แดดอ่อน ๆ ยามสายส่องผ่านกระจกหน้ารถเบนซ์สีดำมันวาวคันหรูที่แล่นมาตามถนนลาดยางในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หญิงวัยกลางคนผมสั้นเซตเข้าทรงอย่างประณีตนั่งอยู่บนเบาะหนังสีครีม ในมือถือแก้วอเมริกาโนเย็นจากร้านกาแฟชื่อดังไว้แน่นไม่ให้หก ถึงแม้จะขับออกมาต่างจังหวัดต่างอำเภอ แต่เธอก็ยังคงแต่งตัวเนี้ยบเรียบร้อยด้วยเสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวสะอาดตาและกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนดูดี
เธอชื่อ “พันดาว” หรือที่ใคร ๆ ในแวดวงร้านอาหารรู้จักกันในนาม “คุณนายพันดาว” เจ้าของร้านอาหารชื่อดังในตัวเมืองจังหวัดใกล้เคียง ร้านอาหารของเธอไม่ใช่แค่ร้านอาหารธรรมดา แต่เป็นร้านที่เน้นวัตถุดิบพรีเมียม ปรุงด้วยความประณีตและใส่ใจในรสสัมผัสจนได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน
วันนี้คุณนายพันดาวไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยว แต่มีธุระต้องมาตรวจร้านกาแฟที่เปิดแฟรนไชส์ไว้ในอำเภอนี้ หลังจากที่จัดการเรื่องงานเสร็จ เธอก็ให้คนขับรถพาแวะตลาดประจำอำเภอเพื่อหาของสดติดไม้ติดมือกลับบ้าน เพราะเธอเป็นคนที่ชอบลงมือทำกับข้าวกินเองในเวลาว่าง และที่สำคัญ คุณนายพันดาวเชื่อมาเสมอว่าแรงบันดาลใจในอาหารดี ๆ มักจะซ่อนอยู่ในของธรรมดา
“คุณนายจะให้รอที่เดิมหรือวนรถไปจอดฝั่งโน้นดีครับ” คนขับถามขณะรถชะลอตัวใกล้ตลาด
“จอดตรงนี้แหละ ฉันเดินไม่นานหรอก” คุณนายพันดาวเอ่ยตอบแล้วเปิดประตูลงจากรถช
ตลาดประจำอำเภอแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทั้งความเรียบง่ายและความจริงใจของผู้คนที่นี่ คุณนายพันดาวเดินผ่านแผงผักสด แผงผลไม้ และเนื้อหมูสด จนสายตาของเธอไปสะดุดเข้ากับแผงขายผักเล็ก ๆ ของป้าดาวที่มีมะเขือเทศลูกกลมโตสีแดงสดสะดุดตาวางอยู่
คุณนายพันดาวชะงักไปเมื่อได้เห็น เธอยืนพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปที่แผงขายผักของป้าดาว
มันไม่ใช่มะเขือเทศพันธุ์เชอรี่ หรือพันธุ์โรม่าที่เคยใช้ในร้าน แต่มันมีลักษณะที่ไม่เหมือนมะเขือเทศที่เธอเคยเห็น มะเขือเทศลักษณะแบบนี้ เป็นแบบที่เธอหามานาน ผิวตึง เรียบ สีแดงสด ทั้งยังไม่มีจุดด่างช้ำสักนิด
“มะเขือเทศนี่ปลูกที่ไหนเหรอคะ” คุณนายพันดาวถามแม่ค้าหญิงวัยกลางคนที่กำลังจัดแผงอยู่
“อ๋อ ของลุงเหมืองจ้า จากหมู่บ้านดอนแดงพัฒนา มะเขือเทศของแกคนแถวนี้ติดใจกันมากเลยนะ” ป้าดาวตอบอย่างภาคภูมิใจและส่งยิ้มให้
“ขอฉันซื้อลองหน่อยสิ เอาไปสักกิโลก่อน”
“ได้เลยจ้า ล็อตนี้ได้มาค่อนข้างเยอะ รับรองไม่ผิดหวัง”
คุณนายพันดาวยิ้มน้อย ๆ แล้วหยิบเงินสดจ่าย เธอได้มะเขือเทศใส่ถุงหิ้วเรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับขึ้นรถพร้อมถุงมะเขือเทศสีแดงใบนั้น
คืนนั้น คุณนายพันดาวกลับถึงบ้านตอนเกือบสองทุ่ม แต่ก็ยังมีแรงมากพอที่จะหยิบมะเขือเทศออกมาล้าง หั่น และจัดวางในจาน
แค่หั่นครึ่ง เธอก็รู้สึกถึงความแตกต่างแล้ว เนื้อมะเขือเทศแน่น ไม่เละ ไม่มีน้ำไหลเยิ้มแบบที่เจอมาบ่อย ๆ จากมะเขือเทศที่เคยซื้อมาทำอาหาร
คุณนายพันดาวลองหยิบชิ้นมะเขือเทศที่หั่นไว้ใส่ปากหนึ่งคำรสชาติหวานอร่อย เปรี้ยวแบบพอดี และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเอกลักษณ์ ไม่ต้องแต่งรส ไม่ต้องเพิ่มซอส นี่มันคือรสชาติที่แท้จริง
“อื้ม..”
