Share

โอกาสใหม่

last update Last Updated: 2025-06-06 22:41:44

ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปพร้อมกับความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคยในบ้านของตระกูลหลี่ เหม่ยหลินนอนหลับอย่างสนิทเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ข้ามมิติมา เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอก็ได้กลิ่นหอมของข้าวต้มลอยเข้ามาในจมูก

เธอเดินออกมาจากห้องนอน ก็เห็นชิวลี่ฮวากำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้หลี่เฟยหยาง ส่วนหลี่เฟยหลงและหลี่เฟยหานกำลังนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ใบหน้าของทุกคนไม่ได้แสดงความหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง

"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มบางๆ

"อรุณสวัสดิ์" เหม่ยหลินตอบ พลางยิ้มให้ "วันนี้มีอะไรกินบ้าง?"

"ชิวลี่ฮวาเอาข้าวสารที่เหลือจากเมื่อวานไปผสมกับมันเทศ แล้วต้มเป็นข้าวต้มเหมือนเมื่อคืนเจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวาตอบด้วยความประหม่าเล็กน้อย

เหม่ยหลินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ "ดีมาก" เธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะไม้ พลางมองดูข้าวต้มในถ้วยที่ดูน่ากินกว่าเมื่อวานเล็กน้อย

"ท่านแม่...วันนี้เราจะไปที่ไหนกันหรือขอรับ?" หลี่เฟยหยางถามด้วยความกระตือรือร้น

เหม่ยหลินมองไปที่ลูกๆ ทั้งสามคน และลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์ เธอรู้ดีว่าการจะทำให้ครอบครัวนี้อยู่รอดและมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ เธอต้องเริ่มจากการสร้างรายได้ให้มั่นคงเสียก่อน

"วันนี้เราจะไปที่ตลาดอีกครั้ง" เหม่ยหลินตอบ "แต่คราวนี้เราจะไปหาโอกาสทางธุรกิจ"

คำว่า 'โอกาสทางธุรกิจ' ดูจะเป็นคำที่แปลกใหม่สำหรับพวกเขา หลี่เฟยหลงมองเธอด้วยความสงสัย ส่วนหลี่เฟยหานก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"ท่านแม่จะไปทำอะไรหรือขอรับ?" หลี่เฟยหลงถาม

"แม่จะไปสำรวจตลาด ดูว่ามีอะไรที่เราพอจะทำขายได้บ้าง" เหม่ยหลินอธิบาย "เมื่อวานแม่เห็นว่าคนส่วนใหญ่ในตลาดซื้อแต่ผัก และดูเหมือนจะไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์หรืออาหารปรุงสำเร็จขายมากนัก"

"แต่เราไม่มีเงินลงทุนมากพอขอรับท่านแม่" หลี่เฟยหลงเอ่ยอย่างกังวล

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น" เหม่ยหลินยิ้มอย่างมั่นใจ "แม่มีวิธี"

การสำรวจตลาดและการเผชิญหน้า

เมื่อมาถึงตลาดในเมือง บรรยากาศยังคงคึกคักไม่ต่างจากเมื่อวาน เหม่ยหลินเดินสำรวจตลาดอย่างละเอียดขึ้นกว่าเดิม เธอสังเกตเห็นว่าแผงขายอาหารปรุงสำเร็จมีไม่มากนัก และส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารที่เรียบง่าย เช่น ซาลาเปานึ่ง หมั่นโถว หรือบะหมี่น้ำ ซึ่งรสชาติก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

เธอเดินไปที่แผงขายหมูและไก่ ซึ่งมีเพียงไม่กี่ร้าน และราคาแพงจนแทบจะจับต้องไม่ได้สำหรับชาวบ้านทั่วไป

"ลุงเจ้าคะ เนื้อหมูวันนี้ราคาเท่าไหร่หรือคะ?" เหม่ยหลินถามพ่อค้าหมูที่กำลังยืนหาวหวอดๆ

พ่อค้าเงยหน้าขึ้นมองเธอ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย "เนื้อหมูวันนี้ราคาแพงนักแม่เจียง ท่านคงซื้อไม่ไหวหรอก"

คำพูดของพ่อค้าทำให้หลี่เฟยหลงที่ยืนอยู่ข้างๆ กำมือแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความไม่พอใจ

