แอเรียนทำอะไรไม่ถูก “ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันควรโทรให้ทิฟฟานี่มาหาและบอกความจริงกับเธอไปเลยดีไหม? ทำแบบนั้นมันจะใจร้ายไปไหม?”แอเรียนทำให้มาร์คพูดไม่ออกเขาจึงหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “เธอพูดถูก มันจะใจร้ายเกินไป ทำไมเธอไม่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรแล้วรอให้ทิฟฟานี่ตกหลุมรักอีธานหัวปักหัวปำและปล่อยให้อีธานเลิกกับทิฟฟานี่หลังจากที่เขาได้ที่ดินนั้นแล้วก่อนล่ะ? หรือไม่ก็รอให้เธอรู้เรื่องนี้เองหลังจากที่เธอแต่งงานกับเขาไปแล้วดีไหม? เธอไม่คิดว่าแบบนั้นมันจะใจร้ายกว่าเหรอ? ถ้าเหตุการณ์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นป่านนี้ครอบครัวเลนก็จะยังคงมีฐานะที่ดีและ จอหน์ เลน ก็คงจะไม่ได้เสียเร็วแบบนี้”แอเรียนเข้าใจว่ามาร์คกำลังพยายามบอกเธอว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ควรจะบอกเรื่องนี้กับทิฟฟานี่ แต่เธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้นได้ เธอไม่สามารถทนเห็นความผิดหวังและความสิ้นหวังบนใบหน้าของทิฟฟานี่เมื่อเธอค้นพบความจริงได้ “ฉัน… ฉันไม่กล้าบอกเธอ… ทิฟฟานี่จะต้องสติแตกแน่ ๆ”มาร์คเม้มปากตัวเองและพยักหน้า “ใช่ หล่อนจะต้องสติแตกแน่ ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเธอปล่อยเลยตามเลยไปเรื่องมันจะแย่ลงเรื่อย ๆ เหล่าผู้บริหาร
แอเรียนหยิบกระเป๋าตนเองและลุกขึ้นจากโซฟา “ฉัน… ต้องไปหาทิฟฟ์ก่อน! จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีธานขอเธอแต่งงานบ่ายนี้และเธอตอบตกลงโดยไม่ทันได้คิดทบทวนให้ดี? นั่นจะเป็นเรื่องที่วุ่นวายที่สุด!”จู่ ๆ มาร์คก็รู้สึกอิจฉาทิฟฟานี่ที่ได้รับความสนใจอย่างเต็มที่จากแอเรียนเล็กน้อย น่าเสียดายที่เขาแค่เคยได้ยินว่าแอเรียนหลั่งไหลให้เขาเมื่อเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตอนนั้น แต่เขาไม่เคยได้เห็นน้ำตาเหล่านั้นแน่นอนว่ามาร์คไม่ได้แสดงให้แอเรียนเห็นว่าเขากำลังอิจฉาหรือไม่พอใจอยู่ โดยธรรมชาติของเขาแล้วเขาไม่ใช่คนที่จะเปิดเพยความรู้สึกตัวเองได้ง่าย ๆ ขนาดนั้น “เธอจะรีบไปไหน? เธอจะไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าอีธานไม่ชอบฉันอย่างงั้นหรอ? เธอตกลงว่าจะเจอกันตอนเย็นแล้วไม่ใช่หรอ? การแต่งงานสายฟ้าแลบมันไม่เกิดขึ้นภายในวันเดียวหรอกนะ ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเถอะ” “ก็ได้” น่าแปลกที่แอเรียนไม่ได้รู้สึกประหม่าอีกต่อไปเมื่อเธอได้ฟังเสียงที่ผ่อนคลายของมาร์คขณะที่เขาแนะนำว่าพวกเขาควรไปทานอาหารกลางวันด้วยกันคนอย่างมาร์คคงไม่รับประทานอาหารที่ร้านทั่วไป ๆ อย่างแน่นอน ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ยิ
แอเรียนสงบลงและถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อได้รับคำตอบจากมาร์ค แม้ว่าเขาจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังคงให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอหลังจากนั้นไม่นาน รถของมาร์คก็ขับเข้ามาใน คฤหาสน์ เทรมอนต์แอเรียนทักทายเขาที่ประตูและช่วยเอารองเท้าแตะออกจากตู้รองเท้าให้เขา “คุณคิดว่าอุบัติเหตุทางรถยนต์ของอีธานเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือเป็นแผนที่คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว?”มาร์คคิดไตร่ตรองอยู่พักนึงก่อนที่เขาจะถามเธอกลับว่า “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”แอเรียนพูดไม่ออก ที่เธอถามเขาก็เพราะว่าเธอไม่แน่ใจไงมาร์คเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะแล้วเดินผ่านเธอไปที่บันได “ไม่มีทางที่อีธานจะเสี่ยงชีวิตก่อนที่เขาจะทำให้ฉันคุกเข่าได้ นับประสาอะไรกับอุบัติเหตุทางรถยนต์ เขาน่าจะระวังตัวตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอกด้วยซ้ำ ถ้าการคาดการณ์ของฉันถูกต้อง ฉันคิดว่าวันนี้เธอคงจะไม่ได้เจอทิฟฟานี่”แอเรียนตกใจกับคำพูดของเขา ทิฟฟานี่สัญญาว่าจะมาหาเธอหลังจากที่เธอไปโรงพยาบาล เขาแน่ใจได้อย่างไรว่าเธอจะไม่ได้เจอทิฟฟานี่?...ณ โรงพยาบาล...อีธานถูกส่งไปยังห้องพยาบาลหลังจากการตรวจร่างกาย ทิฟฟานี่รีบช่วยเช็ดหน้าและป้อนอาหารให้เขา มั
ที่โต๊ะทานข้าว แอเรียนหมุนสปาเก็ตตี้บนจานอย่างกระสับกระส่ายด้วยส้อมขณะที่เธอเหลือบมองมาร์คที่กำลังดื่มด่ำกับอาหารมื้อเย็นของเขา หลังจากที่อดกลั้นมานานในที่สุดเธอก็พูดว่า “บางที… ฉันควรไปหาทิฟฟ์ที่โรงพยาบาล ยิ่งฉันประวิงเวลานานเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น”มาร์คหยุดการเคลื่อนไหวของส้อมเขา “เธอจะไปจริงเหรอ?”แอรียนรู้ดีว่ามาร์คอาจไม่ค่อยอยากเจออีธานเท่าไหร่เนื่องจากพวกเขาเป็นพี่น้องกัน การได้เห็นอีธานจะทำให้ความทรงจำที่ไม่พึงประสงค์กลับคืนมาอย่างแน่นอน“ฉันจะรีบกลับมา ไม่ว่าอีธานจะประสบอุบัติเหตุจริง ๆ หรือไม่ เขาก็คงไม่สามารถทำอะไรฉันในโรงพยาบาลได้ ถูกไหม? ไม่ต้องกังวล ถ้าคุณกังวลขนาดนั้นคุณก็ให้ไบรอันไปกับฉันหรือส่งบอดี้การ์ดสองคนติดตามฉันไปก็ได้” แอเรียนประนีประนอมอย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอมีความมุ่งมั่นที่จะไปโรงพยาบาลแค่ไหน“เดี๋ยวฉันไปกับเธอเอง กินให้หมด” มาร์คพูดอย่างเยือกเย็นพร้อมตักเนื้อใส่จานให้เธอการกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกผิดมากกว่าเดิม ท้ายที่สุดเธอเคยบอกเขาว่าเธอไม่ต้องการเห็นหน้าเขาอีกตอนที่เธออยู่ในโรงพยาบาลหลังจากที่เธอแท้ง แอเรียนสงสัยว่าเข
