้หลิงอวี๋ได้สติขึ้นมาทันทีนางมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ย หลงอิง และเหล่าคุณหนูที่แต่งกายหรูหรา แต่ละคนล้วนร่ำรวยและมีฐานะสูงส่งเหมือนที่จงเจิ้งเฟยพูด ในเมื่อไม่มีพลังอำนาจ แล้วจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกนางได้?ความรู้ความสามารถที่แท้จริงหรืออย่างไร?ในสายตาของเหล่าคุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านี้ นั่นไม่มีความหมายอะไร เพราะยังมีคนในสำนักศึกษาชิงหลงอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตนการที่นางชนะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้มิใช่เรื่องอะไรหรอก แต่การปลุกเร้าความอิจฉาริษยาของเหล่าคุณหน
Read more

บทที่ 1906

จางอิ๋งได้พูดคุยเรื่องการแต่งงานกับลูกชายของเย่ซื่อฝานแล้ว และต่อไปหอโอสถซ่างกู่ก็จะเป็นครอบครัวสามีของนาง นางมิอาจทนเห็นหอโอสถซ่างกู่ถูกแทนที่ได้ ดังนั้นนางจึงแสวงหาผู้มีความสามารถให้กับหอโอสถซ่างกู่อย่างกระตือรือร้นทันทีที่เสียงกลองหยุดลง จางอิ๋งก็อดใจรอมิไหวที่จะเก็บตำรับยาของผู้เข้าสอบจางอิ๋งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหลิงอวี๋จำแนกส่วนผสมโอสถได้เพียงสิบห้าชนิดเท่านั้นจากผลงานของหลิงอวี๋ในรอบแรก อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะจำแนกได้สักสิบแปดชนิด เหตุใดถึงได้แค่สิบห้าชนิดกันทางด้านหลงอิงที่ลงทะเบียนเรียนกับหอโอสถไป๋เป่าเขียนตำรับยายี่สิบชนิดได้ถูกต้องทั้งหมด และอยู่ในอันดับที่หนึ่งของกลุ่มนี้ส่วนจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเขียนตำรับยาได้สิบห้าชนิด แต่มีตำรับยาสองแผ่นที่มีข้อผิดพลาด ตำรับยาแผ่นหนึ่งระบุเครื่องยาสมุนไพรมิครบถ้วน และอีกแผ่นหนึ่งเขียนชื่อสมุนไพรผิดโดยรวมแล้ว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในอันดับที่สาม และหลิงอวี๋อยู่ในอันดับที่สอง“อาจารย์ พวกเราต้องการผู้มีความสามารถที่โดดเด่นยอดเยี่ยมที่สุด ถึงจะเหนือกว่าหอโอสถไป๋เป่าได้ สิงอวี๋ผู้นี้มิเก่งกาจเท่าหลงอิง จะให้ข้าไปหาหลงอิงเป็นการส่
Read more

บทที่ 1907

“พี่ใหญ่ ข้ากลับมาแล้ว! จะบอกให้ วันนี้ข้าผ่านการประเมินได้ตั้งสองรอบ ขอเพียงวันพรุ่งข้าผ่านเข้าไปเป็นห้าอันดับแรกได้ ข้าก็จะได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงแล้ว!”หลิงอวี๋วิ่งเข้ามาในเรือนหลังเล็กของตัวเองอย่างลิงโลด ยังมิทันเห็นผู้รอบรู้นางก็เอ่ยตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจ“จริงหรือ? เจ้ายอดเยี่ยมมากน้องหญิง!”เมื่อได้ยินเสียงของหลิงอวี๋ ผู้รอบรู้ก็วิ่งออกมา“จริงสิ!”ขณะที่หลิงอวี๋พูดอยู่และกำลังจะปิดประตู ก็มีมือข้างหนึ่งยื่นมาผลักหลิงอวี๋แล้วตามเข้ามา“เจ้าเป็นใคร?”เมื่อผู้รอบรู้เห็นหลิงอวี๋ถูกผลักจนเซ เขาก็รีบเข้าไปช่วยนาง จากนั้นก็บังตัวนางเอาไว้และมองผู้มาเยือนด้วยความระแวดระวังคนที่เข้ามาเป็นบุรุษวัยยี่สิบกว่า รูปร่างสูงโปร่ง มีสีหน้าและแววตาที่เหี้ยมโหด“ข้าเป็นใครมิสำคัญ สิงอวี๋ เจ้าอยากเข้าไปเรียนปรุงโอสถที่สำนักศึกษาชิงหลงหรือไม่?”บุรุษผู้นั้นถาม“เหลวไหล หากมิอยากเข้า แล้วน้องหญิงข้าจะไปลงทะเบียนหาปะไร?”ผู้รอบรู้ตวาดอย่างมิไว้หน้า “เจ้าเป็นใครกันแน่ มาทำอะไรที่บ้านของพวกข้า?”บุรุษผู้นั้นเหลือบมองผู้รอบรู้อย่างเฉยเมยและพูดกับหลิงอวี๋ว่า “ขอเพียงเจ้าตอบตกลงเข
Read more

