ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย

ข้านี้แหละที่จะทำให้ตระกูลนี้ร่ำรวย

last updateLast Updated : 2025-06-06
Language: Thai
goodnovel16goodnovel
Not enough ratings
13Chapters
19views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

เหม่ยหลินเชฟหญิงผู้โด่งดังจู่ๆ ก็ทะลุมิติมาอยู่ในร่างของหญิงสาสใจร้ายที่ยากจนและไม่มีใครอยากอยู่ใกล้

View More

Chapter 1

ชีวิตพลิกผัน

กลิ่นหอมหวลของน้ำมันงากับกระเทียมเจียวฉุนกึกไปทั่วทั้งครัวสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่ อุณหภูมิภายในห้องที่สูงลิบไม่ได้ทำให้สติของ เหม่ยหลิน วัยสามสิบห้าปีสะท้านสะเทือนแม้แต่น้อย ใบหน้าเรียวสวยที่มักจะประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นยามอยู่นอกครัว บัดนี้กลับเคร่งขรึมและเปี่ยมด้วยสมาธิ ดวงตาสีรัตติกาลจับจ้องไปยังกระทะใบยักษ์เบื้องหน้า ที่กำลังเดือดพล่านด้วยความร้อนระอุจากเตาแก๊สแรงดันสูง

"ผักบุ้งไฟแดงสามที่! กุ้งผัดพริกเกลือหนึ่ง! ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วสอง!" เสียงตะโกนสั่งจากหัวหน้าเชฟประจำไลน์ดังสนั่น เหม่ยหลินไม่รอช้า มือหนึ่งตวัดกระบวยเหล็กตักน้ำมันร้อนจัดราดลงบนกุ้งตัวโตที่กำลังถูกทอดในอีกกระทะจนผิวส้มสวย อีกมือก็ตวัดผักบุ้งที่เพิ่งลงกระทะแรงๆ เพียงไม่กี่ครั้ง เปลวไฟสีแดงฉานลุกโชนขึ้นท่วมกระทะ ราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ แต่เหม่ยหลินกลับนิ่งสงบราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเปลวไฟนั้น

เธอคือเชฟกระทะเหล็กแห่งภัตตาคาร 'มังกรทอง' ภัตตาคารอาหารจีนหรูใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่เลื่องชื่อเรื่องรสชาติอาหารระดับห้าดาวและการตกแต่งที่วิจิตรบรรจง เธอสั่งสมประสบการณ์ในเส้นทางนี้มานับสิบปี ฝึกฝนฝีมือจนได้รับการยอมรับจากทั้งเชฟรุ่นอาวุโสและบรรดานักชิมทั่วสารทิศ การทำอาหารไม่ได้เป็นเพียงอาชีพ แต่มันคือ ชีวิตและจิตวิญญาณ ของเธอ

"เชฟเหม่ย! ผักบุ้งไฟแดงของคุณนี่ไม่มีใครเทียบได้จริงๆ ครับ! ดูสีสิครับ! เขียวสดเหมือนเพิ่งเด็ดมาจากต้น แถมยังกรอบสะเด็ดอีก!" เชฟฝึกหัดคนหนึ่งเอ่ยชมด้วยความชื่นชมยามที่เธอกำลังตักผักบุ้งใส่จานอย่างประณีต

เหม่ยหลินเพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่ได้ตอบอะไร เธอเดินไปหยิบปลาหิมะตัวอวบที่เพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ วางลงบนจานอย่างเบามือ ไอความร้อนจากปลานึ่งลอยขึ้นกระทบใบหน้า เผยให้เห็นเนื้อปลาสีขาวผ่องราวหิมะ โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกแดงซอยอย่างวิจิตร ก่อนจะราดน้ำซีอิ๊วสูตรพิเศษลงไปอย่างช้าๆ กลิ่นหอมฟุ้งของซีอิ๊วชั้นดีกับน้ำมันงากระตุ้นต่อมรับรสของทุกคนในครัวให้ทำงานทันที

"เชฟเหม่ยหลิน! คุณนี่แหละคืออัจฉริยะในเรื่องรสชาติ!" หัวหน้าเชฟใหญ่ประจำภัตตาคารที่ยืนดูอยู่ห่างๆ เอ่ยชมด้วยความพึงพอใจ "วันนี้นอกจากเมนูที่คุณทำแล้ว อีกสองโต๊ะก็ยังสั่งติ่มซำที่คุณรังสรรค์ขึ้นมาอีกด้วย ทุกคนต่างชื่นชมไม่ขาดปาก!"

