Search
Library
Home / อื่น ๆ / ลุงเหมือง ภารโรงพันล้าน / บทที่ 7 คิดคำนวณ

บทที่ 7 คิดคำนวณ

Author: Bosskerr
2025-06-12 23:49:21

เช้าวันจันทร์

วันนี้เป็นวันหยุดนักขัติฤกษ์ลุงเหมืองจึงไม่ต้องไปทำงานที่โรงเรียน เป็นวันที่อากาศไม่ร้อนจัดเกินไป แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านไม้ที่หน้าต่างครัว ลุงเหมืองนั่งจิบกาแฟดำที่ชงเองจากกาต้มน้ำเก่า ๆ เขาไม่ได้ใส่น้ำตาลหรือครีมเทียมใด ๆ เพราะชอบรสขมเข้มแบบที่กระตุกความคิดให้ตื่นตัว

วันนี้ไม่ใช่เช้าแบบธรรมดา เพราะเมื่อวานหลังจากที่คุณนายพันดาวกลับไป ลุงเหมืองก็เอาแต่นั่งคิด นอนพลิกตัวไปมายังไงก็ไม่หลับอยู่เกือบชั่วโมงเต็ม

ข้อเสนอของคุณนายพันดาวนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คำชม แต่มาพร้อมตัวเลขราคากิโลกรัมละ 55 บาท สำหรับมะเขือเทศที่ลุงเหมืองเคยขายให้แม่ค้าในตลาดที่อำเภอก็เพียงแค่กิโลละ 40 บาทเท่านั้น

นั่นหมายถึงว่า ส่วนต่างที่คุณนายพันดาวเสนอให้นั้น ได้มากกว่าถึง 55 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว นี่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ถ้าคิดจริงจังขึ้นมา มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เลย

"ลุง ถ้าจะปลูกเพิ่ม หนูช่วยได้นะ"

เสียงของแพรยังชัดเจนอยู่ในความคิดของลุงเหมืองเขาหยิบสมุดเล่มเล็ก ๆ ที่หน้าปกเปื้อนดินขึ้นมา แล้วเปิดหน้าว่างหน้าใหม่ ดินสอไม้แท่งสั้น ๆ ถูกเหลาจนพร้อมใช้งานบรรจงจ่อลงบนหน้ากระดาษ

ลุงเหมืองเริ่มขีดเส้น เขียนตัวเลขง่าย ๆ ลงบนกระดาษ เขาคิดอย่างคร่าว ๆ ว่า ถ้าปลูกเพิ่มอีก 2 เท่าของพื้นที่เดิม เขาจะได้ผลผลิตมากขึ้นประมาณ 80–100 กิโลกรัมต่อรอบ ราคาที่คุณนายพันดาวให้คือ 55 บาทต่อกิโลกรัม หากขายได้เต็มจำนวน ก็จะได้เงินประมาณ 4,400–5,500 บาทต่อรอบการเก็บเกี่ยว ตอนนี้ลุงเหมืองกำลังคิดคิดไปอีกขั้น

แล้วถ้าทำโรงเรือนล่ะ มันจะเป็นยังไง?

ก็อาจจะปลูกได้หลายรอบต่อปี ไม่ต้องพึ่งฝน ไม่ต้องลุ้นเรื่องแดด แต่โรงเรือนคือสิ่งที่ลุงเหมืองไม่เคยทำ และไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ยังไม่ทันได้คิดต่อ มือถือแบบปุ่มกดรุ่นเก่าในกระเป๋าเสื้อก็ดังขึ้น ชื่อผู้โทรปรากฏตรงหน้าจอว่า “คุณนายพันดาว”

“ฮัลโหลครับ” ลุงเหมืองกดรับสาย

“สวัสดีค่ะลุงเหมือง พอดีวันนี้ฉันจะกลับไปที่จังหวัดข้าง ๆ มีธุระที่ร้านอาหารสาขาประจำจังหวัดนั้นพอดี”

เสียงจากปลายสายยังคงสุภาพและพูดอย่างมั่นใจ

“ลุงพอจะว่างไหมคะ ถ้ามีเวลา ฉันอยากชวนไปดูโรงเรือนของฉันสักหน่อย เผื่อลุงจะได้ไอเดียในการขยายพื้นที่ปลูก”

ลุงเหมืองนิ่งคิดเพียงแค่ไม่กี่วินาที ก่อนจะตอบอย่างมั่นใจ

“ได้ครับ ผมว่างอยู่พอดี”

สองชั่วโมงต่อมา

ลุงเหมืองนั่งอยู่ในรถของคุณนายพันดาว เป็นรถตู้คันหรูที่มีเบาะกว้างนุ่ม นั่งสบายผิดกับรถกระบะคันเก่าของลุงเหมืองอย่างลิบลับ พอรถแล่นเข้าสู่จังหวัดที่ใหญ่กว่า ภาพตึกอาคารและบ้านเรือนที่ทันสมัยก็ค่อย ๆ เข้ามาแทนที่ภาพท้องไร่ท้องนาและบ้านไม้สมัยเก่า

ร้านอาหารของคุณนายพันดาวตั้งอยู่ในตึกแถวที่รีโนเวตใหม่ มีป้ายหน้าร้านสีทองเรียบหรูชื่อ “ครัวพันดาว” ตั้งอยู่ด้านหน้า ถัดจากร้านไปไม่ไกล เป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดประมาณครึ่งไร่ มีโครงเหล็กตั้งเรียงกันเป็นโรงเรือนขนาดกลาง ปกคลุมด้วยพลาสติกใสอย่างดี

