All Chapters of ทะลุมิติมาอยู่ในร่างสาวน้อยพร้อมระบบเส็งเคร็งยุค 70: Chapter 101 - Chapter 110

157 Chapters

บทที่ 101 คนขับรถ

หลังจากที่บ้านเหลือเพียงไม่กี่คนเฉินเฟิ่นอี้ก็บอกให้ลุงใหญ่พาไปหาผู้ใหญ่บ้านด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการซื้อที่ดินเก็บเอาไว้ ลุงใหญ่แม้จะงง ๆ แต่ก็ยอมพาไป เฉินเฟิ่นอี้ที่ควรรออยู่บ้านจึงมาอยู่หน้าบ้านของผู้ใหญ่บ้านที่ปิดประตูเงียบสนิทไม่ให้ใครเข้าไป"พวกแกมาทำอะไรที่นี่"น้ำเสียงตื่นตระหนกดังขึ้นข้างหลัง เฉินเฟิ่นอี้หันหลังไปมอง เป็นผู้ใหญ่บ้านที่เดินมาจากข้างหลังด้วยความรวดเร็วและยืนเผชิญหน้ากับพวกเธอ เฉินเฟิ่นอี้เลิกคิ้วมองอย่างยียวน ทั้งที่ควรถามว่าต้องการให้ช่วยอะไรหรือเปล่ากลับตื่นตระหนกเสียได้"ผมมีธุระต้องการพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านเลยมาหาครับ" ลุงใหญ่บอก"มีธุระอะไร ทำไมไม่ไปหาเลขาธิการล่ะ ผมห้ามให้ใครมารบกวนที่บ้าน" ผู้ใหญ่บ้านว่าด้วยความหัวเสีย หากคนในบ้านได้ยินเสียงรบกวนจะยุ่งเอา“ที่จริงปกติเวลามีปัญหาพวกเราก็มาที่บ้านหลังนี้นี่คะ" เฉินเฟิ่นอี้ฉีกยิ้มมองผู้ใหญ่บ้านที่หันมามองเธอ หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นหนึ่งในลูกชายของผู้ใหญ่บ้านคนก่อนเขาก็คงไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านหรอก และดูเหมือนอีกไม่นานจะได้เปลี่ยนผู้นำหมู่บ้านเขาชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิดเมื่อเฉินเฟิ่นอี้ดูเหมือนจะรู้อะไรมา ให้บ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 102 ทวงคืน

บทสนทนาจบลงด้วยความเงียบ และแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนจะเข้าไปในอำเภอ คำถามของเฉินเฟิ่นอี้ยังไม่ได้รับคำตอบแต่ดูเหมือนลุงใหญ่จะเก็บเอาไปคิด ที่จริงเฉินเฟิ่นอี้คิดเอาไว้ว่าต่อให้ไม่มีใครย้ายไปอยู่ปักกิ่งด้วยเธอก็ยืนยันที่จะไปปักกิ่งอยู่ดี อย่างที่หลาย ๆ คนรู้ว่าเงินมันสำคัญมากแค่ไหน ขอเพียงส่งเงินกลับมาให้ที่บ้านก็พอแล้วตรวจสอบของมีค่าในบ้านเรียบร้อยแล้วเฉินเฟิ่นอี้ก็ล็อกกุญแจอย่างแน่หนา เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านเฉินถูกลุงรองจ้างให้ดูแลบ้านกับไก่และเป็ดให้ ไม่ใช่ว่าต้องมาทำความสะอาดบ้านหรือเล้า ให้ดูแลที่ว่าหมายถึงหากมีคนพยายามเข้าไปที่บ้านให้จำเอาไว้ ไม่ก็ไปบอกลูกสาวของเขาที่อยู่ในตำบลท้องฟ้าเริ่มมืดพอดีกับพวกเฉินเฟิ่นอี้มาถึงบ้านเช่าในอำเภอ ภายในบ้านเปิดไฟให้ความสว่าง หลังรถจอดเฉินเฟิ่นอี้รีบลงจากรถเข้าไปข้างในบ้าน ฟูกที่วางไว้ในห้องก่อนกลับไปยังหมู่บ้านถูกลากออกมาข้างนอก เฉินเฟิ่นอี้คิดว่าเป็นเฉินเหม่ยเย่ที่เอาออกมาให้ทุกคนนั่งลงบนพื้นบ้านที่เคลือบเงา โต๊ะที่เคยอยู่กลางบ้านถูกยกออกไปวางไว้ติดผนัง และตอนนี้โทรทัศน์เปิดอยู่ คงเป็นน้องของเธอสักคนที่เปิดให้แม่และปู่ย่าเฉินดู เฉินเฟ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 103 ร้านผ้าถุงเซี่ยเซี่ย

