Search
Library
Overview
Catalog SCAN CODE TO READ ON APP
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Synopsis

ความรักหวาน

เศร้าใจ

รักคนเดียว

ทายาท

Badboy

เข้าใจผิด

แก้แค้น

เพราะเธอเป็นลูกติดของแม่เลี้ยงเขา เด็กสาวที่เขาเคยคิดว่าเป็นลูกของแม่บ้าน กลับกลายมาเป็นสมาชิกอีกคนในครอบครัว เขาจึงตั้งแง่จงเกลียด จงชัง " เธอกับแม่เธอนี่มันเหมือนเห็บ หมัดที่เกาะครอบครัวฉันไม่ไปไหนเลยนะ กี่ปีมาแล้วที่ฉันอุตส่าห์หนีไปอยู่ต่างประเทศพวกเธอก็ไม่ยอมไปไหน" วาจาเผ็ดร้อนที่ไม่น่าออกมาจากปากของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความรังเกียจ ทำให้คนฟังถึงกับน้ำตาตกใน เพี้ยะ!!!! เสียงฝ่ามือเล็กกระทบใบหน้าข้างหนึ่งของชายหนุ่ม จนหน้าของเขาหันไปตามแรงมือ " คุณจะดูถูกฉันยังไงก็ได้ แต่ฉันไม่ยอมให้คุณมากล่าวหาแม่ของฉันเด็ดขาด" หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ " เธอกล้าตบฉันงั้นหรอ ยัยเด็กบ้า รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปซะแล้ว" " ถึงกับหอบเลยหรอ ป่านนี้คงแฉะหมดแล้วสินะ คนอย่างเธอนี่มันร่านดีจริงๆ คราวนี้ฉันแค่ทดสอบสินค้า แต่ถ้าเธอยังหน้าด้านอยู่บ้านหลังนี้อีก ฉันไม่หยุดแค่นี้แน่"
Chapter 1
เริ่มรู้จัก

           คฤหาสบดินทร์บริรักษ์ ในวันซึ่งเด็กน้อยนับดาว ที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 8 ขวบ ติดสอยห้อยตามแม่เดือนเพ็ญ ต้องมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับ วาทิตย์และวายุเด็กหนุ่มลูกชายมหาเศรษฐี พ่อม่าย เธอรู้แค่ว่าแม่จะมาทำงานที่นี่ เด็กน้อยกำพร้าพ่อระเห็จตามแม่ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้าน ไปตามที่ต่างๆจนวันนึงเมื่อแม่บังเอิญได้พบกับเจ้าสัวคณิน ท่านทั้งสองได้พบรักกันในวัยที่ล่วงเลย ทำให้เด็กน้อยได้เข้ามาอยู่ ณ ที่แห่งนี้ 

วาทิตย์และวายุ สองหนุ่มน้อยในวันวานรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยตากลมโต ริมผีปากชมพูจิ้มลิ้มที่คอยส่งยิ้มและพูดคุยเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆแม่บ้านอย่างคุณเดือนเพ็ญ จนวันนึงที่วาทิตย์ได้รับรู้ความจริงว่า คุณเดือนเพ็ญแม่บ้านคนนี้ ที่จริงแล้วคือ ภรรยาลับๆของท่านเจ้าสัวผู้เป็นบิดา ทำให้ความรู้สึกเอ็นดูของวาทิตย์ที่มีต่อนับดาว กลับกลายเป็นความเกลียดชังมาแทนที่ 

"คุณพ่อว่าไงนะครับ คุณน้าเดือนเพ็ญเป็นเมียใหม่พ่องั้นหรอ แล้วแม่ผมล่ะ พ่อเอาแม่ไปไว้ที่ไหน" เด็กชายวาทิตย์ในวัย 15 ปีต่อว่าผู้เป็นบิดาด้วยสายตาผิดหวัง 

"แม่แกก็ตายไปตั้งหลายปีแล้วนะเจ้าทิตย์ แกจะไม่ให้ฉันมีความสุขบ้างเลยรึไง" เจ้าสัวคณินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ 

"แต่พ่อไม่จำเป็นต้องเอาแม่บ้านมาทำเมียนี่ครับ" เด็กชายกล่าวหาอย่างไม่พอใจ

"แล้วคุณเดือนเค้าไม่ดีตรงไหน เค้าดูแลพ่อ ดูแลบ้าน ดูแล้วพวกแกไม่ขาดตกบกพร่องตรงไหนเลย" เจ้าสัวพูดกับลูกชายหัวดื้อ ไม่ยอมใคร เขารู้ว่านิสัยดื้อรั้นนี้เหมือนตัวเอง แต่ไม่คิดว่าลูกชายตัวดีจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงขนาดนี้ 