เหม่ยหลินไม่ถือสา เธอเพียงยิ้มบางๆ "ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ แต่ข้าอยากรู้ราคาเผื่อว่าจะมีโอกาส"

พ่อค้าบอกราคา ซึ่งสูงลิบจนเหม่ยหลินต้องถอนหายใจ ถ้าจะทำอาหารที่ต้องใช้เนื้อสัตว์ คงต้องหาทางอื่น

เธอเดินผ่านแผงผักอีกครั้ง และเห็นผักบางชนิดที่ไม่ได้มีราคาแพงมากนัก เช่น ผักกาดกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว และผักโขม เธอเริ่มคิดถึงเมนูที่สามารถทำจากวัตถุดิบเหล่านี้ได้

ขณะที่เธอกำลังสำรวจตลาดอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลัง

"แม่เจียง? ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ดูท่าทางสบายดีขึ้นเยอะเลยนี่"

เหม่ยหลินหันไปมอง ก็พบกับชายวัยกลางคนรูปร่างท้วม สวมชุดผ้าไหมราคาแพง ใบหน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ ดวงตาเล็กเรียวมองมาที่เธออย่างประเมิน

"ท่านคือ...?" เหม่ยหลินถามอย่างไม่แน่ใจ เธอไม่คุ้นหน้าชายคนนี้เลย

"ข้าคือ จางไห่ เจ้าของโรงสีที่ท้ายหมู่บ้านไงเล่า" ชายคนนั้นตอบ พลางยิ้มกว้างขึ้น "ดูท่าท่านแม่เจียงจะความจำเสื่อมไปเสียแล้วสินะ"

คำพูดของจางไห่ทำให้หลี่เฟยหลงและน้องๆ มีสีหน้าตึงเครียดทันที

"ท่านลุงจางมีอะไรหรือขอรับ?" หลี่เฟยหลงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

จางไห่หัวเราะในลำคอ "ไม่มีอะไรมากหรอก แค่จะมาทวงหนี้สินที่ท่านแม่ของเจ้าติดค้างข้าไว้น่ะ"

คำว่า 'หนี้สิน' ทำให้เหม่ยหลินถึงกับใจหายวาบ

"หนี้สินอะไรหรือเจ้าคะ?" เหม่ยหลินถาม

จางไห่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่ดูเก่าแก่ยับยับมาให้ "ก็หนี้ที่ท่านแม่ของเจ้ามายืมเงินข้าไปใช้จ่ายไงเล่า ทั้งค่าเหล้า ค่าข้าวสารที่เกินโควตาปันส่วน และอื่นๆ อีกมากมาย...รวมแล้วก็ไม่น้อยกว่าสิบตำลึงทองเชียวนะ!"

สิบตำลึงทอง! ตัวเลขนั้นทำให้เหม่ยหลินถึงกับอึ้งไป เธอรู้ว่าสิบตำลึงทองในยุคนี้นั้นเป็นเงินจำนวนมหาศาลมากทีเดียว มันมากกว่าเงินเก็บทั้งหมดในบัญชีของเธอในยุคปัจจุบันเสียอีก

"ท่านโกหก! แม่ไม่ได้ยืมเงินท่านลุงจางเยอะขนาดนั้น!" หลี่เฟยหลงตะโกนขึ้นอย่างโมโห "ท่านแม่บอกว่ายืมแค่สามตำลึงทองเท่านั้น!"

"หุบปากนะไอ้หนู!" จางไห่ตวาดกลับ "ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กอย่างเจ้าไม่เกี่ยว!" เขามองเหม่ยหลินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกดดัน "เอาเป็นว่า...ถ้าท่านแม่เจียงยังไม่มีเงินมาคืนข้า...ข้าก็จะยึดบ้านของพวกเจ้าเป็นของข้า!"

คำพูดของจางไห่ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของเหม่ยหลิน เธอไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าของร่างเดิมจะสร้างหนี้สินไว้มากมายขนาดนี้ แถมยังเป็นหนี้ที่ทำให้ครอบครัวต้องไร้ที่อยู่อีกด้วย

"ท่านลุงจาง...ท่านลุงจางจะทำอย่างนั้นไม่ได้นะขอรับ! นั่นคือบ้านของพวกเรา!" หลี่เฟยหยางร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว

"ทำไมจะทำไม่ได้! ในเมื่อท่านแม่ของเจ้าติดหนี้ข้า!" จางไห่ตอบกลับอย่างไม่ไยดี "หรือถ้าท่านแม่เจียงไม่มีเงินจะคืนจริงๆ ก็เอาตัวหลี่เฟยหานมาทำงานใช้หนี้ให้ข้าสิ! ข้ากำลังต้องการคนงานในโรงสีพอดีเลย!"