ข่าวการเปิดมหาวิทยาลัยยังมาไม่ถึง แต่ผ้าถุงที่สั่งทำรอบแรกเสร็จแล้ว ร้านที่ปรับปรุงก็เสร็จแล้วเช่นเดียวกัน พี่น้องบ้านเฉินยกเว้นเฉินเฟิ่นอี้ตอนนี้กลายเป็นคนว่างงาน และยกเว้นคนที่เรียนอยู่อย่างเฉินชิงชิง ทำให้ที่ร้านเซี่ยเซี่ยยังไม่มีพนักงานเฉินเฟิ่นอี้ตกลงกับโอวหยางจิงที่จะไม่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาของโรงงานเย็บผ้าอีก ส่วนร้านเสื้อผ้าโอวหยางเธอมีหุ้นส่วนอยู่จะเข้าไปดูบ่อย ๆ เอา ระหว่างรอข่าวมหาวิทยาลัยมาถึงเฉินเฟิ่นอี้ต้องการโฟกัสกับร้านเซี่ยเซี่ยของเธอก่อน ยิ่งตอนนี้บ้านเฉินเข้ามาอยู่ในอำเภอทั้งหมดแล้วด้วยปู่เฉินและย่าเฉินยอมไปปักกิ่งกับเฉินเฟิ่นอี้แล้ว เรื่องนี้บรรดาสะใภ้บ้านเฉินต่างตกใจกันมาก ในหมู่บ้านคนของตระกูลเฉินยังอยู่ ลุงสามที่กลับไปดูสัตว์ปีกที่บ้านให้จึงยังไม่ให้บ้านเฉินกลับไป จนกระทั่งผ่านมาเกือบเดือน คนตระกูลเฉินจึงออกจากหมู่บ้านเฉินเฟิ่นอี้เริ่มเสนอให้นำไก่และเป็ดเข้ามาขายในอำเภอ หากได้ไปปักกิ่งช่วงนี้จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก ที่สำคัญทุกคนพร้อมลาออกจากงาน อย่างที่บอกว่าการที่จะไปไหนมาไหนคนที่ตัดสินใจได้มีเพียงปู่เฉินย่าเฉินและลุงใหญ่ เป็นปู่เฉินที่เห็นด้วยกับคำพูดของหลานสาว ต
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 104 พนักงาน

"พี่ใส่ชุดอะไรเนี่ย"เป็นคำพูดแรกที่ออกจากปากของเฉินตงทันทีที่เดินออกจากห้องทำงาน และเฉินตงที่กำลังยืนอยู่จุดชำระเงินกับเฉินไห่หลิว ผู้ชายบ้านเฉินหันมามองเฉินเฟิ่นอี้เป็นตาเดียว และแต่ละคนมีสีหน้าไม่พอใจสุด ๆ ทำให้เฉินเฟิ่นอี้ต้องส่ายหน้า"พวกเราขายผ้าถุงนะคะ หากไม่ใส่เป็นตัวอย่างแล้วลูกค้าจะซื้อหรือ" เฉินเฟิ่นอี้ตอบด้วยใบหน้าไม่สะทกสะท้าน เธอเดินออกมาส่องกระจกที่ติดไว้ในร้านเสียดายที่นี่ไม่สามารถแต่งตัวแบบไหนก็ได้ เฉินเฟิ่นอี้จึงต้องหาเสื้อมาคลุม ไม่อย่างนั้นคงใส่เพียงผ้าถุงให้คนอื่นดูเป็นตัวอย่าง ผ้าถุงที่เฉินเฟิ่นอี้รู้จักมันจะใส่พอดีไม่ยาวไม่สั้นแต่ถ้าเป็นคนตัวเล็กก็จะยาวอยู่ แต่ที่สั่งตัดเย็บออกมาคาดบริเวณอกมันสั้นเลยเข่าเฉินเฟิ่นอี้เมินสายตาผู้ชายบ้านเฉินก่อนเดินไปหยิบยางรัดผมที่เฉินเหม่ยเย่เป็นคนทำ และเฉินเฟิ่นอี้ให้หล่อนสองหยวนต่ออัน วันนี้ได้มาเพียงยี่สิบอันเท่านั้น ลวดลายของของมันจะเป็นเศษผ้าถุงที่เฉินเฟิ่นอี้ซื้อต่อมาจากเศษผ้าและผ้าดี ๆ จากโรงงาน ด้านในเป็นยางยืด เฉินเฟิ่นอี้แก้ผมที่ถักเปียตั้งแต่เช้าออกก่อนรวบขึ้นและมัดยางรัดผมลวดลายเดียวกันกับผ้าถุง"มันใส่แบบนี้เหรอคะ?
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 105 ค้าขาย

เปิดร้านวันแรกเฉินเฟิ่นอี้ขายไปได้เพียงยี่สิบตัว แต่เธอไม่ย่อท้อยังคงมาขายที่ร้านเหมือนเดิม แต่มันต่างจากวันแรกเพราะมีลูกค้ามาซื้อเยอะกว่าวันแรกหลายเท่าตัว กล่าวได้ว่าสองวันเฉินเฟิ่นอี้สามารถขายผ้าถุงออกไปได้ถึงสองร้อยผืน นั่นทำให้เฉินเฟิ่นอี้ต้องสั่งตัดเย็บมาเพิ่มสำรองไว้ กว่าที่มีในร้านจะหมดก่อนไม่ต้องรอของผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ก็ขายได้ครึ่งหนึ่งของผ้าถุงที่มี เฉินเฟิ่นอี้จึงชวนรุ่นพี่ลู่เสียนกับมี่หยางมาทำงานด้วย ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดร้านเป็นแปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น แต่พนักงานของร้านต้องมาก่อนร้านเปิดเพื่อจัดสินค้าวางขายสามสิบนาที ที่ร้านหยุดวันหยุดสุดสัปดาห์วันเดียวเท่านั้น เพราะบางทีคนที่อยากซื้ออาจไม่ว่างมาจะได้มาวันหยุดอีกวัน เฉินเฟิ่นอี้ให้เงินเดือนทั้งสองคนเดือนละหนึ่งร้อยหยวนยังไม่รวมกับโบนัสที่เฉินเฟิ่นอี้จะให้ หากวันไหนขายได้เกินหนึ่งร้อยผืนจะได้รับโบนัสสามเปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน ยิ่งขายได้ทุกวันก็จะบวกเพิ่มไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญเฉินเฟิ่นอี้ให้เบิกเงินล่วงหน้าได้ แต่ต้องเบิกเงินทุกวันที่สิบห้าและทุกวันที่หนึ่งของทุกเดือน กลางเดือนสามารถเบิกได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของฐานเงินเดือนเพื่อไ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 106 รวมตัว

เสียงหัวเราะดังขึ้นด้วยความสนุกสนาน วันนี้เป็นวันที่กลุ่มเพื่อนของเฉินเฟิ่นอี้รวมตัวกันอีกครั้ง พวกเว่ยฟ่ง จินหม่าซิน โจวซิงฉือ สามสาวจี้หลัน ซ่งเวยหลาน เจียวซี และโอวหยางจิง จริง ๆ มีรุ่นพี่เว่ยหยางพี่ชายของเว่ยฟ่งอีกคนที่ตอนแรกจะมาด้วย แต่เห็นว่าที่บ้านมีนัดรับประทานอาหารกับลูกค้าคนสำคัญจึงมาไม่ได้พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เฉินชิงชิงกลับบ้านไปพร้อมพ่อของเขาและเหรินอี้ก็กลับบ้านไปเหมือนทุก ๆ สัปดาห์ ทำให้เด็กบ้านเฉินที่เหลือต่างไม่ต้องดูแลเด็กในบ้านและดื่มฉลองด้วยความสุข เหล้าผลไม้ที่เฉินเฟิ่นอี้หมักไว้ที่บ้านถูกนำออกมาดื่ม"เฮ้อ ฉันล่ะกลุ้มใจจริง ๆ ทำไมกระทรวงศึกษาธิการถึงได้ประกาศออกมาเร่งด่วนแบบนี้ อย่างน้อยควรประกาศล่วงหน้าครึ่งปีสิ ดีที่พวกเรารู้มาจากจินหม่าซินกับโจวซิงฉือไม่อย่างนั้นคงหาหนังสืออ่านไม่ทัน" เว่ยฟ่งเริ่มได้ที่เขาบ่นออกมาเมื่อบทสนทนากล่าวถึงการสอบเกาเข่า"อาจเพราะไม่ได้สอบนานแล้ว เลยฉุกละหุกแบบนี้" โอวหยางจิงบอกก่อนจิ้มเนื้อเข้าปาก บ้านของเขาไม่ได้กดดันให้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วเพราะตอนนี้ก็ทำงานในโรงงานอยู่ แต่เขาก็คงต้องสอบอยู่ดีไม่อย่างนั้นคงเป็นขี้ปากชาวบ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 107 ลงทะเบียน

