กิดเดียนหน้าบึ้ง “ผมไม่ว่าง” “ไปหลังอาหารค่ำนะคะ คุณยังมีอะไรต้องทำอยู่อีกเหรอ?” คราวนี้กิดเดียนไม่ตอบเธอ และส่งเสียงในลำคออย่างไม่ใส่ใจ เนลล์ทานได้ไม่เยอะนัก เพราะเธออิ่มเร็วมาก เมื่อเธอลุกไปจากโต๊ะ ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ แต่สเตฟานี่ยิ้มขณะที่เธอมองมาที่เพรียงหัวหอม บนจานของเธอและพูดขึ้น “คุณเจนนิงส์ คุณลืมกินสิ่งนี้นะ” เนลล์แตะที่ท้องของเธอและยิ้มหวาน “ฉันลืมไปเลย น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันอิ่มแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงจะกินมัน” หลังจากนั้นเธอก็ตักเพรียงหัวหอมใส่ลงในจานของกิดเดียน “กิดเดียนคะ ช่วยฉันทานหน่อยได้ไหมคะ? คุณการ์เร็ตต์นำสิ่งนี้กลับมาจากไหหลำเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นอย่าทำให้เสียของ” กิดเดียนพยักหน้า และส่งเสียงตอบรับในลำคอ ท่าทีของสเตฟานี่แข็งกระด้างขึ้นมาในทันที ใบหน้าของจีนซีดเซียว เธออ้าปากของเธอเพื่อจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ถอยกลับเมื่อท่านผู้หญิงกริฟฟินที่อยู่ข้าง ๆ จ้องมองมาที่เธอ เมื่อเนลล์เห็นสิ่งนี้เธอจึงหันกลับ และจากไปด้วยความพึงพอใจ หลังจากมื้ออาหาร กิดเดียนไปที่ห้องทำงานเพื่อพูดคุยกับนายท่าน และท่านผู้หญิงคุยกับพวกผู้หญิงที่ห้องนั่งเล่น ทัน
“คุณ! สเตฟานี่ การ์เร็ตต์ คุณมันใจร้าย! คุณคิดว่าคุณเพียบพร้อมเพียงเพราะคุณคือ ลูกสาวของตระกูลการ์เร็ตต์เหรอ? คุณก็แค่แอบอ้าง...” “เพี๊ยะ!” เสียงตบดังขึ้นกระทบใบหน้าของจัสตินเพียงชั่วพริบตาเดียว ใบหน้าของสเตฟานี่แดงก่ำด้วยความโกรธเคือง ขณะที่เธอคำรามออกมา “ถ้านายกล้าพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นออกมาอีก เชื่อไหม ฉันจะฆ่านาย! ถ้าพูดจาเหลวไหลแบบนี้!” ใบหน้าของจัสตันหันไปด้านข้างจากแรงกระแทก ทว่าความเกลียดชังปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เนลล์ส่ายหัวของเธอ ‘หึ นี่มันเหมือนคำพูดซ้ำซากที่น่าเบื่อของศัตรูที่กำลังถือกำเนิดขึ้น!” เธอรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่ละครเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วจัสตินก็จะไม่เหลืออะไรและวิ่งเข้าหาสเตฟานี่โดยไม่มีแม้แต่เงิน มันไม่มีทางที่เขาจะชนะซ้ำร้ายเขารู้ว่าสเตฟานี่เป็นลูกสาวบุญธรรมของพวกการ์เร็ตต์ นี่ต้องเป็นจุดที่เจ็บปวดสำหรับเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตระกูลการ์เร็ตต์ทำเหมือนไม่มีความลับในการพยายามตามหาลูกสาวแท้ ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ตามเขาใช้สงครามประสาท! เขาไม่ได้ถามเพื่อโจมตีใช่ไหม?ตอนนี้เธอได้เผชิญหน้ากับเขาแล้วและเพียงแค่ตบเขาแทนที