คำพูดของจางไห่ทำให้เหม่ยหลินถึงกับเดือดดาล การจะเอาเด็กอายุสิบห้าไปใช้แรงงานหนักในโรงสี เป็นเรื่องที่เธอรับไม่ได้อย่างเด็ดขาด

"ท่านจะทำอย่างนั้นไม่ได้!" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นเสียงดัง สีหน้าของเธอบัดนี้ไม่ได้อ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแววตาที่ฉายแววแน่วแน่และเด็ดเดี่ยว "ข้าจะหาเงินมาคืนท่านเอง! แต่ข้าต้องการเวลา!"

จางไห่หัวเราะเยาะ "เวลา? ท่านแม่เจียงจะไปเอาเงินมาจากไหน? นอกจากไปหาเหล้ามาดื่มวันๆ แล้วท่านยังทำอะไรได้อีก?"

"ข้าเป็นเชฟ!" เหม่ยหลินตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าของเธอเชิดขึ้นอย่างสง่างาม "ข้าจะใช้ความสามารถของข้าในการทำอาหารเพื่อหาเงินมาคืนท่าน และข้าจะทำให้ท่านต้องเสียใจที่ดูถูกข้า!"

คำพูดของเหม่ยหลินทำให้ผู้คนรอบข้างที่เริ่มเข้ามามุงดูเหตุการณ์ถึงกับฮือฮา พวกเขาไม่เคยเห็น 'แม่เจียง' คนนี้มีท่าทีเช่นนี้มาก่อน

จางไห่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "โอ้? เชฟอย่างนั้นรึ? ตลกสิ้นดี! ในยุคนี้ใครจะมาซื้ออาหารแพงๆ จากท่านกัน! เอาเถอะ...ข้าจะให้เวลาท่านเจ็ดวัน ถ้าเจ็ดวันนี้ท่านไม่มีเงินมาคืนข้า หรือไม่มีแผนการที่ชัดเจน...ข้าจะมาเอาตัวไอ้เด็กนี่ไปทำงานใช้หนี้ที่โรงสี!"

จางไห่กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มเยาะ ก่อนจะเดินจากไปอย่างไม่สนใจ

บรรยากาศรอบข้างเงียบลง ผู้คนเริ่มซุบซิบกันถึงเรื่องหนี้สินของตระกูลหลี่ และการเปลี่ยนแปลงของ 'แม่เจียง'

"ท่านแม่..." หลี่เฟยหานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ท่านแม่พูดจริงหรือขอรับว่าจะหาเงินมาคืนท่านลุงจาง?"

"จริงสิ" เหม่ยหลินตอบ พลางหันไปจับมือของหลี่เฟยหานแน่น "แม่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกเจ้าเด็ดขาด! แม่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาบ้านของเราไป! แม่จะหาเงินมาคืนเขาให้ได้!"

น้ำตาคลอเบ้าในดวงตาของหลี่เฟยหาน เขามองเหม่ยหลินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความเชื่อใจที่ไม่เคยมีมาก่อน

แผนการพลิกฟื้นตระกูลหลี่

หลังจากเหตุการณ์ที่ตลาด เหม่ยหลินก็พาเด็กๆ กลับบ้านด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดกว่าเดิม เธอรู้ว่าเธอมีเวลาแค่เจ็ดวันเท่านั้น

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เหม่ยหลินก็เรียกทุกคนมานั่งรวมกันในห้องโถง เธอหยิบกระดาษเก่าๆ และเศษถ่านที่พอจะใช้เขียนได้ออกมา

"เรามีเวลาแค่เจ็ดวันเท่านั้น" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เราต้องหาเงินให้ได้สิบตำลึงทองเพื่อไถ่ถอนหนี้สิน"

เด็กๆ มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด สิบตำลึงทองเป็นจำนวนที่มากมายมหาศาลสำหรับพวกเขา

"ท่านแม่...เราจะไปหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนขอรับ?" หลี่เฟยหลงถามอย่างสิ้นหวัง

