หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว
‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลง
ลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้
“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน
“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน
มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ
“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่นตรงร่องกลีบดอกไม้ของนางก็ทำให้เขาตัวสั่นเสียวซ่านจนขนลุกไปทั้งตัว เขาไม่อาจคาดคิดว่าหากเขาได้เข้าไปในตัวนางจะรู้สึกดีมากเช่นไร
หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มรู้สึกเหงื่อตก เพราะยิ่งใส่มันก็ยิ่งคับแน่นจนเจ็บ นางเริ่มตัวสั่นจนคุมไม่ได้ ขาก็สั่นจนทรงตัวนั่งไม่ค่อยอยู่
“อย่า อย่า พอ..” เขาเองก็เริ่มทำเสียงขาดหายเป็นช่วงๆ เริ่มควบคุมความรู้สึกนึกคิดไม่ได้ รับรู้แต่กลีบดอกไม้ที่เริ่มโอบหุ้มแท่งเนื้อแกร่งทีละเล็กทีละน้อย หลี่เฟิ่งเซียนรู้อยู่แล้วว่าต้องเจ็บ แต่ไม่นึกว่าจะเจ็บมากเพียงนี้ แต่นางไม่ยอมแพ้
‘เจ็บน้อยแต่เจ็บนาน ไม่สู้เจ็บครั้งเดียวให้จบๆไป’ นางคิด
ครั้งนางรู้สึกว่าปลายของท่อนหยกร้อนเข้าไปในตัวนางได้บ้างแล้วเล็กน้อย จากนั้นนางก็ปล่อยมือจากด้ามแกร่งท่อนนั้น ก้มลงมาใช้สองมือโอบคอเขาไว้ ดันลงไปสุดแรง!!!
“อย่า อึก!!....” เขาพูดไม่ทันจบ นางก็ดันลงมาจนมิดแก่นเนื้อลำใหญ่ เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ ความเจ็บปวดและความเสียวกระจายไปทั่วทั้งตัว ราวกับพิษร้ายแรงที่ทำให้เขาใกล้หมดลมหายใจ
หลี่เฟิ่งเซียนล้มลงบนอกของเขา สั่นเทาไปทั้งร่าง เขาอยากจะพูดปลอบนางว่าไม่เป็นไร หรือถามนางว่าเจ็บมากใช่หรือไม่ แต่พิษแห่งความเสียวสุขนี้ ทำให้เขาทำได้เพียงอ้าปากพะงาบพะงาบ ปลายเท้าจิกลงไปบนฟูก
“เจ้าเป็นของข้าแล้ว” ร่างสั่นเทาบนอกของเขาใช้เวลาสักพักกว่าจะพูดประโยคนั้นออกมาได้ เสียงของนางแหบเบาจนแทบฟังไม่ออก นางยื่นมือสั่นลูบไปตามแผงอกผอมแห้ง แม้จะเจ็บมากแต่นางก็ภูมิใจมากเช่นกัน
“เจ้าเป็นของข้าแล้ว เจ้ามีความสุขหรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเขา สองมือยังสั่นเล็กน้อย นางเจ็บแต่ยังฝืนยิ้มให้เขา
ลู่มู่เฉินดีใจจนขอบตาแดง น้ำตาคลอเต็มเบ้า นัยน์ตาสั่นระริกเป็นประกาย เขาย่อมต้องดีใจ และมีความสุขมาก แต่ยามนี้ความรู้สึกดีๆหลายสิ่งกำลังรุมกระแทกเขาจนพูดไม่ไหว เพียงนางขยับตัวลุกขึ้น เขาก็แทบจะแตกสลายเพราะความสุขสมและเสียวซ่าน
นางเห็นว่าเขาไม่ตอบจึงทำตามอาหงแนะนำต่อไปเพื่อเอาใจเขา
หลี่เฟิ่งเซียนขยับอย่างเร่าร้อน แม้นางจะยังเจ็บอยู่ สองมือจับหมั่นโถวของตัวเองบีบขยี้เบาๆ เงยหน้าขึ้นอ้าปากหายใจ
“อา...” นางร้องออกมาได้เพียงเท่านั้น เพราะมันเจ็บจนนางขยับอีกไม่ไหวแล้ว
แต่ท่าทางเช่นนั้นอยู่ในสายตาของลู่มู่เฉินทุกขณะหายใจ ทั้งงดงามชวนหลงใหลและทำให้ความเสียวซ่านพุ่งเกือบถึงขีดสุด นางยังขยับจนเขาทนไม่ไหวอีก
“อะ อะ ซีดดด...อึก..” เขาทำท่าทางเจ็บปวดอย่างยิ่ง น้ำตาไหลรินไปยังข้างแก้ม ทั้งเขายังอ้าปากหุบปาก คล้ายว่าหายใจไม่ค่อยออก หลี่เฟิ่งเซียนนึกได้อย่างเดียวคือ เขาเจ็บปวดทรมาน ด้วยความเป็นห่วงอย่างโง่งม นางจึงลุกขึ้นถอนร่างกายออกมาทันที
ลู่มู่เฉินชักกระตุกอย่างแรงสองสามครั้ง ท่อนเนื้อแกร่งนั่นพ่นของเหลวขาวข้นออกมามากมาย มันพุ่งขึ้นสูงจนเปื้อนขาของนาง และยังเปื้อนช่วงเอวช่วงสะโพกของเขาไปมากมาย
หลี่เฟิ่งเซียนมองอย่างตื่นตะลึง นางเห็นว่ามีคราบเลือดเล็กน้อยติดอยู่ที่เอ็นเนื้อของเขาด้วย นางยังไม่ทันดูให้ชัดเขาก็รีบตะแคงตัวหลบซ่อนสิ่งนั้นเอาไว้
“อย่ามอง” เขาพูดเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งจนน่าสงสาร หายใจเหน็ดเหนื่อยคล้ายกับวันนั้นที่พวกเขาวิ่งหนีเหล่าขอทาน
นางเองก็รู้สึกเจ็บมาก แต่สงสารเขามากกว่า จึงค่อยๆนั่งลงยื่นมือแตะไหล่ผอมบางของเขาต้องการปลอบโยน เขาสะดุ้งเล็กน้อย รีบซุกหน้าลงฟูกหลบหนีความอับอาย สองมือยังคงถูกมัดไว้ที่หลัง
“ข้าผิดเอง เจ้าเจ็บมากหรือไม่” นางถาม
คำถามของนางทำให้บุรุษเช่นเขาไม่รู้จะตอบเช่นไร เขารู้สึกสุขสมเสียวซ่านยากเกินจะบรรยาย แต่คำถามเช่นที่นางถาม ปกติควรต้องเป็นฝ่ายชายถามไม่ใช่หรือ ลู่มู่เฉินอับอายจนอยากจะขุดหลุมจากตรงนั้นและหนีลงไปอยู่ด้านล่างไม่ต้องออกมาพบเจอผู้ใดอีกเลย
หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกผิดมากที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดมากเพียงนี้ นางเป็นคนผิด บังคับเขาร่วมหอกับนาง ถึงตัวนางก็เจ็บปวดจนขาสั่นแต่จะบ่นได้หรือ นางกัดฟันลงจากเตียงด้วยขาสั่นๆ ใส่เสื้อผ้าลวกๆ แก้มัดให้เขา เขายังคงนอนแน่นิ่งไม่ขยับ
“ข้าขอโทษข้าผิดเอง” หลี่เฟิ่งเซียนขอโทษเขา
“ข้าจะให้คนเอาน้ำอุ่นมาให้เจ้าเช็ดตัว” นางพูดอย่างอ่อนโยน
ลู่มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมามองนางอย่างห่วงใย แต่นางนึกว่าเขาอยากร้องไห้ จึงก้มลงไปจูบแก้มเขาเบาๆเพื่อปลอบประโลม ดึงผ้าห่มมาห่มตัวเขาเอาไว้
“เรื่องนี้ข้าผิดเอง เจ้าไม่ต้องห่วง ข้ามันเลวนัก จะไม่บังคับเจ้าเช่นนี้อีก” พูดเสร็จนางก็ออกจากห้องไปเลย
เขารีบยกมือตั้งใจจะคว้านางเอาไว้ กลัวว่านางจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ แต่เขาลืมไปว่ามือที่ยกไปคว้านั้นคือมือซ้าย มือที่เขายื่นไปจึงทำเพียงโดนชายแขนเสื้อของนาง เขาไม่สามารถกำชายเสื้อนั้นไว้ได้ ครั้งรีบยื่นมืออีกข้างไปรั้งก็ไม่ทันเสียแล้ว