" ถ้าพ่อจะให้สองคนนั้นอยู่บ้านหลังนี้ ผมคงอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะครับ ผมจะไปเรียนต่อเมืองนอก " พูดจบเด็กหนุ่มก็หันหลังเดินออกจากห้องรับแขก ก่อนจะปะทะสายตาเข้ากับดวงตาใสแจ๋วที่แอบมองมาจากกรอบประตู เด็กหนุ่มแกล้งเดินเข้าไปไกล้ และเดินชนกระแทกร่างอวบปุ๊กลุกของเด็กหญิงนับดาว จนลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ก่อนหันมาพูดด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว "เกะกะ" เด็กน้อยแววตาใสซื่อไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มถึงทำแบบนี้ และไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น 

หลังจากวันนั้นเด็กหนุ่มก็ทำตัวห่างเหิน หากมีโอกาสได้พบเจอหรือพูดคุย ก็มักจะเป็นคำพูดประชดประชัน และสีหน้ารังเกียจที่แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่นับดาวก็ยังคงชอบที่จะพบเจอ พูดคุยกับพี่วาทิตย์ของเธออยู่ดี แววตาที่แสดงออกชัดเจนว่าชอบเขานั้น วาทิตย์ก็รู้ดีและนั่นยิ่งทำให้เขารังเกียจเธอและแม่ของเธอยิ่งขึ้นไปอีก 

"หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันอีกนะ ยัยเด็กกาฝาก"  นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เด็กหนุมพูดกับนับดาว ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย 

11 ปีผ่านไป 

จากเด็กน้อยนับดาวในวันนั้น สู่สาวน้อยที่น่ารักสดใส สวยงามราวกับกุหลาบแรกแย้ม ดวงตากลมโตขนตาแพหนางอนธรรมชาติ ดวงตาสดใสยังคงเปล่งประกายเจิดจ้า วาวระยับ จมูกโด่งรั้น ปากอิ่มชมพูจิ้มลิ้มทำให้โครงหน้าหวานรูปไข่สวยเด่นสะดุดตาคนมองทุกครั้ง "แม่จ๋าวันนี้ทำกับข้าวอะไรคะ" สาวน้อยรูปร่างบอบบาง เดินเข้ามาในครัวของคฤหาสหลังใหญ่ เข้ามากอดเอวท้วมของผู้เป็นมารดา

"แม่ทำแกงเทโพของโปรดท่านเจ้าสัวเค้านะลูก แล้วเป็นไงเรียนกลับมาเหนื่อยๆทำไมไม่ไปพักก่อน" คุณเดือนเพ็ญหันมาตอบลูกสาวคนเดียวของหล่อน ตอนนี้ลูกสาวคนสวยที่ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าสัวส่งเสียเลี้ยงดู จนได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทำให้ทั้งคุณเเดือนเพ็ญและนับดาวต่างรักและเคารพท่านเจ้าสัวเป็นอย่างมาก

"อ้อ...วันนี้พี่วายุจะกลับมาทานข้าวเย็นที่บ้านด้วยนะลูก เราก็เข้าไปทักทายพี่เค้าหน่อยละกัน"

คุณเดือนเพ็ญซึ่งนึกขึ้นได้ว่าลูกชายอีกคนของท่านเจ้าสัว ซึ่งรับราชการตำรวจจะแวะเข้ามาทานข้าวที่บ้านด้วยจึงบอกแก่ลูกสาว วายุเข้าใจเหตุผลที่ผู้เป็นพ่อรับเธอและลูกมาดูแล เขาโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะเข้าใจความเป็นไปของชีวิต จึงยังคงเคารพคุณเดือนเพ็ญและเอ็นดูนับดาวเหมือนน้องสาวเสมอมา

" ได้ค่ะแม่ ดาวก็อยากเจอพี่ยุเหมือนกันค่ะ ไปทำงานตั้งไกลนานๆจะได้กลับมาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา งั้นเดี๋ยวดาวช่วยยกกับข้าวไปตั้งโต๊ะนะคะ" หญิงสาวยิ้มรับและช่วยยกสำรับไปจัดเตรียมสำหรับมื้อค่ำ

"ผมได้ข่าวว่าอาทิตย์หน้า เจ้าวาทิตย์จะกลับมาไทยแล้วนะคุณเดือน" เจ้าสัวคณินหันไปบอกคุณเดือนเพ็ญด้วยน้ำเสียงเป็นกังวนเล็กน้อย เพราะรู้ดีว่าเจ้าลูกชายตัวดีหัวดื้อแค่ไหน 

"ดีเหมือนกันนะคะ ครอบครัวจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา คุณวาทิตย์ก็ไปอยู่ต่างประเทศซะนาน ไม่รู้ว่าจะคุ้นชินกับอาหารบ้านเรามั้ยนะคะ "

คุณเดือนเพ็ญตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นดีใจ ถึงแม้ว่ารู้ดีว่าวาทิตย์นั้นไม่ชอบตัวเองและลูก แต่เวลาก็ล่วงเลยมาหลายปี ชายหนุ่มคงใจอ่อนลงแล้ว

"งั้นต่อไปนี้ พ่อก็วางมือจากธุรกิจแล้วให้เจ้าทิตย์เข้ามาดูแลต่อได้แล้วสินะครับ " วายุพี่ชายที่ไม่อยากรับช่วงต่อธุรกิจของพ่อ แต่ชอบทำงานที่รักอย่างการเป็นตำรวจก็รู้สึกยินดีที่พ่อจะได้พักเหนื่อยและวางมือจากธุรกิจได้ซักที

" ก็ถ้าแกไม่หัวดื้อไปเป็นตำรวจ ป่านนี้ฉันคงได้นอนอยู่บ้านเป็นตาแก่สบายๆไปแล้วนะสิ" ท่านเจ้าสัวพูดติดตลก จนทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารพลอยยิ้มไปด้วย ยกเว้นนับดาว ความรู้สึกอึดอัดเคร่งเครียดจากการที่รู้ว่าวาทิตย์กำลังจะกลับมาจากต่างประเทศทำให้ความเจริญอาหารของเธอติดลบ จากที่ไม่เคยเข้าใจในการแสดงออกของเด็กชายวาทิตย์ในตอนนั้น แต่ตอนนี้หญิงสาวเข้าใจมันเป็นอย่างดีแล้วว่า วาทิตย์นั้นเกลียดเธอกับแม่มากแค่ไหน แล้วถ้าเขากลับมาเธอก็ไม่รู้ว่าจะหลบหน้าเขาได้ยังไงในเมื่อยังอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน เธอยังจำคำพูดสุดท้ายของเขาได้เป็นอย่างดี ก่อนที่เขาจะเดินทางไปต่างประเทศ

หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันอีกนะ ยัยเด็กกาฝาก

และแล้ววันที่ชายหนุ่มเดินทางกลับ ก็มาถึง

"เป็นยังไงเจ้าลูกชายตัวดี ไปอยู่ต่างประเทศตั้งนานไม่คิดจะกลับมาเยี่ยมพ่อตัวเองเลยรึไง" ท่านเจ้าสัวออกมารอต้อนรับเจ้าลูกชายหน้าคฤหาส เมื่อเห็นชายหนุ่มลงจากรถเก๋งคันหรูที่ส่งไปรับจากสนามบิน

"ก็พ่อมีคนดูแลอยู่แล้วนี่ครับ ผมคงไม่จำเป็น " ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้เป็นบิดา เขาส่ายสายตามองไปรอบคฤหาสหลังโตที่ยังคงสวยงามไม่เปลี่ยนแปลง แต่ก็เห็นเพียงผู้เป็นพ่อ กับแม่บ้านที่มายืนรอต้อนรับเขาเท่านั้น

"มองหาใคร อย่าบอกนะว่ามองหาหนูดาวเค้าหนะ" สายตาของผู้เป็นพ่อจ้องมองลูกชายที่โตเป็นหนุ่ม พร้อมกับพูดหยอกพลางยิ้ม

" ผมจะไปมองหายัยเด็กนั่นทำไมกันครับ " เขาเลี่ยงที่จะตอบบิดา จึงเดินเข้าไปในตัวบ้าน เขารับรู้มาตลอดว่าสองแม่ลูกนั่น ยังอาศัยและดูแลรับใช้พ่อเขามาตลอดหลายปี แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกที่ว่ายัยเด็กกาฝากคนนั้น จะไม่ใช่เด็กกาฝากเปลี่ยนไป

"คุณน้าเดือนเพ็ญจัดโต๊ะอาหารไว้ให้แกเรียบร้อยแล้ว ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วค่อยลงมาทานข้าวก็แล้วกัน ห้องเดิมของแกน้าเค้าก็ดูแลทำความสะอาดให้เหมือนเดิมตลอดนะ " ท่านเจ้าสัวพูดกับบุตรชาย เพื่อหวังว่าความดีของคุณเดือนเพ็จจะทำให้อคติในใจของเขาลดน้อยลงบ้าง

Expand
Next Chapter
Download
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP