ก๊อก! ก๊อก!
ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ
“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย
“มีอะไร”
“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”
“ทำไม?”
“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม
“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถ
ใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุง
ตึก! ตึก!
สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโตที่นั่น
“สวัสดีครับปู่”
“แกจะทำแต่งานรึไงเจ้าโซ่ ถ้าปู่ไม่โทรไปตาม แกคิดจะมาหาคนแก่บ้างมั้ย”
“ปู่ก็รู้ ช่วงนี้ผมยุ่ง” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา แขนทั้งสองข้างวางพาดบนพนักพิงท่าสบาย
“เอาล่ะๆ..เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ปู่ต้องการให้แกหมั้น” เสียงขรึมของชายชราวัยเจ็ดสิบปีเอ่ยบอกหลานชายหัวแก้วหัวแหวน เลี้ยงดูฟูมฟักตั้งแต่เด็กกระทั่งเติบโต และขึ้นแท่นรับตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียใหญ่แทนเขา รวมทั้งสืบทอดธุรกิจสีเทาและมืดสนิททั้งหมด
“ปู่ว่าไงนะ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เพราะมันไม่เคยอยู่ในหัวสมองเขาเลยด้วยซ้ำ ‘ผมหูฝาดรึไงวะ’
“ปู่บอกว่า แกต้องหมั้นกับหลานสาวเพื่อนปู่” ไซซีบอกความต้องการให้เซนโซ่รับรู้ เพราะเจ้าหลานชายตัวดี เอาแต่ทำงาน เที่ยวกินไปทั่ว ไม่ยอมลงหลักปักฐานกับใครสักที คนเป็นปู่จึงคิดหาผู้หญิงดีๆซักคนมาอยู่เคียงข้าง ให้สมกับตำแหน่งหัวหน้ามาเฟีย และหลานสาวเพื่อนเหมาะสมที่สุด
“ไม่ครับ! ผมไม่หมั้น! ผมไม่พร้อมดูแลใครตอนนี้” เซนโซ่ปฏิเสธเสียงแข็ง เวลานี้เขาอยากทำงานมากกว่าต้องมานั่งเอาอกเอาใจ ดูแลใคร อีกอย่าง...นั่นไม่ใช่นิสัยเขาซักนิด อยากก็ใช้เงินซื้อ เสร็จแยกย้าย ไม่ผูกมัดไม่มีสถานะแม้กระทั่งคู่นอน คนอย่างเขาครั้งเดียวก็เกินพอไม่กินซ้ำสอง
“เหอะ! นี่ไม่ใช่คำบอก แต่ เป็น คำสั่งของปู่” ไซซีเน้นชัดทุกคำด้วยท่าทีจริงจัง มองจ้องหลานชายเพียงคนเดียวด้วยแววตาแน่วแน่
“ปู่จะสั่งเรื่องไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องนี้เพราะผมไม่มีทางยอม!” น้ำเสียงหนักแน่นลั่นจากปากหนาหยักลึก ร่างสูงดันตัวลุกขึ้น สาวเท้าเดินไปจากห้องรับแขกทันที
‘เซนโซ่’ เจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ดวงตาคมกริบ เรียวคิ้วหนาพาดเฉียง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักลึกสีอ่อน แม้จะผ่านการสูบบุหรี่มาอย่างหนักก็ไม่อาจทำให้สีคล้ำลงแม้แต่น้อย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับลูกรักพระเจ้า ทุกอย่างที่เป็นเขาเหมาะสมลงตัวไปเสียหมด
ร่างสูงเดินออกจากคฤหาสน์หรูหราใหญ่โตด้วยอารมณ์หงุดหงิดพลุ่งพล่าน โดยไม่คิดใส่ใจเสียงตะโกนเรียกของไซซีแม้แต่น้อย ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า ปู่ผู้มีพระคุณออกคำสั่งเด็ดขาดผ่านมือขวาคนสนิทให้เขารีบมาที่นี่ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจเลี่ยงได้ ทำให้ต้องทิ้งงานมานั่งฟังเรื่องไร้สาระไกลถึงที่นี่
“เหอะ!หมั้นอย่างนั้นหรอ น่ารำคาญชิบหาย!”
