ย้อนกลับมาที่โลกแฟนฟิคแล้วผมมักจะตื่นเต้นกับงานที่เล่าเรื่องของ
ตัวมอมได้ลึกซึ้ง เพราะการเขียนมุมมองของสิ่งที่ถูกตราหน้าว่าเป็น 'ปีศาจ' หรือ 'มอม' นั้นเปิดพื้นที่ให้เล่าเรื่องด้านมนุษย์ที่ไม่ได้ชัดเจนในต้นฉบับ งานที่ทำได้ดีจะไม่เพียงแค่ใส่คำอธิบายว่าทำไมตัวละครถึงเลว แต่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจแรงจูงใจ ความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว และความขัดแย้งภายในที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสิ่งที่คนอื่นกลัว ตัวอย่างที่ผมชอบมักเป็นงานรีเทลลิ่งหรือโอเมก้าอินเตอร์พรีเทชันของเรื่องคลาสสิก เช่นการเอาโครงเรื่องของ 'Beauty and the Beast' มาทำเป็นแฟนฟิคที่เล่าในมุมมองของ
ราชาปีศาจ ทำให้เราเห็นฉากหลังของคำสาป ความเสียใจ และแรงกระตุ้นที่จะอยากรักหรือได้รับการยอมรับ ซึ่งถ้าทำดีจะซับซ้อนกว่าฉากปะทะธรรมดาๆ หลายเท่า
อีกหนึ่งทิศทางที่ผมชอบคือแฟนฟิคที่หยิบโลกที่ตัวละครถูกตราหน้าว่าเป็นมอมมาอยู่ในบริบทใหม่ เช่นแฟนฟิคที่ตั้งในจักรวาลของ 'Tokyo Ghoul' หรือ 'Attack on Titan' เพราะต้นฉบับเองก็เล่นกับเส้นแบ่งระหว่างคนกับมอนสเตอร์อยู่แล้ว งานแฟนฟิคในแนวนี้มักจะลงรายละเอียดเชิงสังคม เช่นการกีดกัน การทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือการเมืองที่บีบให้ตัวมอมต้องตัดสินใจโหดร้ายเพื่อความอยู่รอด ผมชอบเวลาที่ผู้เขียนใช้ภาษาสัมผัสและความรู้สึกทางกายเป็นตัวนำ—เช่นการบรรยายความหิว ความเปล่าเปลี่ยว หรือการรับรู้ถึงโลกผ่านความรู้สึกที่ต่างจากคนปกติ—เพราะมันทำให้ตัวมอมมีมิติและเห็นใจมากขึ้น
งานแฟนฟิคที่เล่าเรื่องมอมได้ดีมักมีองค์ประกอบร่วมกันสามข้อที่ผมมักดูเป็นพิเศษ: หนึ่งคือการสร้างเสียงภายในที่มั่นคง—ไม่ใช่แค่พูดหนาหนักๆ ว่า 'ผมชั่ว' แต่เป็นการแสดงความคิดเหตุผลและความขัดแย้งภายใน สองคือการให้พื้นที่กับความเป็นมนุษย์—แม้มอมจะกระทำสิ่งโหดร้าย แต่การที่ผู้เขียนใส่ความทรงจำ ความรักเก่า หรือความผูกพันเล็กๆ ทำให้เราเห็นว่าความร้ายอาจเป็นผลลัพธ์ของการบาดเจ็บ และสามคือการตั้งคำถามเชิงจริยธรรม—งานที่ดีที่สุดไม่บอกว่าใครถูกใครผิดอย่างแน่นอน แต่ปล่อยให้ผู้อ่านคิดและรู้สึกเอง ผมมักจะแนะนำให้ตามหาแฟนฟิคที่ติดแท็กประเภท 'monster POV', 'sympathetic monster' หรือ '
villain redemption' บนแพลตฟอร์มใหญ่ๆ เพราะมักมีงานที่คัดกรองแล้วและมีรีวิวที่ช่วยบอกโทนได้ดี
ในท้ายที่สุดผมชอบแฟนฟิคที่กล้าเล่นกับความไม่ชัดเจนและไม่รีบให้คำตอบว่ามอมจะต้องไถ่บาปหรือถูกทำลาย เพราะความงามของเรื่องราวพวกนี้อยู่ที่การได้อยู่กับตัวละครในช่วงที่พวกเขาเป็นทั้งความโหดร้ายและความอ่อนแอไปพร้อมกัน มันทำให้ฉากที่พวกเขาเลือกทำสิ่งที่ยาก—ไม่ว่าจะเป็นการเสียสละหรือการทำชั่ว—ดูมีน้ำหนักและเศร้าในเวลาเดียวกัน และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ผมยังคงกลับไปหาแฟนฟิคแนวนี้บ่อยๆ ด้วยความอยากเห็นว่าผู้เขียนแต่ละคนจะเลือกเดินทางเดียวกันนี้อย่างไร