พูดก็พูดเถอะ ฉู่เฉินลอบชื่นชมสายตาของตัวเองแล้ว หน้าอกเล็ก ๆ คู่นั้นแนบชิดกับต้นข้า เด้งดึ๋งมากจริง ๆ ด้วย! “คุณชื่ออะไร?”ฉู่เฉินบีบคางของลู่เชี่ยน แล้วถามอย่างเรียบนิ่ง“ฉะ...ฉันชื่อลู่เชี่ยนค่ะ!”ลู่เชี่ยนพูดเสียงสั่นระริก“คุณมีสายเลือดปราชญ์เต๋าเหรอ?”ดวงตาของฉู่เฉินมองลู่เชี่ยนราวกับมองทะลุเนื้อหนังของลู่เชี่ยนได้ก็ไม่ปานสายเลือดพูดได้ว่าเป็นตัวตนที่ไม่เป็นรองคุณสมบัติร่างกายเลย เพียงแต่ว่าผู้หญิงที่มีสายเลือดแตกต่างกัน เวลาบำเพ็ญคู่ก็จะเสริมสร้างคุณประโยชน์ต่อฉู่เฉินที่แตกต่างกันออกไปด้วย!อย่างเช่นสายเลือดปราชญ์เต๋าของลู่เชี่ยน ถึงแม้ไม่สามารถเสริมพลังของฉู่เนได้ แต่ทำให้ความสามารถในการเข้าใจมหาธรรมวิถีฟ้าดินของฉู่เฉินรวดเร็วมากยิ่งขึ้นจนถึงขั้นที่ทำให้ผู้คนแหงนหน้ามอง!“ฉะ...ฉันไม่รู้...” ลู่เชี่ยนไหนเลยจะรู้ว่าสายเลือดอะไรคุณสมบติร่างกายอะไร ตอนนี้เธอแค่อยากมีชีวิตรอดเท่านั้น! ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “คุณอยากมีชีวิตอยู่หรืออยากตายล่ะ?” “ฉะ...ฉันอยากมีชีวิตอยู่!”ลู่เชี่ยนแทบจะด่าคนแล้ว ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะอ้อนวอนขอมีชีวิตอยู่ เธอจะคุกเข่าโขกศีรษะเหรอ?
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?!”สวีเฟิงเงยหน้ามองฉู่เฉินทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“คุณหูหนวกหรือโง่กันแน่? ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง?”ฉู่เฉินเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าดูแคลน“ฉู่เฉิน! ผมขอเตือนคุณไว้เลยนะ ถ้าคุณกล้าลงมือกับสำนักชิงอวิ๋น สำนักหลายร้อยในภูเขาคุนหลุนไม่มีทางปล่อยคุณไปแน่นอน!” สวีเฟิงถลึงตาแทบถลน กัดฟันตวาดเสียงดังตอนนี้เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนหน้าแล้ว ถ้าเกิดฉู่เฉินถล่มสำนักชิงอวิ๋นให้ราบเป็นหน้ากลองจริง ๆ เขากับลู่เชี่ยนกลับไปที่สำนักเทียนไถแล้วจะอธิบายกับจวงชิงหยางอย่างไร? ด้วยนิสัยของจวงชิงหยาง จะฆ่าฉู่เฉินเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่พวกเขาสองคนจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน! “จริงเหรอ?”ฉู่เฉินกวาดตามองสวีเฟิงอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างเฉยชาว่า “ไหน ๆ พวกคุณก็ไม่คิดจะปล่อยผมไปอยู่แล้ว งั้นคุณก็เดินทางไปด้วยเลยละกัน!”อะไรนะ?!เมื่อคำพูดนี้ออกมา ซ่งหนิงซวงกับถานอวี้ซานก็ตกใจจนอึ้งค้างไปแล้ว!ขวานยักษ์ในมือของเทพสังหารแทบจะร่วงลงพื้น หลินเจี้ยนเฟิงก็อ้าปากกว้างนี่ฉู่เฉินตั้งใจจะฆ่าลูกศิษย์ของจวงชิงหยางไปด้วยเหรอ?!สวีเฟิงก็มองไปทางฉู่เฉินด้วยส