“เชิญครับนาย” เมื่อเห็นเจ้านายเดินเข้ามาใกล้ จิมจึงรีบเปิดประตูรถให้ และพาตัวเองขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยประจำตำแหน่งคนขับทันที หลังจากรถแล่นพ้นอาณาเขตคฤหาสน์ซักพัก ก็ยังไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากเซนโซ่ จิมทำได้เพียงเหลือบสายตามองเจ้านายผ่านกระจกมองหลังเป็นระยะไม่กล้าปริปากถาม
“มองอะไรไอ้จิม! ไปคลับ” เซนโซ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเย็นเยียบทั้งที่สายตาคมยังคงทอดมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ราวกับล่วงรู้ความคิดลูกน้องคนสนิทยังไงอย่างงั้น
“ครับๆ”
ไม่นานเกินรอ รถหรูขับเข้ามาจอดภายในลานจอดวีวีไอพีสำหรับเจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้เท่านั้น ทันทีที่รถจอดสนิทจิมรีบลงจากรถเพื่อทำหน้าที่เปิดประตูให้เจ้านายเหมือนกับทุกครั้ง พร้อมติดตามเข้าไปด้านใน เซนโซ่ใช้ทางเข้าออกด้านหน้าเหมือนลูกค้าคนอื่น แต่ที่ต่างออกไปเห็นทีจะเป็นเหล่าบอดี้การ์ดทำหน้าที่บริเวณนั้นยืนตรงโค้งศีรษะเล็กน้อยขณะเขาเดินผ่าน
วันต่อมา...
@คฤหาสน์ไซซี
“ปู่โทรตามผมมาทำไมอีกครับ” เสียงทุ้มเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น ขณะทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นโซฟาตัวยาวในห้องรับแขกตรงข้ามกับปู่เขา
“ปู่มีนัดทานข้าว”
“เกี่ยวอะไรกับผม?” เซนโซ่ถามกลับด้วยท่าทียียวนกวนประสาท มีนัดก็ให้เลขาขับรถพาไปสิ จะโทรตามเขามาทำไมอีก
“แกต้องไปทำความรู้จักกับว่าที่คู่หมั้น แล้วก็พาน้องไปที่คลับของแกด้วย จะได้รู้จักกันมากขึ้น”
“แต่ผม...” ร่างสูงดูดีไม่ทันได้พูดอะไรไปมากกว่านั้น คนเป็นปู่เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ทำตามที่ปู่บอกเจ้าโซ่!!” เสียงขรึมหนักแน่นพูดบอกด้วยท่าทีน่าเกรงขาม ก่อนเดินนำออกไปขึ้นรถหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่มีเลขาคนสนิทรออยู่และขับออกสู่ถนนใหญ่ โดยมีรถสปอร์ตหรูสีดำเงาของเซนโซ่ขับตามมาติดๆ
ปึก!
“โธ่โว๊ย!” ร่างสูงสบถอย่างหัวเสีย กระแทกมือสากลงบนพวงมาลัยรถเต็มแรงอย่างต้องการระบายอารมณ์ เท้าหนาเหยียบคันเร่งตามรถลีมูซีนคุ้นตา กระทั่งขับเข้ามาในบริเวณบ้านหลังใหญ่ขนาดไม่ต่างจากคฤหาสน์ไซซี
“สบายดีมั้ยวะไอ้ไซ” โฬมเจ้าของบ้านเอ่ยทักทายทันทีที่เห็นเพื่อนรักอย่างไซซีก้าวลงจากรถ เป็นจังหวะเดียวกับรถสปอร์ตหรูอีกคันขับเข้ามาจอด เรียกความสนใจจากโฬมกับแบล็คได้เป็นอย่างดี นั่นไม่ใช่รถของหลานสาวที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจและพวกเขากำลังเฝ้ารอเธออย่างใจจดจ่อ หวังอย่างยิ่งว่าหลานสาวจะไม่หักหน้าป๊ากับปู่โดยการผิดนัดผู้ใหญ่
“สวัสดีครับอาไซ” แบล็คทักทายชายสูงวัยรุ่นพ่อรู้จักมักคุ้นเป็นอย่างดี
“สบายดีนะแบล็ค”
“ครับอา”
“นี่เจ้าโซ่ หลานฉัน” ไซซีเอ่ยแนะนำหลานชาย ถึงแม้ทั้งสามคนเคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว ในตอนที่เซนโซ่ยังเด็กอาจจะจำกันได้อย่างเลือนลาง
“สวัสดีครับปู่โฬม...สวัสดีครับอาแบล็ค” เซนโซ่ทักทายญาติผู้ใหญ่ พลางโค้งศีรษะลงเล็กน้อยด้วยท่าทีนอบน้อมตามมารยาท
“ไม่เจอกันนาน โตเป็นหนุ่ม หล่อเชียวนะ...ไปๆ เข้าไปนั่งข้างในก่อน นานๆเจอกันทีฉันมีเรื่องคุยเยอะแยะ” โฬมเอ่ยบอก พร้อมกับหมุนตัวเดินนำเข้าไปด้านในตัวบ้าน หวังจะชวนคุยประวิงเวลารอหลานสาวตัวแสบ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ใกล้มาถึงบ้านรึยัง