Semua Bab วันสิ้นโลกของผม: Bab 481 - Bab 490

“เดี๋ยวผมลองไปถามท่านนายพลเอง” โจเซฟว่าจบก็เตรียมจะเดินไปที่หน่วยทหาร ไอซ์จึงรีบวิ่งตามไปติด ๆ“แน่ใจนะว่าดูแลไหว” นิโคลัสหันไปมองทีโอที่เสนอแผนการนี้ขึ้นมา“ก็ดูเหมือนจะสำนึกได้บ้างแล้ว คงไม่มาก่อเรื่องหรอกมั้ง” ทีโอยักไหล่“คิดยังไงถึงจะพาเขาไปด้วย” ปกติเห็นเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มาวันนี้กลับเสนอให้ไปเยี่ยมบ้านกันเสียอย่างนั้น“ปลาบินสองตัวเลยนะพี่นิค แบ่งให้สามหมู่บ้านได้สบายเลย” แถมยังอยู่ในสภาพสดใหม่อีกต่างหาก“แต่นั่นเป็นผู้มีพลังมิติที่มีเพียงคนเดียวในค่ายนะ” เจ้ากระต่ายไม่คิดว่าท่านนายพลจะยอมให้หลานชายออกไปด้านนอกอีก“ก็ไม่แน่นะครับ ตอนนี้ขอแค่เป็นหัวหน้าเราไปพูด ผมคิดว่าท่านนายพลต้องฟัง ระหว่างที่พวกเราไปบ้านบนภูเขาก็ให้ไอซ์พักอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปก่อน” ไม่ได้มีความคิดจะเปิดเผยเรื่องเส้นทางลับแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือที่ตั้งของหมู่บ้านในสมาพันธ์ผู้รอดชีวิต“เนื้อปลาหลังรถเราก็มีพอแค่กินกันในบ้านบนภูเขา แต่ถ้ามีเยอะ ๆ คงพอแบ่งให้กับอีกสามหมู่บ้านได้แน่ หน้าหนาวแบบนี้อาหารยิ่งมีเยอะเท่าไรก็ยิ่งดี” เขาอยากให้เด็ก ๆ ที่บ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้กินเนื้ออย่างเต็มปากเต็มคำเหม

“ตอนที่ผมยังเด็กและเป็นแค่นักหัดวิจัยโนเนมเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน มีโครงการหนึ่งที่โด่งดังมากในวงการนักวิทยาศาสตร์ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนโดยเฉพาะ... พวกคุณรู้จักคำว่าโลกร้อนใช่ไหมครับ” สิงหาหันมาถามแขกก่อน เขาเคยได้ยินว่าชาวบ้านบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกร้อนคืออะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการกระทำของตนเองนั้นทำร้ายโลกที่เราอาศัยอยู่ไปมากน้อยแค่ไหน“เคยได้ยินสิ” มีการรณรงค์อยู่ทั่วทุกที่ ขอแค่เป็นคนที่อยู่ในโลกโซเชียลต้องมีผ่านตาสักครั้งแน่นอน“เพราะกิจกรรมในแต่ละวันของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลกเพิ่มมากขึ้นในระดับที่เรียกได้ว่ามหาศาล พวกคุณคงเคยได้ยินเรื่องธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย ทำให้แบคทีเรียที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายล้านปีก่อนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใช่ไหมครับ นั่นนับเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตระหนกให้กับพวกเรานักวิจัยเป็นอย่างมากโครงการที่กล่าวมาจึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับอนาคต ผมไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกมากนัก รู้แค่ว่าหลังจากที่มีการคัดนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งไปเข้าร่วมการประชุมที่ต่างประเทศ เมื่อพวกเขากลับมาก็ไม่ได้ออกมาเผยแพร่การประชุมก

พวกเขาเลือกที่จะจอดรถห่างจากหมู่บ้านครูเมตตาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ให้พ้นระยะการได้ยินของมนุษย์กลายพันธุ์ พอเช็กว่าไม่มีคนหรือสัตว์ประหลาดอยู่ในละแวกนี้ถึงค่อยยอมให้ไอซ์ใช้พลังนำปลานกกระจอกออกมาจากมิติ จากนั้นดาริณีก็นำเชือกท้ายรถมาผูกปลาทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วเดินลากมันไปยังทางเข้าหมู่บ้านด้วยตัวคนเดียว คนที่เหลือก็ช่วยกันกรุยทางไม่ให้หญิงสาวเดินลำบากวิทย์ตกใจแทบตายเมื่อเปิดประตูมาแล้วเจอสมาชิกในทีมของโจเซฟลากสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ติดมือกลับมาด้วย หลังจากพิจารณากันอยู่ครู่หนึ่งวิทย์ก็ขอให้ลากปลาพวกนี้ไปวางไว้ที่สนามหญ้าหน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยความใหญ่โตใกล้เคียงกับรถบรรทุกขนาดเล็กของปลาบินทั้งสองตัว ย่อมดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ในบ้านได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็พยายามมาด้อม ๆ มอง ๆ เผื่อจะได้รับส่วนแบ่งมาสักคำสองคำเช่นกันเนื่องจากคนในค่ายของวิทย์นั้นมีเพิ่มมาพอสมควร อีกทั้งเด็กน้อยทั้งหลายก็ยังอยู่ในวัยกำลังโต ปลา 1 ตัวโดยไม่ตัดแบ่งสักส่วนจึงตกเป็นของหมู่บ้านครูเมตตาไปโดยปริยายจากนั้นก็ขอให้ไอซ์อยู่ที่บ้านครูเมตตาก่อนสักวันสองวัน พวกเขายังมีธุระที่ต้องไปต่อ ซึ่งไอซ์ก็ไม่ได

