เมื่อเพื่อนสนิทกับแฟนคนแรกมีอะไรกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของยีนส์และเพื่อนคนนั้นต้องจบลงไป อยู่ ๆ วันหนึ่งมีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่เข้ามาในชีวิตเขา ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเธอ เพราะเข็ดหลาบกับความรักในอดีต จนกระทั่งเห็นผู้หญิงคนนั้นรู้จักกับอดีตเพื่อนสนิท แต่ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวของเพื่อนที่เคยทำร้ายเขา แผนการร้ายเพื่อต้องการให้มันเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยเจอจึงเริ่มขึ้น “มึงบอกกูที ว่ามึงรักมึงชอบน้องกูบ้างไหม หรือมึงแค่ต้องการแก้แค้นกูอย่างเดียว” “กูจะรักน้องสาวของคนที่หักหลังกูได้ยังไง” *เรื่องนี้เป็นรุ่นลูกเซตวิศวะร้ายนะคะ เป็นลูกสาวของเพลิง&ปิ่นมุก จากเรื่องวิศวะร้อนรัก
View Moreรถหรูคันสีดำเลี้ยวเข้าจอดที่จอดรถประจำ ลานจอดรถคณะวิศวะ เจ้าของความสูง 187 ใบหน้าหล่อเหลา แต่ทว่าเย็นชา เปิดประตูลงจากรถ ทำเอาสาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งเสียงซุบซิบต่าง ๆ
"กรี๊ด...หล่อมากเลยแก" "อยากได้เป็นพ่อของลูกอ่ะ" "เบ้าหน้าฟัาประทานมาก นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มนะ ฉันยังเก็บไปฝันอ่ะ" "จริง อยากรู้จังใครจะทำให้พี่เขายิ้มได้ว่ะ" ยีนส์เจ้าของหัวข้อสนทนา ไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น ยังคงเย็นชาใบหน้าไร้ความรู้สึก เดินเร็ว ๆ ไปหากลุ่มเพื่อนสนิท ที่นั่งแซวสาว ๆ อยู่ที่ม้าหินอ่อน หน้าลานเกียร์ "ช้าจังว่ะ"คีรินเพื่อนสนิท ที่ถือกีตาร์ดีดเพลงแซวสาว เป็นงานถนัดที่เพื่อนคนนี้ทำประจำ "มึงมาไม่ทันเมื่อกี้..." "กูบอกว่าอย่าพูดไอ้ตะวัน ปากมากอีกแล้วมึง" ตะวันที่กำลังจะอ้าปากบอกอะไรบางอย่างกับยีนส์ ต้องหันมองคีรินที่เอามือมาตบหัวเขา "ถ้าจะพูดก็พูด" ถึงจะไม่ได้อยากรู้ แต่ดูเหมือนเพื่อนจะอยากบอกมากกว่า ยีนส์เลยไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน "กูเจอเพื่อนรักมึงว่ะ แม่ง!!! ควงเด็กอักษรฯ อีกแล้ว ใจคอมันจะเก็บทุกคณะเลยหรือไงว่ะ ก่อนหน้าก็เด็กบัญชี" แววตาคมของยีนส์เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ เมื่อเจ้าตัวจัดการกับความรู้สึกบางอย่างออกไปจากความคิดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนรักที่เพื่อนสนิทสองคนหมายถึง