อดีตผู้ช่วยเชฟตกงานจากพิษเศรษฐกิจเพราะโรคระบาด หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ ไปทำสวนผักเล็ก ๆ ที่บ้านในชนบท แต่ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งเขาจะเจอซอมบี้หลังจากกลับมาจากไปจ่ายตลาด!!
View Moreไม่แน่ใจว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจะสามารถใช้บรรยายความซวยของมนุษยชาติในเวลานี้ได้หรือเปล่าล้วนไม่มีใครรู้ เมื่อรู้ตัวอีกทีหลายพื้นที่บนโลกก็ไม่ต่างจากภาพยนตร์วันสิ้นโลกที่เคยโด่งดังเรื่องหนึ่ง
มันเริ่มจากโรคติดต่อร้ายแรงที่มีการแพร่กระจายจากคนสู่คน ทำได้เพียงรักษาไปตามอาการจนเชื้อในร่างกายตายหมดเท่านั้น ซึ่งผ่านมาเกือบสองปีก็ยังไม่มีประเทศไหนคิดค้นวัคซีนที่จะทำให้หายขาดหรือป้องกันการติดเชื้อซ้ำได้เลย
นานวันเข้าก็เริ่มมีผู้คนล้มตายมากขึ้น จากประชากรเกือบ 5 พันล้านคนทั่วโลก ถูกประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 1 ใน 5
หลายครัวเรือนเริ่มกักตุนอาหาร ร้านขายของชำปิดให้บริการ ราคาอาหารแห้งแพงยิ่งกว่าทอง นี่เป็นสิ่งที่ทุกประเทศทั่วโลกต้องเผชิญไม่มีใครหลีกเลี่ยง
แต่แค่นั้นมันยังน้อยเกินไป
วันที่ xx เดือน xx ค.ศ. xxxx
องค์การ xx ระบุว่ามีอุกกาบาตขนาดใหญ่กำลังจะพุ่งชนมายังโลก ซึ่งแน่นอนว่ามันจะสร้างความเสียหายไม่ต่างจากหลายล้านปีก่อนที่เป็นเหตุให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์
ยังดีที่เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาไปมาก มนุษย์รู้ตัวเร็วทำให้พอมีเวลาหาหนทางกำจัดภัยร้ายนี้ได้ก่อนมาถึงโลก แต่ใครจะรู้ว่าอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดทำได้เพียงสร้างรอยขีดข่วนให้มันเท่านั้น เวลาที่กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อย ๆ บีบคั้นให้ทุกคนลงความเห็นให้เบี่ยงมันออกไปจากวงโคจรเดิม อาจมีเศษซากอุกกาบาตหล่นลงมาบนพื้นโลกบ้าง แต่ก็ยังดีกว่ามันพุ่งชนมาทั้งก้อน
ปฏิบัติการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากนานาประเทศทั่วโลก เป็นข่าวโด่งดังยิ่งกว่าโรคระบาดเสียอีก แม้แต่ประเทศที่ไม่ชอบหน้ากันยังหันมาจับมือผลิตอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงเพียงพอที่จะทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาล และผลักหินก้อนยักษ์ให้ห่างจากจุดหมายของมันให้มากที่สุด
ค่ำคืนนั้นผู้คนที่เคยหลบลี้หนีหน้ากันเพราะโรคระบาดต่างมายืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน เฝ้ารอฝนดาวตกหรือสะเก็ดอุกกาบาตจากการปฏิบัติการความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งยิ่งใหญ่ โดยคราวนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่การทำลาย
หากสำเร็จทุกคนบนโลกจะรอดชีวิตไปอีกหลายล้านปี แต่ถ้าไม่… คงเป็นการรีเซตโลกใบนี้ใหม่ไม่ต่างจากยุคดึกดำบรรพ์
จรวดบรรทุกขีปนาวุธจะถึงอุกกาบาตยักษ์ในอีก
...3
...2
...1
ตูม!