แต่เธอไม่อาจมองฉู่เฉินทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ตลอดพอได้ยินคำพูดของซ่งหนิงซวง ลู่เชี่ยนก็เผยสีหน้าดูแคลนทันที ก่อนจะมองไปทางฉู่เฉินแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน ฉันกล้ารับประกันเลยว่า ขอเพียงคุณกล้าเหยียบเข้าไปในสำนักชิงอวิ๋นสักก้าว วันหน้าคุณจะไม่มีที่ยืนในทั่วทั้งแดนมังกรอีก!” ทันทีที่สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินพลันหัวเราะหยัน มองลู่เชี่ยนอย่างพิจารณาแล้วพูดว่า “ไม่มีที่ให้ผมยืนเหรอ? ผมกลัวว่าทางเดินเล็ก ๆ ในป่าของคุณจะคับแคบเกินไป ไม่พอที่จะรองรับตัวของผมหรอก!”หืม?ลู่เชี่ยนกับสวีเฟิงตกตะลึงกับคำพูดของฉู่เฉินไปชั่วขณะพูดตามตรง พวกเขาสองคนยังเป็นเด็กชายเด็กหญิงอยู่เลย จะเข้าใจความหมายลึกซึ้งในคำพูดของฉู่เฉินได้ที่ไหนกัน?ทางเดินเล็ก ๆ ในป่าอะไร รองรับตัวของคุณไม่ได้อะไร“ฉู่เฉิน เราไม่มีเวลามาพูดพล่ามกับคุณที่นี่...”ยังไม่ทันที่สวีเฟิงจะพูดจบ ฉู่เฉินพลันสะบัดมือตบหน้าไปหนึ่งฉาด!เพียะ!เสียงตบดังกังวาน สวี่เฟิงหมุนสามตลบกลางอากาศก่อนจะกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง!พอเห็นสวีเฟิงโดนตบ ลู่เชี่ยนกำลังคิดจะก้าวเข้ามา แต่ฝ่ามือที่รวดเร็วเหมือนสายฟ้าแลบก็ตบใส่หน้าเธออย่างคาดไม่ถึง!เสียงดังก
ในความคิดของของสวีเฟิง ต่อให้เป็นเจ้าสำนักระดับแถวหน้าของภูเขาคุนหลุน เมื่อเจอพวกเขาก็ต้องไว้หน้าเล็กน้อย นับประสาอะไรกับฉู่เฉินล่ะ?ไม่เห็นเหรอว่าเทพสังหารกับหลินเจี้ยนเฟิงยืนอยู่กับที่ ไม่กล้าเคลื่อนไหวเลย? คนตัวเล็ก ๆ อย่างฉู่เฉินจะก่อเรื่องอะไรได้! “พ่อแม่พวกคุณตายไวเกินไป เลยไม่ได้สั่งสอนให้พวกคุณพูดภาษาคนสินะ?” ฉู่เฉินทำหน้าเคร่งขรึม หัวเราะหยัน เอ่ยพลางมองสวีเฟิงอย่างพิจารณา“คนแซ่ฉู่ ฉันขอเตือนไว้เลยนะ พวกเราไม่ได้เจรจากับคุณ แต่เป็นตัวแทนสำนักของเรา ขอสั่งให้คุณไสหัวไปจากภูเขาคุนหลุนเดี๋ยวนี้!” ลู่เชี่ยนเห็นฉู่เฉินยังคงดื้อดึงไม่ยอมเชื่อฟัง นัยน์ตางดงามก็ถลึงใส่ทีหนึ่ง ตวาดเสียงดังด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งฉู่เฉินได้ยินคำพูดนี้ก็อดสังเกตลู่เชี่ยนอยู่หลายครั้งไม่ได้ ภายนอกดูไม่โดดเด่น แต่ภายในกลับมีของ!เรียวขายาวขาวผ่องคู่นั้น เพียงพอให้เล่นสนุกทั้งวันเลย!เพียงแต่ปากของเธอเหม็นยิ่งกว่าห้องส้วมจริง ๆ!“ฉู่เฉิน ผมว่าคุณยังไม่เข้าใจ คุณก่อเรื่องใหญ่โตแค่ไหน ฆ่าเจ้าสำนักไปหนึ่งคนก็เป็นความผิดที่ไม่อาจให้อภัยได้แล้ว สำนักเราไม่ได้ตามเอาโทษคุณก็เป็นความเมตตาอย่างสูงแล้ว ดัง
