Share

การจากลาแบบคาดไม่ถึง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-25 01:21:41

เสียงเพลงในงานแฟชั่นโชว์ยังคงดังก้อง พร้อมแสงไฟที่วูบวาบจับไปยังนางแบบคนดังที่เดินออกมาจากรันเวย์อย่างสง่างาม “หยางซูมี่” คือชื่อที่ทุกคนพูดถึงในค่ำคืนนี้ เธอคือดวงดาวที่ส่องแสงเหนือใครทั้งในสายตาของผู้ชมและเหล่านักออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายของความอิจฉาริษยา

“เธอสมบูรณ์แบบจนเหมือนภาพวาด…” ใครบางคนพึมพำเบาๆ ในฝูงชน

ในอีกมุมหนึ่งของงาน “อลิซาเบธ” ยืนมองด้วยสายตาเย็นชา หญิงสาวผู้เป็นทั้งคู่แข่งและศัตรูตลอดกาลของซูมี่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ ที่ซ่อนความคิดลึกซึ้งไว้เบื้องหลัง

หลังจบโชว์ เจ้าของงานได้เชิญซูมี่ พร้อมนางแบบและทีมงานคนอื่นๆ เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำในโรงแรมสุดหรู

“คืนนี้นายทุนใหญ่หลายคนอยากพบเธอเป็นการส่วนตัว เธอเป็นเหมือนตัวชูโรงของงานนี้เลยนะซูมี่” ลิซ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอพูดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปยังห้องจัดเลี้ยง

ซูมี่พยักหน้ารับ แม้เธอจะยิ้ม แต่ลึกๆ เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับมีเงาแห่งอันตรายวนเวียนอยู่รอบตัว

ลิซ่าอดไม่ได้ที่จะสังเกตถึงสายตาของอลิซาเบธที่จับจ้องมาทางพวกเธอ สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอาฆาต

“ซูมี่ ฉันว่าเธอควรระวังตัวหน่อยนะ อลิซาเบธดูไม่ค่อยปกติเลย” ลิซ่าเตือนเสียงจริงจัง

“ฉันรู้… แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันดูแลตัวเองได้” ซูมี่ตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แม้ในใจลึกๆ เธอเองก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน

เสียงหัวเราะและบทสนทนาในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความคึกคัก ทุกคนต่างเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสและไวน์ราคาแพง ซูมี่ใช้เวลาพูดคุยกับแขกผู้ใหญ่ที่เข้ามาทักทายด้วยมารยาทที่สมบูรณ์แบบ

แต่ในมุมมืดอีกด้านของห้อง อลิซาเบธกำลังทำบางอย่างด้วยแววตาเครียดแค้น เธอหยิบซองยาเล็กๆ ออกมา เทของเหลวใสลงในแก้วไวน์ที่วางอยู่มุมหนึ่ง ก่อนจะส่งสัญญาณให้ชายร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตดำที่ยืนรออยู่

ชายคนนั้นเดินมาหาซูมี่พร้อมแก้วไวน์ “คุณหยางครับ เครื่องดื่มสำหรับคุณโดยเฉพาะ เจ้าของงานฝากมาให้ครับ”

ซูมี่มองแก้วไวน์ตรงหน้า แม้จะรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เธอก็รับมาโดยไม่ได้คิดอะไรมาก

“ขอบคุณค่ะ” เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะจิบไวน์ไปสองสามคำ

ไม่นานหลังจากดื่มไวน์ ซูมี่เริ่มรู้สึกแปลกๆ ทั่วร่างกายของเธอร้อนวูบวาบ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

“ฉันรู้สึก…ไม่ค่อยดี” เธอพูดเสียงแผ่ว พลางหันไปหาลิซ่า

“ซูมี่! เธอโอเคมั้ย?” ลิซ่าถามด้วยความตกใจ

ไม่ทันที่เธอจะตอบ ซูมี่ก็ทรุดตัวลงกับพื้น สติของเธอเลือนราง เสียงรอบตัวกลายเป็นเสียงที่เบาหวิว