ท้องฟ้ามืดมิดพลันเกิดแสงสว่างเจิดจ้าราวกับเที่ยงวัน ก่อนฝนดาวตกจำนวนมากจะพากันวิ่งตัดผ่านขอบฟ้าเป็นริ้ว ๆ โทรทัศน์ถ่ายทอดสดรายงานว่าวิถีของอุกกาบาตถูกเหวี่ยงให้พ้นจากวงโคจรของดาวโลกแล้ว ปฏิบัติการเบี่ยงทิศอุกกาบาตสำเร็จไปได้ด้วยดี หลายพื้นที่ต่างพากันเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้แม้จะเป็นการฉลองแค่เพียงในบ้านก็ตาม
เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้นใช่ไหม
แน่นอนว่าไม่ใช่
พ้นจากเคราะห์กรรมนอกโลกก็หันกลับมาผจญกับโรคระบาดต่อ ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันต่อวันแทบจะเป็นหลักพันต่อหนึ่งหมื่นคน
“เฮ้อ เมื่อไหร่จะพ้นช่วงนี้ไปสักทีนะ” เฉินเฟิงวางมือจากพืชสวนไร่นาที่กำลังทำอยู่แล้วไปนั่งพักที่แคร่หน้าบ้าน
วันนี้ปลุกผักได้เยอะทีเดียว นึกเอ่ยชมตัวเองในใจ
ช่วงแรกแค่จับจอบขุดได้แค่ไม่กี่หลุมมือก็พองไปหมด
เฉินเฟิงเป็นลูกครึ่ง แค่ชื่อก็บอกภูมิลำเนาถิ่นเกิดของบรรพบุรุษได้ดี ก่อนหน้านี้ไม่นานนักบิดามารดาของเขาเดินทางไปประเทศ C เพื่อไปร่วมฟังพินัยกรรมของคุณปู่ แต่ใครเล่าจะรู้ว่านั่นจะทำให้ทั้งสองคนติดเชื้อโรคระบาดจากการเดินทาง ทำการรักษาอยู่ไม่กี่วันก็สิ้นใจ ทางญาติพี่น้องตระกูลเฉินจึงติดต่อให้เขามาดูศพและจัดการเรื่องพินัยกรรมที่ยังคงค้างคาไม่ได้ข้อยุติ
ก่อนเดินทางไปประเทศ C เฉินเฟิงใจสลายแค่ไหนไม่มีใครรู้ กระทั่งญาติผู้ใหญ่ที่คิดว่าเป็นพี่น้องของพ่อก็ไม่ได้สนใจไยดีกับการจากไปของสายเลือดร่วมอุทร เอาแต่พูดว่าในเมื่อพ่อของเขาก็ไม่อยู่แล้ว มรดกในส่วนนี้ก็ควรเป็นของคนพี่น้องคนอื่นเพราะตัวเขานั้นไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนในตระกูล และข้ออ้างอีกมากมายที่คนเหล่านั้นนำมากรอกใส่สมองตลอดเวลาที่อยู่ประเทศนั้น
ชายหนุ่มไม่ได้เสียดายมรดกหลายร้อยล้านของปู่ เขาแค่เสียใจที่คนในตระกูลนั้นไม่มีใครสักคนที่แสดงความเสียใจกับการจากไปของครอบครัวเขาเลย
หลังจากติดต่อเรื่องพิธีศพกับทางโรงพยาบาลเขาก็ไม่มีอารมณ์อยู่ในประเทศ C อีก จองตั๋วบินตรงกับประเทศบ้านเกิดแทบจะทันที และแน่นอนว่าช่วงโรคระบาดแบบนี้เฉินเฟิงต้องโดนกักตัวและตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมกำชับว่าให้กักตัวอยู่บ้านจนพ้นระยะฟักตัวของเชื้อก่อนถึงจะออกจากบ้านได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขามาจับจอบขุดดินถางหญ้า หว่านเมล็ดผักลงแปลงในเวลานี้ ห้าวันก่อนเขาเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องของพ่อกับแม่ สัมผัสความอบอุ่นที่อบอวลอยู่ในห้องนั้นไม่ขยับไปไหน วาระสุดท้ายของพวกท่าน เขาไม่มีแม้แต่โอกาสได้บอกลา แค่จะรับตัวกลับมาทำพิธีศพยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำเนื่องจากเป็นนโยบายป้องกันโรค พ่อกับแม่คงต้องถูกฝังรวมกับผู้เสียชีวิตรายอื่นอีกเป็นล้านคนในหลุมเดียวกัน ฟังดูแย่ แต่ถ้าปรับมุมมองใหม่ก็สามารถคิดไปได้ว่าพ่อกับแม่ไม่ได้ไปกันแค่สองคน แต่มีเพื่อนร่วมเดินทางไปโลกหลังความตายเยอะแยะจนจำชื่อไม่หมด
และเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้จึงต้องลุกมาหาอะไรทำ อีกทั้งตัวเขาเองก็ยังอยู่ในสถานะตกงานร้านที่ทำอยู่ต้องปิดกิจการจากพิษเศรษฐกิจ เฉินเฟิงรู้สึกเคว้งคว้างจึงอยากลองลงทุนกับพวกงานเกษตรกรรมภายในบ้าน เผื่อเป็นลู่ทางทำมาหากินในอนาคต
ขายไม่ได้ก็กินเอง อย่างน้อยก็คงไม่อดตาย
ชายหนุ่มจัดการนำเงินประกันของพ่อกับแม่มาต่อเติมบ้านและล้อมรั้วกำแพงเอาไว้ ถึงจะอยู่ชานเมืองแต่ช่วงวิกฤตแบบนี้โจรขโมยคงชุกชุมไม่น้อย ทั้งยังกักตุนอาหารเพราะไม่รู้จะมีประกาศเคอร์ฟิวเมื่อไหร่
แต่ใครจะคิดว่ามันจะวิกฤตได้มากกว่านี้อีกกัน
[ ประกาศฉุกเฉิน ขณะนี้ขอให้ประชาชนอยู่แต่ภายในบ้าน ห้ามออกมาด้านนอกที่พักอาศัยเด็ดขาด ย้ำ! ห้ามออกมาด้านนอกที่พักอาศัยเด็ดขาด! ]
อยู่ ๆ ทหารก็ออกมาประกาศให้ประชาชนอยู่บ้านโดยไม่แจ้งเหตุผลประกอบ สร้างความตื่นตระหนกในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก ปกติชนบทก็ไม่ค่อยมีข่าวสารส่งมาถึงรวดเร็วเท่าในเมืองอยู่แล้ว แทนที่จะเก็บตัวอยู่ในบ้านทุกคนพากันออกไปตุนอาหารให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต่อให้โดนพ่อค้าแม่ค้าโกงราคาก็ไม่เกี่ยง ขอให้ปากท้องไม่ว่างก็เพียงพอ
เฉินเฟิงเองก็ตั้งใจจะออกไปซื้อพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเก็บไว้ แต่คิดได้ว่าตอนโรคระบาดเริ่มใหม่ ๆ ผู้คนล้วนเลือกที่จะไปจับจ่ายซื้อของตามห้างสรรสินค้า หรือร้านค้าปลีกรายใหญ่ ทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่อยู่ตลอดเวลา ชายหนุ่มไม่อยากไปเสี่ยงจึงได้เปลี่ยนใจไปซื้อตามร้านขายของชำในหมู่บ้านแทน แต่ก็ได้มาไม่มากเพราะบางร้านก็เริ่มเก็บของไว้ใช้เอง