เดินมาถึงหน้าโรงพยาบาลไอซ์ก็ขอตัวแยกไปหาคุณหมอที่แผนกกระดูกเพื่อตรวจเฝือกที่ขา จากนั้นค่อยกลับไปรายงานตัวและรับโทษกักบริเวณดังเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งให้ออกมาด้านนอกได้ ซึ่งนายพลอธิก็มีความคิดจะกักบริเวณหลานไปจนกว่าจะเห็นพฤติกรรมที่ดีขึ้นจากเจ้าตัว ไม่ใช่ว่าสำนึกผิดแล้วจะได้รับการให้อภัยในทันที“ขอบคุณมากนะครับ” สิงหารับรากอากาศต้นไทรจากเลวี่ด้วยฝ่ามืออันสั่นเทา เขาเพิ่งได้คำแนะนำมา ว่าให้ใช้น้ำสีแดงในการสกัดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งคีย์เวิร์ดนี้ทำให้เด็กหนุ่มหวนนึกถึงน้ำเลือดของตัวเลวี่เอง ในเมื่อต้นไทรมีการตอบสนองกับชายหนุ่มก็เป็นไปได้มากที่เลือดจะเป็นสิ่งที่ทำปฏิกิริยากับรากอากาศ“ไม่เป็นไรครับ อะไรที่ผมทำได้ผมก็อยากจะช่วยให้เต็มที่” ถ้าไม่ติดว่าสิงหาบอกให้รออีก 3-6 เดือนเขาจึงจะบริจาคเลือดได้อีกละก็ เขาคงขอให้คนตรงหน้าสูบเลือดตนออกไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่“จริงสิ เดี๋ยวท่านนายพลจะเรียกประชุมผู้บริหาร ท่านวานให้ผมมาเชิญคุณโจเซฟเข้าร่วมประชุมด้วยครับ ได้ยินว่าเมื่อสองสามวันก่อนเพิ่งได้ข้อมูลที่น่าสนใจใหม่ เลยอยากเชิญเข้าร่วมประชุมเพื่อหารือร่วมกัน” สิงหานึกถึงข้อความสำคัญที่เลขาฯ ของ

โจเซฟเข้าใจถึงความรู้สึกของท่านนายพลอธิดี เพราะคนที่กำลังพูดสายอยู่นี้คือจอมพลเรือที่มีผลงานการรบโชกโชนการันตีตำแหน่งหน้าที่การงานในปัจจุบัน ตัดมาที่ประเทศของเราที่ยังมีการใช้เส้นสายและเลื่อนตำแหน่งอย่างมีลับลมคมใน จะบอกว่ากระดูกคนละเบอร์ก็คงไม่เกินจริงนักกับนายพลอธิเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แม้จะไม่ได้เป็นทหารที่เลวร้าย แต่เพราะมีเบื้องหลังตระกูลที่ยิ่งใหญ่ถึงได้ก้าวหน้าเร็วกว่าคนในรุ่นเดียวกันและนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกจะออกจากกองทัพแล้วเป็นทหารรับจ้างอิสระแทน ด้วยทนระบบอุปถัมภ์ไม่ไหว ไหนจะเพื่อนที่เข้ามาพร้อมกันคอยแต่พูดกรอกหูว่าพยายามไปก็เท่านั้น ไม่มีเส้นสายก็เป็นได้แค่ทหารระดับล่างตลอดชีวิต แน่นอนว่าพอออกมาแล้วเขาก็แอบไปเก็บกวาดพวกมันก่อนจะเผ่นหนีออกนอกประเทศ[เรื่องนี้เป็นฝีมือของกลุ่มคนบางกลุ่ม… อ่า ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงในโลกต่างหาก] จอมพลเรือที่ดูสุขุมคัมภีรภาพมาตั้งแต่เริ่มสนทนาถึงกับกัดฟันจนขึ้นสันนูน ฝ่ามือทั้งสองเองก็กำแน่น“เป็นโครงการที่พวกเขาเรียกนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกไปประชุมหรือเปล่าครับ” สิงหาเอ่ยถามสิ่งที่ตนคาดเดาทันที[ใช่แล้วล่ะ] คนในสายพ