"เราจะทำอาหารขาย" เหม่ยหลินตอบอย่างหนักแน่น "แม่จะใช้ความรู้ด้านอาหารของแม่ในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ ที่อร่อยและดึงดูดใจผู้คน"

"แต่เราไม่มีเงินลงทุนเลยนะขอรับท่านแม่" หลี่เฟยหานเสริม

"นั่นคือสิ่งที่เราต้องคิด" เหม่ยหลินตอบ พลางมองไปที่ผักกาดขาวที่เหลืออยู่ในตะกร้า "เราจะเริ่มต้นจากสิ่งที่เรามี"

เธอเริ่มเขียนแผนการลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว

"ขั้นแรก: เราจะใช้ผักที่เรามีอยู่ตอนนี้ และหาสิ่งอื่นๆ ที่หาได้ง่ายในหมู่บ้านมาทำอาหาร" เหม่ยหลินอธิบาย "วันนี้เราจะทำ 'ขนมผักกาดหอม' และ 'ลูกชิ้นหัวไชเท้าทอด'"

"ขนมผักกาดหอม? ลูกชิ้นหัวไชเท้า?" ลูกๆ ทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่ออาหารเหล่านี้มาก่อน

"ใช่" เหม่ยหลินยิ้ม "ขนมผักกาดหอมทำจากผักกาดขาวผสมกับแป้งเล็กน้อย นึ่งให้สุก แล้วนำไปผัดกับน้ำมันงาและเต้าเจี้ยว ส่วนลูกชิ้นหัวไชเท้าทอดก็ทำจากหัวไชเท้าขูด ผสมกับแป้ง แล้วนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน"

"ท่านแม่...เราจะเอาแป้งจากไหนขอรับ?" ชิวลี่ฮวาถามขึ้นมาอย่างสุภาพ

เหม่ยหลินชะงักไปเล็กน้อย เธอเกือบลืมไปว่าในยุคนี้แป้งไม่ใช่สิ่งที่หาได้ง่ายๆ

"นั่นสินะ..." เธอครุ่นคิด "หลี่เฟยหลง เจ้าจำได้ไหมว่าแม่เคยเอาอะไรไปแลกกับชาวบ้านที่ปลูกข้าวโพดบ้าง?"

หลี่เฟยหลงนิ่งคิดไปชั่วขณะ ก่อนจะตอบว่า "ท่านแม่เคยเอาของเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้วไปแลกข้าวโพดมาขอรับ"

"ดีมาก!" เหม่ยหลินยิ้ม "พรุ่งนี้เช้า หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหาน ไปช่วยกันรื้อค้นของเก่าๆ ที่พอจะแลกเปลี่ยนได้ แล้วเราจะไปแลกข้าวโพดจากชาวบ้าน เพื่อนำมาโม่เป็นแป้ง"

จากนั้น เหม่ยหลินก็วางแผนการตลาดคร่าวๆ

"เราจะไปตั้งแผงขายที่ตลาดในเมือง" เธออธิบาย "แต่เราจะไม่ได้ขายแค่อาหาร เราจะขาย 'รสชาติใหม่ๆ' ที่ไม่เคยมีใครได้ลิ้มลอง"

"เราจะไปบอกเล่าเรื่องราวว่า 'แม่เจียงคนใหม่' จะเป็นคนปรุงอาหารเองกับมือ และจะนำอาหารที่อร่อยและแปลกใหม่มาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง"

หลี่เฟยหลงยังคงกังวล "แต่ท่านแม่...ผู้คนในตลาดอาจจะยังไม่เชื่อใจท่าน"

"นั่นแหละคือความท้าทาย" เหม่ยหลินตอบอย่างหนักแน่น "แม่รู้ว่ามันยาก แต่เราต้องพยายาม เราจะเริ่มต้นด้วยการทำอาหารจำนวนไม่มากนัก เพื่อให้ผู้คนได้ลองชิม และเมื่อพวกเขาติดใจในรสชาติแล้ว...พวกเขาจะกลับมาซื้อเอง"

เธอหันไปมองชิวลี่ฮวา "ชิวลี่ฮวา เจ้ากับหลี่เฟยหยางช่วยแม่เตรียมวัตถุดิบและช่วยห่อขนมผักกาดหอมนะ"

ชิวลี่ฮวาพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น "เจ้าค่ะท่านแม่"

หลี่เฟยหยางก็ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน "เย้! ได้กินขนมอร่อยๆ แล้ว!"