“ขอโทษนะอาเฟิง ยายขายให้ได้เท่านี้จริง ๆ” คุณยายร้านขายของชำห่ออาหารแห้งส่งให้
“ไม่เป็นไรครับ ได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว” บางร้านไม่ยอมขายให้เขาด้วยซ้ำ
“อาเฟิงได้ข่าวอะไรบ้างไหม ทำไมถึงมีประกาศจากทหารได้”
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ อาจจะมีคนติดโรคระบาดเพิ่มขึ้นก็ได้”
“นี่หลานชายยายที่อยู่ในตัวจังหวัดก็ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว ลูกชายยายจะไปหาก็เป็นห่วง กลัวยายอยู่บ้านคนเดียว” คุณยายถอนหายใจเสียงดัง เป็นห่วงหลานชายและลูกสะใภ้ของตนมาก
จะว่าไปช่วงหลังมานี้โทรศัพท์เริ่มใช้การไม่ได้ แต่เพราะเป็นหมู่บ้านชนบทที่ไม่ได้มีสัญญาณดีอยู่แล้ว ทุกคนก็เลยคิดว่ามันไม่มีอะไร ขนาดเด็กที่ต้องเรียนออนไลน์ยังต้องวิ่งไปหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตตามภูเขาเลย
โทรทัศน์เองก็มีแต่ประกาศอะไรก็ไม่รู้ซ้ำไปซ้ำมา มองดูแล้วเหมือนเป็นเทปวิดีโอที่ตั้งเวลาให้เปิดมากกว่า เขาจึงเลือกปิดมันไปเสีย
เปลืองไฟ...
เฉินเฟิงคุยกับคุณยายอีกเล็กน้อยก็ขอตัวกลับบ้าน เย็นนี้เขาตั้งใจจะไปตลาดสดซื้อเนื้อกลับมาบ้านมากหน่อย
หรือเขาควรซื้อตู้แช่มาเพิ่ม?
อย่าดีกว่า... ถึงอาหารจะจำเป็นแต่มีเงินก้อนเก็บไว้บ้างจะดีกว่า อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน เกิดเขากว้านซื้อทุกอย่างจนเงินหมดบัญชี แล้วหลังโรคระบาดจะลงทุนทำร้านหรืออะไรสักอย่างคงต้องไปกู้หนี้ยืมสินให้เป็นหนี้อีก
เย็นวันนั้นเฉินเฟิงไปตลาดนัดตามที่ตั้งใจไว้ แม้ทหารจะออกมาประกาศให้อยู่แต่ในบ้าน แต่ก็มีพ่อค้า แม่ค้าบางส่วนฝ่าฝืนประกาศออกมาตั้งแผงขายของ หวังระบายของสดที่มีออกไปบ้าง ได้กำไรนิดหน่อยก็ยังดี
ความตั้งใจที่จะซื้อของแค่เล็กน้อยเป็นอันต้องปัดตกไป เขาดันใจอ่อนช่วยลุง ๆ ป้า ๆ ซื้อหมูซื้อไก่มาสิบกิโลกว่า
“หนักโว้ย” แล้วก็มาเป็นภาระตอนขนกลับบ้าน ตะกร้าหลังรถจักรยานไม่พอใส่จนต้องแขวนไว้ที่แฮนด์จักรยานทั้งสองข้างเพื่อถ่วงน้ำหนัก
กรรร…
ในขณะที่กำลังบ่นกระปอดกระแปดไปตามประสา กลับมีเสียงคำรามต่ำในลำคอของสัตว์ป่าดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดของถนนลูกรัง เฉินเฟิงไม่ได้จอดจักรยาน ขายาวกลับเร่งความเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่าเขาแค่หูแว่วไปหรือมีสัตว์ร้ายอยู่แถวนี้จริง
ฟุ่บ
เอี๊ยดดด!
“เหวอ!”
