ฉันไม่รู้ว่าคุณจอมทัพอะไรนี่เขานึกครึ้มอะไรขึ้นมา ถึงเป็นคนขับรถมาส่งฉันด้วยตัวเอง ทั้งที่บาดเจ็บ ทั้งที่พี่ขุนพลอะไรนั่นเสนอจะขับมาให้แท้ๆ.. เขาจะ.. ฆ่าฉันหมกป่าหรือเปล่านะ!
รถหรูคันใหม่ที่ไม่ใช่คันเดิม เลี้ยวเข้าซอยร้านของเจ๊หอย ขับผ่านกองขยะที่เป็นจุดเริ่มต้นของวันนี้..
“ถึงแล้ว”
“..ขอบคุณ”
“….” แต่เพราะจอมทัพเหลือบมอง หางเสียงหวานๆก็ลากยาวพร้อมกับยกมือลาสวัสดี
“ขอบคุณ ค่ะ”
“พูดไม่ได้ก็ไม่ต้องพูด ฉันไม่ชอบฝืนใจใคร”
“….”
“เธอก็รู้นิ” จะสื่อว่าคืนนั้นฉันยินยอมเข้าเขาสอดใส่หรือไงกัน! ตัวเองนั่นแหละที่ตะบี้ตะบั้นใส่มันเข้ามา ฉันจำได้ว่าเจ็บเจียนตายเลยนะ แต่ดันหลงระเริงกับคำพูดเเสนหวานบนเตียงในตอนนั้นซะได้!
“ไม่รู้ค่ะเพราะจำไม่ได้ “
“แทนที่จะจำหน้าฉันได้ แต่กลับจำแผลที่อยู่ต่ำขนาดนั้นได้นี่”
“….”
“ตั้งใจจะจำอย่างอื่นมากกว่าหรือเปล่า?”
“หุบปากเลย เรื่องมันผ่านมาสองปีแล้ว แล้วมันก็เกิดขึ้นแบบมึนๆ ถึงมันจะจบดีจนสบายตัวก็เถอะแต่ว่า.. อย่าพูดถึงมันจะได้ไหม” สุดท้ายจอมทัพก็แค่พยักหน้าช้าๆเนือยๆแต่ไร้คำพูด
มิลินรีบยกมือไหว้อีกฝ่ายเพราะสถานะของฝ่ายชายคือมาเฟีย ที่มีปืนเหน็บเอวอยู่ตลอดเวลาและ.. น่าเกรงขามชะมัดแค่เขาเหลือบมอง.. เธอรีบลงจากรถก่อนจะมองซ้ายมองขวา ควักเงินข้าวกล่องออกมาสัก.. สามร้อย ค่าข้าวกล่องลูกค้าสองร้อย ส่วนอีกร้อยก็.. ถือว่าเป็นความผิดของฉันแล้วกันที่ไปส่งข้าวได้ไม่ถึงมือลูกค้า
“มาแล้วเหรอ! หายไปไหนทั้งวันรู้ไหมลูกค้าที่ร้านวุ่นแค่ไหน ไหนจะลูกค้าที่แกไปส่งข้าวให้ไม่ถึงที่อีก! เขาโมโหหิวจนต้องโทรมาด่าฉันชุดใหญ่! แกจะตัดการทำมาหากินของฉันหรือไง! วันๆเอาแต่เดินโชว์หน้าเนียนๆวอกๆนั่น แวะยิ้มให้คนนั้นคนนี้ไปเรื่อย แค่เดินไปส่งข้าวเนี่ย มันจะตายหรือไง!”
เป็นอย่างคิดเลยแฮะ ยังไม่ทันได้ปริปาก สารพัดคำด่าก็พุ่งทิ่มแทงกันเหมือนเหล็กแหลม ฉันยื่นเงินสามร้อยบาทให้เจ๊หอย ก่อนจะรับไปแล้วเเค่นถามถึงเศษร้อยนึงที่เหลือ
“..ค่าอะไร?”
“ค่าจะทำให้เสียลูกค้าไง ลินมีเรื่องระหว่างทางนิดหน่อยทำให้ไปส่งข้าวไม่ถึงที่” เจ๊หอยเงียบไปแม้จะเหลือบมองหน้าฉันและมองรถคันที่ฉันคิดว่าเขาน่าจะขับออกไปตั้งนานแล้ว แต่ยังอยู่
“..แล้วนั่นรถใคร?”
กึก… พูดจบ เจ้าของรถก็ลงจากรถ ในมือถือผ้ากันเปื้อนของมิลินแล้วโยนใส่หน้าของเธอต่อหน้าเจ๊หอย ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋าเคียงร่างบางอย่างมิลิน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเห็นหน้าชัดๆ เจ๊หอยก็ถึงกับชะงัก
“คะ คุณจอมทัพ!”
“ลินไปกับผมเอง มีอะไรหรือเปล่า?”
“อะ เอ่อ ไม่มี! ไม่มีค่ะ!”
“….” ดวงตาคมจ้องมองเจ๊หอย แม้จะเรียบนิ่งแต่สีหน้าก็ขึงขังพอจนอีกฝ่ายไม่กล้าสบตา จังหวะเดียวกันที่ผ้ากันเปื้อนยังคลุมหัวมิลินอยู่ค่อยๆไหลตก ทำให้จอมทัพมองเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความฝืนกันอดทน มิลินมีสีหน้าที่กักอารมณ์สุดๆ ก่อนจะถูกรั้งแขนโดยเจ๊หอย
“แกรีบไปล้างของเดี๋ยวนี้เลย!” ร่างบางถูกจับกระตุก เธอปล่อยร่างให้โดนฉุดกระชาก
มือหนาคว้าผ้ากันเปื้อนที่กำลังจะตกลงสู่พื้น พร้อมกับมองสถานการณ์ตรงหน้าที่มิลินเงียบผิดปกติ ไร้เเววเจื้อยเเจ้วแบบที่ตนเจอ
เพี้ยะ! เพี้ยะ! เจ๊หอยฟาดมือตีแขนมิลินไม่หยุด ราวกับเธอทำผิดในเรื่องร้ายแรง
“แกมากับคุณจอมทัพได้ยังไง! แกไปลากเขามางั้นเหรอ! รู้ว่าฉันไม่มีเงินส่งดอกใช่ไหมเลยเลือกใช้เขาเป็นไม้ตาย!”
“..ไม่ใช่ซะหน่อย ลินกับเขาก็แค่”
“ก็แค่อะไร! จะบอกว่ามาเฟียคนนั้นเห็นใจเด็กส่งข้าวกล่องอย่างแกงั้นเหรอ? แกพาเขามาที่นี่เพราะรู้ว่าฉันไม่มีเงินจ่ายดอกเขาใช่ไหมมิลิน!”
หมับ! ในช่วงที่ใจฉันกำลังดิ่ง มือหนาๆก็จับที่ข้อมือกัน ฉุดกระชากให้ฉันเอนเถงไปทางเขา มืออีกข้างหลุดจากการจับกุมของเจ๊หอย แล้วผ้ากันเปื้อนของฉันก็ถูกโยนใส่หน้าเจ๊หอยอย่างจัง
พรึ่บ!
“นี่คุณ! ทำอะไรหนะ!”
“ว๊ายยย! อะไรเนี่ย” เจ้าของร้านข้าวปัดมือเป็นพัลวันเมื่อผ้ากันเปื้อนถูกคลุมด้วยแรงโยน
“บอกไปสิว่าฉันกับเธอเป็นอะไรกัน”
“ห๊ะ?” ไม่ใช่แค่ฉันนะ เจ๊หอยก็ตาเบิกโพลงมือไม้สั่นเป็นระวิง
“บอกไปสิ ว่าเธอกำลังจะเป็นผู้หญิงของฉัน”
“คุณจอมทัพ คุณพูดบ้าอะไร!” มิลินตาถลน เธอกำลังจะแกะมือที่จอมทัพยังคงบีบข้อมือเธอเอาไว้
“กำลังจะไปเป็นผู้หญิงของฉัน”
“….”
“ชัดหรือยัง? เพราะงั้นเจ๊ อย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงของผม”
“อึ่ก.. มิลิน แก”
“คุณพูดอะไรคุณจอมทัพ คุณกำลังจะทำให้ฉันตกงานนะ” ไม่เอานะ ถ้าฉันจะต้องตกงานอีกรอบละก็…
“ไปเก็บของ”
“….”
“ที่นี่มีของของเธอหรือเปล่า?”
“ไม่ได้นะ! คุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้!” เจ๊หอยโกรธจนควันออกหู เพราะตั้งแต่ที่มิลินมาทำงานที่ร้านของตัวเอง ความน่ารักของเธอเรียกลูกค้าผู้ชายได้ดี และทำให้เจ๊หอยมีรายได้จากการขายข้าวมากขึ้นกว่าปกติ ไม่แปลกที่เจ๊หอยจะยังรั้งฉันและทำสีหน้าเหมือนกำลังจะสูญเสียของสำคัญไป
“ฉันไม่ให้แกไปมิลิน!”
“….”
“แกจะไปจากที่นี่ไม่ได้!” แรงคว้าแขนครั้งนี้ทำให้มิลินเจ็บจนแสดงออกทางสีหน้า ดูเหมือนว่าเจ๊หอยจะไม่ยอมเสียเครื่องมือทำมาหากินอย่างมิลินไปเด็ดขาด
“กลับเข้าร้านเดี๋ยวนี้!”
“โอ้ย!”
“..ไปรอที่รถ” เสียงหนากระซิบที่ข้างหูฉัน เขามองหน้ากันก่อนจะออกคำสั่งทางสีหน้า ฉันจะทำยังไงเนี่ย เกิดมาไม่เคยเจอสถานการณ์ที่มีคนมายื้อยุดฉุดกระชากกันแบบนี้..
“ไม่นะ!”
“ไป” เป็นอีกครั้งที่จอมทัพกำชับมิลินด้วยความนิ่งขรึม เธอคงต้องเลือกเขา..
ร่างบางแกะมือเจ๊หอย แม้จะก้มหน้าแต่ก็รีบเดินเร็วกลับไปที่รถทันที เธอเข้าไปนั่งในนั้นแล้วมองสองคนที่ยังยืนเผชิญหน้ากันเพราะเธอ ในขณะด้านนอกของรถ
“คุณจอมทัพ! คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ มิลินเป็นเครื่องมือทำมาหากินของฉัน! ถ้าคุณเอาแกไปแบบนี้..”
“แล้วมันจะทำไม?”
“อึ้ก!”
“เจ๊จะทำยังไง? หาเรื่องเบี้ยวไม่จ่ายดอก? หรือจะเป็นศัตรูกับผม?”
“..!!!”
“มีศัตรูเป็นเจ้าของร้านขายข้าวเนี่ย ก็แปลกใหม่ดี”
“คุณ!”
“ถ้าคิดว่าตะหลิวในมือ มันสู้ลูกปืนในกระบอกได้.. จะแต่งตั้งเป็นศัตรูกันก็เอาสิ”
“!!!!”
“มิลิน.. เป็นของผม”
“….”
