รุ่งเช้าของวันถัดมา ดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าส่งแสงสีทองสาดส่องกระทบยอดไม้ เหม่ยหลินและครอบครัวก็ตื่นขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น เสียงตำครกดังโขกไปมาตั้งแต่ไก่โห่ บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน
"ชิวลี่ฮวา เจ้าช่วยบดข้าวโพดที่เหลือให้ละเอียดกว่านี้นะ" เหม่ยหลินสั่งกำชับ ขณะที่มือเรียวของเธอกำลังคลุกเคล้าหัวไชเท้าขูดกับแป้งข้าวโพดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเมื่อวาน "เจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวารับคำอย่างกระตือรือร้น เธอใช้ไม้เท้าคนข้าวโพดที่แช่น้ำไว้ในครกไม้ขนาดใหญ่ พลางใช้สากตำอย่างระมัดระวัง แม้จะยังไม่คุ้นเคยกับงานครัวนัก แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกถึงความสุขที่ได้ช่วยเหลือ หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานช่วยกันก่อไฟในเตาฟืนจนเปลวไฟลุกโชน ส่วนหลี่เฟยหยางก็วิ่งพล่านไปมาในครัวอย่างสนุกสนาน คอยหยิบจับสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ตามที่เหม่ยหลินบอก "หลี่เฟยหลง เจ้าช่วยยกกระทะใบนี้ขึ้นตั้งบนเตาให้แม่หน่อย" เหม่ยหลินบอก เมื่อเธอปรุงส่วนผสมของลูกชิ้นหัวไชเท้าเสร็จแล้ว หลี่เฟยหลงรับคำอย่างแข็งขัน ยกกระทะเหล็กหนักอึ้งขึ้นวางบนเตาอย่างคล่องแคล่ว แววตาของเขาจับจ้องการกระทำของเหม่ยหลินอย่างไม่คลาดสายตา ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยความเชี่ยวชาญและมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นจาก 'แม่' คนเก่าเลย เหม่ยหลินเทน้ำมันที่เหลืออยู่น้อยนิดลงในกระทะ รอจนน้ำมันร้อนได้ที่ จากนั้นก็ใช้ช้อนตักส่วนผสมของลูกชิ้นหัวไชเท้าหย่อนลงไปในน้ำมันร้อนๆ เสียงซู่ซ่าดังขึ้นทันที พร้อมกับกลิ่นหอมของหัวไชเท้าทอดที่เริ่มลอยคลุ้งไปทั่วห้องครัว "ท่านแม่...กลิ่นหอมจังเลยขอรับ!" หลี่เฟยหยางร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น ไม่นานนัก ลูกชิ้นหัวไชเท้าทอดสีเหลืองทองก็ลอยขึ้นมาเหนือน้ำมัน เหม่ยหลินใช้ตะหลิวไม้พลิกไปมาจนสุกเหลืองทั่วกัน ก่อนจะตักขึ้นพักไว้บนกระด้งที่รองด้วยกระดาษใบจากเพื่อซับน้ำมัน "ต่อไปก็ขนมผักกาดหอมนะ" เหม่ยหลินบอก เธอใช้ไอน้ำจากหม้อน้ำเดือดนึ่งขนมผักกาดหอมที่ห่อด้วยใบตองจนสุกใส ก่อนจะนำไปผัดกับเต้าเจี้ยวเล็กน้อยจนหอมกรุ่น กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อย ดวงอาทิตย์ก็ขึ้นสูงเต็มที่ เหม่ยหลินนำอาหารที่ปรุงเสร็จแล้วใส่ภาชนะต่างๆ และจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับตั้งแผงขายอย่างเรียบง่าย มีเพียงโต๊ะไม้เก่าๆ ตัวหนึ่งกับเก้าอี้อีกสองสามตัว "เราจะไปกันแล้วนะ" เหม่ยหลินบอกด้วยความมุ่งมั่น ณ ตรอกอาหารไร้ชื่อ เมื่อมาถึงตลาด เหม่ยหลินเลือกทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็อยู่ในเส้นทางที่ผู้คนต้องเดินผ่าน เนื่องจากเธอต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจางไห่ในช่วงแรก และต้องการให้ผู้คนได้ลองชิมอาหารของเธอก่อน พวกเขาช่วยกันจัดตั้งโต๊ะและวางอาหาร ขนมผักกาดหอมและลูกชิ้นหัวไชเท้าทอดถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ แม้ภาชนะจะดูเรียบง่าย แต่กลิ่นหอมของอาหารก็ลอยไปเตะจมูกผู้คนที่เดินผ่านไปมา "ท่านแม่...