ณ ตำหนักเหนือเมฆา
กลางสายลมหนาวที่พัดพาใบไม้ปลิวละล่อง ภายในห้องบรรทมเงียบงันยิ่งกว่าเดิม หว่านชิงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ผิวขาวซีดราวหิมะ แม้หลับตาแต่เรียวคิ้วกลับขมวดเข้าหากันเล็กน้อย บ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่กำลังรุมเร้า โลหิตยังคงซึมซับจากมุมปากเป็นระยะ ท่ามกลางกลิ่นยาขมปร่าที่อบอวลอยู่ทั่วทั้งตำหนัก
หมอหลวงชรายืนอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเคร่งเครียด มือที่ถือห่อยาสั่นเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“พิษชนิดนี้…ร้ายแรงกว่าที่คิดไว้มากนัก” เขาเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพไป๋เหวินหลงและราชครูโม่ชิงเหยียนด้วยแววตาหนักใจ
“ต้องปรุงยาถอนพิษขึ้นมาใหม่เฉพาะสำหรับองค์หญิงใหญ่ ขืนรอสูตรเดิม อาจสายเกินไป”
ไป๋เหวินหลงเงียบงัน สีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาคมดุคู่นั้นทอดมองไปยังหว่านชิงที่นอนแน่นิ่งบนเตียง
“...คนวางยานี้ ตั้งใจให้หว่านชิงตาย”
โม่ชิงเหยียนขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าปกติที่มักจะสงบนิ่งก็คล้ายจะหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย
“เป็นพิษเย็นแทรกพิษร้อน...ผู้ปรุงพิษต้องมีความรู้มาก และจิตใจอำมหิตโดยแท้”
“ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้”
เสียงของไป๋เหวินหรงขรึมดั่งเหล็กกล้า แม้ไม่เปล่งอารมณ์ แต่ทุกถ้อยคำล้วนเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง ในขณ