แชร์

บทที่ 54 เมา

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-25 23:28:40

หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้

หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้าน

แม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้น

ต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้ว

แต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้าเรือนของนาง กลับไม่กล้าเข้าไป ถึงแม้จะได้ยินเสียงนางเมาเอะอะโวยวายใส่หยวนหยวน พูดบ่นว่าคิดถึงเขาเพียงใด แต่นางกลับด่าตัวเองว่าเป็นคนชั่วไม่มีหน้ามาเจอเขาอีก ลู่มู่เฉินคิดทบทวนและเดินกลับห้องของตัวเอง เช่นนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ? ..

เวลาผ่านไปอีกหลายวันจนกระทั่งถึงกำหนดส่งตัวอาหงเข้าวัง คุณหนูใหญ่ในสภาพเมามายเดินออกไปรับราชโองการ หลังจากที่เหล่าขันทีกลับไปแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนถูกท่านย่าสั่งโบยสิบที

โชคดีได้จ้าวเหลียงที่สภาพยังไม่หายดีมาช่วยรับการโบยไปทั้งหมด หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกซาบซึ้งที่เขามีน้ำใจต่อนาง เขายังคงทำตามคำสั่งของท่านพ่ออย่างเคร่งครัด แม้ว่าก่อนหน้านั้น นางจะซ้อมเขาปางตาย

เย็นนี้นางจึงตั้งใจจะนำยาไปให้จ้าวเหลียงสักหน่อย เป็นยาสมานแผลที่นางค้นเจอจากสัมภาระของลู่มู่เฉิน ตอนนางเดินเข้าไปในห้องของจ้าวเหลียง นางเห็นเขานั่งเหลาผงถ่านอยู่ พอนางเข้าไปใกล้ เขารู้สึกตัวก็รีบร้อนเก็บกระดาษที่วางไปทั่วบนโต๊ะ

“อารายยย มีอาไรต้องหลบข้า” นางยังคงเมาสุราไม่สร่าง

“เอามา!” นางสั่งเขา

สุดท้ายจ้าวเหลียงก็ต้องส่งกระดาษสองสามแผ่นนั้นให้นางดูอย่างไม่เต็มใจ ในกระดาษพวกนั้น เป็นรูปของอาหงที่ถูกวาดจากผงถ่านสีดำ บางท่วงท่านางยังใส่เสื้อผ้า บางท่วงท่านางเปลือยเปล่า แต่ทุกรูปล้วนงดงาม

หลี่เฟิ่งเซียนมองรูปพวกนั้นและหันไปมองจ้าวเหลียง เขาหลบตาไม่กล้ามองนาง เกรงว่านางจะด่าและทุบตีเขาอีก แต่นางกลับทำเพียงยื่นรูปพวกนั้นคืนให้เขา นั่งลงบนเก้าอี้ วางขวดยาสมานแผลลงบนโต๊ะ

“นี่เป็นยาของมู่เฉิน ถ้าใช้ไม่หมดก็เอาไปคืนเขา” นางบอกสั้นๆ

“เอ่อ ท่านเอามาให้ข้าหรือ..อ้อขอบคุณขอรับ” เขาไม่กล้าถามมากเพราะนางส่งสายตาอาฆาตมาเต็มที่

เขานึกว่าให้ยาเขาแล้วนางจะกลับ แต่คุณหนูใหญ่กลับยังนั่งอยู่ตรงนั้น จ้าวเหลียงไม่รู้จะทำอย่างไร จึงนั่งจ้องมองรูปที่ตัวเองวาด

“เหตุใดท่านถึงนำนางไปถวายเป็นเครื่องบรรณาการ” เขาถาม

“เพราะเป็นความต้องการของนาง” หลี่เฟิ่งเซียนตอบตามความจริง

“นางอาจไม่รอดที่นั่น นาง นางเป็นเพียง..”

