2 วันต่อมาในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง หลังจากที่จันทร์ฉายนอนโรงพยาบาลได้สองวัน หญิงสาวก็ได้รับสัญญาณว่าตัวเองจะคลอดแล้ว น้ำคร่ำหญิงสาวแตกออกเยอะมาก สงกรานต์ก็รีบกดกริ่งเรียกพยาบาล พร้อมทั้งขอเข้าไปในห้องคลอดกับคนรักด้วย หลังจากได้รับอนุญาตเขาก็โทรบอกครอบครัวเขาและเธอก่อนจะรีบไปเปลี่ยนชุด และเข้าไปอยู่ข้าง ๆ จับมือเธออย่างรวดเร็ว“โอ๊ย เจ็บ ฟู่วว!” จันทร์ฉายพูดขึ้นยามเมื่อถูกพาเข้ามาในห้องคลอดแล้ว เธอหันไปสบสายตากับคนรัก แล้วก็พบสายตาแห่งความรักความอบอุ่นมองสบมา“คุณแม่สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาเลยนะคะ” เสียงคุณหมอที่เป็นคนทำคลอดเอ่ยบอก“อื้ออออออ!”เสียงเบ่งหายใจดังออกมาจากลำคอของจันทร์ฉาย เธอหอบจนตัวโยน“ฉายครับเบ่งอีกนะครับ เราจะได้เจอหน้าลูกแล้วสู้ ๆ นะครับ” สงกรานต์รีบเอ่ยบอก มือก็จับมือไว้แน่น“คุณแม่ไม่ต้องกลั้นเสียงตอนเบ่งไว้นะคะ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบ่งออกมาปลดปล่อยเสียงได้เต็มที่ มันจะทำให้คลอดง่ายขึ้นนะคะ” คุณหมอนำคลอดเอ่ยบอก มือก็สาละวนอยู่ที่ช่องคลอดของหญิงสาว“เอานะครับ พร้อมนะฉาย หนึ่ง สอง สาม”“กรี๊ดดดด!” เธอเบ่งคลอดพร้อมคิดออกมา เหงื่อกาฬไหลพราก ด
หลายเดือนผ่านไปในที่สุดอายุครรภ์ของจันทร์ฉายก็ครบเก้าเดือนแล้ว ตอนนี้ท้องของจันทร์ฉายนูนออกมามาก แม้จะไม่ใหญ่เท่าท้องคนอื่น แต่ก็ใหญ่มากแล้วสำหรับท้องแรกหรือที่เรียกว่าท้องสาวตั้งแต่ท้องของเธอมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม สงกรานต์ก็แทบจะไม่ห่างกายหญิงสาวอีกเลย เขาหอบงานมาทำที่บ้านถ้าไม่มีธุระสำคัญหรือด่วนจริง ๆ เขาจะไม่ยอมทิ้งเธอไปไหนชายหนุ่มทำหน้าที่สามีได้ดีมาก ๆ และเขาก็ดูแลเธอดีมากเช่นกัน ว่ากันว่าคนท้องมักปวดเมื่อยตามร่างกายโดยเฉพาะเท้าและหลัง ชายหนุ่มก็ไปเรียนนวดกับคุณหมอ เขาได้คำแนะนำมามาก แล้วก็เอาความรู้ที่ตัวเองได้เรียนมาปรนนิบัติให้กับหญิงสาวคนรักจันทร์ฉายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้างกาย การมีคนดูแลและเอาใจใส่ตัวเองมากขนาดนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีความสุข และจะมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนคนนั้นเป็นคนที่เธอรักและรักเธอแต่ก็ว่าเถอะนะ การมีคนดูแลและใส่ใจมันก็ดี แต่ว่าก็ต้องตั้งอยู่ในความพอดีด้วย ไม่ใช่ว่าห้ามไปซะหมดเหมือนกับสงกรานต์ ที่ไม่ยอมให้เธอทำอะไรเลย จนบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกเบื่อไปเหมือนกัน เหมือนตอนนี้“ฉาย จะไปไหนก็บอกพี่สิครับ พี่จะได้พาไป เดินไ
ตกเย็นจันทร์ฉายก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เมื่อเห็นว่าหกโมงเย็นแล้วยังไม่มีทีท่าว่ารถของสามีตีทะเบียนจะเข้ามา ก็อดรู้สึกเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวออกมานั่งรอเขาที่ศาลาหน้าบ้าน ชะเง้อคอมองไปทางประตูรั้วบ่อยครั้ง“แปลกจริงวันนี้ตาสงกลับช้า”“นั่นน่ะสิคะคุณแม่ ทุกทีห้าโมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วนี่นา” เธอตอบด้วยความกระวนกระวายใจ จนคุณสารภียิ้มขำ“หนูฉายไม่ต้องเป็นห่วง แม่คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกน่าจะเร่งทำงาน เพราะเหมือนแม่ได้ข่าวว่างานเยอะมาก!”“หึ! สมน้ำหน้า เวลาบอกให้ไปทำงานก็ไม่ฟังเอาแต่จะอยู่ดูแลฉาย”“ตาสงเขาก็คงเป็นห่วงนั่นแหละ”“ฉายรู้ค่ะ แต่ว่าก็ควรทำหน้าที่ตัวเองไม่ให้ขาดตกบกพร่องสิคะ ที่สำคัญฉายอยู่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่นะคะ เด็กในบ้านรวมถึงคนรถก็มี เขาห่วงฉายมากเกินไปค่ะ” แม้คำพูดจะเหมือนต่อว่าแต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความรักคุณสารภีมองลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่ท่านจะชวนเธอเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้หญิงสาวกังวลเรื่องของลูกชายท่านเกินไปนัก ไม่นานรถหรูคุ้นตาก็แล่นเข้ามาในรั้วบ้านก่อนจะขับเข้าไปจอดที่โรงจอดรถจันทร์ฉายมองสภาพหมดเรี่ยวแรงของสงกรานต์ด้วยสายตาสงสาร เธอเข้าไปถามไถ่ชายหนุ่มด้ว
“นี่มันอะไรครับ”“ก็งานของคุณสงไงคะ”“ผมรู้ว่ามันเป็นงาน แต่ทำไมถึงเยอะแบบนี้ ตอนผมอยู่บ้านคุณก็หอบเอางานมากมายไปให้ผมทำอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“ค่ะ... แต่งานที่ดิฉันเอาไปให้คุณสงที่บ้านนั้น ส่วนใหญ่เป็นงานสำคัญที่ต้องรีบดำเนินการซึ่งไม่อาจรอได้ค่ะ ส่วนงานที่อยู่บนโต๊ะคุณสงทั้งหมดในตอนนี้ล้วนเป็นรายละเอียดงานยิบย่อยที่สามารถรอได้ ดิฉันจึงไม่ได้นำไปให้คุณสงทำที่บ้าน ดังนั้นมันจึงมากมายอย่างที่คุณสงเห็น”“แต่งานพวกนี้มันก็ไม่ได้ยากมากมายอะไรนะคะ เพราะดิฉันจัดการข้อมูลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว รอแค่คุณสงตรวจสอบและเซ็นชื่ออนุมัติก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ความจริงมันเยอะกว่านี้อีกนะคะ แต่ดิฉันเข้าใจว่าคุณสงรีบกลับไปหาน้องฉาย ดังนั้นวันนี้จึงมีเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเริ่มกองใหม่ค่ะ”สงกรานต์ที่ได้ฟังคำตอบจากเลขาส่วนตัวก็อ้าปากค้าง พลางก้มมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า‘กองเบ้อเริ่มขนาดนี้ก็ว่าเยอะแล้ว นี่ยังบอกว่ายังไม่หมดและมีรออยู่อีกเหรอ ตาย ๆ ๆ งานเยอะขนาดนี้จะกลับบ้านเร็วได้ยังไงเล่า!’ชายหนุ่มได้แต่บ่นภายในใจคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงความรู้สึกออกมาจนเมธ