เหม่ยหลินมองดูทุกคนที่มีแววตาแห่งความหวัง เธอยิ้มอย่างมั่นใจ แม้ว่าความท้าทายจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่เธอก็เชื่อมั่นในฝีมือของเธอ และในพลังของครอบครัวที่กำลังจะกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง

คืนนั้น ทั้งครอบครัวช่วยกันเตรียมวัตถุดิบอย่างขะมักเขม้น เหม่ยหลินสอนวิธีทำขนมผักกาดหอมและลูกชิ้นหัวไชเท้าทอดอย่างละเอียด เธอชี้แนะทุกขั้นตอนอย่างใจเย็น ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้และเข้าใจไปด้วย

หลี่เฟยหลงเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัว 'แม่' ของเขาอย่างชัดเจน เธอไม่ได้โมโหง่าย ไม่ได้ด่าทอ ไม่ได้ทุบตี เธอเป็นเหมือนคนใหม่ที่เข้ามาแทนที่ 'แม่' คนเก่าโดยสมบูรณ์ ความรู้สึกหวาดระแวงในใจของเขาเริ่มจางหายไปทีละน้อย แทนที่ด้วยความหวังและความเชื่อมั่นในตัว 'แม่คนใหม่' นี้

"ท่านแม่...ท่านแม่เก่งที่สุดเลยขอรับ" หลี่เฟยหยางเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังช่วยชิวลี่ฮวาล้างผักกาด

เหม่ยหลินยิ้ม "แม่จะทำให้พวกเราทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้"

แสงจันทร์ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องครัวที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของผักสดและไอดิน มันเป็นกลิ่นที่แตกต่างจากกลิ่นน้ำหอมและแสงสีในภัตตาคารหรูในอดีตของเธอ แต่ในตอนนี้ กลิ่นเหล่านี้กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิตชีวาอย่างประหลาด

เหม่ยหลินรู้ดีว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยขวากหนามและอุปสรรค แต่ในใจของเธอไม่มีความกลัวอีกต่อไปแล้ว มีเพียงความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจที่จะพลิกฟื้นตระกูลหลี่ให้กลับมาผงาดอีกครั้งในยุคที่แร้นแค้นนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   แผนพิษและทางรอด

    ความรู้สึกของเหม่ยหลินพังทลายลงในพริบตาเมื่อได้ยินคำสารภาพของขันทีจาง และเห็นผงสีดำในมือของหลี่เฟยหาน โลกทั้งใบราวกับหมุนคว้าง ภาพความฝันที่เธอสร้างขึ้นเพื่อครอบครัว กำลังจะพังทลายลงเพราะการทรยศหักหลังครั้งนี้"ไม่จริง... เจ้าโกหก!" เหม่ยหลินตะโกน ดวงตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด "หลี่เฟยหาน! ลูกบอกแม่มา! ลูกทำอะไรลงไป!?"หลี่เฟยหานตัวสั่นงันงก ใบหน้าเล็กๆ ของเขาซีดเผือด น้ำตาไหลพราก "ท่านแม่... ลูก... ลูกถูกบังคับขอรับ! ขันทีจาง... เขา... เขายื่นเงินให้ลูก... บอกว่าจะให้ลูกกับพี่ๆ สบาย... แล้ว... แล้วถ้าลูกไม่ทำ... เขาจะฆ่าท่านแม่... ฆ่าพี่ใหญ่... ฆ่าท่านชิวลี่ฮวา..." เสียงของเขาขาดหายไป พร้อมกับร่างที่ทรุดลงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นขันทีจางหัวเราะอย่างชั่วร้าย "ฮ่าฮ่าฮ่า! ช่างเป็นภาพที่น่ารันทดใจนัก! เจ้าแม่เจียงผู้ยิ่งใหญ่ กำลังจะถูกลูกชายของตัวเองฆ่า!" เขาก้าวเข้ามาใกล้ ยกผงสีดำในมือของหลี่เฟยหานขึ้นดู "ดูสิ! ผงพิษ 'ฝุ่นมรณะ' ชนิดรุนแรงที่สุด! แม้แต่เซียนก็ยากจะรอด! องค์จักรพรรดิจะได้สวรรคตอย่างสงบในวันนี้ และเจ้า... จะต้องเป็นแพะรับบาป! ฮ่าฮ่าฮ่า!""เจ้ามันปีศาจ!" เหม่ยหลินกัดฟันแน่น ควา