“เรื่องในนี้มันลึกล้ำเกินไป ต้องมีจุดสมดุลระหว่างขุมกำลังฝ่ายต่าง ๆ ถ้าเกิดฉู่เฉินกวาดล้างสำนักชิงอวิ๋นจริง ๆ งั้นขุมกำลังของเมืองชิงหลงก็ต้องถูกแบ่งใหม่!” “อีกอย่าง สำนักชิงอวิ๋นก็เป็นหนึ่งในสิบสำนักใหญ่รอบนอกภูเขาคุนหลุน ถ้าถูกกวาดล้าง ขุมกำลังทั้งหมดในภูเขาคุนหลุนก็ต้องโดนล้างไพ่ใหม่หมดด้วย ฉู่เฉินเขาจะแบกรับความผิดใหญ่หลวงขนาดนี้ไหวเหรอ?” “ดังนั้นฉันถึงกล้าฟันธงว่าฉู่เฉินแค่วางท่าเท่านั้น ไม่มีทางลงมือจริง ๆ หรอก!” หลินเจิ้งไท่กล่าวอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม“แต่ว่า...ผมยังรู้สึกว่าตระกูลหลินของเราควรตั้งตัวใหม่ ทางที่ดีรีบขีดเส้นแบ่งกับสำนักชิงอวิ๋นโดยเร็วที่สุดถึงจะถูกนะครับ!” หลินเทียนหยางพูดด้วยสีหน้ากังวลโลกแห่งการหยั่งรู้ไม่เหมือนกับโลกมนุษย์ธรรมดา บางทีสำนักหนึ่งหรือตระกูลหนึ่งอาจจะล่มสลายได้ด้วยความคิดเดียวเท่านั้นขอเพียงยืนผิดฝั่งสักครั้งก็ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้อีกเลย“ไม่จำเป็นหรอก หัวเอ๋อร์กับเยว่หรูเป็นคนของฉู่เฉินไม่ใช่หรือไง? ต่อให้สำนักชิงอวิ๋นล่มสลายไปจริง ๆ ก็ไม่มีทางพัวพันถึงตระกูลหลินของเราแน่นอน!” “ตรงกันข้าม ถ้าสำนักชิงอวิ๋นไม่อยู่แล้ว ก็ถึงเวลาที่คว
“กะ...เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” หลังจากมองส่งพวกฉู่เฉินเดินจากไปไกล ฮว่าเจิ้นสยงก็ตะโกนเสียงดังลั่นพลางสั่นเทิ้ม! ถ้าเกิดสำนักชิงอวิ๋นถูกฉู่เฉินกวาดล้างขึ้นมาจริง ๆ นั่นก็เป็นเรื่องร้ายแรงแล้ว! ตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้บำเพ็ญเพียรจากโลกมนุษย์ธรรมดาสักคนที่สามารถกวาดล้างสำนักของสี่เขตศักดิ์สิทธิ์ได้ ถ้าเกิดฉู่เฉินทำลายข้อห้ามหลายร้อยปีมานี้ได้ นั่นหมายความว่าอะไร แม้แต่ฮว่าเจิ้นสยงก็ยังไม่กล้าจินตนาการเลย!“ระ...รีบแจ้งผู้อาวุโสทั้งเจ็ดของสำนักชิงอวิ๋นเร็วเข้า เจ้าสำนักถูกฆ่า ฉู่เฉินพาเทพสังหารกับหลินเจี้ยนเฟิงไปกวาดล้างสำนักแล้ว!” ฮว่าเจิ้นสยงล้วงมือถือออกมาพลางสั่นระริก แต่เป็นเพราะตกใจกลัวมากเกินไป ไม่ว่าอย่างไรก็กดปุ่มไม่ถูก ร้อนใจจนถึงขนาดที่เขาตะคอกใส่ผู้ติดตามหลายคนที่อยู่ทางด้านข้างด้วยความโกรธเกรี้ยว! ผู้ติดตามสองคนของเขาเพิ่งได้สติกลับมาจากการตกตะลึงเช่นกัน ก่อนจะรีบโทรศัพท์ไปหาสำนักชิงอวิ๋นทันที เวลานี้เอง ผู้คนของโลกแห่งการหยั่งรู้ที่มาชมการประลองก็ได้สติกลับมาทันที ก่อนจนเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปสะเทือนไปทั่วรอบนอกภูเขาคุนหลุนอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้ว! กวาดล้างสำ