ซูมี่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที ทีมแพทย์พยายามช่วยชีวิตเธออย่างสุดความสามารถ แต่ฤทธิ์ของสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายกลับรุนแรงเกินกว่าจะต้านไหว

ลิซ่ายืนมองผ่านกระจกของห้องฉุกเฉิน น้ำตาไหลอาบแก้ม ขณะที่แพทย์เดินออกมาพร้อมสีหน้าหนักใจ

“เราพยายามเต็มที่แล้ว… ขอแสดงความเสียใจด้วย”

ข่าวการเสียชีวิตของหยางซูมี่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ผู้คนต่างตกใจและเสียใจกับการจากไปของเธอ แต่ในมุมหนึ่งของเมือง อลิซาเบธกลับยิ้มเยาะ “ในที่สุด ฉันก็ชนะเธอได้”

แต่แทนที่ทุกอย่างจะจบลงในความมืดมิด ซูมี่กลับลืมตาขึ้นอีกครั้ง และพบว่าตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆ ที่ดูเก่าแก่และทรุดโทรม เธอรู้สึกถึงความหนักอึ้งในร่างกายและความหนาวเหน็บที่ซึมลึกเข้าไปถึงกระดูก เปลือกตาของเธอหนักจนแทบลืมไม่ขึ้น แต่ด้วยความพยายาม เธอรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อลืมตามองภาพรอบตัว

สิ่งแรกที่เธอเห็นคือเพดานไม้เก่าๆ ที่เต็มไปด้วยรอยคราบน้ำ เธอพยายามพลิกตัว แต่ร่างกายกลับอ่อนแรงราวกับไม่ใช่ของเธอเอง

“นี่ฉัน…อยู่ที่ไหนเนี่ย” เธอพึมพำออกมา

ความทรงจำที่ถาโถมเข้ามา

เสียงประตูไม้ดังเอี๊ยดอ๊าด ตามมาด้วยใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่ดูอิดโรย แต่เต็มไปด้วยความรักและห่วงใย

“ซูมี่! ลูกฟื้นแล้ว” หญิงคนนั้นรีบเข้ามานั่งข้างเตียง จับมือเธอไว้แน่น น้ำตาคลอเบ้า

“แม่?” คำนี้หลุดออกจากปากของเธอโดยไม่รู้ตัว เพราะหน้าตาของแม่ร่างนี้เหมือนกับแม่ของเธอมากรวมถึงพ่อและพี่ชายด้วย

ในขณะเดียวกัน ความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอแต่กลับเหมือนเป็นของเธอเองก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เธอได้รู้ว่าเธออยู่ในร่างของ “หยางซูมี่” เด็กสาวอายุ 19 ปี จากครอบครัวสายรองของตระกูลหยางในชนบทจีนยุค 1970 ครอบครัวที่แม้จะไม่ได้ร่ำรวย แต่กลับเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น

ครอบครัวหยางสายรอง

พ่อของเธอ “หยางเหวินเทา” เป็นคนเงียบขรึม แต่เต็มไปด้วยความเด็ดขาดและความรักที่ไม่เคยพูดออกมา เขาทำงานหนักในคอมมูนของหมู่บ้านเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

แม่ของเธอ “ซู่เม่ย” เป็นหญิงแกร่งที่แม้มือจะหยาบกร้านจากการทำงานหนัก แต่หัวใจกลับอ่อนโยนและอุทิศทุกอย่างเพื่อลูกๆ

และ “หยางเหว่ย” พี่ชายของเธอที่อายุ 22 ปี เป็นคนฉลาด ไหวพริบดี และรักน้องสาวมากที่สุด แม้เขาจะทำงานในคอมมูนหนักแค่ไหน แต่เขากลับไม่เคยลืมที่จะดูแลน้องสาวและปกป้องครอบครัว

“ซูมี่ น้องฟื้นแล้วจริงๆ ใช่ไหม” หยางเหว่ยเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มโล่งใจ เขานั่งลงข้างเตียงและลูบหัวเธอเบาๆ

“พี่แทบจะฆ่าคนตอนที่รู้ว่าน้องตกน้ำ”