“นางเป็นคนที่เข้มแข็ง และรักชีวิต นางจะหาทางเอาตัวรอดได้ แม้เจ้าหรือใครๆ อาจจะดูถูกวิธีการของนาง แต่นางจะรอดแน่ และข้า คุณหนูใหญ่จวนแม่ทัพหลี่ผู้นี้จะไม่ปล่อยให้นางตายหรอก” หลี่เฟิ่งเซียนตัดบท

“ข้า ข้า..ข้าเพียง”

“เจ้าชอบนางหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนถาม

“ไม่ใช่เช่นนั้น ..” จ้าวเหลียงพูดไม่ออกว่าที่จริงแล้วอาหงเป็นผู้หญิงแบบที่เขาชอบ นางสวย หน้าอกใหญ่ มีตาเรียวยาว มองดูแล้วชวนยั่วยวน

“เจ้ารู้สึกอย่างไรกับนาง เพียงพูดออกมาตรงๆ ยากที่ใดกัน”

“ข้ารู้สึกว่าไม่มีทางแต่งกับสตรีที่เคยผ่านการทำงานเช่นนี้ แต่ข้ายอมรับว่าเทียบกับสตรีอื่นๆ อาหงงดงามกว่ามาก”

“เช่นนั้นก็เลิกสนใจนางเถิด ถึงเจ้าจะชอบนางจริง แต่เจ้าไม่มีวันรับนางเป็นภรรยา แม้แต่อนุเจ้าก็ไม่สามารถให้นางได้ นางแต่งกับฮ่องเต้ แม้อันตรายสารพัด ไม่มีวันได้รับความรักจากสามี

แต่ได้อิ่มท้อง ไม่ต้องร่อนเร่หลับนอนกับคนที่ข้างตรอกถนน สิ่งที่นางทำจะสร้างความเชื่อใหม่ให้ผู้คน หญิงสาวที่ต้องขายตัวทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ จะไม่มีใครถูกคนสารเลวเช่นพวกเจ้าดูถูกอีก” หลี่เฟิ่งเซียนพูดเหตุผลทั้งหมดออกมา มันจริงแท้จนจ้าวเหลียงพูดไม่ออก

หลี่เฟิ่งเซียนเอง เมื่อมองดูจ้าวเหลียงแล้วคล้ายเข้าใจบางสิ่ง ลู่มู่เฉินไม่ยินยอมเป็นของนาง แม้ร่างกายของเขาจะตอบสนองต่อร่างกายของหญิงสาวทุกคน แต่เขาไม่เต็มใจร่วมหอกับนาง

นางจะไม่บังคับเขา นางไม่อยากกลายเป็นคนที่เขารังเกียจเช่นเดียวกับจ้าวเหลียงที่ถูกอาหงมองเมิน นางอยากให้เขารักนาง นางจะหาหนทางอื่นทำให้เขารักนางและยินยอมเป็นของนางด้วยความเต็มใจ เขาชมชอบหญิงแพศยานั่นแล้วอย่างไร เขาแต่งกับนางแล้ว อยู่ก็เป็นคนของนาง ตายก็ต้องเป็นของนาง

“เจ้าว่า หากต้องการทำให้คนผู้หนึ่งรักเราจากใจจริง ควรทำเช่นไร” หลี่เฟิ่งเซียนปรับทุกข์กับจ้าวเหลียง ผู้ที่ไม่รู้จักการถนอมคนคนที่ชอบจนสูญเสียนางไป

“ท่านถามข้า ข้าจะรู้เรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร แต่หากท่านหมายถึงท่านเขย เขารักท่านออกปานนั้น ยังต้องทำอันใดอีก” จ้าวเหลียงพูดตามที่เห็น

“เขา..เขาน่ะหรือรักข้า?!” นางตกใจรีบยืนขึ้น

“เจ้าพูดอะไร เหลวไหล” หลี่เฟิ่งเซียนต่อว่า หายเมาแทบจะในทันที

จ้าวเหลียงมองคุณหนูใหญ่ราวกับคนไม่เข้าใจสิ่งใดไปชั่วขณะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 55 เข้าหอครั้งละสามสี่คน

    “ข้าเป็นผู้ชายเหตุใดจะมองไม่ออกว่าเขาหวั่นไหวกับท่านแทบแย่ แต่พยายามเก็บอาการ ข้าไม่รู้ว่าท่านกับเขาผิดใจอันใดกัน แต่ลองพูดคุยกับเขาตรงๆ เขาย่อมต้องเข้าใจท่านอยู่แล้ว” จ้าวเหลียงให้คำแนะนำหลี่เฟิ่งเซียนหัวใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ นางทำเรื่องเลวร้ายไปมากมายเช่นนั้น ยังจะมีเรื่องเข้าใจผิดอันใดอีก แต่หากเป็นดั่งที่จ้าวเหลียงพูดจริง นางควรทำเช่นไรดี อยากลองพูดคุยจริงจังกับเขาสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าหากเขาตอบว่าชื่นชอบหญิงในชุดขาวผู้นั้น นางควรทำอย่างไร แต่หากเขาชอบนางอย่างที่จ้าวเหลียงพูดจริงๆ และนางปล่อยไปเช่นนี้ ดีแล้วแน่หรือ“ข้าต้องไปก่อนนะ” พูดแล้วหลี่เฟิ่งเซียนก็เดินออกจากห้องพักของจ้าวเหลียงทันที อยากรีบไปหาสามีของตัวเองเพื่อพูดคุยให้รู้เรื่องนางไปรอเขาที่หน้าประตูจวน เพียงไม่นานก็เห็นรถม้ากำลังใกล้เข้ามา นางรอจนกระทั่งรถม้าจอด เขาเปิดประตูออกมา นางคล้ายว่าไม่ได้เห็นเขามาหลายวันมาก คิดถึงเขาจนอยากวิ่งเข้าไปกอด แต่นางไม่กล้าหลี่เฟิ่งเซียนพบว่าเขากำลังมองมาที่นางเช่นกัน คล้ายว่าเขาจะขมวดคิ้วและทำหน้าโกรธ จู่ๆ นางก็กลัวที่จะเข้าไปหาเขา จึงเลือกที่จะหนีออกมาอย่างรวดเร็วลู่มู่เฉินรู้สึกเจ็

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 54 เมา

    หลี่เฟิ่งเซียนเดินออกไปจากห้องนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งมองมือซ้ายของเขา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจที่วันนั้นตัดสินใจหักมือข้างนั้น คิดอีกที หากเขาไม่ทำเช่นนั้นคงไม่สามารถรอดมามีความสุขเช่นนี้ได้ แต่ความสุขเช่นนี้ดีแน่แล้วหรือ เขาคิดกลับไปกลับมาอยู่เช่นนั้นทั้งคืน บ่าวชายที่มาช่วยเขาเช็ดตัว เขาก็จำหน้าไม่ได้หลังจากเรื่องวันนั้น หลี่เฟิ่งเซียนก็หลบหน้าเขา แต่มีหยวนหยวนส่งน้ำแกงปลาและน้ำแกงไก่มาให้เขาทุกเช้า เขาเองแม้จะเริ่มคิดถึงนางมากแต่ไม่กล้าไปหานางที่ห้อง เพราะความอับอายที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องถูกจู่โจมอย่างสิ้นท่า ไร้การต่อต้านแม้นางจะพูดว่านางเป็นคนผิด แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ หากวันนั้นเขาไม่ยินยอมจริงๆ นางตัวเล็กเพียงนั้นจะถึงขั้นขืนใจเขาได้หรือ เขาประเมินความต้องการของเขาผิดไป ไม่นึกว่าจะต้องการนางมากถึงขั้นขาดสติ ปล่อยให้เรื่องราวเช่นนั้นเกิดขึ้นต่อมาลู่มู่เฉินยังได้ยินพ่อบ้านพูดว่านายหญิงผู้เฒ่าร้อนใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ หลี่เฟิ่งเซียนก็กลับไปเที่ยวหอเข่อซินอีกแล้ว ท่านพ่อบ้านขอให้เขาช่วยพูดกับคุณหนูใหญ่ว่าไม่ควรไปเที่ยวสถานที่เช่นนั้นอีกเพราะนางแต่งงานแล้วแต่เมื่อเขาเดินไปถึงหน้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 53 ตื่นตะลึง (NC)

