แชร์

บทที่ 30 ความในใจของคนสองคน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-21 11:01:34

“ชิ เจ้าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่มากสินะ ข้าจะบอกให้ เพราะเจ้าชี้นิ้วคิดแทนผู้อื่น ข้าและพี่น้องอีกหลายคนถึงต้องไร้บ้านอยู่ ทั้งยังต้องมาถูกผู้คนดูแคลน ทำอาชีพอะไรก็ไม่ได้อีก บางคนที่ทนทำเช่นข้าไม่ไหวก็ทำได้เพียงขอทาน คุณหนูใหญ่เช่นเจ้าจะไปเข้าใจอะไร” อาหงลุกขึ้นชี้หน้าด่าหลี่เฟิ่งเซียน

“คุณหนูใหญ่เช่นข้า ข้าไม่ได้เผาบ้านของเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนก็ไม่ยินยอม

“หึ คุณหนูใหญ่ก็ยังเป็นคุณหนูใหญ่ ไม่เคยเข้าใจชีวิตมดปลวกเช่นพวกข้า ท่านโดนจับ หนีกลับไปได้ก็ยังเป็นคุณหนูใหญ่ แต่ชาวบ้านตัวเล็กๆ เช่นข้า โดนจับ ถูกย่ำยี ถูกขายครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่อาจกลับไปเป็นลูกสาวของพ่อแม่ได้อีก

เจ้าทลายโรงน้ำชาแล้วอย่างไร ชีวิตของข้าก็กลับไปเป็นคนเช่นเดิมอีกไม่ได้แล้ว พ่อแม่ญาติพี่น้องต่างรังเกียจ ปลูกบ้านสักหลังก็ไม่ได้ ไปขอรับจ้างทำสวนให้ใครเขาก็ไม่ต้องการ มือของข้าก็ไม่ได้สกปรก แต่พวกเจ้ามีใครบ้างไม่รังเกียจ ที่เดียวที่พวกข้าจะอยู่จนแก่ได้คือโรงน้ำชา งานที่เดียวที่พวกข้าทำได้คือนอนกับผู้ชาย

เจ้าช่วยหรือ เจ้าส่งคนมาทลายโรงน้ำชา อ้างว่าปล่อยพวกข้ากลับบ้าน แต่ไหนเล่าบ้านของพวกข้า! คนใจแข็งก็ต้องไปขอทานหรือไม่ก็ยอมขายตัวข้างถนน เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้มีกิน ใครทนไม่ได้ก็ต้องกลับไปโดดน้ำตาย หรือไม่ก็ถูกครอบครัวแท้ๆ จับใส่กรงไปทิ้งน้ำอยู่ดี

ข้าไม่มีอะไรตกถึงท้องมาทั้งวัน สุดท้ายมีคนชั่วสามคนยื่นข้อเสนอ ข้ายินดีกระโดดเข้าไปในน้ำโคลน เจ้าคิดว่าข้าไม่รังเกียจหรือ แต่ความหิวมันน่ากลัวกว่านัก เจ้าเคยไม่มีอะไรกินเลยหรือไม่ คุณหนูใหญ่เช่นเจ้าจะเข้าใจอะไร!!

คำสอนของกุลสตรี คุณค่าของสตรี ศักดิ์ศรีหรือ เพ้ย!!”

อาหงถ่มน้ำลายลงบนพื้น

หลี่เฟิ่งเซียนตกตะลึงกับเรื่องที่ได้ฟัง นางไม่เคยรับรู้ว่าพวกนางต้องเจอสิ่งใดบ้าง คิดเพียงว่าจะทลายโรงน้ำชาให้สาสมแก่ความโกรธของนาง นางคิดเพียงทำลายหอนางโลมเถื่อน หญิงสาวพวกนั้นที่ถูกบังคับมาอย่างไม่เต็มใจก็จะได้กลับบ้าน แต่ไม่เคยคิดว่าคนที่บ้านจะยังยินดีรับหญิงที่เคยอยู่ในหอนางโลมกลับเข้าบ้านหรือไม่

ท่านพ่อของนางรักนางมาก ไม่เคยแสดงความรังเกียจที่นางถูกจับไป แต่ใช่ว่าชาวบ้านทั่วไปจะเป็นเช่นนั้น ตัวนางเอง หากกลับไปที่เมืองหลวงก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับคำนินทามากมายเพียงใด แม้นางจะไม่ใส่ใจ แต่นางอยู่ในฐานะที่ไม่ใส่ใจก็มีข้าวกิน ไม่เหมือนอาหงหรือหญิงขอทานคนอื่นๆ

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าใส่เสื้อผ้าเถิด” หลี่เฟิ่งเซียนพูด

จับเสื้อผ้าของจ้าวเหลียงโยนให้อาหง และเดินออกจากห้องนั้น นางอาจไม่รู้เรื่องอื่นๆ แต่เรื่องที่หิวจนยอมทำเรื่องน่ารังเกียจ เรื่องที่รักชีวิตจนต้องทำทุกทางเพื่ออยู่รอด นางก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง หากไม่ได้มู่เฉินคอยให้ความช่วยเหลือ ไม่แน่นางอาจต้องมีชีวิตอยู่ไม่ต่างจากอาหง

การที่มีลู่มู่เฉินเข้ามาในชีวิตของนางเช่นนี้ ช่างดียิ่ง ไม่ว่าอย่างไรนางก็ตัดสินใจว่าจะไม่ปล่อยมือจากเขา ยิ่งได้รับรู้เรื่องของอาหงนางยิ่งแน่ใจ