“อย่ายุ่งกับเธออีก”
“มิลินเป็นของฉัน! ฉันจะไม่ยอมเสียเครื่องมือทำมาหากินฉันไปเด็ดขาด!” เสียงก้องสะท้อนเข้ามาในรถ เพราะฉันแอบเปิดกระจกรถฟังในสิ่งที่พวกเขาคุยกัน
เจ๊หอยเหมือนมองฉันเป็นแค่เครื่องมือทำมาหากินจริงๆ เเกกระวนกระวายเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะเสียฉันไป แต่ฉันไม่รู้สึกดีสักนิดที่มีคนต้องการจะรั้งฉันด้วยเหตุผลที่ฉัน.. มีผลประโยชน์กับเขา
มิลินนั่งจับหัวใจตัวเอง คงกำลังสับสนกับทุกอย่าง ถ้าเธอไม่กลับลงไปเธออาจจะเสียงานจนตกงาน แต่ถ้าเธออยู่บนนี้ อยู่บนรถของมาเฟียคนนี้.. ฉันก็ไม่รู้เส้นทางในอนาคตฉันอยู่ดี ในขณะที่ไม่รู้ว่าจะเลือกเส้นทางไหน ตัวฉันก็เปิดประตูรถแล้วก้าวขาลงไปแล้วครึ่งตัว
‘มิลินหลานรัก ถ้าวันนึงยายไม่อยู่แล้ว หลานไม่มีที่ปรึกษาในวันที่หลานสับสน ยายขอให้หลานมีสติในการเลือกทางเดินของชีิวิต แต่หากผิดพลาดไปก็ไม่เป็นไร คนเราไม่อาจเลือกเส้นทางที่ถูกต้องถ้าไม่เคยผิดหวังหรือผิดพลาด เลือกทางที่ทำให้ตัวของหลาน ลำบากใจน้อยที่สุด ถึงมันไม่ผลิดอกออกผลในตอนแรก แต่ความสบายใจที่หลานเลือก มันจะทำให้หลานไม่รู้สึกเหนื่อย หรือไม่เหนื่อยมากเกินไปกับสิ่งที่เจอ.. ยายไม่รู้ว่าสิ่งที่ยายสอนมันถูกต้องไหม แต่ยายจะ มองหลานอยู่ตลอดเวลาเลยนะ’
“แกไปจากฉันไม่ได้มิลิน!”
หมับ! เสียงของเจ๊หอยทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ เสียงของยายที่เคยพูดกับฉันหายไป เหลือแต่สีหน้าของคนที่มองฉันเป็นเครื่องมือทำมาหากิน
ก่อนที่แรงสบัดจากมิลินจะทำให้ฝ่ายที่รั้งเธอถึงกับเหวอไป เมื่ออีกฝ่ายพุ่งเข้ามาหาเธอ
“ลินไม่ใช่เครื่องมือเพื่อใครหรือของใคร”
“..แก!”
“คุณทัพคะ ลินถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหม?” มิลินเอ่ยถามทั้งอย่างนั้น การเงียบคือคำตอบสำหรับจอมทัพ
“ถ้าลินไปอยู่กับคุณ ไปดูแลคุณ.. คุณจะไม่ใช้ลินเป็นเครื่องมือเพื่อทำร้ายใคร หรือใช้ลินเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของคุณใช่ไหม” สีหน้าของมิลินขึงขังขึ้นมา จอมทัพรับรู้ถึงขั้วอารมณ์ของเธอที่เปลี่ยนไป
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่ได้คิดอะไรไปถึงขั้นนั้น”
“….”
“ห้ามไปนะ!” และเมื่อครั้นเสียงของเจ๊หอยยังพยายามรั้งมิลินเอาไว้เพราะเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง มิลินมองหน้าจอมทัพที่ยืนห่างออกไปโดยมีเจ๊หอยคั่นกลาง
“…ลินจะไปกับคุณ” มิลินพูดจบเธอก็เข้าไปนั่งในรถแล้วกดล็อคประตูเพื่อหนีจากการตามตื้อของเจ๊หอย
นายจ้างที่ไม่เคยทำเหมือนเธอเป็นลูกจ้างที่ดีเลยสักครั้ง