“นี่คือโรงเรือนปลูกผักของฉันค่ะ” คุณนายพันดาวอธิบาย

“ที่นี่เราเน้นปลูกผักสลัดหลายชนิดที่ใช้ในเมนูเฉพาะ และให้เชฟใช้วัตถุดิบสดใหม่จากแหล่งของเราเอง”

ลุงเหมืองเดินเข้าไปข้างใน สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นกว่าด้านนอกนิดหน่อย พื้นในโรงเรือนโรยด้วยกรวด มีหลอดไฟ LED แขวนตามแนวยาว และมีระบบน้ำหยดรดผักตามเวลาที่ตั้งเอาไว้

“ทุกอย่างที่นี่ควบคุมด้วยระบบเซ็นเซอร์ค่ะ” ทีมงานของคุณนายพันดาวคนหนึ่งอธิบายขึ้น

“เราใช้ดินผสมเฉพาะที่สั่งตรงจากศูนย์เกษตร แล้วก็มีการตรวจค่าสารอาหารในดินทุกเดือนด้วย”

ลุงเหมืองพยักหน้าช้า ๆ แม้จะฟังไม่หมดทุกคำ แต่ก็พอจะมองออกว่านี่คือ “อีกขั้น” ของการปลูกผักจริง ๆ

“ถ้าลุงสนใจ ฉันยินดีช่วยวางระบบเบื้องต้นให้นะคะ ไม่ต้องใหญ่แบบนี้ แค่ขนาดครัวเรือนก่อนก็ได้ จะได้ปลูกได้ตลอดทั้งปี”

คุณนายพันดาวพูดพลางเดินพาลุงเหมืองกลับมายังลานหน้าร้าน

แต่ลุงเหมืองยังไม่ตอบ เขากำลังใช้ความคิด คิดคำนวณทั้งในสมุดและในใจ

“จริง ๆ แล้ว เอ่อ...” คุณนายพันดาวเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้น้ำเสียงกลับฟังดูตะกุกตะกักอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากคุยกับลุงเพิ่ม”

“เรื่องอะไรครับ”

“ฉันอยากขอซื้อ ‘พันธุ์มะเขือเทศ’ ของลุงค่ะ”

ลุงเหมืองหันมามองเธอทันที สีหน้ามีทั้งความตกใจและความระแวดระวัง

“คุณนายอยากได้พันธุ์เหรอครับ”

“ใช่ค่ะ ฉันอยากลองปลูกในโรงเรือนของฉันเองอีกชุดหนึ่ง เพื่อใช้ในร้านที่นี่โดยเฉพาะ เราจะไม่ขายต่อแน่นอน ใช้เฉพาะในครัวของเราเท่านั้น และจะใส่ชื่อ ‘มะเขือเทศพันธุ์ลุงเหมือง’ ลงในเมนูอาหารด้วย”

ลุงเหมืองนิ่งเงียบไป ไม่เอ่ยตอบสิ่งใด เพราะตอนนี้ในหัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

คำว่าพันธุ์ ไม่ใช่แค่เมล็ด แต่มันคือหัวใจของการปลูกผักของลุงเหมือง

            พันธุ์มะเขือเทศแดงหวานตะวันออกนี้ลุงเหมืองไม่ได้ซื้อมาจากที่ไหน แต่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ครูแอ๋วผู้ใจดีให้มาแบบฟรี ๆ และลุงเหมืองได้ลองปลูก เฝ้าฟูมฟักดูแล รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ยบำรุงดินจากสิ่งที่หาได้ในบ้าน จนได้ผลแบบทุกวันนี้

“ผมขอคิดดูก่อนได้ไหมครับ” ลุงเหมืองตอบในที่สุด

คุณนายพันดาวยิ้มส่งให้ “แน่นอนค่ะ ฉันไม่รีบ ลุงลองคิดให้รอบคอบก่อนก็ได้ ฉันเข้าใจดีค่ะว่าเรื่องแบบนี้มันสำคัญแค่ไหน”

ก่อนกลับ คุณนายพันดาวได้ยื่นกล่องเล็ก ๆ ให้กับลุงเหมือง

“นี่เป็นซอสที่เราทำจากมะเขือเทศของลุง ลองชิมดูนะคะ เชฟของร้านเราประทับใจมากค่ะ”

ลุงเหมืองพยักหน้าเบา ๆ ระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เขาเงียบไม่พูดสิ่งใดไปตลอดทาง ในหัวของเขามีแต่คำถามเต็มไปหมด

“จะดีไหมถ้าเราขยายมากกว่านี้”

“ถ้าให้พันธุ์เขาไป แล้วเขาปลูกเองล่ะ”

“หรือนี่จะเป็นโอกาสที่ไม่ควรปล่อยผ่าน”

หลากหลายคำถามถาโถมเข้ามาในหัว แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือ โลกของลุงเหมืองกำลังขยับ ไม่ใช่เพียงแค่ด้วยจอบ ด้วยดินและพืชผักเขาปลูก แต่กำลังขยับด้วยตัวเลข ความคิด และการตัดสินใจ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP