All Chapters of แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Chapter 481 - Chapter 490

1250 Chapters

บทที่ 481

ณ ค่ายหนานต้า กองทัพใหญ่กำลังเดินทางกลับวังหลวงซุนเต๋อฟางพร่ำขอบคุณสวรรค์ ที่ไม่ปล่อยให้ฮ่องเต้ทรงสิ้นพระชนม์ในค่ายทหาร“กระหม่อมน้อมส่งฝ่าบาทและฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวอวี้ตอนมาขี่ม้า ตอนกลับเปลี่ยนเป็นนั่งรถม้าภายในห้องโดยสาร เขาปอกส้มให้กับเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยมือตนเอง เมื่อแกะออกก็ยื่นไปที่ปากนางเฟิ่งจิ่วเหยียนหลบหลีกด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“หม่อมฉันไม่กิน”เซียวอวี้เอ่ยเสริม “เราก็ไม่ชอบกินเช่นกัน มันเปรี้ยวมาก ดูเหมือนว่ารสชาติที่ถูกปากของฮองเฮากับเราจะคล้ายกัน...”เขายังเอ่ยไม่จบ จู่ ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนก็หยิบส้มบนโต๊ะนั้นขึ้นมา และยัดเข้าปากในทันทีเซียวอวี้ : ?เมื่อรู้ว่านางจงใจจะต่อต้านเขา นอกจากเขาจะไม่หงุดหงิด กลับรู้สึกสำราญใจเป็นพิเศษอย่างน้อยนางก็ไม่เย็นชาเหมือนคืนที่ผ่านมา“ฝ่าบาท มีจดหมายลับพ่ะย่ะค่ะ!” เฉินจี๋รายงานอยู่ด้านนอกเซียวอวี้ยื่นมือออกไป และหยิบจดหมายลับนั้นมาเฟิ่งจิ่วเหยียนมองไปทางเขา เขาก็เงยหน้าขึ้นมองนาง พร้อมกับยื่นจดหมายลับไปตรงหน้านางทันที“เจ้าอยากอ่านก่อนหรือไม่?”เฟิ่งจิ่วเหยียนเบือนหน้าหนี “งานราชกิจเป็นเรื่องสำคัญ ท่านอย่าทำเป็นล้อเล่
Read more

บทที่ 482

ณ เมืองหลวงเฉินอ๋องส่งคนไปปล้นเสบียง มีหลักฐานความผิดอย่างแน่นหนารุ่ยอ๋องได้รับราชโองการลับจากฮ่องเต้ จึงนำเฉินอ๋องไปขังไว้ในคุกเทียนเหลาเฉินอ๋องตะโกนลั่นว่าถูกใส่ร้าย เป็นรุ่ยอ๋องที่ใส่ร้ายเขาเรื่องนี้กระทบถึงไทฮองไทเฮาทว่าถึงแม้ไทฮองไทเฮาจะทรงออกหน้า รุ่ยอ๋องก็ไม่ยอมประนีประนอมอีกด้านหนึ่ง เส้นทางขากลับของกองทัพใหญ่ออกมาจากเมืองซื่อสุ่ยแล้ว แต่โรงเตี๊ยมกลับหายาก จึงทำได้แค่ตั้งค่ายพักแรมตรงจุดนั้น เฟิ่งจิ่วเหยียนยอมนอนในรถม้าดีกว่าจะนอนร่วมเตียงกับเซียวอวี้หลายวันที่ผ่านมา เมื่อนางเห็นเขาก็จะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ทำให้รู้สึกอึดอัดใจยิ่งนักเซียวอวี้ไม่ได้บังคับนาง กลัวว่าหากเกินขีดความพอดีทุกอย่างจะพลิกผันในช่วงเวลาเป็นส่วนตัว เหล่าทหารต่างพูดคุยสนทนากัน“ฝ่าบาทกับฮองเฮาทรงดูเหมือนมีปัญหาระหองระแหงกันตลอดทาง นี่เป็นเพราะเรื่องใดกันแน่?” “ไม่รู้สิ หลายวันก่อนยังดี ๆ กันอยู่มิใช่หรือ?”ทหารคนหนึ่งหลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เอ่ยกระซิบกระซาบ“ข้ารู้ เป็นเพราะฝ่าบาททรงทำเรื่องอะไรบางอย่างที่ผิดต่อฮองเฮา”คนอื่น ๆ ต่างมองมาทางเขา และเค้นถามว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไ
Read more

บทที่ 483

ผัวะ!เฟิ่งจิ่วเหยียนต่อยออกไปหนึ่งหมัด เซียวอวี้ถึงกับขากรรไกรเคลื่อนเซียวอวี้ : !!!ถูกต่อยแล้วเขาก็ยังไม่รู้จักเข็ดหลาบคืนต่อมา เขาก็ทิ้งกระโจมไม่ยอมนอนอีก และหนีมานอนเบียดกับเฟิ่งจิ่วเหยียนทว่าคราวนี้เขาประพฤติตัวดี มือไม้ไม่เกะกะ ปากก็ไม่ขยับเขานอนนิ่ง ๆ อย่างสงบเฟิ่งจิ่วเหยียนถึงฝืนทนได้ทว่าผ่านไปไม่ถึงสองวัน ปัญหาเดิมของเขาก็กลับมาอีกแล้ววันนี้ พวกเขานอนค้างอยู่ที่สถานพักแรมต่อหน้าคนนอก พวกเขาเป็นสามีภรรยาที่รักกันดี นอนร่วมห้องเดียวกันหลังจากปิดประตู เฟิ่งจิ่วเหยียนก็นำที่นอนลงมาปูบนพื้นอย่างเงียบ ๆเซียวอวี้อุ้มนางขึ้นมาทันที“เราจะนอนบนพื้น เจ้านอนบนเตียง”เฟิ่งจิ่วเหยียนปฏิเสธทันทีทันใด “ท่านเป็นฮ่องเต้ สถานะสูงส่ง สมควรนอนบนเตียง...”เซียวอวี้เอ่ยหักล้าง“หากจะยึดตามสถานะ เราเป็นฮ่องเต้ เจ้าเป็นฮองเฮา พวกเราสมควรนอนเตียงเดียวกัน” เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับพูดไม่ออก “ในเมื่อท่านบอกว่าอยากนอนบนพื้น หม่อมฉันยกให้ท่านก็แล้วกัน”เซียวอวี้มองไปทางมุมกำแพง แววตาดูมืดมนหลังจากเข้านอน เซียวอวี้ก็นอนบนพื้นอย่างว่าง่าย ตราบใดที่เขานอนตะแคง ก็จะสามารถมองเห็
Read more

บทที่ 484

ในวังมีสตรีที่ละม้ายคล้ายหรงเฟยอยู่มาก ในเวลานี้เซียวอวี้เหม่อลอยอย่างมากเฟิ่งจิ่วเหยียนสังเกตเห็นความผิดปกติของเขา ไม่เหมือนความเย็นชาที่มีต่อพระสนมคนอื่น สำหรับสตรีตรงหน้าผู้นี้ ในแววตาของเขาแฝงไว้ด้วยความรู้สึกสับสน“หรงเฟย...” สีหน้าของเขาเผยให้เห็นความหมายอันลึกซึ้งน้ำตาของสตรีผู้นั้นไหลออกมาทันที จากนั้นโผเข้าไปในอ้อมแขนของเขา มีเสียงร่ำไห้พร้อมกับการบอกเล่า“เป็นหม่อมฉันเอง ฝ่าบาท หม่อมฉันยังไม่ตาย หม่อมฉันกลับมาแล้วเพคะ!”แววตาของหนิงเฟยแฝงความไม่พอใจ ในสถานการณ์เช่นนี้ นางไม่คิดจะเอ่ยแม้แต่ประโยคเดียวเสียนเฟยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างเหมาะสม“ฝ่าบาทได้รับชัยชนะยิ่งใหญ่ ทั้งหรงเฟยก็รอดชีวิตจากความตาย นี่ถือเป็นเรื่องน่ายินดีทั้งคู่”เซียวอวี้ผลักคนในอ้อมแขนของเขาออกไปด้วยอาการตัวเกร็ง และหันศีรษะมองไปทางฮองเฮาที่อยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้ตัว สีหน้าของเฟิ่งจิ่วเหยียนดูปกติเหมือนเคย ทั้งไม่เอ่ยสิ่งใดหรงเฟยก็มองไปที่นางตามสายตาของเซียวอวี้ ราวกับเพิ่งตระหนักถึงการมีตัวตนของฮองเฮา“ฮองเฮา” เฟิ่งจิ่วเหยียนพยักหน้าเบา ๆ “ไม่ต้องมากพิธี” คนตายแล้วไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้
Read more

บทที่ 485

คนชุดคลุมดำถูกขังอยู่ในคุกเทียนเหลา มีคนเฝ้าระวังโดยเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้เขากัดลิ้นตนเอง หรือกินยาพิษเพื่อปลิดชีพตนเอง ผู้คุมจึงสวมที่ครอบปากทำจากเหล็กไว้ที่ปากของเขา หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนเข้าไปในห้องขัง คนชุดคลุมดำผู้นั้นเงยหน้าขึ้น แววตาดูเหมือนกำลังยิ้มเยาะเนื่องจากมีที่ครอบปากนั้น เขาจึงไม่สามารถพูดได้เมื่อไม่มีหน้ากากปิดบังแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มองเห็นใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจนเขาอายุราวสี่สิบกว่า หางตาทั้งสองข้างชี้ขึ้น และหางคิ้วก็ชี้ขึ้นเฟิ่งจิ่วเหยียนเคยจินตนาการถึงหน้าตาของศัตรูอยู่นับครั้งไม่ถ้วน ทว่าในที่สุดตอนนี้ก็ได้สมปรารถนานางสั่งให้ผู้คุมเปิดที่ครอบปากออกหลังจากถอดเครื่องพันธนาการออก คนชุดคลุมดำก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย“แม่ทัพน้อย ช่วงนี้สบายดีหรือไม่?”เขาดูไม่เหมือนนักโทษ ทว่ากลับเหมือนเพื่อนเก่าของนางที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี มีการเอ่ยทักทายกับนางในห้องขังมีเพียงพวกเขาสองคน เฟิ่งจิ่วเหยียนจึงถามตรงประเด็น“ต้วนไหวซวี่ตายอย่างไรกันแน่”น้ำเสียงของนางสงบนิ่ง แฝงไว้ด้วยความเคียดแค้นที่ข่มกลั้นไว้คนชุดคลุมดำหัวเราะเบา ๆ “ท่านไม่ใช่รู้ทุกอย่างหร
Read more

บทที่ 486

แม้ว่าหรงเฟยจะถูกรุ่ยอ๋องบีบคอ แต่นางยังคงมีท่าทีอ่อนโยน และมองเขาด้วยน้ำตาเอ่อคลอ“ถึงแม้เจ้า...จะทำกับข้าเช่นนี้ ข้าก็ยังให้อภัยเจ้า...เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทูล...ฝ่าบาท ว่าเจ้าเป็นคนพาข้าออกจากวัง เป็นเจ้า...ที่ขังข้าไว้นานหลายปีถึงเพียงนี้“พวกเราเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ ข้าเชื่อว่า...เจ้าจะไม่ทำร้ายข้าจริง ๆ”ในที่สุดรุ่ยอ๋องก็ปล่อยมือ หันหลังให้นาง พร้อมเอ่ยด้วยเสียงขรึม “มู่หรงหลัน เจ้าจะต้องเสียใจ”หรงเฟยยืนพิงกำแพงหิน มองดูอิดโรยอย่างมาก“คำพูดนี้ข้าก็มอบให้เจ้าเช่นกัน “พวกเราต่างก็ทำเพื่อปกป้องฝ่าบาทมิใช่หรือ?“ส่วนจะใช้วิธีการแบบใด นั่นก็เป็นการตัดสินใจของพวกเราแต่ละคน”หลังจากพูดจบ นางเดินอ้อมไปทางด้านหน้าของรุ่ยอ๋อง ยกมือขึ้นมาและดึงจี้หยกที่ห้อยเอวของเขาเบา ๆ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอันอ่อนโยน: “จงจำไว้ว่า พวกเราสามคนจะต้องปกป้องกันและกัน และจะไม่มีวันแยกจากกันชั่วชีวิต”รุ่ยอ๋องรู้สึกหนาวเหน็บอยู่ช่วงหนึ่ง และปัดมือของนางออก“มู่หรงหลัน เจ้าเกินจะเยียวยาแล้ว”หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากภูเขาจำลองอย่างแน่วแน่หรงเฟยยังคงอยู่ในถ้ำภูเขาจำลองที่มืดมิด พร้อมกั
Read more

บทที่ 487

ณ ตำหนักวั่นโซ่วไทฮองไทเฮาทรงเอ็นดูหรงเฟยเป็นพิเศษโดยไม่ปิดบังนางตั้งใจให้หรงเฟยนั่งอยู่ในตำแหน่งถัดจากตน พร้อมเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย“เมื่อคืนเจ้านอนหลับดีหรือไม่?”หรงเฟยพยักหน้าตอบ ลำพังแค่นั่งอยู่ตรงนั้น ก็ดูสง่างามแสนเรียบง่ายพระสนมคนอื่น ๆ ทั้งอิจฉาทั้งริษยา ต่างก็ไม่มีกะจิตกะใจจะชมการแสดงงิ้วเลยไทเฮาก็ทรงรู้สึกกระวนกระวายเช่นกันก่อนที่การแสดงงิ้วจะเริ่มขึ้น ไทฮองไทเฮาทรงตรัสกับทุกคนว่า“เรื่องที่หรงเฟยกลับเข้าวัง พวกเจ้าก็คงรู้กันหมดแล้ว“สิ่งที่ข้าอยากพูดในวันนี้ ก็คือเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น”เมื่อเอ่ยมาถึงตอนนี้ นางก็หันไปมองไทเฮา“ในตอนนั้นหรงเฟยป่วยหนัก ไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ทั้งยังถูกฝังอย่างเร่งรีบ จนเกือบถึงแก่ชีวิตทั้งที่อายุยังน้อย “ข้าสงสัยว่านางอาจจะถูกคนลอบทำร้าย จึงสั่งคนไปสับเปลี่ยนร่างที่อยู่ในโลง“สิ่งที่โชคดีคือ สวรรค์เมตตา หรงเฟยยังไม่ตาย เพียงแต่เพราะนางอ่อนแออย่างหนัก จึงทำให้อวัยวะในร่างกายหยุดทำงานชั่วคราว”เหล่าพระสนมได้ยิน ถึงแม้จะตระหนกตกใจ ทว่าก็ยอมรับได้อย่างไรเสียเรื่องของคนผู้นี้ที่ “ฟื้นคืนชีพ” ก็ไม่ถึงกับน่าอัศจ
Read more

บทที่ 488

เซียวอวี้ขมวดคิ้ว คำพูดของไทฮองไทเฮาเมื่อครู่ ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน และตกใจอย่างคาดไม่ถึงหรงเฟยแท้งบุตรเมื่อใด!?นางสนมเจียปากไวเอ่ยขึ้นทันที“ไทฮองไทเฮา หรงเฟยเคยแท้งบุตรหรือ? เหตุใดหม่อมฉันถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน?”คนอื่น ๆ ก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกันไทฮองไทเฮาทรงจับมือของหรงเฟย พร้อมกับรู้สึกเสียใจ“นั่นเป็นเรื่องหลังจากที่ฝ่าบาททรงออกไปทำศึกแล้ว “ตอนนั้นหรงเฟยก็มีอาการป่วยอยู่ เดิมทีแล้วจึงไม่ได้สนใจเรื่องนั้น และไม่รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ด้วย“จนกระทั่ง...”เอ่ยมาถึงตอนนี้ นางเจตนามองไปทางไทเฮาแวบหนึ่งไทเฮาทรงจดจำเรื่องราวในอดีตได้เช่นกัน กลางฝ่ามือมีเหงื่อซึมออกมานางหลบเลี่ยงสายตาเชิงตำหนิของไทฮองไทเฮา ในใจรู้สึกกระวนกระวายเรื่องการตั้งครรภ์ของหรงเฟย นางเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความจริง อีกทั้งยังเป็นคนทำร้ายโดยทางอ้อมอีกด้วยหากมิใช่นางขัดขวางหมอหลวงเหล่านั้นไว้ หรงเฟยในตอนนั้นคงไม่ถึงกับ “สองชีวิตในหนึ่งร่าง” เช่นนี้เรื่องนี้นางไม่เคยกล้าบอกกับผู้ใดเลย กลัวว่าหลังจากฮ่องเต้ทรงทราบ จะยิ่งเกลียดนางที่มีฐานะเป็นไทเฮาผู้นี้ทว่าท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ไม่มีทางป
Read more