กิดเดียนพยักหน้าก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา “ผมคิดว่าคุณเกลียดเธอ ผมเลยไม่ได้ได้คาดหวังว่าคุณจะช่วยเธอ คุณไม่ได้หึงใช่ไหม?”“หึงใคร? สเตฟานี การ์เร็ต เหรอ?”กิดเดียนพยักหน้าตอบอย่างจริงจังเนลล์หยุดหัวเราะไม่ได้“ทำไม? เพราะเธอจงใจเข้าใกล้คุณตอนอาหารมื้อกลางวันหรือไง?”กิดเดียนทำหน้าบึ้งเขาหน้าบึ้งตึงเพราะท่าทีเล่น ๆ ของเธอเนลล์ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา“เอาน่า ฉันไม่ได้หึงที่เธอเคยเป็นแฟนเก่าของคุณ แล้วทำไมฉันต้องหึงตอนกินข้าวด้วยล่ะ? หรือว่าในอนาคตคุณต้องการให้ฉันหึงหวงคุณในทุก ๆ วันดีล่ะ เอาไหม?”เนลล์เป็นคนที่ใจกว้างมากและเธอมองเห็นภาพรวมของเรื่องราวอย่างดีเธอสามารถมองเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนในสิ่งที่เธอทำ แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งถูกหรือเป็นสิ่งที่ผิดก็ตามเธอไม่เคยทำให้ตัวเธอเองไม่มีความสุขจากเรื่องที่ทำให้มันรกสมองถึงเธอจะมีความสุขแต่กิดเดียนไม่เขามองเธออย่างขมขื่น “ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคุณไม่แคร์ผมเลย?”เนลล์หัวเราะห์อีกครั้ง“คุณพูดอะไร ฉันไม่แคร์คุณเพราะว่าฉันไม่หึงคุณ? ประธานลีย์คะ? บอสลีย์? คุณควรจะมีความผู้ใหญ่กว่านี้หน่อยนะ”กิดเดียนรู้สึกท้อใจไม่อยากสนทนาเกี่ยว
เนลล์มองไปที่เอลียา ตาเขายังมองตามหญิงสาวไปจนถึงประตู แม้ว่าคน ๆ นั้น จะจากออกไปสักพัก แต่เขาก็ยังคงไม่เลิกมองหา สายตาแบบนั้นนั้นเนลล์ไม่สามารถช่วยได้จึงส่ายหัวของเธอ"มันดึกมากแล้ว เราควรจะกลับกันได้แล้ว คุณยังจะดื่มอีกไหม?"เนลล์ถามเอลียาที่ดวงตาตอนนี้กลายเป็นหมอกเล็กน้อย มองเธอไปที่ก่อนจะพยักหัวของเขา"จากนั้นเราจะไปส่งคุณที่บ้าน"“โอเค”กว่าเนลล์และกิดเดียนจะส่งเขากลับบ้านก็เป็นเวลา 23.00 น. เมื่อพวกเขามาถึงที่บ้านพักเดวิสนายและนางเดวิสได้เข้านอนแล้วดังนั้นจึงเป็นแม่บ้านที่มาเปิดประตูให้ เนลล์กับกิดเดียน ไม่ได้เข้าบ้าน พวกเขาส่งเอลียาให้แม่บ้านหลังจากที่แบกมาหลังจากออกจากวิลล่าพวกเขาขับรถไปในทิศทางของวิลล่าของเฟิงเฉียวเนลล์นั่งที่ข้างคนขับและถามอยากรู้อยากเห็นว่า "ทำไมคุณไม่ให้ฉันพูดก่อนหน้านี้ล่ะ?"กิดเดียนอธิบายในขณะที่เขากำลังขับรถ "ทั้งสองคนเคยมีคบกัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเลิกกัน""ฮะ?"เนลล์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกิดเดียน กล่าวในเสียงต่ำ "เอลียามีความรู้สึกผิดที่ทำไมดีต่อเธอในหัวใจของเขา เป็นเรื่องปกติที่เขาจะหดหู่ในวันนี้"เนลล์ขมวดคิ้ว"แล้วความรู้สึกของ