เสียงชมเชยจากเพื่อนร่วมงานและหัวหน้าเชฟเป็นรางวัลที่หอมหวานสำหรับเหม่ยหลิน เธอรู้ดีว่าเธอมาไกลแค่ไหนจากเด็กสาวบ้านนอกที่หลงใหลการทำอาหาร จนกลายเป็นเชฟมืออาชีพที่กุมหัวใจนักชิมไว้ได้

งานเลี้ยงมื้อค่ำวันนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ เหม่ยหลินปลดผ้ากันเปื้อนออก สูดหายใจลึกๆ รับอากาศเย็นสบายหลังเลิกงาน เธอเดินออกมาจากภัตตาคารที่ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงและป้ายอักษรจีนโบราณอย่างงดงาม

สองเท้าก้าวเดินไปตามถนนที่คึกคักไปด้วยแสงสีของป้ายไฟนีออนระยิบระยับ ผู้คนยังคงเดินสวนกันไปมาอย่างขวักไขว่ เหม่ยหลินคลี่ยิ้มเล็กน้อย พลางก้มหน้าลงอ่านหนังสือนิยายที่เพิ่งซื้อมาวันนี้ เป็นเรื่องราวความรักย้อนยุคของจอมยุทธ์ในสมัยโบราณที่กำลังโด่งดัง

เธอเพลินกับการอ่านจนไม่ทันสังเกตว่าตัวเองเดินมาถึงทางม้าลายแล้ว สัญญาณไฟคนข้ามเปลี่ยนเป็นสีเขียว ผู้คนรอบข้างเริ่มก้าวขาลงสู่พื้นถนน เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นมองเห็นสัญญาณไฟสีเขียวชัดเจน เธอก้าวเดินตามฝูงชนไปอย่างไม่รีบร้อน สายตายังคงจับจ้องไปที่ตัวอักษรในหนังสือนิยายในมืออย่างไม่วางตา

จู่ๆ...

เสียงเบรกดังสนั่นแหวกอากาศยามค่ำคืน เสียงเครื่องยนต์คำรามดังกระหึ่มผิดปกติ สัญชาตญาณบางอย่างทำให้เหม่ยหลินเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ภาพสุดท้ายที่เธอเห็นคือ แสงไฟสีขาวจ้าพุ่งตรงเข้ามาหาเธอด้วยความเร็วสูง! ร่างกายของเธอถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนลอยละลิ่วขึ้นไปในอากาศ ความเจ็บปวดแล่นแปลบไปทั่วทุกอณู...ก่อนที่ทุกอย่างจะดับมืดลง

ตื่นขึ้นในแดนอดีต

ความรู้สึกหนักอึ้งและปวดร้าวไปทั่วร่างดึงเหม่ยหลินให้กลับคืนสู่สติ เปลือกตาที่หนักอึ้งพยายามปรือเปิดขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือ เพดานไม้เก่าๆ สีหม่น มีหยากไย่เกาะพะรุงพะรังอย่างหนาแน่น กลิ่นอับชื้นผสมกลิ่นไอดินและกลิ่นไม้เก่าโชยเข้าจมูกอย่างจัง มันไม่ใช่กลิ่นคุ้นเคยในห้องนอนสี่เหลี่ยมสีขาวสะอาดของเธอ

เธอพยายามยันกายลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล ความเจ็บแปลบที่ท้ายทอยทำให้เธอรู้สึกวิงเวียนไปเล็กน้อย มือเรียวบางยกขึ้นกุมขมับ พลางกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ ห้องที่ดูคุ้นตาอย่างประหลาด...แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่เธอควรอยู่

ห้องนอนแห่งนี้ช่างเรียบง่ายและเก่าแก่ มีเพียงเตียงไม้ที่เธอเพิ่งลุกขึ้นนั่ง โต๊ะไม้ตัวเล็กๆ ที่มีร่องรอยการใช้งานมายาวนาน และเก้าอี้ไม้ไม่กี่ตัวที่ดูทรุดโทรม ผนังห้องเป็นไม้กระดานสีซีดจาง มีรอยเปื้อนดำๆ ประปราย เสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวก็เป็นชุดผ้าฝ้ายสีทึมๆ ดูโบราณและไม่คุ้นตาเอาเสียเลย

สายตาของเธอเคลื่อนไปสะดุดกับกลุ่มคนสี่คนที่นั่งรวมกันอยู่ตรงมุมห้อง ชายหนุ่มสามคนและหญิงสาวหนึ่งคนที่กำลังตั้งครรภ์ ทุกคนดูอ่อนวัยและแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ราวกับหลุดออกมาจากละครย้อนยุคที่เธอเคยดู พวกเขาดูซีดเซียวและมีท่าทางประหม่า ดวงตาของพวกเขามองมาที่เธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความ ตื่นตระหนก หวาดกลัว และแฝงไว้ด้วยความไม่ไว้วางใจ ราวกับเห็นภูตผีปีศาจก็ไม่ปาน