คำพูดของเขาทำให้ภาพในความทรงจำของเธอฉายชัดขึ้น เหตุการณ์ที่เธอตกน้ำและเกือบเอาชีวิตไม่รอดกลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง

หยางหลิน ลูกสาวของลุงใหญ่ ผู้เป็นสายหลักของตระกูลหยาง เป็นคนที่ไม่เคยพอใจในตัวซูมี่

“ทำไมแกถึงได้ใช้ชีวิตสบายๆ ทั้งที่ต้องทำงานหลังขดหลังแข็ง ทำไมแกถึงมีคนรักทั้งบ้าน ทั้งที่แกไม่เคยทำอะไรเลย” เสียงของหยางหลินดังขึ้นในความทรงจำ

ทุกครั้งที่หยางหลินเห็นซูมี่ เธอจะแสดงความอิจฉาออกมาอย่างชัดเจน และสุดท้าย ความอิจฉานั้นก็กลายเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของซูมี่ไปตลอดกาล

ในวันนั้น ขณะที่ซูมี่เดินเล่นริมแม่น้ำ หยางหลินได้แอบตามเธอมา

“ซูมี่! ระวัง!” เสียงตะโกนปลอมๆ ที่เต็มไปด้วยเจตนาร้ายดังขึ้น ก่อนที่หยางหลินจะผลักเธอลงไปในน้ำ

“หยางหลิน! เธอทำอะไร!” ซูมี่ตะโกนลั่น แต่เสียงของเธอกลับจมหายไปในสายน้ำเย็นจัด

เธอพยายามว่ายน้ำขึ้นฝั่ง แต่กระแสน้ำที่แรงและร่างกายที่อ่อนแอทำให้เธอไม่สามารถต้านทานได้

โชคดีที่ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี เขากระโดดลงน้ำโดยไม่ลังเล และแบกร่างของเธอขึ้นมา

“คุณ คุณครับ ตื่นสิ!” ลู่เฉิงพยายามปลุกเธอ ขณะที่เขาแบกร่างเปียกปอนของเธอกลับบ้าน

แต่แม้ลู่เฉิงจะพยายามช่วยเธออย่างเต็มที่ ร่างกายของซูมี่กลับอ่อนแอจนทนพิษไข้ที่เกิดจากความหนาวเย็นไม่ได้

เมื่อซูมี่ฟื้นขึ้นพร้อมกับความทรงจำของร่างเดิมในยุค 2025 เธอรู้ทันทีว่าการตกน้ำครั้งนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ

“หยางหลิน…” เธอกำหมัดแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เธอจะต้องชดใช้สำหรับสิ่งที่เธอทำ”

แต่เธอก็รู้ดีว่าการแก้แค้นในทันทีอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด เธอต้องวางแผน ต้องปกป้องครอบครัวสายรองที่รักเธอ และต้องทำให้ทุกคนเห็นความจริงเกี่ยวกับตัวตนของหยางหลิน

“ซูมี่ ลูกยังไหวไหม” ซู่เม่ยเข้ามานั่งข้างเตียง พลางจับมือเธอเบาๆ

“แม่คะ… หนูจะไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลตัวเองและครอบครัวให้ดีที่สุด”

หยางเหว่ยเดินเข้ามาเสริม “น้องไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น พี่จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายน้องอีก”

คำพูดของพ่อ แม่ และพี่ชายที่รักเธอมากที่สุด ทำให้ซูมี่ในร่างใหม่รู้ว่า เธอจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายครอบครัวนี้อีกต่อไป

เธอจะตอบแทนความรักของพวกเขา

--------/--------------------------------------------

สวัสดีค่ะ พูดคุยติชมให้กำลังใจ นักเขียนมือใหม่ คนนี้กันได้นะคะ ฝากคุณรี้ดทุกท่านเปิดใจเอ็นดูด้วยกันหน่อยนะงับ ไรต์จะพยายามและตั้งใจพัฒนางานเขียนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่าพึ่งทิ้งกันนะค้าาา❤️

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   แผนการร้าย

    ลู่เฉิงเดินมาหยุดหน้าบ้านของซูมี่ในเช้าวันหนึ่ง เพื่อมาบอกลาซูมี่ก่อนเดินทางกลับค่ายทหาร เขายืนอยู่ที่ลานหน้าบ้าน มองเธอด้วยแววตาอบอุ่น“ฉันคงต้องไปแล้ว” ลู่เฉิงพูด พร้อมยื่นมือมาลูบศีรษะเธอเบาๆ“เดินทางปลอดภัยนะคะ” ซูมี่ตอบพลางส่งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความห่วงใยหยางหลินที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยินบทสนทนานั้นเต็มสองหู เธอกำหมัดแน่นด้วยความโกรธพลางกัดฟันกรอด“ฉันคิดว่าลู่เฉิงจะอยู่นานกว่านี้… ทำไมเขาต้องรีบกลับค่ายด้วย” หยางหลินพึมพำในใจแต่เมื่อความโกรธเริ่มคลายลง รอยยิ้มร้ายกาจกลับปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “แต่ช่างเถอะ แผนฉันยังไม่ล่มเสียทีเดียว” เธอคิด ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้น หยางหลินเดินเลียบถนนในหมู่บ้าน ทิ้งสายตาดูถูกใส่บ้านเรือนที่ดูเก่าคร่ำคร่า จนกระทั่งเธอเดินลึกไปจนถึงท้ายหมู่บ้าน สถานที่ที่ผู้คนไม่อยากยุ่งเกี่ยว เพราะเป็นที่อยู่ของ “ชายพิการขี้เมา” ชื่อว่า “เหลียงฟู่”เหลียงฟู่เป็นชายพิการที่ขาเสียจากอุบัติเหตุ และใช้ชีวิตไปวันๆ ด้วยการดื่มเหล้าจนเมามาย ไม่มีใครในหมู่บ้านให้ความสนใจเขาแม้แต่น้อย หยางหลินหยุดยืนหน้ากระท่อมเก่าๆ ของเหลียงฟู่ เธอตะโกนเรียกเสียงดัง“เหลียงฟู่

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   ปุ๊บปั๊บ…รับโชค

    หลังจากเหตุการณ์ที่ลู่เฉิงช่วยชีวิตหยางซูมี่จากการตกน้ำ เรื่องนี้ก็แพร่กระจายไปราวกับโรคระบาด ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ต่างพูดถึงเหตุการณ์นี้ไม่หยุดในขณะที่บ้านหยางสายรองกำลังทำงานในแปลงนาอยู่นั้น ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะได้ยินเสียงชาวบ้านคนหนึ่งพูดถึงเรื่องที่ลู่เฉิงอุ้มซูมี่ที่หมดสติตัวเปียกปอนกลับมาที่บ้าน "แบบนี้เรียกผิดผี ผิดธรรมเนียมแล้ว อย่างไรลูกชายสามบ้านลู่ต้องรับผิดชอบ ถึงซูมี่จะมีนิสัยร้ายกาจขนาดไหนก็ตาม ห้ามปล่อยเรื่องนี้ไปเด็ดขาด" ชาวบ้านอีกคนพูดขึ้นเมื่อมีคนพูดเรื่องนี้มา ทุกคนต่างพากันคิดตาม และพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มพากันพูดเสียงดัง ซู่เม่ยหันไปหาสามีสามีทันที เพื่อขอความคิดเห็น"เรื่องนี้เป็นแค่การช่วยชีวิตซูมี่ด้วยความจำเป็นและบริสุทธิ์ใจ อย่ามาผูกมัดกันด้วยเรื่องนี้เลย" หยางเหวินเทาพูดเพื่อปกป้องลูกและไม่อยากไปผูกมัดลู่เฉิงด้วยเรื่องนี้"ได้อย่างไร แม้จะเป็นการช่วยชีวิตก็เถอะ"อีกคนพูดพร้อมกับมองไปที่บ้านลู่ซึ่งทำงานอยู่ไกลออกไปแน่นอนว่าไม่มีทางได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูดส่วนทางลู่เฉิงก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตัวเขาคิดไว้แล้วว่าการแต่งงานมันต้องมีขึ้นอย่างแน่นอน เขาคิดไว้ว่าแต