เพราะมัวแต่ระแวงข้างทางจึงไม่ทันสังเกตเห็นเงาสิ่งมีชีวิตด้านหลังที่พุ่งมาคว้าตะกร้าที่บรรจุเนื้อสิบกิโลกว่าไว้
แรงมหาศาลฉุดกระชากส่งให้เชือกที่มัดตะกร้ายึดกับจักรยานขาดออกจากกัน
ดีที่ตั้งสติได้เร็ว ยันเท้าลงกับพื้นทันพอตั้งตัวได้ไม่ให้ล้มไปทั้งคนทั้งจักรยาน ชายหนุ่มหัวเสียหนักรีบหันกลับไปมองด้านหลัง
“นั่นมัน... อะไร” ลำคอเรียวเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่กับภาพที่เห็น
แม้เวลาจะค่อนไปทางเกือบมืดแต่ก็พอมีแสงโพล้เพล้ให้ได้เห็นราง ๆ ว่าสิ่งที่กำลังหยิบเนื้อในถุงเข้าปากสด ๆ ราวกับเป็นอาหารอันโอชะอยู่นั่นคือมนุษย์
“เชี่ยไรวะเนี่ย”
กรรร…
ดวงตาที่ควรจะมีจุดดำกลับขึ้นฝ้าสีขาว มันหันมามองเขาแล้วส่งเสียงคำรามต่ำในลำคอ รูปลักษณ์นั้นเหมือนกับซอมบี้ที่เคยเห็นในภาพยนตร์ไม่มีผิด
“ไวรัสกลายพันธุ์เหรอวะ แม่งเอ๊ย!“ แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่รอให้ตัวเองเป็นเหยื่อรายต่อไป รีบใส่เกียร์หมาปั่นจักรยานสุดชีวิต
แม่งเอ๊ย ๆ ๆ ไอ้ตัวนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดใช่ไหม
หรือจะเป็นรายการแอบถ่ายสักรายการ?
จะอะไรก็ช่างหนีก่อนแล้วกัน!
ชายหนุ่มไม่สนใจรอบข้างอีกแล้ว คราวนี้เขาปั่นหน้าตั้งมุ่งกลับบ้าน ไม่สนว่าจะมีใครทักถามอะไรทั้งนั้นด้วยกลัวว่าคนตรงหน้าจะไม่ใช่เพื่อนบ้านที่เขารู้จักอีกต่อไป
“แฮ่ก ๆ”
ร่างโปร่งพาตัวเองและจักรยานล้มโครมทันทีที่ผ่านเข้ามาในรั้วบ้าน เฉินเฟิงรีบลุกไปปิดประตูรั้ว ตั้งแต่ต่อเติมรั้วบ้าน เขาก็ไม่เคยปิดประตูเลยสักครั้งแม้แต่เวลานอน มาวันนี้รู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มีมัน
เพียะ!
ฝ่ามือหยาบกระทบใบหน้าสร้างความปวดร้าวปนแสบร้อนไปครึ่งหน้า ภายในปากได้กลิ่นสนิมรวมถึงรสขมปร่าที่ปลายลิ้น
เจ็บ…
ไม่ใช่ความฝัน
ฉิบหายแล้วแม่งเอ๊ย!
นี่มันอะไรกันวะ!!