"น้ำ...ขอน้ำหน่อย" เสียงแหบแห้งเล็ดลอดออกมาจากลำคอที่แห้งผากราวกับทะเลทราย เธอกะพริบตาถี่ๆ พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า

ทันทีที่สิ้นเสียงของเธอ หญิงสาวที่ตั้งครรภ์ก็สะดุ้งเฮือก เธอตัวสั่นเล็กน้อยก่อนจะรีบลุกขึ้นพรวดพราด แทบจะวิ่งไปรินน้ำชาจากกาดินเผาใส่ถ้วยไม้เล็กๆ แล้วรีบนำมาให้เธอด้วยท่าทาง ลุกลนและระแวงจัด มือไม้สั่นจนน้ำชาในถ้วยกระฉอกออกมาเล็กน้อย

เหม่ยหลินรับถ้วยน้ำมาจิบอย่างรวดเร็วเพื่อดับกระหาย แต่แล้ว...รสชาติแปลกๆ ก็แล่นเข้ามาในปาก มันเฝื่อนและมีกลิ่นดินจางๆ แถมเมื่อเธอก้มมองดูน้ำในถ้วยดีๆ ก็เห็นว่า มีตะกอนสีขาวขุ่นลอยอยู่ก้นถ้วย!

"น้ำ...น้ำนี่มันไม่สะอาด" เธอกล่าวออกไปโดยไม่ทันคิด

เพียงแค่คำพูดนั้นหลุดจากปาก สีหน้าของคนทั้งสี่ก็ซีดเผือดลงไปอีก พวกเขารีบลุกพรวดแล้ว คุกเข่าลงกับพื้นทันที โดยพร้อมเพรียงกัน สร้างความตกใจให้เหม่ยหลินไม่น้อย

เด็กชายคนโตสุดที่ดูจะอายุราวสิบแปดปี ใบหน้าคมคายของเขาบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัว เขาคือ หลี่เฟยหลง ผู้เป็นหัวหน้าของน้องๆ ทั้งปวง แม้จะยังเด็กแต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความรับผิดชอบและแฝงความแข็งกร้าว ส่วนเด็กชายคนรองที่ดูอายุราวสิบห้าปี ใบหน้าฉายแววฉลาดและรอบคอบ แต่ก็ยังคงมีความหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด เขาคือ หลี่เฟยหาน ผู้ช่างสังเกต และเด็กชายคนเล็กสุดที่น่าจะอายุราวสิบปี รูปร่างผอมกะหร่อง ดวงตากลมโตกำลังฉายแววหวาดกลัวจัดจนน้ำตาคลอเบ้า เขาคือ หลี่เฟยหยาง ที่มักจะแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา และหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ที่น่าจะอายุราวสิบเจ็ดปี เธอคือ ชิวลี่ฮวา ภรรยาของหลี่เฟยหลง ซึ่งกำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ได้ราวสามสี่เดือน ใบหน้าอ่อนหวานของเธอบัดนี้เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและตัวสั่นเทิ้ม

"ท่านแม่! พวกบ่าวผิดไปแล้ว! โปรดอย่าลงโทษพวกบ่าวเลยเจ้าค่ะ/ขอรับ!" เสียงหวาดหวั่นปนเสียงสะอื้นของหลี่เฟยหยางทำให้เหม่ยหลินถึงกับ ตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ท่านแม่? พวกบ่าว? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!

เจ้าของร่างเดิมนี่มันนิสัยไม่ดีขนาดไหนกันนะเนี่ย! ถึงได้ทำให้เด็กๆ เหล่านี้หวาดกลัวจนตัวสั่นได้ขนาดนี้! เหม่ยหลินคิดในใจอย่างหัวเสีย นี่มันไม่ใช่แค่ไม่ดี แต่มันเลวร้ายเลยล่ะมั้ง

"ไม่เป็นไร...ไม่เป็นไรหรอก" เธอบอกเสียงอ่อน พยายามทำให้ทุกคนคลายความหวาดกลัวลง "แค่เอาน้ำสะอาดมาให้ข้าก็พอ...พวกเจ้าลุกขึ้นเถอะ"

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้โมโหหรือลงโทษตามที่คาดคิดไว้ ทุกคนจึงค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ ด้วยความไม่มั่นใจในตัวเธอ สายตาของหลี่เฟยหลงยังคงจับจ้องเธออย่างระแวง ไม่ยอมคลาย เหม่ยหลินสอดส่องสายตาสำรวจไปทั่วทั้งห้องอีกครั้ง คราวนี้เธอเห็นรายละเอียดปลีกย่อยมากขึ้น