พวกเขาเข้าไปด้วยกันจนถึงเที่ยงคืนเนลล์ถูกพาไปที่เตียงหลังจากถูกกิดเดียนพาออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นเขาเป่าผมของเธอให้แห้งด้วยเครื่องเป่าผมและคลุมเธอด้วยผ้าห่ม เธอไม่ต้องการที่จะย้ายไปไหนกิดเดียนปิดไฟและนอนลงจากนั้นเขาเอื้อมมือออกไปและเขาพยายามที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างไรก็ตามเธอหันหลังให้เขา เธอทำตัวเหมือนกับว่าเธอไม่ต้องการที่จะคุยกับเขาและไม่ใส่ใจเขาด้วยกิดเดียนยิ้มและไม่ได้บังคับเธอ ในขณะที่เธอนอนด้านข้างเขาเพียงแค่กระชับอ้อมแขนของเขาไว้รอบ ๆ ตัวเธอ"การเดินทางเพื่อไปทำธุรกิจของผมในวันพรุ่งนี้อาจใช้เวลานานกว่าครึ่งเดือนเพื่อทำให้เสร็จ เมื่อผมกลับผมจะพาคุณไปยังประเทศเอฟ และคุณสามารถไปกับเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณผ่านแรงงานของเธอได้ดี "เดิมทีเนลล์ไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับเขา แต่เธอก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินเกี่ยวกับประเทศเอฟเธอลืมตาของเธอเพื่อถามอะไรบางอย่าง แต่เพราะหัวใจของเธอยังโกรธ และเธอก็ยังคงนิ่งเงียบกิดเดียนเล่นกับผมของเธอด้วยมือข้างเดียวม้วนผมที่อ่อนนุ่มรอบนิ้วมือของเขา เขากระซิบว่า "การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลานานกว่าปกติ และจะใช้เวลาครึ่งเดือนให้เร็วที่สุด ผมจะกลับ
เนลล์บอกเชอร์รี่ให้แจ้งจัสตินเกี่ยวกับผลลัพธ์ มันเป็นปกติที่เขาจะไม่มีความสุขที่ได้ยินมันอย่างไรก็ตาม ไม่มีอะไรที่เขาสามารถจะทำมันได้ โชคดีที่สัญญาที่เขาเซ็นสัญญากับ อันนิง อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นเวลาห้าปีเและตอนนี้สัญญาเหลือน้อยกว่าหนึ่งปี เขาสามารถพิจารณาช่วงเวลาที่ใกล้จะหมดลงนี้ และเลือกว่าจะไปที่ไหนเมื่อสัญญาหมดลงเนลล์พิจารณาเคสนี้และปิดมันสำหรับความสัมพันธ์ของเขากับสเตฟานีการ์เร็ตมันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องกังวลหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในพริบตาวันเกิดของเจเน็ตกำลังจะมาถึง เนลล์นับด้วยนิ้วของเธอ แต่ไม่ว่าเธอจะลองหลายครั้งแค่ไหนเธอก็พบว่าเธอไม่สามารถไปด้วยตนเองได้เลยดูเหมือนว่า เจเน็ตได้ตัดการติดต่อจากทุกช่องทางในประเทศจีน นับตั้งแต่เธอไปประเทศยกเว้นการติดต่อกับเนลล์เป็นครั้งคราวนี่รวมถึง อีธาน แฮนค็อก และพี่ชายของเธอเอง เอลริก แฮนค็อกในฐานะที่เป็นแค่คนเฝ้ามอง เนลล์ไม่สามารถพูดได้มากและทำได้แค่ใส่ใจเธอให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์และไม่ให้ตัวเองรู้สึกเหงาในต่างประเทศในวันเกิดของเจเน็ต เนลล์ดูเวลาและโทรหาเธอเมื่อเวลาบอกเวลาเที่ยงคืนการโทรมีการรับสายอ
