Search
Library
Home / รักโบราณ / คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์ / บทที่ 31 อยากหอมแก้ม

บทที่ 31 อยากหอมแก้ม

2025-06-21 11:07:07

“ข้าเห็นว่านางใช้ชีวิตอย่างลำบากตามที่สังคมบีบบังคับให้นางต้องเป็น นางต้องทำเรื่องน่าสังเวชเช่นในตรอกนั่นก็เพื่อข้าวมื้อหนึ่ง แค่เพียงนางเคยขายตัว ชั่วชีวิตนี้นางจึงไม่อาจมีชีวิตเช่นสตรีทั่วไปได้อีกแล้วหรือ ทั้งที่นางยังงดงาม ยังคงสะอาดสะอ้าน กระทั่งเจ้าก็ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ชื่นชมนางได้ ไม่ใช่หรือ?” หลี่เฟิ่งซียนแทบจะตะโกนใส่หน้าจ้าวเหลียง

“คุณหนูใหญ่ ข้า..”

“พอแล้ว! ต่อไปห้ามทำกับนางเช่นนั้นอีก หากเจ้าไม่คิดจะแต่งนางเป็นภรรยา เพราะตอนนี้นางไม่ได้ขายตัวอีกแล้ว หากนางไม่สามารถหางานได้ ข้าจะให้งานนางทำเอง” หลี่เฟิ่งเซียนตะโกนออกไป

“คุณหนูใหญ่ เช่นนั้นไม่เหมาะสมขอรับ” จ้าวเหลียงรีบพูด เพราะห่วงฐานะของคุณหนูใหญ่

“อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม ข้าจะเป็นคนตัดสินเอง” นางบอก

“คุณหนูใหญ่ ข้ารู้ว่าท่านสงสารนาง แต่ท่านทำเช่นนี้ก็ช่วยได้เพียงนาง ยังมีหญิงคณิกาที่ไร้ที่ไปอีกมาก ท่านจะรับพวกนางทุกคนมาเลี้ยงด้วยหรือ ได้โปรดทบทวนด้วย” จ้าวเหลียงพูดในสิ่งที่เป็นความจริง 

หลี่เฟิ่งเซียนชะงักไป ใช่แล้วถึงนางจะช่วยอาหงได้ แต่หญิงที่ถูกปล่อยตัวจากหอนางโลมมีมากมาย นางไม่อาจช่วยชีวิตทุกคนได้

“ข้าจะพาอาหงไปด้วย ส่วนเรื่องที่เจ้าพูด ข้าจะหาทางทำอะไรสักทาง ต่อไปห้ามทำเช่นนั้นกับอาหงอีก ห้ามทุกคน เข้าใจหรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนพูดเด็ดขาด

“ขอรับ” เขาก้มหน้าลง

“เจ้าไปนอนได้แล้ว ไปนอนที่ห้องอื่น ไม่ใช่ห้องของอาหง” 

“ขอรับ” จ้าวเหลียงถอนหายใจ นึกว่าตัวเองต้องคุกเข่าทั้งคืนเสียแล้ว ถึงเขาจะไม่ได้ปลดปล่อยอย่างใจหวัง แต่ก็ยังดีกว่าต้องมารับโทษจากคุณหนูใหญ่ เขาทำงานให้แม่ทัพหลี่มานาน ย่อมรู้ถึงความร้ายกาจของคุณหนูใหญ่ดี แม้จะแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูใหญ่ เหตุใดนางถึงเปลี่ยนไปมาก แต่เขาไม่ถูกลงโทษอย่างไรก็ดีกว่า

เพราะหลี่เฟิ่งเซียนต้องการรีบเดินทางให้เร็วที่สุด เพื่อจะพาลู่มู่เฉินรีบกลับไปรักษาในเมืองหลวงให้เร็วขึ้น วันต่อมา แสงสว่างยังไม่ทันขึ้น ยู่ยี่ก็ถูกบังคับให้นำเสื้อผ้าไปส่งให้อาหง หลี่เฟิ่งเซียนเพียงบอกยู่ยี่ว่าต่อไปอาหงจะเป็นสาวใช้อีกคนด้วย

อาหงถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง นางไม่พอใจอย่างยิ่ง แต่พอถูกหยวนหยวนบ่นไปหลายคำ ในที่สุดนางก็ยอมใส่ชุดสาวใช้จวนแม่ทัพ

พอแสงรุ่งอรุณเริ่มรำไร ทุกคนก็มารวมตัวอยู่ด้านล่าง เหลือเพียงท่านเขยเท่านั้น รอจนย่างเข้ายามเหม่า เขาถึงยอมลงมา ใครเห็นก็รู้ว่าเขาสภาพดูไม่ได้

“เจ้าเป็นอะไร ไม่สบายหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

ลู่มู่เฉินทำเพียงพยักหน้า ยังคงก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมสบตาใคร

“เจ้าไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือไม่ เจ้ากินยาหรือยัง” นางเป็นห่วง