โต๊ะไม้มีรอยผุพังจนเนื้อไม้บวมโป่ง ข้าวของเครื่องใช้ที่อยู่ในห้องมีเพียงไม่กี่ชิ้น แต่ละชิ้นก็เก่าแก่และทรุดโทรมอย่างเห็นได้ชัด

เธอเดินไปดูนอกหน้าต่าง ภาพที่ปรากฏคือบ้านเรือนที่ปลูกอยู่ใกล้กันก็ดูเก่าทรุดโทรมไม่ต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้เล็กๆ หรือกระท่อมดินหลังคามุงจาก ถนนเบื้องล่างเป็นถนนลูกรังเต็มไปด้วยฝุ่นแดงๆ ผู้คนเดินไปมาบนถนนแต่งกายด้วยชุดผ้าฝ้ายสีทึมๆ ดูเรียบง่ายและเก่าคร่ำครึ ไม่มีตึกสูงระฟ้า ไม่มีแสงสีของป้ายไฟนีออน ไม่มีรถยนต์วิ่งพลุกพล่าน มีแต่รถลากที่เทียมด้วยคนหรือสัตว์ และรถจักรยานเก่าๆ ไม่กี่คัน

บรรยากาศทั้งหมดบ่งบอกถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับมหานครเซี่ยงไฮ้ที่เธอจากมา และที่น่าตกใจที่สุดคือผู้คนที่เดินสวนกันไปมานั้นล้วนเป็นชาวจีน ไม่ใช่ฝรั่งตาน้ำข้าวอย่างที่เคยเห็นในข่าวเกี่ยวกับคนจีนยุค 70 จากหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ผอมแห้งกำลังหาบน้ำมาแต่ไกล ส่วนอีกคนกำลังอุ้มไก่เดินผ่านหน้าบ้านไป

ทะลุมิติแน่ๆ! แถมดูท่าจะมาอยู่ในยุค 70 ที่แร้นแค้นซะด้วย! เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อภาพความทรงจำเกี่ยวกับรถชนยังคงวนเวียนในหัว ภาพสุดท้ายคือแสงไฟจากรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่พุ่งตรงเข้ามาหาเธอ

เธอกวาดสายตามองสภาพบ้านที่ทรุดโทรมและข้าวของเครื่องใช้ที่บ่งบอกว่า ครอบครัวนี้ "จน" แทบจะไม่มีอะไรเลย นี่แหละคือความจริงที่เธอต้องเผชิญ

ความจริงที่ว่าเธอต้องมาติดอยู่ในร่างของ "แม่เลี้ยง" ที่ใจร้าย ซึ่งเธอไม่รู้ว่าใครคือสามีของร่างนี้และเขาหายไปไหน แถมยังอยู่ในยุคที่แร้นแค้นเช่นนี้ ทำให้เหม่ยหลินรู้สึกท้อแท้เพียงชั่วขณะ ความรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างถาโถมเข้าใส่ แต่ในฐานะเชฟมืออาชีพที่มีความสามารถและไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ สัญชาตญาณของนักสู้ก็ผุดขึ้นมาในใจ

ไหนๆ ก็มาอยู่ในร่างนี้แล้ว แถมยังมีลูกๆ ที่หวาดกลัวเธอให้ดูแลตั้งสี่ชีวิต...อย่างน้อยก็ต้องทำให้ชีวิตของพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่านี้! แววตาของเหม่ยหลินฉายแววแน่วแน่ เธอคิดในใจ เธอจะใช้ความสามารถด้านอาหารของตัวเอง เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตระกูลหลี่ที่แร้นแค้นแห่งนี้ให้รุ่งเรืองให้ได้! เธอจะพลิกฟื้นความผูกพันในครอบครัวที่แตกสลาย และเอาชนะใจลูกๆ ที่เคยหวาดกลัวเธอให้ได้!

