จังหวะการต่อสู้ของ '
devil may cry' ทำให้ชื่อนั้นกลายเป็นภาพลักษณ์ของนักสู้ที่มีท่าทางเก๋ไก๋และดิบ
เถื่อน ชื่อของตัวเอกในเกมนี้ตั้งใจอ้างอิงถึงกวีโบราณ ทำให้ฉันรู้สึกว่ามันมีชั้นความหมายซ่อนอยู่มากกว่าแค่ชื่อเท่ ๆ
ฉันชอบการเล่นกับความย้อนแย้งที่นักพัฒนาใส่เข้ามา: ดันเต้ในเกมเป็นลูกครึ่ง
ปีศาจที่ท้าทายชะตากรรม แต่กลับถูกตั้งชื่อตามนักกวีที่เดินทางผ่านนรกเพราะเหตุผลทางจริยธรรมและศาสนา นี่ทำให้ตัวละครมีมิติทั้งด้านความรุนแรงและความเป็นมนุษย์ ฉากต่อสู้ที่เปี่ยมสไตล์และอารมณ์เพลงประกอบที่ดุดันช่วยเน้นให้ชื่อมีพลังทางสัญลักษณ์มากขึ้นกว่าการอ้างอิงแบบตรงไปตรงมา
นอกจากนี้ฉันรู้สึกว่าการตั้งชื่อนี้ยังเป็นการผสมผสานวัฒนธรรม: เอาตำนานยุคกลางมาผ่านฟิลเตอร์ของเกมแอ็คชันสมัยใหม่ ผลลัพธ์คือภาพของฮีโร่ที่ดูเป็นตำนานและน่าจดจำ พร้อมกับธีมการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วในระดับที่ทั้งเล่าเรื่องและสร้างความบันเทิงได้ดี