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   การทรยศ

    รุ่งอรุณหลังคืนแห่งความวุ่นวาย แสงตะวันสาดส่องเข้ามาในเรือนพักของท่านราชครูจ้าว เหม่ยหลินรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา หลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ต่างกอดเธอแน่นด้วยความโล่งใจ การปรากฏตัวของหัวหน้าหมาและท่านราชครูจ้าวราวกับแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แห่งความมืดมิดท่านราชครูจ้าวนั่งลงตรงข้ามกับเหม่ยหลิน ใบหน้าของท่านเต็มไปด้วยความเมตตาและแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม"ท่านแม่เจียง" ท่านราชครูจ้าวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ข้าต้องขออภัยแทนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงด้วย ที่ทำให้ท่านต้องมาประสบเรื่องราวเลวร้ายเช่นนี้"เหม่ยหลินก้มศีรษะเล็กน้อย "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านราชครู ข้าเข้าใจดีว่าอำนาจมักจะทำให้คนตาบอด""ถูกต้อง" ท่านราชครูจ้าวพยักหน้า "เรื่องของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงนั้น ข้าได้ส่งคนไปสอบสวนแล้ว และข้าเชื่อว่าเขาจะต้องได้รับโทษทัณฑ์ตามความผิดที่เขากระทำ"ท่านราชครูจ้าวหันไปมองหัวหน้าหมาที่ยืนอยู่ข้างๆ "หัวหน้าหมา เจ้าทำความดีความชอบในครั้งนี้ ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อองค์จักรพรรดิ ให้ท่านได้รับความดีความชอบอย่างที่ควรจะได้รับ"หัวหน้าหมาก้มศีรษะด้

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   อุบาย

    ชัยชนะอันหอมหวานจากการประลองรสชาติสะท้านเมืองหลวง มิได้นำมาซึ่งความสงบสุขอย่างที่เหม่ยหลินและครอบครัวคาดหวัง ตรงกันข้าม มันกลับเป็นจุดเริ่มต้นของพายุลูกใหม่ที่โหมกระหน่ำรุนแรงกว่าเดิม แสงแห่งชื่อเสียงที่เจิดจ้าของ “เชฟเหม่ยหลิน” ส่องสว่างไปทั่วอาณาจักร ทว่าในเงามืดนั้น พลังอำนาจที่มองไม่เห็นกำลังเคลื่อนไหวอย่างลับๆความผันผวนในจวนเจ้าเมืองหลี่กวงหมิง เจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อใคร บัดนี้กลับถูกแม่ครัวสามัญชนหักหน้าอย่างยับเยินกลางที่สาธารณะ ความอัปยศครั้งนี้กัดกินจิตใจของเขาอย่างรุนแรง ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และหวาดระแวงยิ่งกว่าเดิม ทุกวันเขาจะสั่งให้คนนำอาหารของเหม่ยหลินมาให้เขากิน แต่เขาก็ไม่เคยบอกว่าอร่อยเลยแม้แต่คำเดียว และมักจะหาเรื่องตำหนิอย่างไม่เป็นเหตุผล“นี่มันอะไรกัน! ข้าวผัดนี่แข็งเกินไป! เจ้าคิดว่าข้าเป็นชาวนาที่กินแต่ข้าวแข็งๆ อย่างนั้นรึ!” หลี่กวงหมิงปาจานข้าวผัดลงพื้นเสียงดังลั่นในห้องอาหารของเขาพ่อครัวประจำจวนและบรรดาคนรับใช้ต่างพากันตัวสั่นงันงก พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองขณะเดียวกัน ในมุมมืดของจวน เจ้าเมืองได้ส่งคนไปสืบเรื่องราวของเหม่ยหลินอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   ประลองรสชาติ