    หลี่เฟิ่งเซียนหันไปมองแท่งหยกที่นางกำไม่มิดนั้น กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ตัดสินใจยกก้นขึ้นและจับท่อนหยกร้อนของเขาถูไปมา ยามนี้ผลท้อของนางเต็มไปด้วยน้ำแห่งความสุขแล้ว‘เพียงลูบคลำเจ้านี่ ข้าก็สามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้แล้วหรือ’ นางสงสัย จำได้อาหงบอกว่าเช่นนี้นางจะเจ็บน้อยลงลู่มู่เฉินรู้ทันทีว่านางคิดจะทำอะไร ถึงเขาจะอยากให้นางทำ และต้องการมากเพียงใด แต่มโนสำนึกของเขาและความตั้งใจของเขายังคงทำให้เขามีแรงจะดึงสติกลับมาได้“อย่า อย่าทำเช่นนี้” เขาขอร้องอย่างร้อนรน“เจ้าไม่อยากเสียใจภายหลังหรอกนะ เชื่อข้าเถิด เฟิ่งเอ๋อร์” เขาอ้อนวอนนาง แต่หลี่เฟิ่งเซียนใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ บังคับไม่ให้เขาลุกขึ้นหนีไปไหน มืออีกข้างของนางก็จับแท่งหยกร้อนนั่นถูไปมาที่ร่องกลีบดอกไม้ของนาง ก่อนที่นางจะออกแรงดันตัวเองลงไป หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกได้ถึงความดุดันของท่อนหยางร้อนลวกของเขาที่กำลังดุนดันเข้าไปในร่องกลีบดอกท้อ“พอแล้ว ขอร้อง อย่าทำเช่นนี้ อย่า” เสียงต่ำแหบพร่าของเขาขอร้องให้นางหยุด ในขณะที่อีกใจหนึ่งของเขากำลังรอให้นางดันตัวลงมากอดรัดเอ็นอุ่นนั้นไว้ เพียงแค่นางถูไถโลมเล้าเคล้าคลึงไปมา ความนุ่มลื่

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 52 ข้าจะเบามือ (NC)

    เขาพลิกตัวอยากจะกระโดดหนีลงไปด้านล่าง แต่เพียงแค่เขาเอียงตัวนางก็ใช้เท้าเล็กๆของนางเหยียบลงมาที่ไหล่ของเขา ดันให้เขาพลิกตัวประชันหน้ากับนางตรงๆ เขาอยากมีแรงมากกว่านี้เพื่อดันเท้านั้นให้หลุด น่าเสียดายที่วันนี้เขาอ่อนแอมากกว่าทุกที เขายังได้รับบาดเจ็บจากการทดลองยาอยู่ และภาพภรรยาตัวเปลือยเปล่า งดงามจนเขาตกตะลึง ลืมว่าต้องหนีสองมือถูกมัดไว้พ่ายหลัง ยิ่งดันให้ช่วงสะโพกแอ่นขึ้น ท่อนหยกร้อนของเขาชูชันแสดงตัวอย่างกับต้องการบอกให้นางรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร มันชูชันสูงใหญ่ดั่งเสาค้ำสวรรค์ก็ไม่ปาน หลี่เฟิ่งเซียนตาโต จ้องมองหัวใจสั่นไหว ลู่มู่เฉินงอขาและพยายามหนีบเจ้านั่นเอาไว้ แต่ยามนี้มันขยายใหญ่จนปิดไม่มิด ภาพที่นางอ้าขาเหยียบไหล่เขาเอาไว้ แม้งดงามจนเขาถอนสายตาไม่ได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในฐานะบุรุษผู้หนึ่ง อย่างไรเขาก็ไม่อาจรับตัวเองได้ เขาอ้าปากเพื่อหายใจ หลับตาแน่นเพื่อลดทอนความอับอายในใจหลี่เฟิ่งเซียนมองดูเจ้าสิ่งนั้นแล้วตกใจไม่น้อย ในใจนางนึกถึงตอนเขาป่วยและนางเช็ดตัวให้เขา มันยังเล็กมากเท่านิ้วเท้าหัวแม่โป้ง แต่ยามนี้มันชูชันจนแทบจะใหญ่เท่าข้อมือของนาง! หลี่เฟิ่งเซียนเริ่มหายใจไม

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 51 จู่โจมร้อยแผน (NC)