“พี่ไม่อยากไปเลยฉาย ให้พี่อยู่กับฉายหนึ่งวันนะ” สงกรานต์มีท่าทีไม่อยากไปทำงาน พร้อมทั้งขอร้องหยุดอยู่บ้านกับเธออีกหนึ่งวัน“ไม่ได้ค่ะ พี่สงเกเรไม่ยอมไปทำงานหลายวันแล้วนะคะ”“ขอวันนี้อีกแค่วันเดียวนะ นะครับ”“ไม่ได้ค่ะ ฉายไม่ยอมเด็ดขาด ถ้าวันนี้พี่สงไม่ไปทำงานก็นอนนอกห้องไปเลย” หญิงสาวยื่นคำขาดจนชายหนุ่มหน้าเสียสงกรานต์รู้สึกไม่ยินยอม เขาอยากอยู่กับจันทร์ฉาย อยากดูแลเธอ แล้วทำไมเธอไม่เข้าใจเขาบ้างนะ ชายหนุ่มขบคิดหาทางออกให้ตัวเอง ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์“ถ้าพี่ไปทำงานแล้วใครจะดูแลฉายล่ะครับ ดูสิตอนนี้ฉายท้องโตแล้วนะ เดินเหินก็ยาก พี่ว่าให้พี่อยู่ดูแลฉายดีกว่า”“ไม่! ถ้าพูดไม่ฟังล่ะก็นอนนอกห้องไปเลย”พูดจบหญิงสาวก็สะบัดตัวหนีจากอ้อมกอดของเขาพร้อมทั้งเดินออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็วสงกรานต์มองตามร่างภรรยาตีทะเบียนที่เขาทั้งรักและหลงเธอด้วยสายตาตัดพ้อ แถมยังบืนปากขัดใจที่ไม่สามารถทำตามความต้องการของตัวเองได้จันทร์ฉายน่าจะเข้าใจเขาสักนิด ว่าที่เขาต้องการอยู่กับเธอก็เพราะว่ารักและเป็นห่วงเธอกับลูกในท้องทั้งนั้น ตอนนี้ตัวเธอเองก็ท้องโตมากแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เดินอุ้ยอ้ายอย่างคุณแม่คนอื่น ๆ เพราะ
‘ตกลงครับ เลื่อนไปก่อนได้ รอจนกว่าเจ้าตัวเล็กจะคลอดและอายุครบสามปีเดินได้คล่อง เราค่อยแต่งงานกัน แต่ว่า... ฉายต้องจดทะเบียนสมรสกับพี่นะครับ หากไม่ตกลงข้อเสนอของฉายก็ถือว่าเป็นโมฆะ’‘ฉายกับพี่ต้องจดทะเบียนสมรสกัน หากฉายไม่ตกลง งานแต่งงานจะถูกจัดขึ้นทันที’ประโยคนี้คือคำพูดของสงกรานต์ที่ได้พูดไว้ในวันที่ครอบครัวของเขามาทำการสู่ขอเธอวันนั้นหลังจากที่ได้ฟังเธอก็ได้แต่ยิ้มค้างไว้จนได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เจือความเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย เมื่อไม่อาจปฏิเสธอะไรได้เธอจึงได้ตอบตกลงเขาไป ซึ่งหลังจากนั้นเจ็ดวันให้หลัง เธอและเขาต้องมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ ณ ที่ว่าการอำเภอหลังจากที่สงกรานต์ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสกับจันทร์ฉายแล้ว ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็กำลังรอเจ้าหน้าที่บันทึกและตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ อยู่อย่างสงบระหว่างรอสงกรานต์ก็เอาแต่สนใจและกุมมือจันทร์ฉายไว้ไม่ปล่อยเช่นกัน จวบจนกระทั่งเจ้าหน้าที่เรียกชื่อพวกเขาเพื่อสอบถามข้อมูล ชายหนุ่มถึงได้หันไปให้ความสนใจกับเจ้าหน้าที่ทะเบียน“ไม่ทราบว่าพวกคุณแต่งงานกันวันไหนครับ”“ยังไม่แต่งครับ”คำตอบของชายหนุ่มทำให้เจ้าหน้าที่ชะงักเล็กน้อยแต่ก็