“ทำไมถึงเป็นคุณโจเซฟได้ล่ะ” คนในห้องพึมพำเสียงเบา ถึงฝูงปลาบินนอกชายฝั่งจะน่ากลัว แต่ถึงกับส่งทีมมหาเทพมาก็ออกจะเกินไปหน่อยหรือเปล่าในขณะที่ทหารหลายนายต่างงุนงง มีเพียงเอที่เบิกตากว้างเพราะทราบดีว่าเมื่อใดโจเซฟและทีมมาเยือน นั่นหมายความว่าถึงเวลาโต้กลับแล้ว“รีบไปเปิดประตูเร็ว” มนุษย์หมาป่ากลายพันธุ์หันไปสั่งการลูกน้อง นัยน์ตาสีเทาไหวระริกในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!“ผมจะไปเปิดประตูต้อนรับเดี๋ยวนี้ครับ” นายทหารชั้นผู้น้อยเอ่ยขออนุญาตคนเป็นหัวหน้า พอได้รับการพยักหน้าตอบกลับมาก็วิ่งผลุนผลันออกจากห้องไป“พวกเราเองก็ออกไปรอต้อนรับกันเถอะ” เอหันไปพูดกับลูกน้องมือซ้ายและขวา ส่วนทหารในห้องคนอื่นยังมีภาระหน้าที่ของตนเองอยู่ ต่อให้อยากออกไปพบท่านเทพมากแค่ไหนก็ได้แต่อดทนอดกลั้นจนกว่าเวรยามของตนเองจะหมดลงแต่เมื่อเอลงมาถึง กลับไม่ได้เห็นรถบรรทุกทางทหารของค่ายเพียงคันเดียว ยังพบรถดัดแปลงของกลุ่มโจรที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ด้วย พาให้ทหารหลายนายที่อยู่รอบๆ กระชับอาวุธในมือของตนเองแน่น“คุณโจเซฟ… นี่มันอะไรกันครับ” หมาป่าหนุ่มขมวดคิ้ว คนที่ลงมาจากรถบรรทุกนั้นเป็นโจเซฟไม่ผิดแน่ ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรท
“มีทหารเสียชีวิตไปสองนายระหว่างสกัดไม่ให้ปลาตีนเขี้ยวติดตามมายังฐานที่มั่นได้ครับ” ทหารที่รับหน้าที่่ตรวจตราหมู่บ้านชาวประมงรายงานเสียงแผ่ว“งั้นเหรอ...” เอเงียบไปครู่หนึ่ง “พวกนายกลับไปพักเถอะ ส่วนคนที่เสียชีวิต... อย่าลืมแจ้งกลับไปที่ครอบครัวของพวกเขาด้วย จบศึกนี้เราต้องตอบแทนในความกล้าหาญของพวกเขาอย่างสมเกียรติ”“ครับหัวหน้า” ทหารในกองยกมือวันทยหัตถ์เสร็จก็กลับไปทำตามคำสั่ง ที่ตรงนั้นจึงเหลือเพียงเอที่เหม่อมองบ้านเรือนร้างผู้คนตั้งแต่อาสามาทำหน้าที่ตรงนี้ เอก็ราวกับได้ย้อนกลับไปยังวันวานที่เป็นฝันร้าย วันที่เขาสูญเสียลูกน้องมากฝีมือและ… เพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียว“กูจะพยายามทำตัวให้มีประโยชน์ที่สุดนะอรุณ”ตึง!!เสียงการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ในวันถัดมาทำให้ทหารประจำการกระชับปืนในมือแน่น เวลานี้พวกเขาอยู่ห่างจากชายฝั่งถึง 50 กิโลเมตร ถ้าจะมีสัตว์กลายพันธุ์ที่มาได้ไกลขนาดนี้ก็เห็นจะมีแต่ปลาบินที่มีความสามารถพอจะทำได้“พวกมันอยู่ที่ตลาดปลาแถบชานเมืองครับ” ทหารผู้มีหน้าที่สังเกตการณ์ยื่นกล้องส่องทางไกลให้เอได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ด้วยตาของตนเอง“ไม่ต้องตระหนกไป ทำเหมือนที่ผ่านมาก็พอ” เอรับ