เฉินเฟิ่นอี้หมุนตัวไปมาหน้ากระจกเพื่อสำรวจการแต่งตัวของตนเองและจัดการแต่งทรง วันนี้เป็นวันสอบเกาเข่าหรือก็คือการสอบเลือกมหาวิทยาลัยหลังจากที่สมัครสอบไว้เมื่อสองเดือนก่อน จริง ๆ วันนี้ไม่ใช่วันหยุดของร้าน ไม่จำเป็นต้องปิดร้านก็ได้ เพียงแค่เฉินเฟิ่นอี้ไม่อยากเป็นห่วงร้านตอนสอบที่ร้านมีพนักงานห้าคน ผู้หญิงสามคนและผู้ชายสองคน รุ่นพี่ลู่เสียน มี่หยาง ผู้หญิงอีกคนชื่อหมิงเฟยเซียง หล่อนอายุน้อยกว่าเฉินเฟิ่นอี้หนึ่งปีและมีน้องชายหนึ่งคนที่เป็นพนักงานในร้านชื่อหมิงเฟยหลง คนสุดท้ายเป็นพนักงานผู้ชายอายุเท่าเฉินเฟิ่นอี้ชื่อเลี่ยงหวง และใช่พนักงานในร้านล้วนเป็นคนหนุ่มคนสาววันที่เปิดสมัครไม่ใช่ว่าคนมีอายุมากกว่านี้ไม่มาสมัคร เพียงแต่คุณสมบัติและหมายเหตุไม่ตรงตามความต้องการของเฉินเฟิ่นอี้ ส่วนเงินเดือนพนักงานยังคงเป็นหนึ่งร้อยหยวน แต่เดือนล่าสุดแต่ละคนได้โบนัสเพิ่มมากกว่าเงินเดือนเสียอีก ยังดีที่เฉินเฟิ่นอี้สั่งตัดเย็บผ้าถุงเพิ่มมาเรื่อย ๆ ไม่อย่างนั้นของคงขาดตลาดเฉินเฟิ่นอี้ฉีดน้ำหอมหลังถักเปียให้ตนเองเสร็จ เธอหยิบกระเป๋ากับกระดาษจดความต้องการสั่งตัดเย็บผ้าถุงออกจากห้อง ฟ้าด้านนอกยังไม่สางแต่เฉิ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 108 สอบเกาเข่า

ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน ความทรงจำล่าสุดของเฉินเฟิ่นอี้ก็คือเธอต้องการพักสายตาเท่านั้น แต่รู้ตัวอีกทีน้องสาวของเธอก็มาปลุกแล้ว เฉินเฟิ่นอี้ลืมตาก่อนยืดแขนหันไปรอบ ๆ ตอนนี้ไม่มีคนนั่งอยู่แล้วเหลือเพียงเด็กบ้านเฉินและกลุ่มเพื่อนที่หันมามอง"ลุงสาม"พอปรับสายตาได้เฉินเฟิ่นอี้จึงลุกขึ้นยืนและทำให้เธอเห็นลุงสามของบ้านที่นั่งรออยู่ก่อน ทุกคนยังนั่งนิ่งกันอยู่ นั่นหมายความว่ายังไม่ถึงเวลาสอบ เฉินเฟิ่นอี้รีบเก็บผ้าห่มและเสื่อทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา ดีที่กระเป๋ามันใส่ผ้าห่มอีกผืนได้ไม่อย่างนั้นแย่แน่"คนอื่นอ่านหนังสือแต่หลานสาวบ้านเฉินกลับนอนหลับซะงั้น" ลุงสามเอ่ยแซว เขารู้ว่าช่วงนี้หลานสาวทำงานหนักจะเหนื่อยก็ไม่แปลกเฉินเฟิ่นอี้ยังสะลึมสะลือ เธอมองหาที่นั่งก่อนย้ายตัวไปนั่งลงข้างเจียวซี ลุงสามนั่งอยู่อีกโต๊ะแต่มันเต็มแล้ว เฉินเฟิ่นอี้เลยมานั่งกับกลุ่มเพื่อนแทน แอบมองนาฬิกาในกระเป๋าผ้าที่นำมาด้วย เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงทำให้เฉินเฟิ่นอี้โล่งใจนึกว่าหลับไปนานถ้าไม่ได้แต่งหน้ามาเฉินเฟิ่นอี้คงล้างหน้าใหม่ไปแล้ว และหากทำอย่างนั้นมันก็เสียเวลามาก ตอนนี้ทำได้เพียงนั่งนิ่งจะขยี้ตาก็กลัวมันบวม เฉินเฟิ
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 109 ไม่อยากเจอ