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
13 Chapters
ชีวิตพลิกผัน
กลิ่นหอมหวลของน้ำมันงากับกระเทียมเจียวฉุนกึกไปทั่วทั้งครัวสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่ อุณหภูมิภายในห้องที่สูงลิบไม่ได้ทำให้สติของ เหม่ยหลิน วัยสามสิบห้าปีสะท้านสะเทือนแม้แต่น้อย ใบหน้าเรียวสวยที่มักจะประดับด้วยรอยยิ้มอบอุ่นยามอยู่นอกครัว บัดนี้กลับเคร่งขรึมและเปี่ยมด้วยสมาธิ ดวงตาสีรัตติกาลจับจ้องไปยังกระทะใบยักษ์เบื้องหน้า ที่กำลังเดือดพล่านด้วยความร้อนระอุจากเตาแก๊สแรงดันสูง"ผักบุ้งไฟแดงสามที่! กุ้งผัดพริกเกลือหนึ่ง! ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วสอง!" เสียงตะโกนสั่งจากหัวหน้าเชฟประจำไลน์ดังสนั่น เหม่ยหลินไม่รอช้า มือหนึ่งตวัดกระบวยเหล็กตักน้ำมันร้อนจัดราดลงบนกุ้งตัวโตที่กำลังถูกทอดในอีกกระทะจนผิวส้มสวย อีกมือก็ตวัดผักบุ้งที่เพิ่งลงกระทะแรงๆ เพียงไม่กี่ครั้ง เปลวไฟสีแดงฉานลุกโชนขึ้นท่วมกระทะ ราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ แต่เหม่ยหลินกลับนิ่งสงบราวกับเป็นส่วนหนึ่งของเปลวไฟนั้นเธอคือเชฟกระทะเหล็กแห่งภัตตาคาร 'มังกรทอง' ภัตตาคารอาหารจีนหรูใจกลางมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่เลื่องชื่อเรื่องรสชาติอาหารระดับห้าดาวและการตกแต่งที่วิจิตรบรรจง เธอสั่งสมประสบการณ์ในเส้นทางนี้มานับสิบปี ฝึกฝนฝีมือจนได้รับการยอมรับจากทั้ง
last updateLast Updated : 2025-06-04
Read more
โชว์ฝีมือ
หลังจากตั้งปณิธานในใจ เหม่ยหลินก็สูดหายใจลึกๆ พยายามรวบรวมสติที่ยังคงสับสนอลหม่าน สายตาของลูกๆ และลูกสะใภ้ยังคงจับจ้องมาที่เธอด้วยความระแวง เธอรู้ว่าเธอต้องทำให้พวกเขาเชื่อใจให้ได้"พวกเจ้า...กินข้าวกันหรือยัง?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้เป็นปกติที่สุด แต่คำถามง่ายๆ กลับทำให้ใบหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดลงไปอีก"ท่านแม่...พวกเรา...พวกเรายังไม่ได้กินเลยเจ้าค่ะ/ขอรับ" ชิวลี่ฮวาเอ่ยตอบเสียงสั่นๆ พลางก้มหน้าหลบสายตาเหม่ยหลินพยักหน้าช้าๆ ถึงว่าสิ ดูผอมโซกันขนาดนี้... เธอหันมองไปรอบห้องอีกครั้ง พยายามสำรวจหาห้องครัว"ครัวอยู่ทางไหน?" เธอถามคราวนี้หลี่เฟยหลงเป็นฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงที่ห้วนกว่าน้องๆ "อยู่ด้านหลังขอรับท่านแม่" แววตาของเขายังคงเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจ ราวกับกำลังรอคอยว่าเธอจะเล่นตลกอะไรอีกเหม่ยหลินไม่ได้สนใจสายตาของเขา เธอเดินตรงไปตามทิศทางที่หลี่เฟยหลงบอก เมื่อเดินผ่านประตูไม้เก่าๆ ออกไปด้านหลัง ก็พบกับลานเล็กๆ และห้องครัวที่แยกออกมาจากตัวบ้านหลัก มันเป็นห้องเล็กๆ ที่ทำจากไม้ ผนังบางส่วนมีรอยผุพัง หลังคามุงจากมีรอยรั่วประปรายภายในครัวมีเพียงเตาฟืนก่อด้วยดินเหนียว
last updateLast Updated : 2025-06-04
Read more
เปลี่ยนไป
ซุปผักกาดขาวมันเทศร้อนๆ ไม่เพียงแต่อบอุ่นร่างกาย แต่ยังทำให้อาหารมื้อแรกของเหม่ยหลินในโลกใหม่นี้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ความโล่งใจที่ลูกๆ ยอมรับรสชาติอาหารของเธอ ความตื้นตันที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เฟยหยาง และความมุ่งมั่นที่จะกอบกู้สถานการณ์ของครอบครัวนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากอิ่มท้องแล้ว หลี่เฟยหยางก็เผลอหลับไปบนตักของชิวลี่ฮวาด้วยความเหนื่อยล้า ชิวลี่ฮวาลูบไล้เส้นผมของเขาเบาๆ ส่วนหลี่เฟยหานก็ก้มหน้าก้มตาเก็บถ้วยชามไปล้างอย่างเงียบๆ มีเพียงหลี่เฟยหลงเท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงหน้าเหม่ยหลิน ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวยามนี้คล้ายจะอ่อนลง แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยความระแวง"พวกเจ้า...