ตอนที่ 10 เจ้าสาวอยู่ไหน
หลังจากที่หมอพีรพัฒน์เดินทางกลับถึงบ้าน ในหัวสมองของเขามันเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธและโมโห อลิสาเล่นไม่ซื่อกับเขา “ยัยบ้าเอ๊ย! อยากได้ฉันเป็นผัวจริงๆ หรือคิดจะเล่นสงครามประสาทกับฉันกันแน่” เขาพูดคนเดียวขณะล้มตัวลงนอนตรงกลางเตียงใหญ่ พร้อมกับใช้ลำแขนเกยหน้าผาก นับตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก ชีวิตของพีรพัฒน์ไม่เคยต้องมีเรื่องวุ่นวายและปวดหัวได้ขนาดนี้ (ครืดครืดครืด) เสียงเรียกเข้าในแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น คณะที่อลิสาหลับไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง “อื๊อ...ใครโทรมาเนี่ย” น้ำเสียงหวานบ่นพึมพำ ในขณะที่มือขวายื่นไปหยิบมือถือที่วางอยู่หัวเตียงนอนแล้วกดรับสาย ทั้งที่ยังไม่ลืมตาตื่น “ฮัลโหล” “ยัยโรคจิต!” “อื๊อ...มีอะไร นายโทรมาทำไมฉันจะนอนแล้ว” น้ำเสียงอู้อี้เหมือนคนที่กำลังละเมอ “เธอต้องการอะไรกันแน่ ต้องการจะเล่นสงครามประสาทกับฉันใช่ไหม” “เปล่านี่ ฉันก็แค่เปลี่ยนใจอยากจะแต่งงานขึ้นมากะหัน แค่นี้นะ ฉันจะนอน” “ห้ามวางจนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง” หมอพีรพัฒน์ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุดัน “ฉันคุยรู้เรื่องแล้ว ส่วนนายไม่ยอมรู้เรื่องก็ตามใจสิ ฉันง่วงมากแล้วนะ” “ห้ามนอน เปิดกล้องเดี๋ยวนี้ แล้วคุยกับฉันดีๆ” “แล้วทำไมต้องเปิดกล้องด้วย อะไรของนายอีก” แม้จะพูดเหมือนไม่พอใจที่เขาออกคำสั่ง แต่อลิสาก็ยอมทำตามอย่างง่ายดาย “มีอะไรก็ว่ามาสิ ฉันเปิดกล้องตามที่นายสั่งแล้ว” อลิสาวางโทรศัพท์มือถือไว้ที่หมอนข้าง เธอยังคงนอนตะแคงหลับตาคุยกับปลายสาย โดยที่ลืมไปเลยว่าตนเองนั้นสวมใส่เพียงเสื้อสายเดี่ยวตัวบางสีขาวและกางเกงขาสั้นสีชมพู ปลายสายถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่ปรากฏในจอมือของเขา “ถามทำไมไม่ตอบล่ะ จะพูดอะไรก็พูดมาสิ” “นึกไม่ออกแล้วว่ะ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร รู้แค่ว่าจะมอง” น้ำเสียงทุ้มพูดออกมาในขณะที่สายตาของเขาเอาแต่จ้องหน้าอกอวบใหญ่และเม็ดไตสีหวานกำลังดุนดันเสื้อขาวบางจนมองเห็นรูปร่างที่ใหญ่เกินตัว “ว้าย!” อลิสาถึงกับสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ฝ่ามือเล็กรีบปิดบริเวณเนินอกอวบใหญ่ทันที “ไอ้คนบ้า นายแอบมองหน้าอกฉันอยู่ใช่ไหม” “ใครบอกว่าฉันแอบมอง ฉันมองตรงๆเลย ไม่ได้แอบ แล้วก็ไม่ต้องปิด ฉันจะดู” เขาพูดออกมา พร้อมทำแสดงสีหน้าและแววตาที่หื่นกระหาย “ไอ้โรคจิต! แค่นี้นะ” “เดี๋ยว” “อะไรอีกล่ะ” “ขอดูนมหน่อย เร็วดิ เปิดให้ดูสักทีจะไม่ลืมพระคุณเลย” “นายมันบ้ากว่าที่ฉันคิดเสียอีก ฉันไม่ใช่พวกใจง่าย ที่จะมาเปิดนมให้นายดู” “แต่ฉันก็เห็นมันแล้ว” “ไม่เห็นหรอก ฉันใส่เสื้อ แค่นี้นะ” “เดี๋ยว!” “โอ๊ย! อะไรอีกวะ” “บอกพ่อกับแม่ของเธอ ว่าเธอไม่อยากแต่งงานกับฉัน ยกเลิกงานแต่งซะ ถ้าเธอยังดื้อด้าน อย่ามาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” “ดูปากฉันนะ ฉัน...