“มันจะแลนดิ้งแล้ว!” เมื่อความตายมาเผชิญอยู่ตรงหน้า ต่อให้เข้มแข็งขึ้นมากแค่ไหน เด็กสาวอายุน้อยก็ยังหลุดกรีดร้องออกมาเสียงดังตูม!!ปลาบินตัวแรกทิ้งตัวลงมาดักหน้ารถขวางเส้นทางเข้าเมืองไว้พอดี ทำให้ชายวัยกลางคนต้องหมุนพวงมาลัยหักออกไปอีกทางอย่างเลี่ยงไม่ได้“โธ่เว้ย!” ถ้าเขาต้องตาย ขอแค่ลูกสาวมีชีวิตต่อไปได้คนเดียวก็ยังดี!เปรี้ยง!!ตึง!เสียงอสนีบาตฟาดกลางวันแสกๆ ปลาบินบนฟ้าร่วงลงมาจากฟ้าเสียงดัง ฝุ่นผงปลิวกระจายจากจุดที่มันตกจนพ่อลูกต้องยกมือขึ้นปิดหน้าเปรี้ยง!!พร้อมกับเส้นที่สองฟาดกลางลำตัวปลาบินบนพื้นตัวที่ดักหน้ารถสองพ่อลูก“พลังพิเศษธาตุสายฟ้า” เด็กสาวตาวาว จ้องมองปลาบินนอนอ้าปากพะงาบๆ กลางถนน“กลุ่มของคุณเอ!” คนที่ทำมาหากินแถบชายฝั่งย่อมต้องรู้จักกลุ่มตรวจตราของเอที่อาสามาอยู่ในพื้นที่นี้ จำนวนประชากรปูก้ามดาบและปลาบินลดจำนวนลงไปมากเพราะพวกเขา ทำให้มีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับให้มนุษย์ได้กลับมาประกอบอาชีพอีกครั้ง“พวกเรารอดแล้ว” เด็กสาวเปิดหน้าต่างโน้มตัวออกมาด้านนอกพลางมองซ้ายมองขวาหากลุ่มทหาร “นั่นไง! อยู่ตรงนั้น” บนตึกอาคารพาณิชย์ห่างจากจุดที่เธอกับพ่ออยู่ราว 500 เมตรรถยนต์ของชาย
“ผมนับถือพวกคุณจริงๆ ไปได้ข่าวเด็ดแบบนี้มาจากไหน สายสืบของคุณแฝงตัวอยู่ในองค์กรนั้นได้ยังไงเนี่ย” ผู้นำหลายคนทึ่งกับความสามารถในการสืบข่าวของกลุ่มโจเซฟเป็นอย่างมาก หลายคนพยายามเลียบเคียงถามว่าใครกันที่อาจหาญล้วงความลับออกมาได้มากขนาดนี้ ซึ่งโจเซฟก็ทำเพียงส่งยิ้มการค้าไปให้ ไม่อธิบายอะไรทั้งสิ้นเท่านี้กลุ่มผู้นำก็ล่าถอยไปเองอย่างรู้งาน ด้วยไม่อยากทำให้หัวหน้าทหารรับจ้างขัดใจแล้วหันมาเล่นงานพวกเขาในอนาคต ดังนั้นรักษามิตรภาพระหว่างกันไว้คือดีที่สุด“ท่านนายพลครับ ทางชายฝั่งส่งข่าวด่วนมาครับ!” ในขณะที่ผู้นำของแต่ละประเทศเตรียมลุกขึ้นกลับไปยังบ้านพักรับรองที่ทางค่ายพันธมิตรได้เตรียมไว้ให้ ทหารนายหนึ่งก็พรวดพราดเข้ามาโดยไม่แม้แต่จะเคาะประตู“รีบรายงานมาเร็ว!” นายพลอธิใจหายวาบ บริเวณชายฝั่งของประเทศ T เป็นจุดที่ลูกชายเขาขอไปประจำการหลังกลับมาจากภารกิจปลูกป่าเพื่อคอยสอดส่องและรายงานกลับมาทุก 1-2 สัปดาห์“มีฝูงปลาบินอาละวาดใกล้กับศูนย์ปฏิบัติการทางทะเลครับ และยังมีผู้พบเห็นปลาตีนเขี้ยวขนาดใหญ่ถึง 10 ตัวไม่ไกลจากหมู่บ้านชาวประมง”“เชี่ย… ปลาตีนเขี้ยว 10 ตัวเลยเหรอ” ทีโอเสียวสันหลังวาบ แค่สองตั