ช่วงบ่ายเป็นการสอบวิชาคณิตศาสตร์ เฉินเฟิ่นอี้ใช้เวลาไปนานกว่าช่วงเช้าและเกือบ ๆ หมดเวลาเลยก็ว่าได้ พอเดินออกจากห้องสอบเฉินเฟิ่นอี้ถึงกับถอนหายใจออกมา ต้องบอกว่านอกจากความจำของเธอจะดีแล้ว เฉินเฟิ่นอี้ยังเรียนเก่งเป็นทุนเดิม อีกอย่างพอห่างการสอบมานานหลายปีจะกดดันก็ไม่แปลกสถานการณ์ไม่ต่างจากช่วงเช้าที่หลาย ๆ คนเทียบคะแนนสอบเพียงแต่เฉินเฟิ่นอี้ยังคงไม่สนใจ ตอนนี้สี่โมงเย็นแล้ว ทางโรงงานตัดเย็บของตระกูลโอวหยางปิดแล้ว แต่เมื่อเช้าพี่จวินหว่านบอกให้เข้าไปดูเนื้อผ้า เลยคิดว่าจะแวะเข้าไปดูหน่อยเผื่อยังพอมีเวลาอยู่เฉินเฟิ่นอี้ยืนฟังครูอธิบายการสอบของพรุ่งนี้คร่าว ๆ ก่อนจะเดินแยกตัวออกไปหาน้องชายน้องสาว รู้สึกว่าการสอบวิชาคณิตศาสตร์ผ่านไปช้ามากในความรู้สึกของเธอ เสียงพูดคุยดังขึ้นตลอดทางเดินที่เฉินเฟิ่นอี้เดินไปบริเวณม้านั่ง พวกเธอนัดกันเอาไว้ที่นั่น"จะเทียบข้อสอบไหมคะ" เฉินเหม่ยเย่ถาม"ไม่ล่ะ"เมื่อเช้ามีเวลาให้นั่งพักเฉย ๆ เฉินเฟิ่นอี้จึงเทียบคะแนนให้ทุกคนดู และถึงวันนี้ไม่ต้องแวะไปโรงงานเฉินเฟิ่นอี้ก็ไม่รอที่โรงเรียนอยู่แล้ว มันเป็นเวลาเลิกงานของผู้ใหญ่บ้านเฉิน พวกเธอต้องไปรับน้องชายที่ฝาก
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more

บทที่ 110 ทิ้ง

ระหว่างทางกลับบ้านมีเพียงความเงียบและแสงไฟข้างทางให้ความสว่าง อีกไม่ไกลจากตรงนี้มีหลุมขรุขระแต่ไฟบริเวณนั้นไม่ค่อยดี เฉินเฟิ่นอี้เลยจูงจักรยานแทนการปั่นเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ สายตาจ้องมองไปเพียงทางด้านหน้าที่อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านแล้ว"หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยพี่จะไปเปิดโรงงานตัดเย็บในปักกิ่ง"เฉินเฟิ่นอี้ชะงักเมื่อได้ยินเขาบอกอย่างไม่เชื่อหู จักรยานจอดนิ่งเพื่อฟังอีกรอบ ตระกูลโอวหยางเปิดโรงงานตัดเย็บที่นี่มากว่ายี่สิบปี เฉินเฟิ่นอี้จึงไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมันผิดหรือเปล่า และตอนนี้ยังมีเพียงทายาทเพียงคนเดียวที่จะขึ้นรับช่วงต่อจากผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน"ล้อฉันเล่นหรือเปล่าคะ""หลายเดือนที่ผ่านมาพี่ได้คุยกับพ่อและแม่แล้ว" โอวหยางจิงเอ่ยอย่างจริงใจ เขาเดินตามเฉินเฟิ่นอี้มาตั้งกี่ปีจะให้เขาเลิกง่าย ๆ หรือ อีกอย่างครอบครัวของเขาชอบเฉินเฟิ่นอี้มากและยังสนับสนุนอยู่ตลอด"ตระกูลโอวหยางมีคนรับช่วงต่อเพียงแค่พี่คนเดียวเท่านั้นนะคะ ดูเหมือนคุณลุงคุณป้าก็คาดหวังให้พี่เข้าไปรับช่วงต่อ" หากโอวหยางจิงมีพี่ชาย พี่สาว น้องชาย หรือน้องสาว คงไม่ต้องคิดมากขนาดนี้ และในโรงงานมีพนักงานหลายร้อยชีวิต ถ้าพัง
last updateLast Updated : 2025-04-12
Read more
PREV
1
...
910111213
...
16
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status