ลู่มู่เฉินพยักหน้า

“เช่นนั้นวันนี้งดการฝึกซ้อมไปก่อน เจ้าขึ้นไปนั่งในรถม้าเถิด ข้าจะขี่ม้า ส่วนอาหงกับยู่ยี่ พวกเจ้าเข้าไปนั่งบนรถม้าที่ขนเสบียงคันนั้นแทน มู่เฉินของข้าจะได้พักผ่อน” หลี่เฟิ่งเซียนจัดแจง

ลู่มู่เฉินทำเพียงพยักหน้าอีกครั้ง และก้มหน้าเดินขึ้นรถม้า ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ามีสาวใช้เพิ่มมาอีกคน เพราะเขามัวแต่ตกตะลึงกับคำว่า มู่เฉินของข้า

การเดินทางผ่านไปด้วยดี พวกเขาพักเที่ยงที่ริมลำธาร อาหงยังคงประชดว่าพวกเขาช่างร่ำรวยสมเป็นคุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพ แต่ไม่มีใครใส่ใจนาง ยิ่งหยวนหยวนยิ่งไม่อยากพูดกับนาง เพราะตลอดที่สองสาวนั่งรถม้า อาหงพูดมากเสียยิ่งกว่านาง! 

ลู่มู่เฉินอ้างว่าไม่สบายจึงไม่ยอมลงมากินมื้อเที่ยง หลี่เฟิ่งเซียนเป็นห่วงว่ากล้ามเนื้อของเขาที่นางฟูมฟักอย่างดีมาตลอดหลายเดือนจะกลับไปเป็นหนังหุ้มกระดูกอีกครั้ง นางจึงจำต้องหยิบเนื้อแห้งกับถุงน้ำขึ้นไปบนรถม้า บังคับเขาให้กินสักหน่อย

นางเข้าไปในรถม้า เห็นว่าลู่มู่เฉินกำลังนอนหลับพิงผนังข้างหนึ่งของรถม้า นางยังได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเขา หลี่เฟิ่งเซียนจึงนั่งลงข้างๆเขา นั่งมองเขานอนหลับ แต่มองได้เพียงครู่ นางสังเกตว่าหน้าของเขาแดงมาก นางเกรงว่าเขาอาจตัวร้อนมาก จึงยื่นมือไปแตะหน้าผากเขา แต่ยังไม่ทันถึงหน้าผาก มือผอมๆของเขาก็จับมือนางไว้เสียก่อน

“ข้าไม่เป็นไรมาก เพียงอ่อนเพลีย อยากจะนอนมากขึ้นอีกหน่อย” เขาบอกนางทั้งที่ยังหลับตา

“เจ้ากำลังหลบหน้าข้าอยู่หรือไม่?” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“ข้า ..ไม่สบายจริงๆ เจ้าอย่าคิดมากเลย” เขาโกหก

“เช่นนั้นข้านอนกับเจ้า”

ลู่มู่เฉินรีบลืมตามองนาง

“เมื่อคืนเกิดเรื่องมากมาย ข้าจึงนอนไม่ค่อยหลับ เจ้ารังเกียจหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“..จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร เช่นนั้น ให้ข้าละ..” 

“ถ้าเจ้าลงไป ข้าจะโกรธ” เขาพูดยังไม่ทันจบนางก็ขัดขึ้นก่อน

ลู่มู่เฉินมองกะพริบตาสองสามครั้ง

“เช่นนั้นข้าวางเนื้อแห้งและน้ำไว้ตรงนี้ เจ้ารู้สึกดีขึ้นก็ให้รีบกิน เข้าใจหรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนสั่งเขา

ลู่มู่เฉินพยักหน้ารับ นางถือว่าเขารับรู้แล้วจึงจัดแจงที่นอนของตัวเองบ้าง แต่เพราะรถม้าคับแคบ ตัวของลู่มู่เฉินก็สูงแขนขายาว ยิ่งทำให้เหลือพื้นที่น้อย นางจัดผ้าปูของตัวเองไปก็นึกถึงคำพูดของจ้าวเหลียงไปด้วย

‘ข้าเป็นผู้ชาย ขอเพียงอยู่ใกล้ๆข้า ข้าก็ต้องอยากทำ ไม่อาจห้ามได้’

จู่ๆหลี่เฟิ่งเซียนก็รู้สึกคอแห้ง นางอยากรู้ว่ามู่เฉินของนางจะเป็นเช่นผู้ชายคนอื่นๆด้วยหรือไม่ เพียงอยู่ใกล้ก็ทนไม่ไหว...

‘หรือที่จริงแล้ว ข้าเพียงอยากกินเต้าหู้เขา’ นางคิดอย่างหวาดหวั่น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นางมีความต้องการอยากกินเต้าหู้ใครสักคน อยากถูกเนื้อต้องตัวเขา อยากหอมแก้มเขา!!!

หลี่เฟิ่งเซียนแอบชำเลืองมองเขา ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนี้เท่าไหร่ โดยทั่วไป ยามที่นางไปเกี้ยวชายงามอื่นๆ นางมักจะอยากมองเขาเหล่านั้นเพราะงดงาม อ๋องเยียนก็งดงามน่ามอง แต่ความรู้สึกอยากกินเต้าหู้นั้นไม่เคยมี

ตกลงเป็นเขาที่ทนอยู่ใกล้ไม่ได้ หรือเป็นนางที่ทนอยู่ใกล้ไม่ได้!!

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP