แชร์

แผนการลับ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 22:45:24

แผนการลับของเชฟข้ามภพ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เหม่ยหลินก็เรียกทุกคนมานั่งรวมกันในห้องโถงอีกครั้ง ใบหน้าของเธอเคร่งเครียดกว่าเมื่อเช้า แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

"เรามีเวลาแค่คืนนี้เท่านั้น" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "พรุ่งนี้เช้าเราต้องประลองรสชาติกับมาดามหลี่"

"แต่ท่านแม่...เราจะทำอะไรไปสู้บะหมี่เนื้อตุ๋นของนางได้ขอรับ?" หลี่เฟยหลงถามด้วยความกังวล

เหม่ยหลินยิ้มบางๆ "เราจะทำ 'บะหมี่เจ' และ 'ซุปเห็ดหลินจือดำ'"

คำว่า 'บะหมี่เจ' ทำให้ทุกคนงงไปตามๆ กัน

"บะหมี่เจคืออะไรหรือขอรับท่านแม่?" หลี่เฟยหยางถามด้วยความสงสัย

"มันคือบะหมี่ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เลย" เหม่ยหลินอธิบาย "เราจะใช้เส้นบะหมี่ที่เราทำเองจากแป้งข้าวโพด ผสมกับผักต่างๆ และเห็ดที่เรามีอยู่ แล้วปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยวและเครื่องเทศที่หาได้"

"แต่...มันจะอร่อยหรือขอรับ?" หลี่เฟยหานถามอย่างไม่แน่ใจ

"เชื่อมือแม่เถอะ" เหม่ยหลินตอบอย่างมั่นใจ "และที่สำคัญ...เราจะต้องหา เห็ดหลินจือดำ มาให้ได้"

ชื่อ 'เห็ดหลินจือดำ' ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ

"เห็ดหลินจือดำ!" หลี่เฟยหลงอุทาน "ท่านแม่! เห็ดนั้นหายากมากนะขอรับ! แถมยังขึ้นอยู่แต่บนภูเขาที่สูงชันและอันตรายมากด้วยขอรับ! และเป็นของล้ำค่าที่คนธรรมดาไม่ค่อยมีใครได้กิน!"

"แม่รู้" เหม่ยหลินตอบ "แต่ซุปเห็ดหลินจือดำจะช่วยให้เราชนะการประลองนี้ได้ มันเป็นเห็ดที่มีสรรพคุณทางยามากมาย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่แตกต่างจากเห็ดชนิดอื่น หากนำมาทำซุป จะทำให้ซุปมีรสชาติที่ล้ำลึกและหอมหวานอย่างไม่น่าเชื่อ"

"แต่ท่านแม่...มันอันตรายเกินไปขอรับ" ชิวลี่ฮวาเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง

"ไม่เป็นไร" เหม่ยหลินตอบอย่างเด็ดเดี่ยว "แม่จะไปหาเอง"

"ไม่ได้ขอรับท่านแม่! ให้พวกบ่าวไปเถอะขอรับ!" หลี่เฟยหลงอาสา "ท่านแม่ไม่สบายอยู่ และยังไม่ชินกับสภาพที่นี่ด้วยขอรับ"

เหม่ยหลินมองไปที่ใบหน้าที่มุ่งมั่นของลูกชายคนโต เธอเห็นประกายของความห่วงใยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอรู้ว่าเธอไม่ควรปฏิเสธน้ำใจของเขา

"ก็ได้" เหม่ยหลินตอบในที่สุด "งั้นหลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหาน พวกเจ้าไปหาเห็ดหลินจือดำมาให้แม่นะ ระมัดระวังตัวให้มากที่สุด และจำไว้ว่า...ชีวิตของพวกเจ้าสำคัญกว่าสิ่งใด"

หลี่เฟยหลงและหลี่เฟยหานพยักหน้ารับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะรีบออกไปจากบ้านเพื่อเตรียมตัวขึ้นภูเขา