คืออดีตเพื่อนรักของเขาเอง ชื่อโซล คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมอต้น เมื่อก่อนก็คือเพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาตอนนี้ แต่เป็นเพราะเขาแยกตัวออกมา พูดง่าย ๆ ก็คือเลิกคบกัน แต่ทว่าคีรินกับตะวัน สองคนนี้ก็ตามเขามาด้วย โดยให้เหตุผลว่าเลือกเขามากกว่าโซล "กูบอกมึงแล้วว่าอย่าไปสนใจมัน จะทำอะไรก็ช่างแม่ง!! จบกันไปแล้ว ก็อย่าไปสนใจเลยว่ะ" คีรินพูดโดยมองหน้ายีนส์ เรื่องของสองคนนี้ ตอนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เรียกได้ว่ายีนส์แค้นหนักมาก ถึงขึ้นลงไม้ลงมือกัน แต่เป็นเขาสองคนที่ขอร้องให้เรื่องมันจบแค่นั้น แต่เขารู้ดีว่าเพื่อนรักอย่างยีนส์ ยังแค้นอยู่จนถึงทุกวันนี้ "กูรักเพื่อนไง หรือมึงเข้าข้างมันห๊า!!! ไอ้คีริน มันแย่งแฟนเพื่อนมึงนะโว้ย!!" "สัด!! กูบอกให้มึงหยุด" คราวนี้ไม่ใช่แค่ตบหัว แต่คีรินยังถีบเข้าที่ขาของตะวันอย่างแรง ตอนนี้ยีนส์นั่งเงียบ เขาเองก็เดาไม่ถูกว่าเพื่อนคิดอะไร ปกติหน้าก็นิ่งมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งนิ่งมากกว่าเดิม จนเขาเริ่มคิดหนัก "อย่าไปฟังมันเลยนะไอ้ยีนส์ ที่จริงจูเน่ก็ไม่ได้ดีอะไร ไม่ได้มีค่าพอให้มึงต้องเสียดายขนาดนั้น กูขอเหอะ เลิกแล้วต่อกันดีกว่า" "มึงรู้เหรอกูคิดอะไร"ยีนส์ถามเสียงเรียบ "ไม่รู้ว่ะ แต่ที่กูรู้คือมึงแค้นมันมาก แต่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้วนะ อีกอย่างมันเองก็ถูกจูเน่นอกใจนี่หว่า นั่นก็กรรมมันแล้วนะ" "หึ...กรรม กูว่าไม่ใช่" "มึงหมายความว่าไง?" "มันไม่ได้สนใจจูเน่ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่มันทำเหมือนชอบ เพราะอยากหลอกแดกเขามากกว่า" "มันจะอยากแดกต่อจากมึงไปทำไมว่ะ ผู้หญิงมีเป็นร้อยนะโว้ย!!! คนชอบมันเยอะแยะมึงก็เห็น มึงไม่คิดว่าเพราะจูเน่เองก็อยากให้มันแดกเหรอว่ะ" บอกตรง ๆ เมื่อก่อนตอนปีหนึ่ง ยีนส์คบกับจูเน่ ตอนนั้นคีรินรู้สึกไม่ถูกชะตาผู้หญิงคนนั้นเลย เคยอยากจะเตือนเพื่อนหลายครั้ง แต่ที่ปล่อยไปเพราะคิดว่าเพื่อนไม่ได้จริงจังอะไร แต่ใครจะคิดว่ายีนส์หลงจูเน่เข้าขั้นหนักมาก ตามใจฝ่ายหญิงไม่ว่าต้องการอะไร เพื่อนเขาจะเสกมาให้ทุกอย่าง แล้วใครจะคิดว่าวันหนึ่ง ก็เกิดเรื่องขึ้น เมื่อยีนส์จับได้ว่าจูเน่เองแอบเอากับโซลเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ทำให้เพื่อนรักสองคนแตกคอกัน ถึงขั้นตัดขาดความเป็นเพื่อน ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เพราะจูเน่บอกว่าชอบโซลมากกว่า ที่ทนคบกับยีนส์เพราะยีนส์ใจถึง เปย์ไม่อั้น ตามใจ เลยคิดจะหลอกคบไปเรื่อย ๆ หากว่าไม่ถูกจับได้ ป่านนี้คงปอกลอกเพื่อนเขาหมดตัว ถึงเขาจะเป็นเพื่อนของทั้งยีนส์และโซล แต่เขาเลือกข้างยีนส์มากกว่าเพราะมองว่าโซลเองก็ผิดเรื่องนี้ ที่มาแอบกินกับผู้หญิงที่เป็นแฟนเพื่อน "เห้ย!!! ไอ้คีริน กลุ่มคนสวยกำลังเดินผ่านมาทางนี้ว่ะ" กลุ่มคนสวยที่ตะวันว่า คือรุ่นน้องปีสอง คณะบริหารธุรกิจ ที่เดินผ่านทางนี้ทุกวัน ที่เขาสองคนมานั่งม้าหินตัวนี้ประจำ ก็เพราะต้องการมารอสามสาวนี่แหละ "วันนี้ทาลิปสีสวยจังนะครับ" มิลลิหันมองกลุ่มรุ่นพี่วิศวะสามคน ที่มักจะพูดแซวพวกเธอสามคนทุกวัน แต่เธอวางสายตาไว้ที่ใครคนหนึ่งในสามคนนี้ "อย่าหยิ่งสิครับ ยิ้มให้พี่มีกำลังใจเรียนหน่อยได้ไหมครับ"ตะวันหยอดคำหวานไม่พัก แต่สามสาวก็ไม่ได้สนใจ เดินผ่านตรงนี้ไปเฉย ๆ ทำให้สองหนุ่มได้แต่มองตาม "แม่ง!!! หยิ่งชิบหาย กูหยอดอยู่เป็นเดือนแล้ว ไม่สนใจเลยว่ะ" "ดูท่าจะเป็นลูกคุณหนูจ๋า ทั้งสามคน คงไม่ชอบเด็กวิศวะเถื่อน ๆ แบบเราหรอก"คีรินพูดอย่างเข้าใจ รุ่นน้องสามคนนั้นนอกจากไม่เคยยิ้มให้เขาแล้ว ยังไม่แม้แต่มองพวกเขาเลยด้วยซ้ำ นอกจากน้องคนหนึ่งที่ชอบหันมามองยีนส์ แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ "กูอยากรู้ชื่อชิบหาย!!!" "รู้ไม่อยากหรอก แต่จะรู้ไปทำไมว่ะ ในเมื่อเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะชอบมึง ฮ่า! ฮ่า!" "สัด!!! มึงสนใจสามคนนั้นไหมไอ้ยีนส์ กูว่าน้องคนหนึ่งในนั้น ชอบมองมึงนะ คนที่ผมลอนอ่ะ น่ารักชิบหาย หุ่นโคตรดี แต่จะว่าไปก็สวยสัด ๆ ทั้งสามคนนั้นแหละ ได้คนไหนสักที กูจะไม่ลืมพระคุณ" ตะวันที่ขึ้นชื่อเรื่องเสือผู้หญิงมากที่สุดในกลุ่มพูดขึ้น พร้อมทำหน้าตาชวนฝัน "แต่กูก็เห็นเหมือนไอ้ตะวันนะ คนผมลอนสีดำอ่ะ กูเห็นหันมามองมึงทุกที" คนที่ถูกพูดถึงแบบยีนส์ ในหัวยังคงวนเวียนอยู่แต่เรื่องก่อนหน้า เขาไม่ได้สนใจมองผู้หญิงคนไหนมานานมากแล้ว บางความรู้สึกยังมองว่าผู้หญิงก็น่ารังเกียจเหมือนกันหมด ยิ่งเกลียดผู้หญิงที่เข้าหาเขาก่อน ผู้หญิงแบบนั้นหมดราคา หมดค่าให้เขาสนใจ ยิ่งทำให้เขาคิดถึงเรื่องราวในอดีต "มึงก็รู้ว่ากูไม่สนใจ" "บางทีผู้หญิงก็ไม่ได้เหมือนกันทุกคนนะโว้ย!! กูอยากให้มึงลองเปิดใจให้คนอื่นบ้าง" "เรื่องนี้กูเห็นด้วยกับไอ้คีริน" "ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด" ยีนส์พูดก่อนจะเดินเข้าตึกคณะไปทันที ทิ้งให้เพื่อนสองคนนั้งมองหน้ากัน "สัด!! กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าเอ่ยชื่อไอ้โซลให้มันได้ยิน ปากมึงนี่นะ" ตะวันยกมือเกาหัวแกรก ๆ เมื่อคีรินลุกขึ้นเดินหนีเขาไปอีกคน "กลายเป็นกูผิดได้ไงว่ะ รอกูด้วย"หนึ่งเดือนผ่านไป “พวกมึงจำค่ายอาสาที่เราลงชื่อไปตอนเปิดเทอมได้ไหม”ปลายฝนหันมาถามเพื่อนสองคน ขณะกำลังนั่งเรียนกันอยู่ “ทำไมว่ะ” “ต้องไปอาทิตย์นี้แล้วนะ ศุกร์เสาร์อาทิตย์” คาเทียร์เป็นคนแรกที่ทำหน้าเบื่อหน่ายออกมา ถ้าไม่ติดว่าได้คะแนนกิจกรรม เธอเป็นคนไม่ชอบอะไรที่ลำบากแบบนี้เลย“กูอยากตาย” “คิดซะว่าเราไปเที่ยวกัน ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วนะ ตั้งแต่อีมิลติดผัว” “เบาหน่อยพวกมึง”มิลลิปรามเพื่อนเมื่อเริ่มพูดเสียงดัง จนอาจารย์หันหน้ามามอง “แล้วเราต้องมาขึ้นรถกันตั้งแต่ตีสี่นะ อยากจะบ้า”คราวนี้เป็นปลายฝนเองที่บ่น ก็เธอขึ้นชื่อเรื่องนอนตื่นสาย การตื่นเช้าจึงเป็นอะไรที่เธอเกลียดที่สุด “งั้นยกเลิกได้ไหม ค่อยไปกิจกรรมอื่น ได้ข่าวว่าที่นั่นลำบากมากนะมึง ไม่รู้จะมีสัญญาณโทรศัพท์หรือเปล่า” “ไม่ได้อีเทียร์ ลงชื่อไปแล้ว ทำคนอื่นเสียสิทธิ์ โดนหักคะแนนแน่” มิลลินั่งฟังเพื่อนสองคน เธอเองก็เริ่มคิดเหมือนคาเทียร์เหมือนกัน เพราะเธอติดยีนส์มาก หากไปค่ายก็คงไม่ได้เจอเขาในสามวันนั้น แบบนี้เธอคงคิดถึงเขาแย่เลย “นี่มึงก็ไม่อยากไปขึ้นมาเหมือนกันเหรอ” “ปะ เปล่า ไปก็ไป”ใครจะบอกว่าติดแฟน โดนเพื่อนด่าต
วันเสาร์ช่วงบ่าย ยีนส์มาส่งมิลลิที่คอนโด วันนี้เธอจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ก่อนจะลงจากรถก็อิดออดกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เธอยอมรับอย่างเต็มอกเลยว่าหลงผู้ชายคนนี้อย่างหนัก ระยะเวลาแค่ไม่กี่วันก็ทำให้เธอเป็นมากขนาดนี้ มันอยากจะหอม อยากจะกอดเขาอยู่ตลอดเวลา “มิลไม่อยากกลับเลยอ่ะ” “หึ งั้นก็ไม่ต้องกลับ” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่รอ วันนี้นัดกินข้าวพร้อมกันด้วย ถ้ามิลไม่กลับ พี่โซลต้องมาตามแน่ ๆ”เสียงหวานออดอ้อน ยังคงเกาะแขนแกร่งซบหัวเล็กตรงบ่า ก่อนจะตัดใจลงจากรถ ยืนโบกมือให้ยีนส์ออกรถไปก่อนเธอถึงจะเดินเข้าคอนโด “มึงนี่หนักนะ หลงพี่เขาขนาดนี้เลย” เดินมาขึ้นลิฟท์ก็เจอกับคาเทียร์ยืนรอลิฟท์เหมือนกัน ในมือถือของพะรุงพะรัง“มึงมาจากไหน” “กูหิวค่ะ อีฝนก็นอนยังไม่ตื่น ไม่รู้นอนหรือซ้อมตาย กูไปเรียกตั้งนาน” “ไม่กลับบ้านกันเหรอว่ะ” “ไม่ว่ะ อาทิตย์นี้เหนื่อย อยากพักผ่อน”มิลลิแอบอิจฉาเพื่อนสองคน ที่นึกจะทำอะไรก็ได้ มีพี่ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้หวงเท่าพี่ชายสองคนของเธอ “เมื่อไหร่มึงจะบอกพี่มึงล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว” “เป็นมึงกล้าหรือเปล่า พี่กูเหมือนคนอื่นที่ไหนกัน” “ก็จริง หวงยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก
16.05น. หลังเลิกเรียน มิลลิก็เดินมาหายีนส์ที่ลานจอดรถที่เดิม ระหว่างเดินก็คอยมองซ้ายขวาอยู่ตลอด แต่เธอก็ยังพลาดมองไม่เห็นพี่ชายคนโต ที่อยู่ ๆ ก็เดินมากอดคอเธอจากด้านหลัง “ไปไหนจ๊ะ น้องสาวคนสวยของพี่” “ไหนว่าไม่มาเรียนแล้วไง แล้วมาทำอะไรคะ” “ดูเหมือนเธอจะไม่ดีใจนะที่เจอพี่ แล้วอาการก็ดูแปลก ๆ”มิลลิพยายามเก็บสีหน้าเลิกลั่กของเธอไว้ พี่ชายคนนี้เป็นคนดูคนเก่งมาก เธอไม่เคยโกหกอะไรพี่คนนี้ได้เลย “ดีใจสิคะ แค่สงสัยว่าพี่มาทำอะไรต่างหาก” ฟรินท์ยังคงหรี่ตาจับผิดน้องสาวคนเดียว เขาหันมองลานจอดรถที่รถเริ่มบางตา ก่อนจะถามคำถามที่ทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ“ไม่เอารถมานิ แล้วเดินมาตรงนี้ทำไม” นั่นไง...ที่เธอบอกว่าพี่ชายคนนี้ฉลาด มันคือเรื่องจริง ตอนนี้ในหัวเธอคิดหาทางออกมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องโกหกไปแบบไหนพี่ถึงจะเชื่อ แต่ทว่าสวรรค์ก็เหมือนจะเข้าข้างเธอ เมื่อคาเทียร์เดินตรงมาทางนี้พอดี “สวัสดีค่ะ พี่ฟรินท์สุดหล่อ”เสียงหวานสดใสของคาเทียร์ ทำให้ฟรินท์หันมาสนใจ ผู้หญิงที่เป็นเหมือนน้องสาวเขาอีกคน “สวัสดีครับ คาเทียร์คนสวย” “แล้วรถกูจอดตรงนู้น กูไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเดินเลยมาอีกแล้วมึงอ่ะ”มิลลิแอบดีใ
วันต่อมา ยีนส์เดินผิวปากไปยังโต๊ะประจำ ที่มีเพื่อนสองคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว วันนี้เขามีเรียนตอนเก้าโมงเช้า เมื่อเดินมาถึง ก็เจอกับสายตาจับผิดของคีริน แต่ทว่าเขาไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหามิลลิ ยีนส์:เที่ยงนี้มาเจอกันหน่อย “เดี๋ยวนี้มึงอารมณ์ดีจังนะ ไม่เห็นทำหน้าอมทุกข์เหมือนเมื่อก่อน” ตะวันเอ่ยแซว หากว่าเพื่อนเขาเกิดรักมิลลิขึ้นมาจริง ๆ เขามองว่าเป็นเรื่องดีมากกว่า “มึงนี่ก็แปลก ถ้ากูหน้าบูดมึงก็ด่า กูอารมณ์ดีมึงก็บ่น จะเอาไงกันแน่ว่ะ” “ก็ถ้ามึงอารมณ์ดีออกมาจากใจ มันคงไม่แซวมึงหรอก”คีรินเอ่ยออกมา เขาเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน เพราะเพื่อนเขานะดื้อ ถึงจะอยากห้าม แต่คงต้องปล่อยให้เพื่อนเจออะไร ๆ ด้วยตัวเอง “ทำไมว่ะ? มึงคิดว่ากูแกล้งเหรอ” “ใครจะกล้าคิดแบบนั้นกับมึง ขอแค่มึงมีความสุข กูสองคนก็ดีใจด้วยแล้ว ใช่ไหมว่ะ ไอ้คีริน” “เออ…พรุ่งนี้หยุดแล้ว คืนนี้ออกไหมว่ะ”ออกที่ว่าคือออกล่าเหยื่อในผับ ตามประสาหนุ่มโสด “กูดูก่อน”ยีนส์พูดก่อนจะสนใจกับโทรศัพท์ในมือ ที่สั่นแจ้งเตือนขึ้นมา มิลลิ:ที่ไหนคะ? ยีนส์:พักกี่โมง มิลลิ:พักเที่ยงครึ่งคะ ยีนส์:เจอกันที่ลานจอดรถ ย
มือหนาจับเอวเล็กไว้มั่น เป็นฝ่ายกระแทกเข้าหาเธออย่างรุนแรง นอกจากอารมณ์กระสันที่พุ่งสูงแล้ว เขาต้องการให้รถโยกแรงที่สุด จนคนที่ยืนมองอยู่ด้านนอกสงสัย หรือให้รู้ไปเลยว่ามีสงครามสวาทเกิดขึ้นในรถคันนี้ ซึ่งมองจากตรงนี้เขาคิดว่าได้ผล เพราะเห็นโซลยืนมองรถเขาไม่วางตา อีกทั้งหัวคิ้วก็เลิกขึ้นอย่างสงสัย รถคันนี้โซลจำได้ดี มันคือรถของเพื่อนสนิทเขา ที่เลิกคบกันไปแล้ว การโยกขยับของรถ คนประสบการณ์ช่ำชองแบบเขารู้ดี มันต้องมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นในรถแน่นอน แต่ทว่าที่เขาสงสัยคือเจ้าของรถคันนี้ ตั้งแต่เลิกกับแฟนมันไป เขาไม่เคยเห็นมันเอาผู้หญิงคนไหน แถมตอนนี้ยังมาเอากันในรถอีกต่างหาก อะไรจะอดใจไม่ไหวขนาดนั้น “มองอะไรไอ้โซล” เป็นคาเตอร์ที่เดินมาเอารถตรงนี้ เดินมาหาโซลที่ยืนมองรถหรูสีดำคันหนึ่งที่จอดอยู่ แต่เมื่อเพ่งมองดี ๆ กลับพบว่ามันขยับขึ้นลง“รถไอ้ยีนส์นิ” “เออ มันเอากับใครว่ะ” “ก็ช่างแม่งมันดิ เงี่ยนจัด” มิลลิที่ตอนนี้ความเสียวซ่านเข้าครอบงำ ได้แต่ร้องครางลั่นรถ เมื่อโดนกระแทกรุนแรง เธอฟุบลงบนอกแกร่ง สะบัดใบหน้าสวยไปมาอย่างสุดกลั้น “พี่เธออยู่หน้ารถ ซี้ดด"เอวสอบเร่งกระแทกแรงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยก
“อื้อ~ พอก่อนค่ะ”มิลลิผลักตัวยีนส์ออกห่าง ใบหน้าหล่อที่เอาแต่คลอเคลียเธอไม่หยุด ทั้งจูบ ทั้งหอม ทั้งบีบเค้นเต้าอวบเธอผ่านชุดนักศึกษา เมื่อรถมาจอดตรงลานจอดรถคณะบริหาร เขาเลือกตรงที่มีรถจอดน้อย เมื่อคืนเขานอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงร่างกายเธอ “ตอนเย็นไปคอนโดฉันนะ” มือเล็กจัดชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ยออกมา ก่อนจะช้อนตามองเขาอย่างงอน ๆ ก็ชุดมันยับหมดแล้ว“ไปทำไมคะ หรือว่าอยากกินอาหารฝีมือมิลแล้ว” “อยากกินเธอมากกว่า”นัยน์ตาคมเข้มที่ส่งมาให้เธอรู้ว่า เขาไม่ได้ล้อเล่นกับประโยคนั้น “ไม่คิดเลยว่าพี่จะหื่นขนาดนี้ วันนี้ไม่ได้ค่ะ พี่โซลจะมานอนด้วย”ใบหน้าหล่อขบกรามเข้าหากันแน่นอย่างไม่พอใจ ขนาดนี้มันยังเป็นมารขวางความสุขเขา “พี่เธอจะมานอนด้วยทำไม เขาไม่มีคอนโดอยู่หรือไง” “มีค่ะ...แต่ทุกวันพฤหัสจะมานอนด้วย พี่ฟรินท์ทุกวันอังคาร เป็นแบบนี้มานานแล้วค่ะ” เป็นสิ่งที่มิลลิชินและเข้าใจได้ว่าความเป็นห่วงของพ่อกับแม่เป็นยังไง เป็นเงื่อนไขที่ทำให้เธอได้มาอยู่คอนโดเอง ไม่งั้นพ่อกับแม่คงไม่ยอม“ไว้พรุ่งนี้นะคะ” “แล้วแบบนี้เขาไม่ต้องเฝ้าเธอไปจนแต่งงานหรือไง มันไม่ยุติธรรมกับแฟนแบบฉันนะ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วห้อง แข่งกับเสียงครางของคนสองคน ใบหน้าหล่อเหลาชื้นเหงื่อ แต่ช่วงล่างยังคงสาดซัดความปรารถนาอย่างดิบเถื่อน ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแล้วว่าเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน เขาสนใจแค่อารมณ์ของตัวเองเท่านั้น มิลลิที่เพิ่งเคยเจอกับเรื่องแบบนี้ ได้แต่นอนอ้าขาให้เขาจ้วงแทงเข้ามาอย่างหนักหน่วง ลำตัวสั่นคลอนไปตามแรงกระแทก โดยที่เธอทำได้เพียงส่งเสียงครางออกมาเท่านั้น จวบจนจังหวะตอกอัดสุดท้าย ร่างหนาก็เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนเต็มเครื่องป้องกัน พร้อมกับคนตัวเล็กที่ครางออกมาอย่างเสร็จสม ยีนส์ถอดถอนแก่นกายออก ก่อนจะใส่ถุงยางชิ้นใหม่ เขายังไม่อิ่ม ได้กินของอร่อยทั้งที เขาขอกินให้เต็มที่ “อีกรอบนะ”เอ็นร้อนกระแทกเข้าไปทันทีสุดลำ มิลลิที่นอนตาเหลือกอย่างไม่ทันตั้งตัว รู้อีกทีก็โดนตอกอัดรุนแรงรัว ๆ อีกแล้ว คำว่าอีกรอบของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสิ้นสุดตรงไหน เพราะก่อนที่เธอจะสลบไป คนตัวสูงยังคงรัวเอวสอบกระแทกเธอไม่หยุด กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของมิลลิปลุกให้ยีนส์ที่อยู่ใกล้ตื่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะกดรับสายอย่างถือวิสาสะ“ฮัลโหล” (อะ เอ่อ พี่ยีนส์เหรอ มิลลิล่ะคะ) “นอ