เราจะขายอย่างไรขอรับ?" หลี่เฟยหลงถามอย่างกังวล เมื่อเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาอย่างไม่สนใจ "เราจะให้พวกเขาชิมก่อน" เหม่ยหลินตอบ พลางยิ้มให้ "หลี่เฟยหยาง เจ้าช่วยแม่เรียกคนมาลองชิมนะ" หลี่เฟยหยางพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น "ได้เลยขอรับท่านแม่!" ไม่นานนัก ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินผ่านไป เขาหยุดชะงักเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหาร "เอ่อ...ท่านแม่เจียง?" ชายชราเอ่ยทักทายด้วยความแปลกใจ "ท่านมาตั้งแผงขายอาหารด้วยหรือนี่? ไม่เคยเห็นท่านทำอาหารเลยนะ" เหม่ยหลินยิ้มให้ "ลุงจางคะ วันนี้ข้าทำอาหารพิเศษมาให้ลองชิมดูเจ้าค่ะ ฟรีเจ้าค่ะ!" ชายชราเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย แต่เมื่อได้ยินคำว่า 'ฟรี' เขาก็ยอมลอง เขารับลูกชิ้นหัวไชเท้าทอดชิ้นหนึ่งจากหลี่เฟยหยางที่ยื่นให้ด้วยรอยยิ้มซุกซน เมื่อชายชรากัดเข้าไปคำแรก ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ รสชาติกรอบนอกนุ่มในของลูกชิ้นหัวไชเท้าผสานกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน มันเป็นรสชาติที่เรียบง่าย แต่กลับ อร่อยอย่างเหลือเชื่อ "โอ้โห! นี่มัน...อร่อยมากเลย!" ชายชราเอ่ยชมอย่างตื่นเต้น "นี่ท่านแม่เจียงทำเองหรือนี่?" "เจ้าค่ะ" เหม่ยหลินตอบอย่างภูมิใจ ไม่นานนัก ก็เริ่มมีผู้คนมามุงดูและลองชิมอาหารของเธอ เสียงชมเชยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ "อร่อย! อร่อยจริงๆ!" "ไม่เคยคิดเลยว่าหัวไชเท้าจะทำได้อร่อยขนาดนี้!" "ขนมผักกาดหอมนี่ก็หอมกลมกล่อม!" เมื่อผู้คนเริ่มติดใจในรสชาติ เหม่ยหลินก็เริ่มขายในราคาที่ยุติธรรม โดยตั้งราคาให้คนทั่วไปสามารถซื้อได้ ลูกๆ ทั้งสามคนและชิวลี่ฮวาช่วยกันตักอาหาร ใส่ห่อ และรับเงินอย่างขะมักเขม้น เสียงหัวเราะและรอยยิ้มกลับมาสู่ใบหน้าของครอบครัวหลี่อีกครั้ง เหม่ยหลินมองดูภาพนั้นด้วยความรู้สึกตื้นตันใจในอก เธอรู้ว่าเธอมาถูกทางแล้ว แต่แล้ว... ขณะที่การค้าขายกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นพร้อมกับเงาร่างของชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาใกล้แผงขายของเธอ "นี่มันอะไรกัน!" เสียงอันห้าวหาญดังขึ้น เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับหญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วม ใบหน้าดุดัน ดวงตาเรียวเล็กแฝงแววเจ้าเล่ห์คล้ายจางไห่ เธอสวมชุดผ้าไหมสีเข้ม และมีชายฉกรรจ์อีกสองคนยืนขนาบข้าง "นี่มันตลาดของข้า! ใครอนุญาตให้เจ้ามาตั้งแผงขายที่นี่!" หญิงคนนั้นตะโกนขึ้นมาอย่างเกรี้ยวกราด เหม่ยหลินหันไปมองหลี่เฟยหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ เขากระซิบเบาๆ ว่า "นางคือ มาดามหลี่ เจ้าของตลาดคนปัจจุบันขอรับท่านแม่ นางเป็นน้องสาวของจางไห่ และเป็นคนที่ไม่ชอบท่านแม่มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว" เหม่ยหลินเข้าใจทันทีว่านี่คือปัญหาใหม่ที่เธอต้องเผชิญหน้า "ข้าขอโทษเจ้าค่ะมาดามหลี่" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพ "ข้าไม่ทราบว่าต้องขออนุญาตก่อน" "ไม่ทราบอย่างนั้นรึ!" มาดามหลี่ตวาดเสียงดัง "เจ้าเป็นใครมาจากไหน! มาทำตัวเป็นคุณหนูผู้ดีในตลาดของข้า! ไม่เคยเห็นเจ้าออกมาจากบ้านเลยด้วยซ้ำ! แล้วนี่อะไร! มาทำอาหารแปลกๆ ขาย แย่งลูกค้าของคนอื่น! รีบเก็บของออกไปจากตลาดของข้าเดี๋ยวนี้!" คำพูดของมาดามหลี่ทำให้ผู้คนที่กำลังซื้อของอยู่รอบๆ เริ่มถอยห่างออกไป สายตาของมาดามหลี่กวาดมองอาหารบนแผงของเหม่ยหลินอย่างดูถูก "อาหารหน้าตาประหลาดๆ แบบนี้ ใครจะไปอยากกินกัน!" มาดามหลี่กล่าวอย่างเหยียดหยาม "เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอาหารอร่อยกว่าร้านบะหมี่ของข้าอย่างนั้นรึ!" เหม่ยหลินรู้ว่าเธอต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้อย่างเด็ดเดี่ยว เธอจะยอมถอยไม่ได้ เพราะนี่คือความหวังเดียวของครอบครัว "ข้าไม่คิดที่จะแย่งลูกค้าของใครเจ้าค่ะมาดามหลี่" เหม่ยหลินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ข้าเพียงต้องการหารายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของข้า และข้าเชื่อว่าอาหารของข้ามีรสชาติที่แตกต่างและอร่อยไม่แพ้ใคร" "หึ! โอ้อวดดีนัก!" มาดามหลี่หัวเราะเยาะ "ถ้าเจ้ามั่นใจในฝีมือเจ้ามากนัก...เอาอย่างนี้ไหมเล่า! เรามาประลองรสชาติกัน!" คำว่า 'ประลองรสชาติ' ทำให้ผู้คนรอบข้างถึงกับฮือฮา พวกเขาไม่เคยคิดว่า 'แม่เจียง' ที่ดูอ่อนแอและใจร้ายคนนี้จะกล้าเผชิญหน้ากับมาดามหลี่ได้ขนาดนี้ "ประลองรสชาติอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินถามอย่างใจเย็น แม้ในใจจะรู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอที่ไม่ได้คาดคิด "ใช่!" มาดามหลี่ตอบอย่างท้าทาย "พรุ่งนี้เช้า! ที่กลางตลาดแห่งนี้! ข้าจะทำบะหมี่เนื้อตุ๋นสูตรลับของตระกูลข้า! ส่วนเจ้า...จะทำอะไรก็ได้! ผู้คนในตลาดจะเป็นคนตัดสินว่าใครทำอาหารได้อร่อยกว่ากัน! หากข้าชนะ...เจ้าต้องออกจากตลาดแห่งนี้ไปตลอดกาล และห้ามกลับมาค้าขายอีก! แต่ถ้าเจ้าชนะ...ข้าจะยอมให้เจ้ามาตั้งแผงขายที่นี่อย่างถูกต้อง และข้าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหนี้สินของเจ้ากับไอ้พี่ชายของข้าด้วย!" ข้อเสนอของมาดามหลี่เป็นดาบสองคม มันเป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็เป็นโอกาสที่สำคัญที่สุดของเหม่ยหลิน "ท่านแม่...ท่านแม่จะรับคำท้าไม่ได้นะขอรับ!" หลี่เฟยหลงกระซิบเตือนด้วยความกังวล "บะหมี่เนื้อตุ๋นของมาดามหลี่เลื่องชื่อมากนะขอรับ คนในตลาดส่วนใหญ่ก็ชอบกินบะหมี่ของนาง" เหม่ยหลินมองไปที่ลูกๆ ของเธอ หลี่เฟยหลงที่มีใบหน้าซีดเซียว หลี่เฟยหานที่กำลังกำมือแน่นด้วยความกลัว และหลี่เฟยหยางที่หลบอยู่ด้านหลังชิวลี่ฮวาอย่างหวาดหวั่น เธอหันกลับไปมองมาดามหลี่ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ข้าตกลงเจ้าค่ะ!" เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วตลาด มาดามหลี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มเยาะ "ดี! งั้นพรุ่งนี้เช้า อย่าสายก็แล้วกัน! ถ้าไม่มา...ถือว่าเจ้าแพ้!" มาดามหลี่กล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับชายฉกรรจ์ทั้งสอง บรรยากาศในตลาดกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ผู้คนยังคงจับกลุ่มซุบซิบกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหม่ยหลินหันไปมองลูกๆ ของเธอ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล "ท่านแม่...ท่านแม่จะทำอะไรหรือขอรับ?" หลี่เฟยหานถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "เราจะเอาอะไรไปสู้บะหมี่เนื้อตุ๋นของมาดามหลี่ได้ขอรับ? เราไม่มีเนื้อสัตว์เลยนะขอรับ!" "นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องคิด" เหม่ยหลินตอบ พลางถอนหายใจ ใช่...ไม่มีเนื้อสัตว์เลย... "แต่ไม่ต้องห่วง แม่มีแผนแล้ว"