เหม่ยหลินหันไปมองชิวลี่ฮวาและหลี่เฟยหยาง "ส่วนพวกเจ้า...เรามาเริ่มเตรียมเส้นบะหมี่กันเถอะ"

ทั้งคืนนั้น เหม่ยหลินสอนวิธีทำเส้นบะหมี่จากแป้งข้าวโพดอย่างละเอียด เธอผสมแป้งกับน้ำในอัตราส่วนที่เหมาะสม นวดแป้งอย่างพิถีพิถันจนได้ที่ ก่อนจะนำมารีดให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วใช้มีดหั่นเป็นเส้นบะหมี่อย่างประณีต

ชิวลี่ฮวาและหลี่เฟยหยางช่วยกันอย่างขะมักเขม้น แม้จะดูเหน็ดเหนื่อย แต่ในแววตาของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัว 'แม่' ของพวกเขา

เมื่อใกล้รุ่งเช้า หลี่เฟยหลงและหลี่เฟยหานก็กลับมาถึงบ้านด้วยสภาพที่เหนื่อยอ่อนและมีบาดแผลเล็กน้อย แต่ในมือของหลี่เฟยหลงนั้นถือ เห็ดหลินจือดำขนาดเท่าฝ่ามือ มาด้วย!

"ท่านแม่! พวกบ่าวเจอแล้วขอรับ!" หลี่เฟยหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบเหงื่อไคล แต่ก็ฉายแววภาคภูมิใจ

เหม่ยหลินรับเห็ดหลินจือดำมาด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ เธอมองดูบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ บนร่างกายของลูกชายทั้งสอง และรู้สึกผิดที่ต้องให้พวกเขาไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้

"ขอบคุณมากนะ...ลูกแม่" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย และในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะโอบกอดลูกชายทั้งสองไว้แน่น

ทั้งหลี่เฟยหลงและหลี่เฟยหานถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ พวกเขาไม่เคยได้รับการกอดจาก 'แม่' มาก่อน ร่างกายของพวกเขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดจากบาดแผลราวกับหายไปในพริบตา

เช้าวันประลองรสชาติ บรรยากาศในตลาดคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนต่างมามุงดูการประลองรสชาติระหว่างมาดามหลี่กับ 'แม่เจียงคนใหม่' อย่างใจจดใจจ่อ

มาดามหลี่นำบะหมี่เนื้อตุ๋นหม้อใหญ่ของเธอมาวางไว้กลางลานตลาด กลิ่นหอมของเนื้อตุ๋นลอยฟุ้งไปทั่ว สร้างความอยากอาหารให้แก่ผู้คนอย่างมาก

"ดูสิเจ้าคะทุกท่าน! นี่คือบะหมี่เนื้อตุ๋นสูตรลับของตระกูลหลี่ ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน! รับรองว่ารสชาติเข้มข้น หอมหวาน และอร่อยเลิศ!" มาดามหลี่กล่าวโอ้อวดด้วยความมั่นใจ

แล้วสายตาของมาดามหลี่ก็หันไปมองเหม่ยหลินที่กำลังจัดเตรียมแผงของเธออยู่ เหม่ยหลินตั้งเตาฟืนขนาดเล็ก วางหม้อซุปและหม้อบะหมี่ไว้ข้างๆ และเตรียมเส้นบะหมี่ที่ทำเองไว้

"มาดามหลี่เจ้าคะ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความมั่นใจ "วันนี้ข้าจะนำเสนอ 'บะหมี่เจผักรวม' และ 'ซุปเห็ดหลินจือดำเพื่อสุขภาพ' เจ้าค่ะ"

คำว่า 'บะหมี่เจ' และ 'ซุปเห็ดหลินจือดำ' ทำให้ผู้คนในตลาดต่างมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่ออาหารเหล่านี้มาก่อน และหลายคนก็ไม่เชื่อว่าอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์จะสามารถสู้บะหมี่เนื้อตุ๋นของมาดามหลี่ได้

มาดามหลี่หัวเราะเยาะ "หึ! บะหมี่เจอย่างนั้นรึ! อาหารคนป่วยหรืออย่างไร! แล้วซุปเห็ดอะไรนั่นอีก! คิดจะเอาของแปลกๆ มาหลอกขายผู้คนอย่างนั้นรึ!"