    แต่ครั้งเข้าไปในห้องของตัวเองและเห็นพวกรูปต่างๆ ที่อาหงวาดขึ้นเพื่อการเรียนรู้เหล่านั้น ในใจนางเกิดความรู้สึกหึงหวงอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมเข้าหอกับนาง เพราะหญิงแพศยานั่น!!...พวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว!! มิน่าเขาถึงได้เชี่ยวชาญมาก เพียงจูบก็ทำให้นางสามารถหลั่งน้ำแห่งความสุขได้ เขาอาจจะเคยทำกับผู้อื่นมาก่อน เขาถึงทำเช่นนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญ นางยอมไม่ได้ นางต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา!! ทนรอให้เขายินยอมด้วยตัวเองไม่ได้แล้ว!!หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปถึงหน้าห้องของเขา เห็นว่าด้านในยังมีแสงไฟอยู่ นางผลักประตูเข้าไปไม่บอกกล่าวไม่เคาะประตู“เจ้า เจ้าเข้ามาได้อย่างไร” ลู่มู่เฉินเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขากำลังใส่เสื้อผ้า นางก็ผลีผลามเข้ามา เขาตกใจ รีบร้อนใส่เสื้อให้เรียบร้อย แต่เชือกผูกเอวอยู่บนโต๊ะ เขายืนอยู่ใกล้เตียงนอน จึงทำได้เพียงใช้มือจับสาบเสื้อคลุมตัวยาวเอาไว้หลี่เฟิ่งเซียนเห็นว่าเขายังแต่งตัวไม่เรียบร้อย แผนในใจของนางผุดขึ้นมาเป็นร้อยแผน คำพูดของอาหงดังก้องอยู่ในหู‘หากเจ้าทำให้เขาภูมิใจมากพอ เขาจะเอ็นดูเจ้ามากขึ้น’นางหันไปปิดประตูลงกลอน ยังเดินไปปิดหน้าต่างที่เขาแง้มเอาไว้รับลมด้วย“เจ้า เจ้า

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 50 ภรรยาผู้อื่นยืนอยู่ตรงนี้

    เรื่องราวในคืนนั้น ความหอมหวานที่เขากอดกกนาง รสจูบ ความนุ่มนิ่มนุ่มนวล ทุกอย่างทำให้เขาไม่กล้าเดินไปที่เตียงนั่น แม้บนเตียงนั้นจะเปลี่ยนผ้าปูผ้าห่มใหม่ทั้งหมดแล้วก็ตาม เขายังคงรู้สึกว่ากลิ่นหอมหวานจากตัวนางยังคงติดอยู่ที่จมูก'ตัวเจ้าหอมมาก' คำพูดของหลี่เฟิ่งเซียนลอยมา นางเคยพูดชมเขาเช่นนั้นหลายครั้งแล้ว เขาไม่แน่ใจว่านางได้กลิ่นอันใดทั้งที่บนตัวเขามีแต่กลิ่นยา เขาเองก็อยากจะบอกกับนางว่า 'ตัวเจ้าหอมน่ากินมาก' เพราะบนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกไม้ผสมกลิ่นบางอย่างคล้ายหนิวหน่าย[1] ต้มผสมน้ำผึ้ง เป็นอาหารของชาวอิ่นตู้ที่เขาเคยได้ลิ้มลองเมื่อครั้งยังท่องเที่ยวไปทั่ว มันอร่อยและหอมติดจมูก ดังนั้นเมื่อเขาได้กลิ่นนี้จากตัวนาง เขาจึงรู้สึกน้ำลายสอ อยากจะกลืนกินครั้งแล้วครั้งเล่า เสียดายก็แต่เขาพูดออกไปเช่นนั้นไม่ได้ ในที่สุดลู่มู่เฉินก็ดึงผ้าห่มจากเตียงและลงไปนอนบนพื้นแทน เขาไม่รังเกียจที่จะนอนบนพื้นเพราะเขาเคยนอนในที่ที่ลำบากมากกว่านี้ พื้นแข็งๆที่ทำจากไม้ขัดมันอย่างดี ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขาลู่มู่เฉินนอนหลับด้วยความยากเย็นเพราะมัวแต่คิดถึงนาง ในขณะที่หลี่เฟิ่งเซียนแทบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status