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   การจากลาแบบคาดไม่ถึง

    เสียงเพลงในงานแฟชั่นโชว์ยังคงดังก้อง พร้อมแสงไฟที่วูบวาบจับไปยังนางแบบคนดังที่เดินออกมาจากรันเวย์อย่างสง่างาม “หยางซูมี่” คือชื่อที่ทุกคนพูดถึงในค่ำคืนนี้ เธอคือดวงดาวที่ส่องแสงเหนือใครทั้งในสายตาของผู้ชมและเหล่านักออกแบบ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเป้าหมายของความอิจฉาริษยา“เธอสมบูรณ์แบบจนเหมือนภาพวาด…” ใครบางคนพึมพำเบาๆ ในฝูงชนในอีกมุมหนึ่งของงาน “อลิซาเบธ” ยืนมองด้วยสายตาเย็นชา หญิงสาวผู้เป็นทั้งคู่แข่งและศัตรูตลอดกาลของซูมี่ เธอคลี่ยิ้มบางๆ ที่ซ่อนความคิดลึกซึ้งไว้เบื้องหลังหลังจบโชว์ เจ้าของงานได้เชิญซูมี่ พร้อมนางแบบและทีมงานคนอื่นๆ เข้าร่วมงานเลี้ยงมื้อค่ำในโรงแรมสุดหรู“คืนนี้นายทุนใหญ่หลายคนอยากพบเธอเป็นการส่วนตัว เธอเป็นเหมือนตัวชูโรงของงานนี้เลยนะซูมี่” ลิซ่า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอพูดขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังเดินไปยังห้องจัดเลี้ยงซูมี่พยักหน้ารับ แม้เธอจะยิ้ม แต่ลึกๆ เธอกลับรู้สึกไม่สบายใจ ราวกับมีเงาแห่งอันตรายวนเวียนอยู่รอบตัวลิซ่าอดไม่ได้ที่จะสังเกตถึงสายตาของอลิซาเบธที่จับจ้องมาทางพวกเธอ สีหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความอาฆาต“ซูมี่ ฉันว่าเธอควรระวังตัวหน่อยนะ อลิซาเบธดูไม่

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   ตัดสินใจบอกครอบครัว

    หลังจากกลับจากประเทศจีน หยางซูมี่รู้สึกว่าหัวใจเธอหนักอึ้ง แม้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเหนือธรรมชาติที่ยากจะอธิบาย แต่กำไลหยกขาวที่พระรูปนั้นให้มาทำให้เธอปฏิเสธความจริงไม่ได้ซูมี่นัดพ่อแม่และหยางเหว่ย พี่ชายของเธอ ทานข้าวที่บ้านในค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น อาหารจีนจานโปรดถูกจัดเรียงเต็มโต๊ะ ทั้งเป็ดย่าง เกี๊ยวน้ำ และผัดหมี่ที่อาม่าทำให้กินตั้งแต่เด็ก“ซูมี่ กลับมาจากจีน ดูเหมือนจะมีเรื่องอะไรในใจนะ” แม่ถามพลางมองหน้าลูกสาวด้วยความเป็นห่วงซูมี่เม้มปาก ก่อนสูดลมหายใจลึก “หนูมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ… มันอาจฟังดูเหมือนเรื่องแต่ง แต่หนูอยากให้พ่อแม่กับพี่เชื่อหนู”“อะไรกันล่ะ” พ่อมองด้วยสายตาสงสัย แต่เปิดใจฟังซูมี่ดึงกำไลหยกขาวออกมาและวางไว้กลางโต๊ะ “ตอนหนูไปวัดในจีน พระรูปหนึ่งให้กำไลนี้กับหนู แล้วบอกว่าหนูต้อง ‘หวนคืน’ และ… หนูก็พบว่ามันไม่ใช่กำไลธรรมดา”หยางเหว่ยหัวเราะเบาๆ “กำไลมิติ? เดี๋ยวนี้ดูหนังไซไฟเยอะไปหรือเปล่า ”“พี่ ฟังหนูก่อน” ซูมี่เถียงพลางมองหน้าพี่ชายอย่างจริงจัง “ตอนหนูกำลังจะกลับไทย หนูลองใส่ของลงไปในกำไลโดยไม่ตั้งใจ แล้วมัน…หายไป หายไปจริงๆ! เหมือนกำ