ไม่...ยกเลิก ฮ่าๆๆ ฝันดีนะ” อริสาตอบกลับด้วยคำพูดที่ท้าทายก่อนจะวางสายไป หมอพีรพัฒน์โมโหจนแทบจะเหวี่ยงโทรศัพท์ทิ้ง แต่เขาก็ต้องพยายามข่มอารมณ์เอาไว้ “หมอพัฒน์ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ทำไมต้องทำอย่างกับคนหมดแรง ไปช่วยหนูชมพู่เลือกชุดแต่งงานได้แล้ว ชุดของพัฒน์แม่จะเลือกให้เอง” คุณนายพิมพ์พรรณตำหนิลูกชายที่กำลังนั่งทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่บนโซฟาภายในร้านชุดวิวาห์หรู เขาไม่อาจขัดคำสั่งของมารดาได้ ร่างสูงลุกขึ้นเดินไปยังห้องลองชุดที่อยู่ด้านด้านใน “สวยมากเลยค่ะคุณชมพู่” พนักงานในร้านกล่าวชื่นชมว่าที่เจ้าสาวที่กำลังสวมใส่ชุดราตรีสีขาวสะอาดตายืนส่องกระจก ขายาวก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังว่าที่เจ้าสาว สายตาคมไล่สำรวจร่างสวยสง่าตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าคนตรงหน้าของเขาสวยสง่างดงามมาก แต่ถึงอย่างไร ความสวยนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาอยากจะแต่งงานกับเธอสักนิด “เลือกได้หรือยัง ฉันเห็นเธอเข้ามาตั้งนานแล้ว” “ได้แล้ว ออกไปรอข้างนอก ฉันจะเปลี่ยนชุด” “อืม” อลิสาเลือกชุดเจ้าสาวจนครบทั้งสองแบบ ซึ่งเป็นชุดไทยสีครีมที่ต้องสวมใส่ในพิธีแต่งงานช่วงเช้า แบบชุดราตรีสีขาวสวยหรูสำหรับสวมใส่ในช่วงเย็น จากนั้นคุณนายพิมพ์พรรณจึงได้พาลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้มาถ่ายพรีเวดดิ้ง “ยิ้มอะไรวะ” พีรพัฒน์เอ่ยถามในขณะที่ทั้งสองกำลังยืนให้ช่างถ่ายภาพ อลิสาเอาแต่ยิ้มขบขัน ราวกับว่าเธอกำลังทำเรื่องสนุกสนาน “ฉันเปล่ายิ้มสักหน่อย” “เธออย่าคิดนะว่าฉันมองเธอไม่ออก เธอจะเล่นเกมอะไรกับฉันอีก” “ก็บอกว่าไม่มีอะไรไง ชิ” เธอมองค้อนเขาทันทีที่พูดจบ นับตั้งแต่วันที่ทั้งสองไปลองชุดแต่งงานและถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อาการของหมอพีรพัฒน์ราวกับคนที่ไม่มีวันจะพบเจอความสุขอีก เขาเอาแต่ทำสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา “เป็นอะไรวะ เห็นทำหน้าเครียดมาหลายวันแล้ว” หมอมาวินเอ่ยถาม ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในห้องเด็กอ่อน “อาทิตย์หน้ากูก็จะแต่งงานแล้วน่ะสิ ถูกมัดมือชก ถูกคลุมถุงชนว่ะ” “เป็นไงล่ะมึง