บทที่ 489

เซียวอวี้มั่นใจว่า เรื่องที่ตนเองเคยทำ จะไม่มีวันลืมอย่างเด็ดขาดเขาไม่เคยแตะต้องหรงเฟย!ถึงแม้จะเมาสุรา เขาก็ไม่ถึงกับทำเรื่องต่ำทรามเช่นนั้นทว่าหรงเฟยก็ดูเหมือนไม่มีเหตุผลที่จะโกหกพวกเขาเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่วัยเยาว์ และยังเป็นสหายร่วมเรียนมาด้วยกัน ในตอนแรกที่เขาขึ้นครองบัลลังก์ นางก็ช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่ นางจะโกหกเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไรหรงเฟยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และฝืนยิ้ม ทว่านัยน์ตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่แตกสลาย“ท่านจำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร“เรื่องในคืนนั้น เดิมทีแล้วก็เป็นความผิดพลาด“หม่อมฉันจะลืมมันไป และหวังว่าท่านก็จะลืมเช่นกัน อย่าปล่อยให้มันกลายเป็นหนามยอกอกระหว่างท่านกับฮองเฮาเลยเพคะ”เซียวอวี้ลุกขึ้นอย่างกะทันหัน และจ้องนางด้วยสายตาเคี่ยวเข็ญ“มู่หรงหลัน อาศัยว่าที่ผ่านมาพวกเรามีความผูกพันกันมายาวนานหลายสิบปี อย่าโกหกเรา เด็กคนนั้นเป็นบุตรของเราจริงหรือ”หรงเฟยกัดเนื้อนุ่ม ๆ ในริมฝีปาก และพยักหน้าอย่างยากเย็น เซียวอวี้รู้สึกหายใจไม่ทัน มือกำหมัดไว้แน่น จนกระดูกข้อต่อนิ้วถูกบีบเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พูดเพียงประโยคเดียว“
Read more

บทที่ 490

ณ ตำหนักฉางเล่อหรงเฟยนำหลักฐานการติดต่อระหว่างเฉินอ๋องกับเสนาบดีเหล่านั้นมาถวาย“นี่คือสิ่งที่บิดาสืบสวนจนพบเพคะ เขาสงสัยแต่แรกว่าเฉินอ๋องมีเจตนาแอบแฝง จึงแสร้งผูกมิตรกับเขา เพื่อสืบหารายชื่อผู้สมรู้ร่วมคิดเหล่านั้น”หรงเฟยนำหลักฐานเหล่านี้มาแสดง ลดความยุ่งยากให้กับเซียวอวี้ได้ไม่น้อยหลังจากเขาดูแล้ว ก็เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“บิดาของเจ้ามีความดีความชอบ”แววตาของหรงเฟยดูแน่วแน่และภักดี“ความจงรักภักดีต่อกษัตริย์คือหน้าที่ของบิดาอยู่แล้ว การช่วยให้ฝ่าบาททรงคลายความกังวลในพระทัยได้นั้นถือว่าดี สองวันที่ผ่านมา เพราะเรื่องของเฉินอ๋อง ท่านทรงงานยุ่งจนดึกทุกวัน ตอนนี้ก็ได้หยุดพักหายใจหายคอเสียที”วันนี้เซียวอวี้มาที่ตำหนักฉางเล่อ ก็เพราะหลักฐานในมือของหรงเฟยเหล่านี้เมื่อก่อนพวกเขาก็เป็นเช่นนี้ เขาปกครองราชสำนัก หรงเฟยก็อาศัยกำลังของคนในตระกูลช่วยเหลือเขานางไม่เหมือนสตรีทั่วไป แค่มองดูนุ่มนวลอ่อนหวาน แท้จริงแล้วลงมืออย่างเฉียบขาด และมักจะคิดหาวิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอเขาให้นางคอยเป็นผู้ช่วยอยู่หลายเรื่อง ดังนั้นที่ว่าวังหลังไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการปกครอง แต่ไหนแต่ไรมานางจะได้รับการยก
Read more
PREV
1
...
4748495051
...
125
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status