อีกฟากฝั่งตะวันตกของแคว้น สายฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ฟ้าร้องครืนครางกึกก้องไปทั่วท้องนภา ปลุกให้ค่ายทหารที่ชายแดนตกอยู่ในความมืดครึ้ม สายลมกระโชกแรงพัดเอาผืนผ้าเต็นท์ไหวสะบัด แต่ภายในกระโจมบัญชาการยังคงมีแสงจากตะเกียงน้ำมันที่ส่องริบหรี่
องค์ชายหลงเจิ้งหยางประทับนั่งอยู่ภายใน เกือบปีที่เขาอาสามาอยู่ที่นี่ วันนี้อยู่ๆ ฝนก็ตกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะตกมาก่อน องค์ชายสามยกถ้วยสุราขึ้นจิบ ก่อนถอนหายใจกับเสียงพายุที่โหมกระหน่ำด้านนอก
“คืนนี้แม้แต่สวรรค์ยังเดือดดาล” หลงเจิ้งหยางพึมพำ พลางเอนกายพิงพนักเก้าอี้ มองสายฝนข้างนอก ดวงตาปิดลงช้าๆ จากความเหนื่อยล้าโดยไม่รู้ตัว
สายฝนยังคงโปรยปราย หลงเจิ้งหยางยืนอยู่กลางลานหินกว้างที่ไม่คุ้นเคย เม็ดฝนตกกระทบไหล่ แต่กลับไม่รู้สึกเปียกชื้นแม้แต่น้อย
“ท่านพ่อ”
เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากเบื้องหลัง
หลงเจิ้งหยางหันขวับไปทันที ดวงตาคมกริบเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อพบเด็กชายตัวน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า
เด็กชายร่างเล็กในชุดสีขาว ใบหน้ากลมเกลี้ยง หน้าตาน่าเอ็นดู ดวงตาแววฉลาดเฉลียว เขามองไปรอบกายก็ไม่พบใครนอกจากเขาและเด็กน้อยผู้นี้
“ท่านพ่อ” ชัดเจนเด็กน้อยคนนี้เร