มั่วไม่เลือกดีนัก พลาดจนได้” “ไม่ได้พลาด แต่ถูกมัดมือชก ไม่เคยคบ แล้วก็ไม่เคยได้กัน กูโคตรเครียดเลย” “ทำไม ว่าที่เจ้าสาวของมึงไม่สวยหุ่นไม่ เซ็กส์ไม่จัด ว่างั้น” “สวย สวยมากกว่าพวกผู้หญิงที่กูควงหลายเท่า เป็นลูกสาวเพื่อนแม่กู ปากก็บอกว่าเกลียดกู แล้วกูก็รู้ว่าเกลียดจริงๆนั่นแหละ แต่เสือกไม่ยกเลิกงานแต่ง แถมยังชอบหัวเราะเยาะท้าทายกูตลอด” “แล้วมึงกับว่าที่เจ้าสาวรู้จักกันมานานหรือยัง” “ยังไม่ถึงสองเดือนเลย” “อืม แบบนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ อยู่ๆคนที่บอกว่าเกลียดกันแต่อยากแต่งงานขึ้นมาทัน” หมอมาวินพูดในสิ่งที่เขาคิดและงุนงง “นั่นสิ ยัยเด็กนั่นแสบไม่เบา ดื้อด้านสุดๆ งานแต่งกูมึงต้องไปด้วยนะ เดี๋ยวกูชวนให้โอม กับไอ้นนท์ไปด้วย” “เออ กูต้องไปแน่ๆ เพื่อนจะแต่งงานทั้งที ต้องไปแสดงความยินดีด้วยสิวะ” “หึ คอยดูเถอะ กูจะฟันแล้วทิ้ง ในเมื่อคิดอยากเล่นกับไฟดีนัก ส่งตัวเข้าหอ กูจะจัดให้หนักเลย ไหนๆกูก็หนีไม่พ้นแล้ว” หมอพีรพัฒน์พูดออกมาด้วยความคับแค้นใจ “เฮ้ย เบาได้เบานะเพื่อน ระวังจะตกหลุมรักเจ้าสาวแบบไม่รู้ตัว” “ไม่มาทาง” เขาตอบออกไปอย่างมั่นใจ คนอย่างหมอพีรพัฒน์น่ะเหรอ จะรักใครเป็น งานแต่งงานของพีรพัฒน์และอลิสาถูกจัดขึ้นภายในคฤหาสน์ชาญณรงค์ แขกที่มาร่วมงานราวๆสองร้อยกว่าชีวิต ช่วงเช้าเป็นพิธีหมั้นและมอบสินสอดให้ฝ่ายเจ้าสาว “สวยมากเลยค่ะคุณชมพู่ สวยที่สุดเลย” ช่างแต่งหน้ากล่าวชื่นชมในความสวยของเจ้าสาวที่อยู่ในชุดไทยสีเงิน ผมยาวเกล้าสูงถักเปียล้อมลอบ ใบหน้าเรียวเล็กถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ผ่านไปหลายนาที จนถึงขั้นตอนที่เจ้าบ่าวผ่านประตูเงินประตูทองเข้ามาด้านใน “คุณชาญคะ ไปรับลูกออกมาได้แล้ว ขบวนขันหมากมาถึงแล้ว” คุณนายชมจันทร์บอกสามีให้ขึ้นไปรับลูกสาวบนชั้นสองของบ้าน เวลาผ่านไปหลายนาที แต่ก็ยังไม่ปรากฏตัวเจ้าสาว จนฝ่ายเจ้าบ่าวและแขกที่มาร่วมงานต่างงุนงงสงสัย เจ้าสัวชาญชัยเดินลงบันไดมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่กำลังมองมายังพ่อของเจ้าสาว “ชมพู่อยู่ไหนคะคุณ ทำไมถึงยังไม่พาลูกลงมาอีก” “ลูกไม่ได้อยู่ในห้อง ผมหาทุกห้องแล้ว ไม่เจอเลย แกหายไปไหนก็ไม่รู้” คุณนายพิมพ์พรรณและหมอณรงค์รีบเดินไปหยุดยืนข้างๆเจ้าสัวชาญชัยและคุณนายชมจันทร์ “หนูชมพู่ไปไหนคะ ทำไมถึงยังไม่ลงมาอีก” คุณนายพิมพ์พรรณเอ่ยถามขึ้นทันที ด้านหมอพีระพัฒน์รู้สึกใจคอไม่ดีเมื่อเห็นมารดาของเขากำลังแสดงสีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เกิดอะไรขึ้นครับคุณแม่ ทำไมน้องชมพู่ถึงยังไม่ลงมาอีก” “ชมพู่หายตัวไป น้าตามหาทุกห้องแล้ว แต่ก็ไม่เจอชมพู่” “!“ คุณนายพิมพ์พรรณแทบเป็นลมล้มพับ เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าสัวชาญชัยพูดออกมา หมอพีรพัฒน์ต้องคอยประคองมารดาเอาไว้ เขาเองก็ตกใจไม่น้อย เขาไม่คิดว่าอลิสาจะเล่นงานเขาถึงขนาดนี้ ------------------------------- น้องชมพู่หายไปไหนนะ น้องทำแบบนี้ทำไม ฝากติดต่อไป สนุกแน่นอน ไรท์รับประกัน ฝากกดไลค์คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน๊ารถบ้านสุดหรูคันใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม ขับเคลื่อนไปตามเส้นทางสายเหนือ และไปหยุดจอดภายในสนามหญ้ากว้างขวาง ในอำเภอหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ สนามหญ้าแบบลานกว้างขนาดห้าไร่ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นลำไย ต้นมะม่วง และต้นชมพู่ทับทิมจันทร์ที่กำลังออกผลดกเต็มต้น ทุกคนพากันลงจากรถบ้าน ขณะที่หมอพีรพัฒน์อุ้มลูกชายตัวน้อย และมีผ้าอ้อมผืนสีขาวพาดบ่า “อากาศดีจังเลยนะคะ”อลิสาพูดพร้อมกับสูดอากาศเข้าปอด และหลับตาพริ้ม มือข้างขวาจับที่มือน้อยๆของลูกสาว“ว้าว! บ้านสวยจังเลยค่ะ”เด็กหญิงพิริสาชี้นิ้วไปยังบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง ที่ดูสวยงามและใหญ่โต ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถบ้านเพียงสองร้อยเมตร“เราจะพักกันที่นี่เหรอคะ”อลิสาถามสามีของเธอ“น่าจะใช่นะครับ”หมอพีรพัฒน์ตอบกลับ“เราจะพักที่นี่ และบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อซื้อไว้เมื่อไม่นาน พ่อซื้อเป็นของขวัญให้หลานสาวกับหลานชายน่ะ”เจ้าสัวชาญชัยบอกลูกสาว และทุกๆคนก็ได้ยินสิ่งที่เขาบอก“ว่าไงนะคะคุณพ่อ”“คุณชาญ คุณพูดจริงๆเหรอคะ ทำไมฉันถึงไม่รู้ว่าคุณมาซื้อที่ดินพร้อมบ้านที่เชียงใหม่”คุณยายชมจันทร์ถามสามีด้วยความงุนงงสงสัย“ถ้าบอกก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์น่ะสิ ตั้งแต่หน
(ก๊อก ก๊อก ก๊อก)เสียงเคาะประตูเบาๆก่อนที่จะมีคนเปิดเข้ามาในช่วงเช้าของวันต่อมา อลิสาถึงกับตกใจ เมื่อเห็นบุคคลที่กำลังเดินตรงเข้าหาเธอตอนพิเศษ 4“สวัสดีค่ะ คุณชมพู่”อลิสายังคงแสดงสีหน้างุนงง และตกใจพอสมควร เมื่อคนที่เข้ามาหาเธอภายในห้อง คือหมออรอุษา ผู้หญิงที่เคยทำตัวสนิทใกล้ชิดกับสามีของเธอเมื่อหลายปีก่อน แม้ว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่ครั้งนั้น จนอลิสาลืมไปแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมหน้าตาของหมออรอุษา และเรื่องราวเก่าๆก็เข้ามาวนเวียนในสมองของเธออีกครั้ง “คุณมาทำไมคะ”อลิสาถามแพทย์หญิงที่ยืนมองเธอกำลังอุ้มลูกน้อยแนบอก“ฉันเจอหมอพัฒน์ในร้านสวัสดิการด้านล่างน่ะค่ะ หมอพัฒน์บอกว่าคุณชมพู่เพิ่งคลอดลูกคนที่สอง ฉันก็เลยอยากมาเยี่ยม ลูกชายคุณชมพู่น่ารักจังเลยนะคะ”หมออรอุษาพูดพร้อมกับมองดูใบหน้าทารกที่กำลังหลับปุ๋ยในอ้อมแขนของมารดา“คุณย้ายไปจากโรงพยาบาลนี้แล้วไม่ใช่หรือคะ หรือฉันเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”อลิสาถามคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ“ฉันย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลแถวชลบุรีน่ะค่ะ แต่ก็มาที่นี่เกือบทุกอาทิตย์”อลิสารู้สึกไม่ค่อยชอบใจกับประโยคที่หมอสาวพูดออกมา“ทำไมคุณยังมาที่นี่อีกล่ะคะ ฉันคิดว่าคุณไม
สามปีต่อมา“วันนี้น้องพรีมใส่ชุดอะไรคะ คุณพ่อขา”เสียงน้อยๆของเด็กหญิงพิริสา เอ่ยถามบิดาหลังจากที่เธอตื่นนอนตอนเช้า“วันนี้น้องพรีมต้องใส่ชุดพละนะครับ วันนี้คือวันพุธ”เขานำเสื้อผ้าของลูกสาว ที่เขาเพิ่งจะรีดเสร็จ มาแขวนไว้นอกตู้เสื้อผ้า“น้องพรีมต้องใส่ชุดนี้ไปโรงเรียนใช่ไหมคะ”นิ้วน้อยๆชี้ไปยังชุด พี่บิดาเพิ่งจะรีดเสร็จ“ใช่แล้วครับ แต่ตอนนี้น้องพรีมต้องไปอาบน้ำแปรงฟันนะครับ”“ได้เลยค่ะ คุณพ่อขา”(พรึ่บ)ลำแข็งแกร่งโอบอุ้มลูกสาวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย ก่อนไปโรงเรียน“คุณพ่อคุณแม่ขา ตอนเย็นอย่าลืมพาน้องพรีมไปทานไอศครีมนะคะ”เด็กหญิงตัวน้อยบอกบิดามารดา ขณะที่พวกเขามาส่งเธอในโรงเรียน“ได้เลยค่ะ ลูกสาวแม่ แต่วันนี้น้องพรีมต้องตั้งใจเรียนนะคะ”อลิสาพูดกับลูกสาว“น้องพรีมตั้งใจเรียนทุกวันอยู่แล้วค่ะคุณแม่”“เก่งมากค่ะ”“เก่งที่สุดเลยครับ”สองสามีภรรยาเอ่ยชื่นชมลูกสาว “น้องพรีมไปเรียนแล้วนะคะ บ๊ายบายค่ะ คุณพ่อคุณแม่”(ฟอดดดด/ฟอดดดด)สองสามีภรรยาโน้มลงไปหอมแก้มน้อยๆคนละข้างอย่างอ่อนโยน เด็กหญิงตัวน้อยโบกมือให้บิดามารดาก่อนจะเดินเข้าไปด้านในของห้องเรียน“เหนื่อยไหมครับที่รัก พี่รู้สึ
ตอนที่ 30 ตอนพิเศษ 2 NC20+ในแต่ละวัน พีรพัฒน์ใช้เวลาอยู่กับภรรยาและลูกสาวตัวน้อยตลอดเวลา“หม่ำๆนะครับ วันนี้คุณพ่อทำอาหารมื้อแรกให้น้องพรีมหม่ำ ลองดูนะครับ คุณพ่อจะฝึกให้น้องพรีมทานอาหาร น้องพรีมครบหกเดือนแล้วครับ”เขาใช้ช้อนตักอาหารป้อนลูกสาวตัวน้อย ในขณะที่อลิสาทำหน้าที่อุ้มลูกนั่งตัก(แผล็บ)ลิ้นน้อยๆปาดเลียอาหารอ่อนที่เป็นเหมือนโจ๊ก “ดูสิคะพี่พัฒน์ ลูกคงจะชอบนะคะ เหมือนแกกำลังขออีก”“หม่ำๆนะครับ เก่งมากครับ คนเก่งของคุณพ่อ”“อ้อ แอ้”เด็กหญิง พิริสา ส่งเสียงตอบโต้คนเป็นพ่อทันที เหมือนกับว่าเธอฟังรู้เรื่องเสียอย่างนั้น“อยากไปเดินเล่นหน้าบ้านใช่ไหมครับ”“แอ้”“งั้นน้องพรีมต้องหม่ำๆ ก่อนนะครับ เก่งจังเลย”หลังจากที่เขาป้อนอาหารครั้งแรกให้ลูกสาว เด็กน้อยจ้ำม่ำก็แสดงท่าทางดีใจ ที่บิดาพาออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ ในทุกๆวันคือความสุขของเธอ เธอได้รับการดูแลและใส่ใจจากสามีราวกับเจ้าหญิง“พี่พัฒน์คะ พู่มีเรื่องอยากจะบอกพี่พัฒน์ค่ะ”น้ำเสียงหวานกล่าวกับสามีที่กำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน“ว่ามาสิครับที่รัก”เขาตอบกลับพร้อมกับแสดงสีหน