“งั้นเหรอ ขอบใจสำหรับข้อมูลมากนะพลายมงคล” โจเซฟเอ่ยขอบคุณวิญญาณช้างใหญ่ที่ทำงานไม่พักมาตลอดหนึ่งปีพลายมงคลผงกศีรษะรับคำขอบคุณ ก่อนจะเดินไปหาพลายวารีที่ตัวสูงใหญ่ขึ้นเกือบจะเท่ามังคุด คาดว่าปีหน้าก็คงโตทันกันพอดี“พวกมันเตรียมลงมือแล้ว” หงส์ถลกแขนเสื้อพร้อมรบ จนคนรักที่นั่งอยู่ด้วยกันต้องลูบหลังลูบไหล่ให้ใจเย็นๆ“เวลาหนึ่งปีถ้วนไม่ขาดไม่เกินเลย” ทีโอเบ้หน้า อุตส่าห์ไปกราบไหว้ต้นไทรโบราณขอให้มันทำการทดลองพลาดแล้วยืดเวลาไปสักหน่อย รอจนกว่าเขาจะเลื่อนระดับพลังอีกสักขั้นสองขั้นก็ยังดี“หมอนั่นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ” เลวี่นึกถึงสิ่งที่สายสืบประจำบ้านรายงานมาแล้วก็ได้แต่ขนลุกขนพอง ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้เห็นสิ่งมีชีวิตชนิดนี้เลยสักครั้ง “เตรียมแยกย้ายไปทำตามแผนที่วางไว้กันได้แล้ว” โจเซฟแสยะยิ้มเหี้ยม“ครับ/ค่ะ”“หงส์ติดต่อหาท่านนายพลเลย ศึกสุดท้ายเตรียมเปิดฉากแล้ว” ทั้งแผนการที่เกรย์สันใช้ดึงความสนใจ ผลงานทดลองชิ้นโบแดง รวมถึงตัวหลอกล่อ พลายมงคลสามารถสืบมาได้ทั้งหมด“ได้เลยค่ะ” หญิงสาวเขากวางกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องวิทยุสื่อสารประจำบ้านที่บัดนี้มีการปรับปรุงการส่งสัญญาณให้ส่งได้ไกลมากขึ้น
“อืม วางใจเถอะไม่มีใครรู้เรื่องนั้นหรอก แต่เหตุการณ์ที่นายกับทีโอช่วยกันดูแลเครื่องสื่อสารดาวเทียม ทำให้ท่านนายพลอยากขอแรงนายไปช่วยงานด้านไอทีเท่านั้น”“เข้าใจแล้วครับ” หนุ่มผมทองพยักหน้ารับ ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างในที่สุดเขาก็มีงานทำเหมือนคนอื่นเสียทีไม่ใช่แค่ค่ายพันธมิตรที่จัดงานเลี้ยงฉลองกันอย่างใหญ่โต สมาพันธ์ผู้รอดชีวิตเองก็จัดงานเทศกาลประจำหมู่บ้านเช่นกัน ใครมีของดีเก็บไว้ในบ้านต่างก็เอาออกมาแจกจ่ายนั่งล้อมวงกินข้าวกันอย่างคึกคัก ฉลองให้กับวันพรุ่งนี้ที่ยังคงมีลมหายใจต่อไปอีกหนึ่งวัน“เอ้า พวกเราชน!!”…...เวลาหนึ่งปีฟังดูสั้น สิบสองเดือนก็ไม่เท่าไร…สามร้อยหกสิบห้าวัน?อย่างนี้ค่อยรู้สึกถึงความยาวนานขึ้นมาหน่อยตลอดระยะเวลาดังกล่าวนอกจากสัตว์กลายพันธุ์กับซอมบี้ก็ไม่มีเหตุการณ์อกสั่นขวัญแขวนให้มนุษย์ที่เหลือรอดอยู่ต้องตระหนกตกใจอีก“ในที่สุดการทดลองก็ประสบผลสำเร็จ” เกรย์สันมองผลลัพธ์ที่แสนภาคภูมิใจ นัยน์ตาอ่อนล้าของชายหนุ่มมีประกายเจิดจ้า สิ่งที่เขาพยายามมาเนิ่นนาน ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จแล้ว!“แล้วจรวดล่ะ เตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง” หัวหน้าองค์กรใหญ่หันไปถามคนสนิทที่ตนไว
Comments