“พี่ไม่ได้อยู่กับมิลตลอดเสียหน่อย บอกแล้วว่ากลัว เปลี่ยนเรื่องได้ไหมคะ ไว้ค่อยดูตอนกลางวัน” ใบหน้าสวยเว้าวอนเขาอย่างน่ารัก เธอไม่รู้หรอกว่ายิ่งทำแบบนี้ เขายิ่งอยากจะครอบครองเธอเร็ว ๆ จุดประสงค์การแก้แค้นของเขาไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้อดีตเพื่อนสนิทดิ้นตายหรือทุกข์ทรมานใจก็แค่นั้น ถ้ารู้ว่าเขากับน้องสาวตัวเองได้กัน “ก็ได้ ฉันให้เธอเลือก อยากดูเรื่องอะไรเธอกดเลือกเองเลย แต่หลังจากนี้ไม่เปลี่ยนแล้วนะ” มิลลิรับรีโมตมากดเลือกแนวหนัง บอกตรง ๆ นอกจากซีรีย์เกาหลีหรือจีน เธอก็ไม่ใช่สายดูหนังเท่าไหร่ เลยกดสุ่ม เลือกตรงหนังรักโรแมนติกมาหนึ่งเรื่อง โดยไม่ได้อ่านตัวอย่างหนังเลยสักนิด ยีนส์ที่เห็นชื่อหนังที่เธอกดก็ยิ้มย่องในใจ เขาเคยเห็นตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติกอย่างที่เธอเข้าใจ มันคือหนังอิโรติกต่างหาก เมื่อหนังเริ่มฉายไปได้ประมาณสิบนาที ก็เริ่มเข้าสู่หมวดหนังที่แท้จริง เขาได้ยินเสียงมิลลิเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เมื่อถึงฉากจูบกันอย่างนัวเนียของพระนาง ก่อนจะพาเข้าสู่ฉากสิบแปดบวกอย่างเป็นทางการ “เอ่อ…มิลไม่อยากดูแล้วอ่ะ”เสียงเล็กเริ่มบ่นพึมพำ แต่ทว่าเขาทำเป็นไม่ได้ยิน ยังค
"ว่าไง อยากไปไหนต่อหรือเปล่า" "เอ่อ...คือ มิลไม่รู้ว่าป่านนี้เขาไปไหนกัน ปกตินอกจากอยู่กับเพื่อนสองคน ก็ไม่เคยไปไหน" ยีนส์ยกยิ้มมุมปากและแสดงสีหน้าว่าเขาตลกขบขันในคำพูดของเธอ นี่เธอกำลังทำตัวเป็นสาวไร้เดียงสาอยู่หรือเปล่า คงอยากกำลังทำให้เขาประทับใจสินะ "ไปดูหนังไหม ตอนนี้ก็เพิ่งสี่ทุ่ม" "ดูหนังที่ไหนคะ ห้างมันปิดแล้วนี่นา" "คอนโดฉัน ดูเสร็จฉันจะไปส่งที่ห้อง" แบบนี้มันเหมาะสมหรือเปล่านะ ถึงสมัยนี้เรื่องแบบนี้จะธรรมดามาก แต่เธอไม่รู้ว่าที่เขาชวนดูหนัง มันหมายถึงเรื่องแบบนั้นด้วยหรือเปล่า "เอ่อ.." "ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บังคับ" "มิลไปได้ค่ะ ตะ แต่ว่ามิลมีเรื่องอยากขอร้องพี่หน่อยได้ไหมคะ" "เรื่องอะไร?" "พี่รู้จักพี่โซลหรือเปล่าคะ" มือหนาของยีนส์เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่ออดีตเพื่อนสนิทของเขา "ที่เธอไปนั่งกินข้าวด้วยใช่หรือเปล่า" "ใช่ค่ะ คนนั้นแหละ เขาเป็นพี่ชายของมิล" ยีนส์ที่ได้ยินชะงักไปทันที เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโซลมีน้องสาว คบกันมาตั้งหลายปี เธอคงไม่ได้โกหกเขาอยู่ใช่ไหม "เธอนามสกุลอะไร" "บวรกิจวัฒนาค่ะ" ตอนนี้เขาเริ่มสับสน พอได้รู้ว่าเธอเ
Comments