มีอะไรที่ต้องเล่าให้ข้าฟังบ้างไหม?" เหม่ยหลินเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ น้ำเสียงของเธออบอุ่นและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอรู้ว่าการจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ เธอต้องเข้าใจสถานการณ์ของร่างนี้อย่างถ่องแท้เสียก่อนหลี่เฟยหลงเงยหน้าขึ้นมองเธอ ดวงตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "ท่านแม่...ท่านแม่หมายถึงเรื่องอะไรหรือขอรับ?""ทุกเรื่อง" เหม่ยหลินตอบ พลางจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา
last updateLast Updated : 2025-06-04
Read more
โอกาสใหม่
ค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปพร้อมกับความอบอุ่นที่ไม่คุ้นเคยในบ้านของตระกูลหลี่ เหม่ยหลินนอนหลับอย่างสนิทเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ข้ามมิติมา เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เธอก็ได้กลิ่นหอมของข้าวต้มลอยเข้ามาในจมูกเธอเดินออกมาจากห้องนอน ก็เห็นชิวลี่ฮวากำลังตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้หลี่เฟยหยาง ส่วนหลี่เฟยหลงและหลี่เฟยหานกำลังนั่งรออยู่บนเก้าอี้ไม้เก่าๆ ใบหน้าของทุกคนไม่ได้แสดงความหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแววตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง"อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มบางๆ"อรุณสวัสดิ์" เหม่ยหลินตอบ พลางยิ้มให้ "วันนี้มีอะไรกินบ้าง?""ชิวลี่ฮวาเอาข้าวสารที่เหลือจากเมื่อวานไปผสมกับมันเทศ แล้วต้มเป็นข้าวต้มเหมือนเมื่อคืนเจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวาตอบด้วยความประหม่าเล็กน้อยเหม่ยหลินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ "ดีมาก" เธอเดินไปนั่งลงที่โต๊ะไม้ พลางมองดูข้าวต้มในถ้วยที่ดูน่ากินกว่าเมื่อวานเล็กน้อย"ท่านแม่...วันนี้เราจะไปที่ไหนกันหรือขอรับ?" หลี่เฟยหยางถามด้วยความกระตือรือร้นเหม่ยหลินมองไปที่ลูกๆ ทั้งสามคน และลูกสะใภ้ที่กำลังตั้งครรภ์ เธอรู้ดีว่าการจะทำให้ครอบครัวนี้อยู่รอดและมีชีวิตที่ดีข
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
การประลอง
รุ่งเช้าของวันถัดมา ดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นขอบฟ้าส่งแสงสีทองสาดส่องกระทบยอดไม้ เหม่ยหลินและครอบครัวก็ตื่นขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้น เสียงตำครกดังโขกไปมาตั้งแต่ไก่โห่ บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน"ชิวลี่ฮวา เจ้าช่วยบดข้าวโพดที่เหลือให้ละเอียดกว่านี้นะ" เหม่ยหลินสั่งกำชับ ขณะที่มือเรียวของเธอกำลังคลุกเคล้าหัวไชเท้าขูดกับแป้งข้าวโพดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนเมื่อวาน"เจ้าค่ะท่านแม่" ชิวลี่ฮวารับคำอย่างกระตือรือร้น เธอใช้ไม้เท้าคนข้าวโพดที่แช่น้ำไว้ในครกไม้ขนาดใหญ่ พลางใช้สากตำอย่างระมัดระวัง แม้จะยังไม่คุ้นเคยกับงานครัวนัก แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกถึงความสุขที่ได้ช่วยเหลือหลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานช่วยกันก่อไฟในเตาฟืนจนเปลวไฟลุกโชน ส่วนหลี่เฟยหยางก็วิ่งพล่านไปมาในครัวอย่างสนุกสนาน คอยหยิบจับสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ตามที่เหม่ยหลินบอก"หลี่เฟยหลง เจ้าช่วยยกกระทะใบนี้ขึ้นตั้งบนเตาให้แม่หน่อย" เหม่ยหลินบอก เมื่อเธอปรุงส่วนผสมของลูกชิ้นหัวไชเท้าเสร็จแล้วหลี่เฟยหลงรับคำอย่างแข็งขัน ยกกระทะเหล็กหนักอึ้งขึ้นวางบนเตาอย่างคล่องแคล่ว แววตาของเขาจับจ้องการกระทำของเหม่ยหลินอย่างไ
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
แผนการลับ
แผนการลับของเชฟข้ามภพเมื่อกลับมาถึงบ้าน เหม่ยหลินก็เรียกทุกคนมานั่งรวมกันในห้องโถงอีกครั้ง ใบหน้าของเธอเคร่งเครียดกว่าเมื่อเช้า แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"เรามีเวลาแค่คืนนี้เท่านั้น" เหม่ยหลินกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "พรุ่งนี้เช้าเราต้องประลองรสชาติกับมาดามหลี่""แต่ท่านแม่...เราจะทำอะไรไปสู้บะหมี่เนื้อตุ๋นของนางได้ขอรับ?" หลี่เฟยหลงถามด้วยความกังวลเหม่ยหลินยิ้มบางๆ "เราจะทำ 'บะหมี่เจ' และ 'ซุปเห็ดหลินจือดำ'"คำว่า 'บะหมี่เจ' ทำให้ทุกคนงงไปตามๆ กัน"บะหมี่เจคืออะไรหรือขอรับท่านแม่?" หลี่เฟยหยางถามด้วยความสงสัย"มันคือบะหมี่ที่ไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เลย" เหม่ยหลินอธิบาย "เราจะใช้เส้นบะหมี่ที่เราทำเองจากแป้งข้าวโพด ผสมกับผักต่างๆ และเห็ดที่เรามีอยู่ แล้วปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยวและเครื่องเทศที่หาได้""แต่...มันจะอร่อยหรือขอรับ?" หลี่เฟยหานถามอย่างไม่แน่ใจ"เชื่อมือแม่เถอะ" เหม่ยหลินตอบอย่างมั่นใจ "และที่สำคัญ...เราจะต้องหา เห็ดหลินจือดำ มาให้ได้"ชื่อ 'เห็ดหลินจือดำ' ทำให้ทุกคนถึงกับตกใจ"เห็ดหลินจือดำ!" หลี่เฟยหลงอุทาน "ท่านแม่! เห็ดนั้นหายากมากนะขอรับ! แถมยังขึ้นอยู่แต่บนภูเข
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
เรื่องไม่คาดคิด
ชัยชนะจากการประลองรสชาติครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงให้เหม่ยหลินและตระกูลหลี่อย่างรวดเร็ว เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ตลาดในเมือง แผงขายอาหารของพวกเขาคึกคักเป็นพิเศษ ผู้คนต่างมาเข้าคิวรอซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" อย่างไม่ขาดสาย กลิ่นหอมฟุ้งของอาหารจีนโบราณที่ปรุงด้วยความพิถีพิถันลอยอบอวลไปทั่วทั้งตลาด"ท่านแม่เจียง! ข้าขอซุปเห็ดหลินจือดำสองถ้วย!""ท่านแม่เจียง! บะหมี่เจของท่านอร่อยจริง ๆ ข้าจะกลับมากินทุกวันเลย!"เสียงชมเชยและเสียงเงินทองที่ดังกระทบกัน สร้างรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเหม่ยหลินและลูก ๆ หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานช่วยกันตักอาหารอย่างคล่องแคล่ว ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยกันรับเงินและห่ออาหารด้วยความกระตือรือร้น"วันนี้เราขายดีมากเลยนะขอรับท่านแม่!" หลี่เฟยหยางเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ ใบหน้าเล็ก ๆ ของเขาเปื้อนไปด้วยคราบแป้งเล็กน้อยเหม่ยหลินยิ้ม "ใช่แล้วลูก วันนี้เราต้องทำอย่างเต็มที่นะ"ตลอดทั้งวันนั้น อาหารของเหม่ยหลินขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่ช่วงบ่าย ผู้คนบางส่วนถึงกับผิดหวังที่มาไม่ทัน พวกเขาก็ต่างสั่งจองอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้ล่วงหน้า"ท่านแม่! วันนี้เราได้เงินเยอะมากเลยขอรั
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
ท้าประลอง
คำพูดของเหม่ยหลินทำให้ทุกคนในตลาดถึงกับตกตะลึง รวมถึงหัวหน้าหมาและลูกน้องของเขาด้วย"ประลองฝีมืออย่างนั้นรึ! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน!" หัวหน้าหมาหัวเราะเยาะ "เจ้าเป็นแค่แม่ครัวอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น! จะเอาอะไรมาสู้กับพวกข้า!""ข้าไม่ได้ท้าเจ้าประลองกำลัง" เหม่ยหลินตอบ "ข้าขอท้าเจ้าประลอง...ปัญญา!"คำว่า 'ประลองปัญญา' ยิ่งทำให้ทุกคนงงไปกันใหญ่"ประลองปัญญาอย่างนั้นรึ! ตลกสิ้นดี!" หัวหน้าหมากล่าวอย่างเยาะเย้ย "เจ้าจะประลองปัญญาอะไรกับข้า!?""ข้าจะท้าเจ้าให้ตอบคำถามของข้าสามข้อ" เหม่ยหลินตอบอย่างมั่นใจ "หากเจ้าตอบได้ทั้งสามข้อ...