แน่นอนว่าอีธานได้เตรียมการมาหมดแล้ว เขาหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าของชุดคนไข้ของเขา เขาไม่ปล่อยให้ทิฟฟานี่มีโอกาสได้ปฏิเสธเขาและสวมแหวนให้เธอทันที “ฉันซื้อแหวนวงนี้ไว้ตั้งนานแล้ว คืนไหนที่ฉันคิดถึงเธอฉันก็จะหยิบแหวนออกมาดู นั้นเป็นวิธีที่ทำให้ฉันทนอยู่ต่อไปได้”ขนาดของแหวนเพชรนั้นพอดีกับนิ้วของทิฟฟานี่เป๊ะ แสงสะท้อนบนเพชรและส่องแสงเป็นประกายภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน ทิฟฟานี่ที่นิ่งงันและสับสนยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอสัมผัสได้ถึงความจริงใจและความเร่งด่วนของเขา อย่างไรก็ตาม ความเร่งด่วนและการปรากฏตัวที่สิ้นหวังของเขาทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก “อีธาน... ปล่อยฉันก่อนเถอะ”อย่างไรก็ตามอีธานไม่ฟังเธอ เขาพลิกตัวเธอและก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ เขาจับเธอไว้แน่นและกักเธอไว้ในอ้อมกอดของเขาค่ำคืนเงียบสงบ เขาเสนอแหวนเพชรใต้แสงดาวให้เธอ ไม่มีใครมารบกวนพวกเขาได้ มันน่าจะโรแมนติก แต่ตอนนี้ทิฟฟานี่ไม่รู้สึกแบบนั้น ที่ผ่านมาเธอรักเขาอย่างสุดหัวใจ แต่ด้วยเหตุใดไม่รู้ การกระทำของเขาไม่ได้ทำให้เธอหวั่นไหวในตอนนี้ เมื่อเธอรู้สึกว่าเขาพยายามสอดลิ้นเข้าไปในปากของเธอ เธอก็ตกใจกลัวและพลักเขาออกไป “อีธาน!”ใ
มาร์คดูเหมือนจะรู้สึกถึงความสงสัยของเธอ เขาอธิบายว่า “ถ้าฉันไม่ไปกับเธอ เธอจะสงบสติอารมณ์ตัวเองได้เหรอ? ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เธอก็หยุดและมาพักผ่อนได้แล้ว นอนเถอะ”แอเรียนปีนขึ้นไปอีกด้านของเตียงและล้มตัวลงนอน เธอดูเขาถอดเสื้อผ้า เขาค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนอนผ้าไหมสีเทาอ่อน ร่างกายส่วนบนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขาถูกเปิดเผยต่อหน้าเธออย่างช้า ๆ เธอตกตะลึงกับภาพที่เห็นจนเธอไม่ละสายตาของเธอจนกว่าเขาจะถอดเสื้อของเขาออกจนหมด“เธอแน่ใจเหรอว่าจะดูจนจบ?” เห็นได้ชัดว่าเขาแซวเธอ“คุณใส่ชุดนอนนอนไม่ได้หรอ?” เธอมุดผ้าห่มเพื่อบังหน้าที่แดงจากความเขินของเธอ“ไม่ได้” เขากล่าวอย่างหนักแน่น หลังจากที่เขาถอดชุดนอนเสร็จเขาก็ปิดไฟก่อนที่จะเข้านอนตอนนี้แอเรียนช่างมีช่วงเวลาที่ยากลำบากจริง ๆ เธอรู้ว่าเขามีนิสัยชอบนอนเปลือย แต่เธอไม่ชินกับมัน อันที่จริงเธอไม่คิดว่าชาตินี้เธอจะสามารถชินกับมันได้ก่อนที่เธอจะทันได้รวบรวมความคิดและอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงของเธอ จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาว่า “ทำไมเราไม่รับเลี้ยงลูกบุญธรรมในอนาคตกัน?เธอตัวแข็งทันที ก่อนที่เธอจะตอบกลับได้ เขาพูดขึ้นมาก่อนว่า “ลืมไปซะ ฉันไม่อยากพูดถึงกา
เธอรีบลุกขึ้นและทำความสะอาดตัวเองก่อนที่จะลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นล่าง อย่างไรก็ตามเธอไม่เห็นมาร์ค เธอเห็นเพียงช้อนส้อมที่เขาทิ้งไว้หลังที่เขาทานอาหารเท่านั้น เธอกลัวว่าเขาจะไปโดยไม่รอเธอ เธอจึงตัดสินใจที่จะไม่ทานอาหารเช้า เธอรีบคว้ากระเป๋าและเตรียมตัวออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อแมรี่เห็นเช่นนั้นเธอก็รีบหยุดแอเรียนไว้ “เธอทำอะไร? เธอยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลย! นั่งลงและกินอาหารเช้าก่อน!”แอเรียนใส่รองเท้าพร้อมกับมองออกไปข้างนอก “หนูไม่มีเวลาแล้ว มาร์คไปหรือยัง? หนูกำลังยุ่งอยู่ เดี๋ยวหนูค่อยหาอะไรกินทีหลัง”แมรี่รู้สึกขำแอเรียน “เขายังไม่ได้ไปไหน เขาบอกว่าจะไปเปิดแอร์ในรถก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะรู้สึกร้อนเมื่อเข้าไปในรถ เขากลัวว่าเธอจะรู้สึกไม่สบายตัว ไม่ต้องกังวล ไปทานอาหารเช้าของเธอเถอะ วันนี้ไบรอันไม่อยู่ นายท่านใจดีกับเธอมาก”เธอตะลึง เธอเลิกใส่รองเท้าของเธอ และถามแมรี่อย่างเป็นกันเองเพื่อซ่อนความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นในใจของเธอ “หลัง ๆ ไบรอันไม่อยู่เลย เขาไปทำอะไรเหรอ?”แมรี่พูดด้วยเสียงที่เบาลง “เขามีแฟนแล้ว ได้เวลาที่เขาจะแต่งงานและสร้างครอบครัว ไม่ใช่เรื่องแปลก นายท่านเข้าใจเขาดี”
แอเรียนมองไปที่มาร์คด้วยสัญชาตญาณพร้อมกับถามว่า “เราไปค้นหามันได้ไหม? เราต้องการมันโดยด่วน”“ได้สิ!” ลิเลียนตอบด้วยความตื่นเต้นราวกับวาาเธอเมายา “จะดีมากเลยถ้าพวกเธอหามันเจอเพราะตอนนี้เราก็ต้องการเงินอยู่ ที่ดินนั้นเหมือนดั่งร่มในวันที่ฝนตกเพราะมันมีค่ามาก! เธอเหมือนดาวนำโชคของฉันเลยแอริ! ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรามีที่ดิน มันต้องเป็นของเราแม่ลูกแน่นอนเพราะพ่อของสามีและสามีของฉันเสียไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย! รีบไปเร็ว ไปช่วยฉันหามัน!”มาร์คลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ของเขาเพราะพวกเขากำลังจะออกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะเขาก็ดังขึ้น เขาได้ยินเสียงอีธานที่ปลายสายก่อนที่เขาจะทักได้พูดอะไรด้วยซ้ำ “ให้ผมเดานะ คุณกำลังจะไปที่บ้านลิเลียนเพื่อหาใบประกาศนียบัตรของที่ดินนั้นใช่ไหม? คือ ผมมีเรื่องจะบอกคุณก่อนที่คุณจะไป”มาร์คถามด้วยหน้าที่ขมวดคิ้ว “นายกำลังพยายามจะทำอะไร?”อีธานหัวเราะอย่างเยือกเย็น “ตอนที่ผมค้นของของจอร์จผมเจอจดหมายที่ยังไม่ได้ถูกส่งด้วย เขาเขียนถึงคุณ! คุณเดาเนื้อหาในจดหมายนั้นได้ไหม?”มาร์คเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เขาจะถามว่า “นายต้องการอะไร?”อีธานหัวเราะด้วยความสะ