เหม่ยหลินไม่ตอบโต้ เธอเพียงแค่ยิ้มบางๆ แล้วเริ่มลงมือปรุงอาหาร

เธอเริ่มจากต้มเส้นบะหมี่เจที่ทำเองจนสุกพอดี จากนั้นนำไปลวกในน้ำร้อน ใส่ลงในชาม ก่อนจะราดด้วยน้ำซุปที่ทำจากผักและเห็ดหอม ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยวเล็กน้อย โรยหน้าด้วยผักลวกและเห็ดผัดที่เตรียมไว้

ส่วนซุปเห็ดหลินจือดำ เธอนำเห็ดหลินจือดำที่หายากมาตุ๋นกับสมุนไพรพื้นบ้านบางชนิด และปรุงรสเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ได้รสชาติหวานธรรมชาติของเห็ดและสมุนไพร กลิ่นหอมของซุปเห็ดหลินจือดำลอยฟุ้งไปทั่วตลาด ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านถึงกับหยุดชะงัก

ผู้คนเริ่มเข้ามามุงดูการประลองมากขึ้น เสียงซุบซิบและวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็สงสัยในฝีมือของ 'แม่เจียง' บางคนก็ไม่เชื่อว่าอาหารไร้เนื้อสัตว์จะอร่อยได้

"เอาล่ะ! ได้เวลาตัดสินแล้ว!" เสียงของชายชราคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้น "ขอเชิญทุกท่านที่สนใจลองชิมอาหารของทั้งสองฝ่ายได้เลย!"

ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้าไปลองชิมบะหมี่เนื้อตุ๋นของมาดามหลี่ก่อน หลายคนกินแล้วก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เพราะเป็นรสชาติที่คุ้นเคยและอร่อย

จากนั้นพวกเขาก็มาที่แผงของเหม่ยหลิน หลี่เฟยหยางเป็นคนแรกที่ยื่นบะหมี่เจให้กับผู้คนด้วยรอยยิ้มสดใส

เมื่อผู้คนเริ่มลองชิมบะหมี่เจ คำแรกที่พวกเขาได้ลิ้มรสคือความเหนียวนุ่มของเส้นบะหมี่ที่ทำจากแป้งข้าวโพด รสชาติของน้ำซุปที่หอมหวานจากผักและเห็ด และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของเต้าเจี้ยวผัดที่ช่วยเพิ่มความกลมกล่อม มันเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ แต่กลับอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ หลายคนถึงกับตาโตด้วยความประหลาดใจ

"นี่มันบะหมี่อะไรกัน! อร่อยมากเลย!" ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

"จริงด้วย! ข้าไม่เคยคิดเลยว่าบะหมี่ที่ไม่มีเนื้อสัตว์จะอร่อยได้ขนาดนี้!" หญิงชราอีกคนเสริม

และเมื่อพวกเขาได้ลองซุปเห็ดหลินจือดำ ดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างด้วยความทึ่ง กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเห็ดหลินจือดำผสานกับรสชาติหวานละมุนจากธรรมชาติ ทำให้ซุปมีรสชาติที่ลึกล้ำและอบอุ่นไปทั่วทั้งร่างกาย

"นี่มันซุปวิเศษชัดๆ! ข้าไม่เคยลิ้มรสซุปที่อร่อยและหอมขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต!" เสียงตะโกนจากฝูงชนดังขึ้นเรื่อยๆ

มาดามหลี่ที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถึงกับมีสีหน้าซีดเผือด นางไม่คิดเลยว่าอาหารของ 'แม่เจียง' จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีขนาดนี้

ในที่สุด เมื่อทุกคนได้ลองชิมอาหารของทั้งสองฝ่าย หัวหน้าหมู่บ้านก็เดินเข้ามากลางลานตลาด

"เอาล่ะ! ทุกท่านได้ตัดสินแล้ว! ใครคิดว่าบะหมี่เนื้อตุ๋นของมาดามหลี่อร่อยกว่า ขอให้ยกมือขึ้น!"