    เช้าตรู่วันประลอง ท้องฟ้าเหนือเมืองหลวงยังคงมืดสลัวด้วยไอหมอกจางๆ แต่ใจกลางเมืองกลับคึกคักไปด้วยผู้คนมหาศาลที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อเป็นสักขีพยานในศึกประลองรสชาติครั้งประวัติศาสตร์นี้ ไม่ใช่เพียงแค่การแข่งขันทำอาหารธรรมดา แต่มันคือการปะทะกันระหว่าง อำนาจ และ ความสามารถ ระหว่าง ศักดิ์ศรี ของเจ้าเมืองผู้ยิ่งใหญ่ กับ ความกล้าหาญ ของแม่ครัวสามัญชนเหม่ยหลินและครอบครัวเดินทางมาถึงลานประลองที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีเวทีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยที่นั่งสำหรับแขกผู้มีเกียรติและประชาชนทั่วไป กลิ่นหอมของเครื่องหอมปะปนกับกลิ่นไอของตลาดสดอบอวลไปทั่วบริเวณ"ท่านแม่! คนเยอะมากเลยขอรับ!" หลี่เฟยหยางเกาะแขนเหม่ยหลินแน่น ดวงตากลมโตสอดส่ายมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นเต้นปนหวาดหวั่น"ไม่ต้องกลัวหรอกลูก" เหม่ยหลินยิ้มให้กำลังใจลูกชาย เธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่แพ้กัน แต่ความมุ่งมั่นในใจกลับแข็งแกร่งกว่าสิ่งใดเมื่อเดินไปถึงหลังเวที พวกเขาก็เห็นเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงยืนอยู่พร้อมกับพ่อครัวประจำจวนของเขา และชายชุดดำสองคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา ใบหน้าของหลี่กวงหมิงเรียบตึง แต่แววตาของเขากลับฉาย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   เงื่อนไข

    แสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงฉานเมื่อเหม่ยหลินกลับมาถึงบ้าน ตลอดทางกลับ เธอครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เธอและครอบครัวต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ คำสั่งของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงเป็นดั่งดาบที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากเธอปฏิเสธหรือทำผิดพลาดแม้แต่น้อย ชีวิตของเธอและลูกๆ อาจตกอยู่ในอันตรายเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงบ้าน ใบหน้าของหลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ก็ปรากฏแก่สายตา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถาม"ท่านแม่! เป็นอย่างไรบ้างขอรับ? ท่านเจ้าเมืองพูดอะไรกับท่าน?" หลี่เฟยหลงเอ่ยถามทันทีด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหม่ยหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ อย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนเจ้าเมืองให้ทุกคนฟัง ตั้งแต่คำชมเชยของหลี่กวงหมิง ข้อเสนอให้เป็นพ่อครัวประจำจวน และคำสั่งให้ส่งอาหารทุกวัน รวมถึงการบีบบังคับให้บอกสูตรอาหารบรรยากาศในห้องเงียบสงัดลงทันที ใบหน้าของทุกคนซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลี่เฟยหลงที่กำมือแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ"ท่านเจ้าเมืองช่างบีบบังคับกันเกินไปแล้วขอรับ!" หลี่เฟยหลงเอ่ยขึ้นอย

  • ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย   คลื่นใต้น้ำ

    ชัยชนะจากการประลองปัญญาครั้งนั้นส่งให้ชื่อเสียงของ เหม่ยหลิน และ ตระกูลหลี่ ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งตลาด และลามไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพูดถึง "แม่เจียงคนใหม่" ที่ไม่เพียงแต่ทำอาหารอร่อยเลิศ แต่ยังเฉลียวฉลาดและกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลอย่างหัวหน้าหมาเช้าวันรุ่งขึ้น แผงขายของเหม่ยหลินไม่เพียงแค่คึกคัก แต่กลับแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาต่อคิวยาวเหยียด พวกเขาไม่เพียงมาซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อชมบารมีของเหม่ยหลินและลูก ๆ ของเธอด้วย"ท่านแม่เจียง! ข้ามาจากหมู่บ้านเจียงเป่ย! ได้ยินว่าอาหารของท่านอร่อยล้ำเลิศนัก ข้าจึงมาขอชิมด้วยตัวเอง!" ชายชราคนหนึ่งกล่าวด้วยความเลื่อมใส"ท่านแม่เจียง! ข้าซื้อบะหมี่เจของท่านไปให้ลูกเมียกินแล้ว! พวกเขาชอบมากเลย! ขอบพระคุณท่านแม่เจียงที่ทำอาหารดี ๆ แบบนี้มาให้พวกเราได้กิน!" ชาวนาอีกคนกล่าวพร้อมรอยยิ้มเหม่ยหลินยิ้มตอบรับคำชมเชยอย่างอ่อนน้อม เธอและลูก ๆ ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานทำหน้าที่ตักบะหมี่และซุป ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยรับเงินและห่ออาหารด้วยความสนุกสนาน"ท่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status