ตอนที่ 29 ตอนพิเศษNC20+“มาครับ เอาเท้ามาแช่น้ำอุ่นก่อน พี่จะนวดให้ จะได้ผ่อนคลาย”น้ำเสียงทุ้มบอกภรรยาสาว เขาทำแบบนี้สัปดาห์ละสองครั้ง กะละมังที่มีน้ำถูกวางที่พื้น อลิสานั่งบนโซฟา หย่อนเท้าลงในกะละมัง มือหนาชะโลมน้ำใส่เท้าเล็ก แล้วใช้มือนวดฝ่าเท้าให้ภรรยาเบาๆ ดวงตากลมโตมองการกระทำของสามีด้วยความรู้สึกรักและผูกพัน เขาทำแบบนี้กับเธออย่างอ่อนโยน นับตั้งแต่วันที่อลิสากลับมาอยู่ที่บ้านกับสามี เขาปรนนิบัติดูแลเธอเรากับเจ้าหญิง “โอ๊ย!”“เป็นอะไรครับ”พีรพัฒน์ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเสียงภรรยาสาวอุทานออกมาเหมือนเธอกำลังเจ็บ“พี่นวดแรงไปหรือครับ พี่ขอโทษนะ”“พู่จะ...เจ็บท้องค่ะ อื๊อ โอ๊ย พี่พัฒน์ช่วยพู่ด้วย”“ใจเย็นๆนะครับ พี่จะพาไปที่โรงพยาบาล ป้าจินดาครับ ช่วยถือของที่ผมเตรียมไว้ไปใส่ไว้ในรถให้ด้วยนะครับ น้องชมพู่เจ็บท้องจะคลอดแล้ว”“ค่ะ ได้ค่ะ”ป้าจินดาที่กำลังนำดอกไม้มาใส่แจกันตั้งโต๊ะ รีบเดินเข้าไปที่ห้องของเจ้านาย และนำตะกร้าที่หมอพีระพัฒน์เตรียมไว้ ไปใส่ไว้ในรถของเขาทันทีร่างแกร่งคอยประคองภรรยาสาวขึ้นนั่งบนรถเข็น แล้วพาเธอไปที่รถทันที”ไปครับ พี่จะพาไปโรงพยาบาล น้องชมพู่ไม่ต้องกลัวนะครั
ตอนที่ 27 นานแค่ไหนก็รอได้ทั้งสองเดินทางมาถึงตลาดน้ำอัมพวาในช่วงเที่ยงของวันอาทิตย์ มือหนาสอดประสานกับมือเล็กไว้แน่น มันเป็นครั้งแรกของอลิสาและหมอพีรพัฒน์ ที่ได้มาเดินในตลาดแบบนี้ เขาคอยสังเกตภรรยาคนสวย ที่ในเวลานี้เอาแต่มองร้านนั้นร้านนี้ด้วยท่าทางตื่นเต้น ผู้คนมากมายต่างพากันมาเที่ยวในวันหยุด “พี่พัฒน์คะ ดูนั่นสิคะ น้ำตาลสดอัมพวา น่าทานมากเลยค่ะ”นิ้วเรียวชี้ไปยังร้านขายน้ำตาลสด แบบใช้กระบอกไม้ไผ่เป็นแก้ว“ซื้อสักแก้วดีไหมครับ ลองชิมดูก่อน ถ้าอร่อยค่อยซื้อไปฝากพ่อคุณแม่”“ค่ะ พู่อยากลองดู อยากรู้ว่ารสชาติของน้ำตาลสดแท้ร้อยเปอร์เซ็นเป็นแบบไหน”เขาเดินจูงมือคนตัวเล็กไปหยุดยืนหน้าร้านขายน้ำตาลสด “เอาน้ำตาลสดหนึ่งแก้วครับ”พีรพัฒน์บอกแม่ค้าวัยกลางคน“ได้ค่ะคุณลูกค้า”แม่ค้าคนดังกล่าวตักน้ำแข็งใส่กระบอกไม้ไผ่ จากนั้นจึงเทน้ำตาลสดจากขวดลงในกระบอกไม้ไผ่ มือหนารับกระบอกน้ำตาลสดจากแม่ค้าส่งให้ภรรยาคนสวย อริสานำน้ำตาลสดขึ้นมาดูด“อื๊อ อร่อยจังเลยค่ะพี่พัฒน์ หอมมาก ชิมดูสิคะ”เธอยื่นกระบอกน้ำตาลสดพร้อมกับจับที่หลอดดูดจ่อริมฝีปากหนา พีรพัฒน์ดูดน้ำตาลสดที่ภรรยาสาวเป็นคนป้อน อย่างเอร็ดอร่อย“ต