ผู้คนส่วนหนึ่งยกมือขึ้นอย่างลังเล

"แล้วใครคิดว่าอาหารของแม่เจียงอร่อยกว่า ขอให้ยกมือขึ้น!"

ทันใดนั้นเอง! ผู้คนส่วนใหญ่ในตลาดต่างยกมือขึ้นอย่างพร้อมเพรียง! บางคนถึงกับตะโกน "แม่เจียงชนะ!" "อาหารของแม่เจียงอร่อยกว่า!"

มาดามหลี่ถึงกับหน้าถอดสี ร่างกายของนางสั่นเทิ้มด้วยความโกรธและความอับอาย

"ไม่จริง! มันเป็นไปไม่ได้!" มาดามหลี่ตะโกนขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา "เจ้าโกง! เจ้าต้องโกงแน่ๆ!"

"มาดามหลี่เจ้าคะ" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่น "ผลก็เป็นอย่างที่เห็นแล้ว การประลองนี้เป็นไปอย่างยุติธรรม ผู้คนในตลาดเป็นพยาน"

มาดามหลี่กัดฟันแน่น นางรู้ดีว่าไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้อีกแล้ว

"เอาล่ะๆ" หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวขึ้น "ในเมื่อผลออกมาแล้ว แม่เจียงเป็นผู้ชนะ! ดังนั้น...แม่เจียงมีสิทธิ์ที่จะค้าขายในตลาดแห่งนี้ได้อย่างถูกต้อง และมาดามหลี่ต้องทำตามที่ตกลงกันไว้!"

เสียงปรบมือดังสนั่นไปทั่วตลาด ผู้คนต่างมองมาที่เหม่ยหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและความเคารพ

เหม่ยหลินยิ้มอย่างโล่งใจ เธอหันไปมองลูกๆ ของเธอ หลี่เฟยหลง หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ต่างยิ้มกว้างด้วยความสุข ส่วนชิวลี่ฮวาก็เข้ามาจับมือเธออย่างดีใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การทรยศ

    รุ่งอรุณหลังคืนแห่งความวุ่นวาย แสงตะวันสาดส่องเข้ามาในเรือนพักของท่านราชครูจ้าว เหม่ยหลินรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ต่างกอดเธอแน่นด้วยความโล่งใจ การปรากฏตัวของหัวหน้าหมาและท่านราชครูจ้าวราวกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แห่งความมืดมิดท่านราชครูจ้าวนั่งลงตรงข้ามกับเหม่ยหลิน ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความเมตตาและแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม"ท่านแม่เจียง" ท่านราชครูจ้าวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ข้าต้องขออภัยแทนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงด้วย ที่ทำให้ท่านต้องมาประสบเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้"เหม่ยหลินก้มศีรษะเล็กน้อย "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านราชครู ข้าเข้าใจดีว่าอำนาจมักจะทำให้คนตาบอด""ถูกต้อง" ท่านราชครูจ้าวพยักหน้า "เรื่องของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงนั้น ข้าได้ส่งคนไปสอบสวนแล้ว และข้าเชื่อว่าเขาจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามความผิดที่เขากระทำ"ท่านราชครูจ้าวหันไปมองหัวหน้าหมาที่ยืนอยู่ข้างๆ "หัวหน้าหมา เจ้าทำความดีความชอบในครั้งนี้ ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิ ให้ท่านได้รับความดีความชอบอย่างที่ควรจะได้รับ"หัวหน้าหมาก้มศีรษะด้