เลียมพูดราวกับว่าเขามีสิทธิ์ที่จะอยู่ที่นี่เจเน็ตหยุดชะงัก สิ่งที่เธอรู้สึกได้ในตอนนี้คือท้องของเธอเจ็บไปด้วยความโกรธหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเย็นชา "นี่มันบ้านฉันนะ ฉันจะเปิดประตูถ้าฉันต้องการจะเปิด และจะไม่เปิดถ้าฉันไม่ต้องการที่จะเปิด มันเกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณดูไม่กลัวเลยฉันจะฟ้องคุณได้ในข้อหาบุกรุก? "เลียมยกคิ้วของเขาไม่ไหวติง"ก็ลองดูสิ"ท่าทางของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอจะไม่ทำเจเน็ตรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก เธอรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรไหม้อยู่ในอกของเธอ เธอไม่ต้องการอะไรมากนอกจากโยนชายคนที่ยืนต่อหน้าเธอออกจากระเบียงไปซะหลังจากผ่านไปนานเธอก็พูดออกมาว่า "คุณมาทำอะไรที่นี่?"เลียมยิ้มอย่างเย็นชา ใบหน้าที่ยิ้มอย่างเย็นชาและดิบเถื่อนของเขามันดูโหดร้ายเขาเดินไปข้างหน้าทีละก้าวพร้อมกับแผ่ออร่าความเย็นรอบ ๆ ตัว เขาบังคับเจเน็ตให้ถอยหลังไปจนในที่สุดเธอก็ถอยไปชนกำแพงและไม่มีที่ให้ไปไหนได้อีกเลียมเอื้อมมือออกไปและขังเธอไว้กับกำแพงดวงตาเย็นและดิบคู่หนึ่งจ้องมองเธอในขณะที่ริมฝีปากของเขายิ้มอย่างเยาะเย้ย"คุณกำลังตั้งครรภ์? มันคือใคร?"เจเน็ตกัดฟันของเธอและใช้ความตั
เลียมขมวดคิ้ว “ผมมาที่นี่เพื่อลูกชายของผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตระกูลแจ็คแมน และตระกูลกริฟฟิน”หน้าอกของเจเน็ตแน่นขึ้น เธอยิ้มพร้อมกับแววตาที่ยิ้มเยาะ “ทุกคนรู้ว่าคุณเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขา ตั้งแต่คุณกลับไปพวกเขาก็ต้อนรับคุณ คุณทวดแห่งตระกูลกริฟฟินไม่ได้ดูแลคุณอย่างรักใคร่เหรอ? พวกเขาอาจจะกระโดดตึกลงมาได้นะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ”ใบหน้าของเลียมตึงเครียด "โอ้จริงดิ? ถ้าคุณรู้แล้ว ทำไมคุณยังจะหลบซ่อนตัวจากผมอยู่ละ?”“เลียม แจ็คแมน คุณอาจจะเป็นที่รักของพวกเขา แต่สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ ฉันเตือนคุณอย่าบังคับฉันไม่งั้น ... '“อะไรหรือ?”"ฉัน..."เจเน็ตโกรธอย่างบ้าคลั่ง คน ๆ นี้ช่างน่ารำคาญจริง ๆ ?เขารู้ว่าเธอกำลังแก้ไขและต้องสูญเสียทุกอย่างไป ทำไมเขายังผลักเธอไปยืนที่ตรงขอบด้วย?เลียมเย้ยหยัน"คุณวางแผนที่จะหยุดผมได้ไหมล่ะ ถ้าผมยืนยันที่จะยังมีลูกคนนี้? หรือกับกังฟูที่น่ากลัวของคุณ? หรือคุณจะบอกพ่อของคุณให้เขามาตีผม เหมือนที่เขาเคยทำไว้เมื่อสี่ปีก่อน?"จิตใจของเจเน็ตว่างเปล่าราวกับว่าเธอตกลงไปในน้ำแข็ง ความหนาวสั่นเข้ามาครอบงำเธอเธอจ้องมองเขาอย่างเย็นชา “คุณจะลองดูก็ได้นะ”เลีย