หลี่เฟิ่งเซียนเดินลงไปด้านล่าง โยนถุงเงินให้เสี่ยวเอ้อ สั่งให้ทำอาหารอุ่นยกขึ้นไปที่ห้องของจ้าวเหลียงชุดหนึ่ง และบอกให้เสี่ยวเอ้อหาช่างไปซ่อมประตูห้องด้วย

ส่วนนางตรงไปที่ห้องของทหารคนอื่นๆ ตั้งใจจะไปลงโทษจ้าวเหลียง แต่ไปถึงที่นั่นกลับเห็นเพียงทหารคนเดียว ครั้งนางถามจึงได้ความว่าคนอื่นๆ ไปเฝ้ายามบ้าง ตรวจตรารอบๆ บ้าง ตัวเขาพึ่งออกจากเวรเฝ้ายาม ยามนี้ต้องรีบนอนเอาแรง ส่วนจ้าวเหลียงออกไปรอรับโทษอยู่ที่หลังสวน

หลี่เฟิ่งเซียนจึงเดินไปหลังสวนของโรงเตี๊ยม เห็นจ้าวเหลียงนั่งคุกเข่ารออยู่ นางเดินเข้าไปใกล้ แต่ก็ยืนอยู่นานก็ไม่อาจพูดสิ่งใดออกไปได้ ครั้งนี้หลี่เฟิ่งเซียนได้รับรู้สิ่งต่างๆ มากมาย นางจึงตัดสินใจว่าจะถามก่อนค่อยลงโทษ

“เจ้า เหตุใดถึงทำเช่นนั้น”

“ข้าคิดว่าท่านอาจเหนื่อยและหลับไปแล้ว ในห้องของท่านเขย” จ้าวเหลียงตอบ

“ข้าหมายถึง เหตุใดถึงทำเช่นนั้นกับอาหง นางขอร้องเจ้า นางยั่วยวนเจ้า หรือเพราะเจ้าชอบนาง ข้าบอกให้เจ้ามัดนางไว้ เหตุใดถึงไม่หาอะไรให้นางใส่ หรือหาอะไรให้นางกิน เจ้ารู้หรือไม่ นางไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวันแล้ว”

“นางบอกข้าแล้ว แต่นางเป็นนักโทษ ข้าไม่ได้มีหน้าที่ดูแลนาง” เขาตอบสั้นๆ

“เจ้าไม่ได้มีหน้าที่ดูแลนาง แล้วเจ้าเป็นสามีของนางหรือถึงทำเช่นนั้นกับนางได้” หลี่เฟิ่งเซียนตะคอกด้วยความไม่พอใจ

“คุณหนูใหญ่ นางเป็นหญิงคณิกา นางทำเรื่องพวกนั้นเป็นปกติ” เขาเงยหน้าพูดกับนาง คล้ายว่าเขาไม่ได้ทำเรื่องผิด

คำตอบของจ้าวเหลียงจะว่าผิดก็ไม่ผิด แต่จะว่าถูกต้องก็คล้ายไม่ใช่ ในใจหลี่เฟิ่งเซียนสับสน

“ข้าไม่เข้าใจ ข้าคิดว่าคนเราจะทำเช่นนั้นกับคนที่เราชอบเท่านั้น เจ้าไม่รังเกียจนางหรือ เจ้าชอบนางเข้าแล้วงั้นหรือ” นางถามอย่างสงสัย

“ข้า...” แต่เขากลับพูดออกมาไม่ได้

“ตอบข้าตามจริง! ตามที่เจ้าคิด ข้าต้องการรู้ความจริง”

จ้าวเหลียงถอนหายใจ

“คุณหนูใหญ่ ในโลกนี้มีคู่สามีภรรยาที่แต่งงานโดยไม่เคยพบหน้า ไม่เคยรักกัน แต่พวกเขาก็ทำเรื่องเช่นนี้ได้ ข้าเป็นผู้ชาย ขอเพียงแก้ผ้าอยู่ใกล้ๆ ข้า ไม่ว่านางเป็นใคร ข้าก็ต้องอยากทำ ไม่อาจห้ามได้”

จ้าวเหลียงเงยหน้าสบตาคุณหนูใหญ่ พูดไปตามตรง

“ห้ามไม่ได้ เพียงเพราะเป็นชายหรือ?” นางถาม

“ขอรับ”

“แต่เจ้าเป็นคนที่ให้เกียรติหญิงสาวมาก ขนาดยู่ยี่เจ้ายังไม่จ้องมองนานๆ เพื่อให้นางรู้สึกไม่ดีไม่ใช่หรือ” หลี่เฟิ่งเซียนไม่เข้าใจ

“หยวนหยวนเป็นสตรีที่ดี ไม่ใช่หญิงคณิกา”

“แต่อาหงก็เคยเป็นสตรีที่ดี เคยมีพ่อแม่ เคยมีศักดิ์ศรีไม่ต่างจากยู่ยี่”

“แต่ตอนนี้นางเป็นหญิงคณิกาแล้ว! ผ่านชายนับไม่ถ้วน ท่านก็เห็นสิ่งที่นางทำในตรอกไม่ใช่หรือคุณหนูใหญ่” เขาไม่เข้าใจ นางต้องปกป้องหญิงขายตัวคนหนึ่งไปเพื่ออะไร!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status