ข้าจะยอมออกจากตลาดแห่งนี้ไปตลอดกาล และจะไม่กลับมาค้าขายอีก! แต่หากเจ้าตอบไม่ได้...เจ้าต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของข้า และห้ามมารังแกพวกเราอีกตลอดไป!"ข้อเสนอของเหม่ยหลินทำให้ผู้คนในตลาดต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยเห็นการประลองแบบนี้มาก่อนหัวหน้าหมาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปที่เหม่ยหลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูก เขาไม่คิดว่าแม่ครัวธรรมดา ๆ คนหนึ่งจะมีความรู้หรือปัญญาอะไรมากมายนัก"ได้! ข้ารับคำท้า!" หัวหน้าหมากล่าวอย่างลำพองใจ "เอาเลย! เจ
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
คลื่นใต้น้ำ
ชัยชนะจากการประลองปัญญาครั้งนั้นส่งให้ชื่อเสียงของ เหม่ยหลิน และ ตระกูลหลี่ ดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งตลาด และลามไปถึงหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างพูดถึง "แม่เจียงคนใหม่" ที่ไม่เพียงแต่ทำอาหารอร่อยเลิศ แต่ยังเฉลียวฉลาดและกล้าหาญ กล้าเผชิญหน้ากับผู้มีอิทธิพลอย่างหัวหน้าหมาเช้าวันรุ่งขึ้น แผงขายของเหม่ยหลินไม่เพียงแค่คึกคัก แต่กลับแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มาต่อคิวยาวเหยียด พวกเขาไม่เพียงมาซื้อ "บะหมี่เจผักรวม" และ "ซุปเห็ดหลินจือดำ" เท่านั้น แต่ยังมาเพื่อชมบารมีของเหม่ยหลินและลูก ๆ ของเธอด้วย"ท่านแม่เจียง! ข้ามาจากหมู่บ้านเจียงเป่ย! ได้ยินว่าอาหารของท่านอร่อยล้ำเลิศนัก ข้าจึงมาขอชิมด้วยตัวเอง!" ชายชราคนหนึ่งกล่าวด้วยความเลื่อมใส"ท่านแม่เจียง! ข้าซื้อบะหมี่เจของท่านไปให้ลูกเมียกินแล้ว! พวกเขาชอบมากเลย! ขอบพระคุณท่านแม่เจียงที่ทำอาหารดี ๆ แบบนี้มาให้พวกเราได้กิน!" ชาวนาอีกคนกล่าวพร้อมรอยยิ้มเหม่ยหลินยิ้มตอบรับคำชมเชยอย่างอ่อนน้อม เธอและลูก ๆ ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น หลี่เฟยหลงกับหลี่เฟยหานทำหน้าที่ตักบะหมี่และซุป ส่วนชิวลี่ฮวากับหลี่เฟยหยางก็ช่วยรับเงินและห่ออาหารด้วยความสนุกสนาน"ท่า
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
เงื่อนไข
แสงตะวันเริ่มลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงฉานเมื่อเหม่ยหลินกลับมาถึงบ้าน ตลอดทางกลับ เธอครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เธอและครอบครัวต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ คำสั่งของเจ้าเมืองหลี่กวงหมิงเป็นดั่งดาบที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย หากเธอปฏิเสธหรือทำผิดพลาดแม้แต่น้อย ชีวิตของเธอและลูกๆ อาจตกอยู่ในอันตรายเมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงบ้าน ใบหน้าของหลี่เฟยหลง ชิวลี่ฮวา หลี่เฟยหาน และหลี่เฟยหยาง ก็ปรากฏแก่สายตา แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและคำถาม"ท่านแม่! เป็นอย่างไรบ้างขอรับ? ท่านเจ้าเมืองพูดอะไรกับท่าน?" หลี่เฟยหลงเอ่ยถามทันทีด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหม่ยหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆ อย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในจวนเจ้าเมืองให้ทุกคนฟัง ตั้งแต่คำชมเชยของหลี่กวงหมิง ข้อเสนอให้เป็นพ่อครัวประจำจวน และคำสั่งให้ส่งอาหารทุกวัน รวมถึงการบีบบังคับให้บอกสูตรอาหารบรรยากาศในห้องเงียบสงัดลงทันที ใบหน้าของทุกคนซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลี่เฟยหลงที่กำมือแน่น ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ"ท่านเจ้าเมืองช่างบีบบังคับกันเกินไปแล้วขอรับ!" หลี่เฟยหลงเอ่ยขึ้นอย
last updateLast Updated : 2025-06-06
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status