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   กำไลหยกขาวแห่งชะตา

    หลังกลับจากงานปารีสแฟชั่นวีค หยางซูมี่ตัดสินใจใช้ช่วงเวลาหยุดพักจากชีวิตที่วุ่นวาย เดินทางกลับไปยังหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ในมณฑลเสฉวน ที่ซึ่งอากงและอาม่าของเธอยังคงอาศัยอยู่ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเธอ สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเด็ก เธอได้บอกพ่อแม่และชวนพี่ชายมาด้วยกัน แต่ก็ไม่มีใครว่างเลย เหตุเพราะเธอชวนกะทันหันเกินไป ไม่สามารถเคลียงานได้ทัน เธอเลยบินเดี่ยวสู่จีนแผ่นดินใหญ่ด้วยตัวคนเดียว จริงๆพี่ลิซ่าอาสามาเป็นเพื่อนด้วย แต่โดนเธอปฎิเสธไปเพราะเกรงใจ นานๆจะได้มีวันหยุดทั้งที ปล่อยให้พี่ลิซ่าเดทกับคุณสามีไปเถอะ การเดินทางสู่ชนบท เมื่อเครื่องบินแตะพื้นดินในมณฑลใกล้บ้านเกิด ซูมี่ออกเดินทางต่อด้วยรถยนต์ ท่ามกลางภูมิประเทศที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากเมืองใหญ่สู่ชนบทที่เงียบสงบ ถนนสายเล็กๆ ลัดเลาะไปตามภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี กลิ่นอายของธรรมชาติและเสียงนกร้องทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรถแล่นเข้าสู่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เธอเคยเรียกว่าบ้านในวัยเด็ก ความทรงจำในอดีตก็พลันหลั่งไหลเข้ามา บ้านไม้หลังเก่าที่เธอเคยวิ่งเล่นยังคงตั้งอยู่กลางลานดินกว้าง ที่น

  • ย้อนกลับมาเปลี่ยนชะตาของนางร้าย (ยุค70)   หยางซูมี่ นางพญารันเวย์

    ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงดนตรีจากแฟชั่นโชว์ระดับโลก ณ Grand Palais Paris สถานที่จัดงานอันหรูหราซึ่งเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำจากทั่วโลกต่างมารวมตัวกันเพื่อเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ของพวกเขา เวทีที่ประดับด้วยแชนเดอเลียร์คริสตัลส่องประกายระยิบระยับ ราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยาย ภายในงาน บรรดาแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่น นักออกแบบระดับโลก และเซเลบริตี้ชั้นนำต่างจับจ้องไปที่รันเวย์ ในขณะที่เสียงดนตรีอันทรงพลังดังกระหึ่มขึ้น และในที่สุด…เธอก็ปรากฏตัว หยางซูมี่ ย่างก้าวออกมาอย่างสง่างาม ดวงตาคมดั่งนิลจับจ้องไปข้างหน้า เสื้อผ้าทอด้วยผ้าไหมสีทองประดับด้วยคริสตัล Swarovski นับร้อยสะท้อนแสงไฟทุกย่างก้าวของเธอ ทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย ชุดราตรีจากแบรนด์ระดับตำนาน “Maison de Lumière” ถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เสียงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปดังระรัว นักข่าวและช่างภาพพากันถ่ายภาพของเธออย่างไม่หยุดหย่อน เสียงกระซิบชื่นชมดังกระหึ่มไปทั่วงาน “เธอสง่างามจริงๆ …เหมือนนางพญาที่ก้าวออกจากจอภาพยนตร์” “หยางซูมี่คือราชินีแห่งวงการแฟชั่นของยุคนี้” “ไม่มีใครเทียบเธอได้เลย” เธอยิ้มเพียงเล็กน้อย รั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status