คุณนายพันดาววางช้อนลงแล้วหยิบสมุดบันทึกของเธอขึ้นมาเขียนแค่สั้น ๆ ลงในนั้นว่า “มะเขือเทศจากตลาดในตัวอำเภอที่ซื้อมาวันนี้ ดีที่สุดในรอบปี ของดีแบบนี้ จะต้องหาให้เจอว่าปลูกที่ไหน”
เช้าวันรุ่งขึ้น
คุณนายพันดาวไม่ได้กลับกรุงเทพตามกำหนด แต่ให้คนขับรถพากลับไปที่ตลาดในอำเภออีกครั้ง เธอเดินไปที่แผงผักของป้าดาว ส่งยิ้มให้แล้วพูดทันที
“ป้าคะ ฉันอยากรู้ว่าไปรับมะเขือเทศพวกนี้มาจากที่ไหนเหรอคะ”
ป้าดาวทำหน้าประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มอย่างจริงใจ
“รับมาจากลุงเหมืองจ้า อยู่บ้านดอนแดงพัฒนา”
“บ้านดอนแดงพัฒนาเหรอคะ ไกลจากที่นี่ไหม”
“ไม่ไกล ๆ ขับตรงไปจากตลาด ถึงสี่แยกเลี้ยวซ้าย ตรงไปประมาณ 10 กิโลก็ถึง เข้าไปทางซอยที่มีต้นโพธิ์ใหญ่ ขวามือจะเห็นบ้านไม้ที่ด้านหน้ามีลำคลองเล็ก ๆ มีแปลงผักอยู่หลังบ้าน”
คุณนายพันดาวพยักหน้ารับ “ขอบคุณมากค่ะ”
เธอไม่รอช้า สั่งให้คนขับเลี้ยวรถเข้าไปตามเส้นทางที่ป้าดาวได้บอก ถนนเริ่มเปลี่ยนจากลาดยางเป็นถนนลูกรัง สองข้างทางมีทุ่งนาและบ้านไม้สลับกัน จนกระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งที่ดูเรียบง่ายแต่สะอาด มีรั้วไม้ไผ่เตี้ย ๆ ล้อมรอบ หน้าบ้านมีคลองเล็ก ๆ และมีแปลงผักเขียวชอุ่มอยู่ด้านหลัง คุณนายพันดาวลงจากรถ เดินตรงไปที่หน้ารั้วบ้าน
“มีใครอยู่ไหมคะ?”
เสียงฝีเท้าจากหลังบ้านดังมาเบา ๆ ก่อนที่ชายวัยกลางคนในชุดเสื้อแขนยาวเก่า ๆ และหมวกสานสีส้มจะโผล่มา
“มาหาใครเหรอครับ”
“เอ่อ ขอโทษที่รบกวนนะคะ ฉันชื่อพันดาวค่ะ เป็นเจ้าของร้านอาหารในเมือง เห็นมะเขือเทศของคุณขายอยู่ในตลาด ฉันลองซื้อไปทำอาหารที่บ้าน...ฉันประทับใจและชอบมากค่ะ”
ลุงเหมืองหัวเราะเบา ๆ พลางเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
“อ๋อ ปลูกเองหลังบ้านนี่แหละครับ ปลูกไว้กิน ไว้แจกบ้าง ขายบ้าง ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะทำเป็นเรื่องใหญ่โตหรอกครับ”
คุณนายพันดาวยิ้มบาง ๆ ส่งให้ และเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“แต่รสชาติมันพิเศษมากจริง ๆ ค่ะ ฉันตั้งใจมาวันนี้เพื่อมาขอซื้อตรงจากคุณโดยเฉพาะ อยากเอาไปใช้ในร้านอาหารของฉันเป็นประจำ”
ลุงเหมืองดูตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน
“มันดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ฉันอยู่กับอาหารมาตลอดชีวิต ต่อให้เป็นวัตถุดิบธรรมดา ถ้ามันดีจริง ฉันดูออกค่ะ”
คุณนายพันดาวหยิบการ์ดนามบัตรของร้านส่งให้
“ฉันไม่ได้มาเล่น ๆ นะคะ ถ้าคุณสนใจ ฉันอยากตกลงเป็นลูกค้าประจำ ซื้อตรงทุกอาทิตย์ ราคาตามตกลง ฉันให้ราคาดีแน่นอนค่ะ วางใจได้”
ลุงเหมืองนิ่งไปพักหนึ่ง เขาหันไปมองแปลงมะเขือเทศหลังบ้าน ที่ตอนนี้เพิ่งเริ่มออกผลชุดใหม่แล้วพลางคิดคำนวณอะไรบางอย่างในหัว
“ถ้าคุณจะรับประจำก็ต้องปลูกเพิ่ม และคงต้องใช้แรงเพิ่มขึ้นด้วย...”