บทที่ 1908

สีหน้าของเหมียวหยางเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาคุกเข่าลงพร้อมกับพูดเสียงขรึม“ท่านรองเจ้าสำนักศึกษา เรื่องนี้เป็นฝีมือของเหมียวหยางแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น อาจารย์ของข้าน้อยมิรู้เห็นเรื่องนี้!”“เหมียวหยางเพียงแค่มีความแค้นส่วนตัวกับหอโอสถซ่างกู่ มิอยากเห็นพวกเขาได้ผู้มีความสามารถที่โดดเด่นไป จึงตัดสินใจมาดึงสิงอวี๋เป็นพรรคพวกโดยพลการ!”“เมื่อครู่ที่ข้าน้อยพูดว่าจะสังหารสิงอวี๋ ก็แค่อยากทำให้นางกลัว หาได้คิดจะทำจริง ๆ ไม่ขอรับ!”ผู้รอบรู้ทนมิไหว พลันก่นด่าออกมา “ทำให้นางกลัวรึ? เจ้าถึงกับชักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ หากกลุ่มของท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิมา เจ้าจะปล่อยน้องหญิงของข้าไปหรือ?”“เจ้าคิดว่าพวกเราเป็นเด็กน้อยที่จะดูมิออกว่าเจ้าพูดจริงหรือเท็จหรืออย่างไร?”เหมียวหยางทำท่าทางจริงใจและยกนิ้วสองนิ้วขึ้นราวกับจะสาบาน“พี่ใหญ่ท่านนี้ ข้าเหมียวหยางขอสาบานต่อสวรรค์ สิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง ข้าเพียงอยากทำให้นางกลัวเท่านั้น!”เมื่อเห็นท่าทางเจ้าเล่ห์ของเหมียวหยาง ก็ทำเอาหลิงอวี๋ถึงกับพูดมิออกจางอิ๋งโกรธจนตัวสั่น ส่วนเย่ซื่อฝานมองเหมียวหยางอย่างเย็นชา สุดท้ายก็หันไปมองต่งเฉิงต่งเฉ
Read more

บทที่ 1909

มิพูดมิได้ว่า คำพูดสั้น ๆ มิกี่คำของเย่ซื่อฝานนี้ทำให้หลิงอวี๋ซาบซึ้งใจพลันนั้นนางก็นึกถึงจ้าวหรุ่ยหรุ่ยและเก๋อฮุ่ยหนิงขึ้นมา ที่พวกนางบังอาจกล้าลงมือซ้อมนางและสังหารลูกของนาง นั่นก็เป็นเพราะนางอ่อนแอมิใช่รึ?หากตนเข้มแข็งพอที่จะทำให้พวกนางกลัว พวกนางยังจะกล้าปฏิบัติกับตนเช่นนี้หรือ?จุดประสงค์ที่นางเข้าเรียนที่สำนักศึกษาชิงหลงคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น!แล้วจะสนใจว่าสำนักศึกษาชิงหลงเป็นอย่างไรไปเพื่ออะไร?หากวันหนึ่งนางแข็งแกร่งพออย่างที่เย่ซื่อฝานพูด นางก็สามารถสร้างสำนักศึกษาชิงหลงขึ้นมาใหม่ได้ และจะกำหนดกฎเกณฑ์อย่างไรก็ได้!“สิงอวี๋น้อมรับคำสอนไว้แล้ว! ขอบคุณอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง!”หลิงอวี๋โค้งคำนับเย่ซื่อฝานอย่างจริงใจเย่ซื่อฝานมองหลิงอวี๋ด้วยความชื่นชม แม้สตรีนางนี้จะหน้าตาธรรมดา แต่นางก็ฉลาดหลักแหลมมากเอาการเขาชี้แนะไปมิกี่คำนางก็เข้าใจแล้ว ดูมีอนาคตไกลจริง ๆ!“แล้วพบกันวันพรุ่ง!”เย่ซื่อฝานหมุนตัวพาต่งเฉิงออกไปจางอิ๋งยิ้มให้หลิงอวี๋และกระซิบว่า “ท่านรองเจ้าสำนักศึกษามิได้ลำเอียงเข้าข้างเหมียวหยางหรอก เขาแค่เป็นห่วงว่า แม้พวกเราจะร้องเรียนจนชนะแต่ก็จะมิเกิดประ
Read more

บทที่ 1910

อาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวรึ?เซียวหลินเทียนครุ่นคิด หากนางอาศัยอยู่ที่ตระกูลเฉียวก็คงเข้าไปจับตัวได้ยากว่ากันว่านายน้อยตระกูลเฉียวเสียชีวิตด้วยน้ำมือของหลิงอวี๋ ตระกูลเฉียวจึงเกลียดหลิงอวี๋มากถึงขนาดเสนอรางวัลค่าหัวของนางเป็นจำนวนเงินสูงถึงห้าล้านตระกูลเฉียวรับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาอาศัยด้วยเช่นนี้ หรือว่าพวกเขาคิดจะตามหาหลิงอวี๋ผ่านทางจ้าวหรุ่ยหรุ่ย?“คอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของตระกูลเฉียวและจ้าวหรุ่ยหรุ่ยไว้ให้ดี!”เซียวหลินเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจว่าจะมิทำอะไรจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นการชั่วคราว จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าหลิงอวี๋หนีไปจากนางได้อย่างไร และนางจะมิยอมแพ้ในการตามหาหลิงอวี๋อย่างแน่นอนหากใช้นาง เซียวหลินเทียนก็จะสามารถหาตัวหลิงอวี๋เจอได้เร็วขึ้น“ยังไม่มีข่าวคราวอะไรจากทางหวงฝู่หมิงจูอีกรึ?”เซียวหลินเทียนนึกถึงเรื่องที่เขาเคยสัญญากับหวงฝู่หลินเอาไว้ว่าจะตามหาลูกสาวให้ จึงได้ถามขึ้นมา“ตอนนี้ยังขอรับ ข้าน้อยสั่งให้คนเร่งค้นหาแล้ว อีกทั้งยังได้ส่งคนไปจับตาดูตระกูลจงเจิ้งด้วย แต่จงเจิ้งหลินและเสวี่ยเหมยยังมิกลับไปยังตระกูลจงเจิ้ง ตอนนี้มิทราบว่าทั้งสามค
Read more
PREV
1
...
189190191192193
...
240
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status