เฮือก
หญิงสาวดิ้นรนสุดแรงเกิด ผวาลุกขึ้นนั่ง… ดวงตาคู่สวยคลอไปด้วยน้ำใสหยาดหยดจากปลายหางตา ร่างอรชรโทรมเหงื่อ
คล้ายกับความฝัน ทว่าใต้จิตสำนึกรับรู้โดยอัตโนมัติว่าทั้งหมดคือ 'ความจริง'
มือเรียวสวยได้รูปกุมศีรษะ ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าเพื่อหารอยเลือดจากการโดนทำร้าย
น่าแปลก ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งองคาพยพล้วนหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงแค่อาการปวดหัวจากการพักผ่อนน้อยอย่างที่เคยเป็นบ่อยๆ เมื่อสมัยเรียน
ขนิษฐากวาดตามองสถานที่โดยรอบเฟอร์นิเจอร์มีเพียงโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ เตียงนอน ตู้เสื้อผ้าขนาดย่อม ประตูห้องน้ำทาสีเขียวหลุดลอก
คล้ายจะคุ้นเคย และคล้ายจะไม่คุ้นเคย
หอพักนักศึกษา?
ใช่ที่นี่คือหอพักสมัยที่หล่อนเรียนมหาวิทยาลัย..
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หล่อนจำได้ว่าก่อนอนุสติสุดท้ายหลุดออกไป..หล่อนกำลังโดนไฮโซสาวทำร้ายร่างกายถึงแก่ชีวิต และโดนครอบครัวจอมปลอมทำลายทุกอย่างที่หล่อนมี
ทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ แทนที่จะเป็นโรงพยาบาล?
คำถามผุดขึ้นมาในสมองไม่ได้หยุด ก่อนจะพุ่งตัวไปยังกระจกโต๊ะเครื่องแป้งด้วยความรู้สึกสับสนงงงวย
ภาพสะท้อนตรงหน้าคือหญิงสาวหน้าตาประณีต ปากคอคิ้วคางล้วนรับกันหมดจด และที่เด่นสุดไม่พ้นดวงตายาวรีเมื่อยิ้มรูปตาเป็นสระอิ
'เฮียชอบตอนน้องยิ้ม'
คำพูดอ่อนโยนของชายคนรักพาให้ใจวาบหวาม จนหล่อนคิดว่าเขา 'จริงจัง'
ขนิษฐาถึงกับหัวเราะทั้งน้ำตา ทว่าครั้งนี้หาใช่ความหมองเศร้าสมเพชตนเองอย่างในอดีต
นี่..หล่อนกำลังย้อนเวลามาใช่ไหม?
สวรรค์ให้ ‘โอกาส’ หล่อนอีกครั้งใช่หรือเปล่า?
“ฮึก..ชาตินี้..ฉันจะไม่ยอมผิดพลาดเหมือนชาติที่แล้ว” คนหน้าสวยส่งสายตามุ่งมั่นไปยังภาพสะท้อนตรงหน้า มือเรียวสวยกุมปลายผมย้อมสีแดงสวยขึ้นมาดู
สีผมที่หล่อนย้อมเพื่อให้แตกต่างจากบรรดาเด็กเสี่ยคนอื่นๆ และเพื่อดึงดูดให้เขาหันมาสนใจ
รอยยิ้มเย้ยหยันถูกแต่งแต้มบนริมฝีปาก
แล้วไงล่ะ? ไม่ว่าหล่อนจะพยายามทำตัวดีแค่ไหน..ทุ่มเททั้งชีวิต จิตวิญญาณให้ไป..เขาก็ใช่จะเห็นใจ
ครอบครัวที่หล่อนรักก็ใช่จะเห็นคุณค่า
ทว่าตอนนี้กลับมีเพียงความรู้สึกร้าวระบมตรงส่วนล่างราวกับประจานผู้หญิงหน้าโง่..ผู้ติดกับดักความกตัญญู
เสียดาย..หล่อนดันย้อนมาหลังจากที่ตนขายตัวให้ไฮโซหนุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือราคาถูก ส่งผลให้ขนิษฐาสะดุ้งโหยง มือเรียวหยิบมันขึ้นมาดูสั่นเทา
‘แม่สาลี่’
ดวงตาคู่สวยเย็นชายิ่งนึกถึงภาพตอนที่ตนโดนอีสารเลวทุบตีจนเสียชีวิต แล้วมีนังแม่จอมปลอมยืนมองหน้าตาเฉยหล่อนก็แทบอยากขว้างมือถือทิ้ง
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก ‘สติ’ เท่านั้นที่จะทำให้หล่อนหลุดจากสถานการณ์เฮงซวยตอนนี้
เสียงโทรศัพท์เงียบไป ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้ง ขนิษฐาจึงรับสาย
“นังน้อง..ทำไมแกรับสายช้าขนาดนี้ ห๊ะ” เสียงหงุดหงิดจากปลายสาย มีผลให้มือเล็กกำโทรศัพท์แน่นขึ้น ทว่าน้ำเสียงที่ใช้ตอกกลับมารดาจอมปลอมยังคงสุภาพอ่อนหวานไม่ต่างจากในอดีต มีเพียงสายตาเย็นชาที่ผิดแผก
“ขอโทษทีค่ะ น้องพึ่งอาบน้ำเสร็จ”
“อืมๆ แม่มีเรื่องด่วนจะคุยกับน้องนะ” คนเป็นแม่ตัวปลอมเองก็พยายามปรับน้ำเสียงให้ดีขึ้น ด้วยตนโทรมาเพื่อ ‘ขอ’
“วันนี้ น้องอย่าลืมโอนเงินมาให้แม่นะลูก”
“….”
“น้องอย่าลืมนะ พรุ่งนี้แม่ต้องจ่ายค่าเทอมให้ยัยนุช” สาลี่อธิบายเพิ่มเมื่อเห็นปลายสายเงียบ ขนิษฐาบิดยิ้มรังเกียจ
ถ้าในโลกนี้มีการประกวด ‘คนหน้าด้าน’ มารดาจอมปลอมของหล่อนคงเข้ารอบด้วยไม่ยาก
ทั้งที่รู้แต่แรกแล้วว่าหล่อนหาใช่ลูกแท้ๆ ยังมีหน้ามาไถเงิน
ทั้งที่ขโมยทุกอย่างของหล่อนไป ยังแสร้งทำเป็น ‘ผู้มีพระคุณ’
อุบาทว์ชาติชั่วฉิบหาย…
คนหน้าหวานผู้ไม่เคยสบถ ได้แต่สบถสาบานในใจ
“น้องฟังแม่อยู่หรือเปล่าลูก”
“ขอโทษทีค่ะแม่..น้องมึนๆ หัว คล้ายกับไมเกรนจะกำเริบค่ะ”
“เหรอ? แล้วสรุปน้องจะโอนเงินให้แม่กี่โมง สี่โมงเย็นนี้ทันไหม?” ความเจ็บป่วยได้ไข้ของลูกสาวคนกลางหาใช่เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ ดังนั้นจึงเบี่ยงประเด็นไปยังผลลัพธ์ที่เจ้าหล่อนต้องการ
เป็นครั้งแรกที่ขนิษฐาพึ่งสังเกตเห็นได้ชัดแจ้ง..ทำไมภพชาติที่แล้วหล่อนไม่ทันสังเกตนะ
“ว่าไงน้อง ได้ยินที่แม่พูดไหม” เจ้าหล่อนถามซ้ำด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดขึ้น ก่อนจะรวบรัดตัดบทเองเออเองว่า
“ตกลงตามนี้นะ เดี๋ยวแม่ต้องไปขายของก่อนล่ะ”
เสียงฝั่งตรงข้ามชิงวางสายก่อน พาให้คนหน้าหวานหลุดหัวเราะแบบคนบ้า มือเรียวเสยผมสั่นเทา
“อยากได้เงินมาก ก็ไปขออีลูกไฮโซเองสิ”
ขอโทษทีนะ ชาตินี้หล่อนคงไม่โง่เป็นวัวเป็นควายให้พวกเขาหลอกใช้
หล่อนจะเรียนให้จบ..มีชีวิตดีๆ
ส่วนความรักจากครอบครัวจอมปลอมทั้งหลายหล่อนไม่ต้องการ!!!