5 回答
น่าสนใจว่าดาฟนี่ไม่ค่อยพูดถึงความโด่งดังหลังภาพยนตร์เท่าไร แต่เน้นที่ประสบการณ์การสร้างตัวละครมากกว่า ฉันจดจำการให้สัมภาษณ์ที่เธอบอกว่าเธอชอบส่วนที่ได้แสดงความเปราะบางของ 'Laura' เช่น ฉากในคฤหาสน์เก่า ๆ ที่มีการเผชิญหน้าแบบเงียบ ๆ — เธอชอบการทำงานกับพื้นที่เฉพาะด้านการแสดงแบบนั้น เพราะมันท้าทายให้เธอใช้ภาษากายและโทนเสียงเพียงเล็กน้อยเพื่อสื่อความหมาย
สรุปแล้ว ดาฟนี่พูดเหมือนคนที่รับผิดชอบต่อบทและอยากทำให้ตัวละครเป็นมนุษย์ ไม่ใช่แค่อาวุธ เธอเน้นการร่วมงานที่ให้ความเคารพต่อบทและการฝึกฝนจริงจัง ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าเธอเติบโตขึ้นมากจากงานชิ้นนี้และยังมีสิ่งที่จะให้โลกเห็นอีกมาก
หลังจากได้ฟังสัมภาษณ์สั้น ๆ ของดาฟนี่ ฉันรู้สึกว่าเธอเข้าใจความขัดแย้งภายในของ 'Laura' มากกว่าที่หลายคนคิด เธอพูดถึงการทำงานกับโค้ชคิวบู๊และนักออกแบบท่าทางเพื่อทำให้การเคลื่อนไหวดุดันแต่เหมาะสมกับความเป็นเด็ก เป็นเรื่องที่ฉันชอบที่เธอเอาใจใส่รายละเอียดเล็ก ๆ เช่นการใช้มือหรือการสบตาเพื่อบอกอารมณ์
เสียงของเธอในการให้สัมภาษณ์มักจะเจือด้วยความเป็นเด็กผสมความตั้งใจจริงจัง เธอเล่าว่าการถ่ายทำฉากในรถบ้านกับโลแกนเป็นช่วงเวลาที่เรียนรู้กันทั้งกอง เพราะมันไม่ใช่แค่ฉากแอ็กชัน แต่เป็นการสร้างสายสัมพันธ์ เธอพูดถึงการค้นหาวิธีที่ทำให้ความสัมพันธ์นั้นดูเป็นธรรมชาติ แม้มันจะถ่ายเป็นฉากที่กระชับและเต็มไปด้วยความเงียบก็ตาม เธอภูมิใจกับการที่คนดูเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ระหว่างสองตัวละครนี้ได้
นึกภาพว่าต้องเล่นตัวละครที่พูดน้อยแต่มีเรื่องราวในตาของเธอมากกว่าคำพูดไหน ๆ แล้วต้องทำให้คนเชื่อได้ว่าคน ๆ นั้นสามารถฆ่าและก็ยังเป็นเด็กได้พร้อมกัน — นั่นแหละคือสิ่งที่ดาฟนี่ คีนพูดถึงเมื่อให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบท 'Laura' ใน 'Logan'. ฉันรู้สึกว่าคำพูดของเธอเน้นที่การสื่อสารด้วยร่างกาย: เธอเล่าว่าต้องฝึกการเคลื่อนไหวและภาษากายหนักกว่าการท่องบท เพราะตัวละครแทบจะไม่พูด ฉันเห็นภาพการฝึกคิวต่อคิวในการซ้อมฉากแอ็กชันและการแสดงอารมณ์ผ่านสายตาและจังหวะการหายใจ
ในทางอารมณ์ ดาฟนี่บอกว่าเธอรับรู้ถึงความอ่อนไหวภายในตัว 'Laura' — เด็กคนหนึ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นอาวุธแต่ก็อยากมีความสัมพันธ์แบบคนธรรมดา เธอเล่าถึงความสัมพันธ์ที่ก่อตัวกับนักแสดงคนอื่น ๆ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับผู้กำกับที่ให้พื้นที่ทดลอง ฉันสัมผัสได้ว่าเธอภูมิใจกับการได้แสดงซีนที่เปราะบางที่สุดของตัวละคร ทั้งยังภูมิใจกับฉากที่ต้องใช้ร่างกายเต็มที่ เพราะมันทำให้ตัวละครดูเป็นคนจริง ๆ มากขึ้น กว่าจะได้ซีนหนึ่งซีนมีทั้งการฝึก การปรับ และความกล้าที่เด็กคนหนึ่งต้องมี — ซึ่งเธอเล่าอย่างตรงไปตรงมาและมีความหนักแน่นในน้ำเสียง
ในมุมมองที่ค่อนข้างละเอียด ฉันเคยได้ยินดาฟนี่พูดถึงฉากในโรงพยาบาลและฉากที่เธอต้องเผชิญกับคนที่ทำร้ายเธอ — เธอเล่าว่าไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความรุนแรงเพื่อความสะใจ แต่ต้องการให้คนเห็นแผลในจิตใจของตัวละคร เธอพูดถึงความยากของการแสดงฉากปะทะที่ต้องคงความเป็นเด็กไว้ พร้อมกับการส่งสัญญาณว่าตัวละครนี้มีความสามารถพิเศษที่อันตราย
น้ำเสียงที่เธอใช้ในสัมภาษณ์เป็นแบบค่อนข้างนิ่งแต่หนักแน่น ฉันคิดว่าเป็นเพราะเธอพยายามถ่ายทอดความจริงของตัวละครให้ดีที่สุด โดยไม่พยายามยกระดับตัวเองเกินจำเป็น เธอให้ความสำคัญกับการทำให้ฉากดูสมจริงและเคารพต่อความรู้สึกของผู้ชมแทนที่จะต้องโชว์ฝีมือมากเกินไป
มองย้อนกลับไปที่ฉากหลบหนีจากห้องทดลองในต้นเรื่อง ฉันนึกถึงสิ่งที่ดาฟนี่บอกเกี่ยวกับการแสดงความดิบของ 'Laura' — เธอเล่าว่าต้องบาลานซ์ระหว่างการเป็นสัตว์ป่าและการเป็นเด็กที่กำลังค้นพบโลก ฝีมือการแสดงของเธอในฉากนี้มักถูกยกเป็นตัวอย่างว่าเธอทำให้ความรุนแรงดูสมจริงโดยไม่ทำให้ตัวละครกลายเป็นการ์ตูนโหดร้าย เธอพูดถึงการฝึกร่างกายจริง ๆ และการเรียนรู้ที่จะสื่ออารมณ์โดยไม่ต้องพึ่งคำพูดมากนัก
นอกจากนี้ ดาฟนี่ยังเล่าเรื่องความช่วยเหลือที่เธอได้รับจากทีมนักแสดงและทีมงาน ซึ่งทำให้เธอกล้าลองทำอะไรใหม่ ๆ บนเซ็ต ฉันชอบมุมที่เธอพูดถึงการเล่นซีนที่ต้องใช้ความเฉียบคมทางกายและจิตใจไปพร้อมกัน เพราะมันทำให้ฉากหลบหนีฉากนั้นมีพลังและทำให้คนดูลุ้นตามจริง ๆ