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   อุบาย

    ชัยชนะอันหอมหวานจากการประลองรสชาติสะท้านเมืองหลวง มิได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่เหม่ยหลินและครอบครัวคาดหวัง ตรงกันข้าม มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของพายุลูกใหม่ที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าเดิม แสงแห่งชื่อเสียงที่เจิดจ้าของ “เชฟเหม่ยหลิน” ส่องสว่างไปทั่วอาณาจักร ทว่าในเงามืดนั้น พลังอำนาจที่มองไม่เห็นกำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆความผันผวนในจวนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิง เจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อใคร บัดนี้กลับถูกแม่ครัวสามัญชนหักหน้าอย่างยับเยินกลางที่สาธารณะ ความอัปยศครั้งนี้กัดกินจิตใจของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม ทุกวันเขาจะสั่งให้คนนำอาหารของเหม่ยหลินมาให้เขากิน แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าอร่อยเลยแม้แต่คำเดียว และมักจะหาเรื่องตำหนิอย่างไม่เป็นเหตุผล“นี่มันอะไรกัน! ข้าวผัดนี่แข็งเกินไป! เจ้าคิดว่าข้าเป็นชาวนาที่กินแต่ข้าวแข็งๆ อย่างนั้นรึ!” หลี่กวงหมิงปาจานข้าวผัดลงพื้นเสียงดังลั่นในห้องอาหารของเขาพ่อครัวประจำจวนและบรรดาคนรับใช้ต่างพากันตัวสั่นงันงก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองขณะเดียวกัน ในมุมมืดของจวน เจ้าเมืองได้ส่งคนไปสืบเรื่องราวของเหม่ยหลินอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ประลองรสชาติ

    เช้าตรู่วันประลอง ท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงยังคงมืดสลัวด้วยไอหมอกจางๆ แต่ใจกลางเมืองกลับคึกคักไปด้วยผู้คนมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเป็นสักขีพยานในศึกประลองรสชาติครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันทำอาหารธรรมดา แต่มันคือการปะทะกันระหว่าง อำนาจ และ ความสามารถ ระหว่าง ศักดิ์ศรี ของเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ กับ ความกล้าหาญ ของแม่ครัวสามัญชนเหม่ยหลินและครอบครัวเดินทางมาถึงลานประลองที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยที่นั่งสำหรับแขกผู้มีเกียรติและประชาชนทั่วไป กลิ่นหอมของเครื่องหอมปะปนกับกลิ่นไอของตลาดสดอบอวลไปทั่วบริเวณ"ท่านแม่! คนเยอะมากเลยขอรับ!" หลี่เฟยหยางเกาะแขนเหม่ยหลินแน่น ดวงตากลมโตสอดส่ายมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นปนหวาดหวั่น"ไม่ต้องกลัวหรอกลูก" เหม่ยหลินยิ้มให้กำลังใจลูกชาย เธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ความมุ่งมั่นในใจกลับแข็งแกร่งกว่าสิ่งใดเมื่อเดินไปถึงหลังเวที พวกเขาก็เห็นเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงยืนอยู่พร้อมกับพ่อครัวประจำจวนของเขา และชายชุดดำสองคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา ใบหน้าของหลี่กวงหมิงเรียบตึง แต่แววตาของเขากลับฉาย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   เงื่อนไข

    แสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงฉานเมื่อเหม่ยหลินกลับมาถึงบ้าน ตลอดทางกลับ เธอครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เธอและครอบครัวต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ คำสั่งของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงเป็นดั่งดาบที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากเธอปฏิเสธหรือทำผิดพลาดแม้แต่น้อย ชีวิตของเธอและลูกๆ อาจตกอยู่ในอันตรายเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงบ้าน ใบหน้าของหลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ก็ปรากฏแก่สายตา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถาม"ท่านแม่! เป็นอย่างไรบ้างขอรับ? ท่านเจ้าเมืองพูดอะไรกับท่าน?" หลี่เฟยหลงเอ่ยถามทันทีด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหม่ยหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ อย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนเจ้าเมืองให้ทุกคนฟัง ตั้งแต่คำชมเชยของหลี่กวงหมิง ข้อเสนอให้เป็นพ่อครัวประจำจวน และคำสั่งให้ส่งอาหารทุกวัน รวมถึงการบีบบังคับให้บอกสูตรอาหารบรรยากาศในห้องเงียบสงัดลงทันที ใบหน้าของทุกคนซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลี่เฟยหลงที่กำมือแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ"ท่านเจ้าเมืองช่างบีบบังคับกันเกินไปแล้วขอรับ!" หลี่เฟยหลงเอ่ยขึ้นอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   คลื่นใต้น้ำ

    ชัยชนะจากการประลองปัญญาครั้งนั้นส่งให้ชื่อเสียงของ เหม่ยหลิน และ ตระกูลหลี่ ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งตลาด และลามไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพูดถึง "แม่เจียงคนใหม่" ที่ไม่เพียงแต่ทำอาหารอร่อยเลิศ แต่ยังเฉลียวฉลาดและกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลอย่างหัวหน้าหมาเช้าวันรุ่งขึ้น แผงขายของเหม่ยหลินไม่เพียงแค่คึกคัก แต่กลับแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาต่อคิวยาวเหยียด พวกเขาไม่เพียงมาซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อชมบารมีของเหม่ยหลินและลูก ๆ ของเธอด้วย"ท่านแม่เจียง! ข้ามาจากหมู่บ้านเจียงเป่ย! ได้ยินว่าอาหารของท่านอร่อยล้ำเลิศนัก ข้าจึงมาขอชิมด้วยตัวเอง!" ชายชราคนหนึ่งกล่าวด้วยความเลื่อมใส"ท่านแม่เจียง! ข้าซื้อบะหมี่เจของท่านไปให้ลูกเมียกินแล้ว! พวกเขาชอบมากเลย! ขอบพระคุณท่านแม่เจียงที่ทำอาหารดี ๆ แบบนี้มาให้พวกเราได้กิน!" ชาวนาอีกคนกล่าวพร้อมรอยยิ้มเหม่ยหลินยิ้มตอบรับคำชมเชยอย่างอ่อนน้อม เธอและลูก ๆ ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานทำหน้าที่ตักบะหมี่และซุป ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยรับเงินและห่ออาหารด้วยความสนุกสนาน"ท่า

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ท้าประลอง

    คำพูดของเหม่ยหลินทำให้ทุกคนในตลาดถึงกับตกตะลึง รวมถึงหัวหน้าหมาและลูกน้องของเขาด้วย"ประลองฝีมืออย่างนั้นรึ! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!" หัวหน้าหมาหัวเราะเยาะ "เจ้าเป็นแค่แม่ครัวอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น! จะเอาอะไรมาสู้กับพวกข้า!""ข้าไม่ได้ท้าเจ้าประลองกำลัง" เหม่ยหลินตอบ "ข้าขอท้าเจ้าประลอง...ปัญญา!"คำว่า 'ประลองปัญญา' ยิ่งทำให้ทุกคนงงไปกันใหญ่"ประลองปัญญาอย่างนั้นรึ! ตลกสิ้นดี!" หัวหน้าหมากล่าวอย่างเยาะเย้ย "เจ้าจะประลองปัญญาอะไรกับข้า!?""ข้าจะท้าเจ้าให้ตอบคำถามของข้าสามข้อ" เหม่ยหลินตอบอย่างมั่นใจ "หากเจ้าตอบได้ทั้งสามข้อ...ข้าจะยอมออกจากตลาดแห่งนี้ไปตลอดกาล และจะไม่กลับมาค้าขายอีก! แต่หากเจ้าตอบไม่ได้...เจ้าต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของข้า และห้ามมารังแกพวกเราอีกตลอดไป!"ข้อเสนอของเหม่ยหลินทำให้ผู้คนในตลาดต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยเห็นการประลองแบบนี้มาก่อนหัวหน้าหมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่เหม่ยหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก เขาไม่คิดว่าแม่ครัวธรรมดา ๆ คนหนึ่งจะมีความรู้หรือปัญญาอะไรมากมายนัก"ได้! ข้ารับคำท้า!" หัวหน้าหมากล่าวอย่างลำพองใจ "เอาเลย! เจ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status