คุณนายพันดาวยิ้ม “ฉันยินดีช่วยจัดหาคนให้ค่ะ หรือจะเริ่มจากเท่าที่คุณมีก่อนก็ได้ ฉันแค่อยากได้วัตถุดิบคุณภาพแบบนี้ไปใช้ในร้านอาหารของฉัน”
ลุงเหมืองถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วพยักหน้า
“ก็ได้ครับ ลองดูสักตั้ง”
นั่นเป็นการเริ่มต้นของข้อตกลงใหม่และการเปลี่ยนแปลง จากแปลงผักเล็ก ๆ หลังบ้าน หลังโรงประชุมของโรงเรียน ไปสู่ครัวของร้านอาหารหรูในเมือง
ไม่มีใครรู้ว่ามันจะไปได้ไกลมากแค่ไหน
จุดนี้มันเริ่มต้นจากแค่ “มะเขือเทศลูกเดียว” ที่ให้ความรู้สึกมากกว่าคำว่า "สดและอร่อย" นำไปสู่จุดเปลี่ยนของชีวิต...
เช้าวันใหม่ที่บ้านดอนแดงพัฒนา สายลมอ่อนพัดไหวผ่านยอดไม้ เสียงนกเอี้ยงร้องระงมรับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ทอแสงอุ่นพาดผ่านบ้านไม้หลังเก่าที่ยังตั้งอยู่ในบริเวณบ้านเดิมของลุงเหมืองถึงแม้จะมีบ้านหลังใหม่ทันสมัยที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก แต่ลุงเหมืองก็ยังคงเก็บบ้านไม้หลังนี้ไว้ด้วยความรัก ที่แห่งนี้เป็นเหมือนหัวใจอีกดวงของเขา เป็นสถานที่แห่งความทรงจำที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิต บ้านที่ไม่ว่าจะมองไปที่ตรงมุมไหน ก็จะเห็นบรรยากาศความอบอุ่นที่ตราตรึงในความทรงจำอยู่เสมอเสียงรถกระบะคันใหม่สีแดงเข้มแล่นผ่านถนนลูกรังหน้าโรงเรียนบ้านดอนแดงพัฒนา ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมายกมือไหว้ทักทายลุงเหมืองด้วยรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคย “กลับมากวาดโรงเรียนอีกแล้วเหรอลุงเหมือง”เสียงของคำชัยที่ยืนพิงเสาไม้หน้าร้านขายของชำเอ่ยทักขึ้นมาลุงเหมืองยิ้มกว้างตอบกลับ “ใช่ ต่อให้ก้าวหน้าไปได้ไกลก็ไม่ลืมจุดยืนเดิมของตัวเองหรอกคำชัย”โรงเรียนยังคงเหมือนเดิม เด็กนักเรียนยังใส่ชุดนักเรียนสีขาวสะอาดเดินเข้าแถวหน้าเสาธง เด็กบางคนเหลียวมองชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวธรรมดา ก้มหน้ากวาดพื้นทาง
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาที่ลานหน้าบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด พนักงานในชุดยูนิฟอร์มสีแดงอิฐเดินเข้าออฟฟิศกันอย่างเป็นระเบียบ เสียงพูดคุยทักทายเบา ๆ ดังคลอท่ามกลางเสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว และกลิ่นดินหลังฝนเมื่อคืนที่เพิ่งหยุดตกโชยมาแตะจมูกภายในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท ลุงเหมืองยืนอยู่หน้ากระดานไวท์บอร์ด มีแพรและหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ ล้อมวงนั่งอยู่ด้านหน้า“อาทิตย์หน้าลุงจะต้องไปญี่ปุ่นเพื่อบรรยายที่เวทีระดับโลกนะครับลุงเหมือง”หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศพูดพลางเปิดแฟ้มงาน ลุงเหมืองพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งแต่มั่นคง“แต่ก่อนที่ลุงจะไป ลุงอยากให้พวกเรากลับมาทบทวนว่าเราเดินมาถึงจุดนี้ได้ยังไง และเราจะเดินต่อไปแบบไหน”แพรเสริมขึ้นทันที “ใช่ค่ะ ลุงเหมืองพูดถูกที่สุด ทุกวันนี้เราไม่ใช่แค่ฟาร์มเล็ก ๆ แล้ว แต่เป็นบริษัทส่งออกที่มีพันธมิตรในหลายประเทศ มีคนไว้วางใจในคุณภาพมะเขือเทศของเรา นอกจากมะเขือเทศแล้ว เรายังมีผักอื่น ๆ อีกปลูกเพิ่มอีกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องไม่ลืมว่าเราเริ่มจากตรงไหน”ลุงเหมืองหยิบแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งที่ปกข้างหน้ามีคำเขียนด้วยลายมือว่า “แผนชีวิตจากแปลงด
เช้าวันหนึ่งในช่วงต้นฤดูหนาว แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านม่านหน้าต่างห้องทำงานของลุงเหมืองภายในสำนักงานใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด บนโต๊ะไม้เรียงรายไปด้วยแฟ้มงาน ปากกา และหนังสือเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ แต่ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่แสนยุ่งของบริษัท ในเช้าวันนี้กลับมีจดหมายฉบับหนึ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษแพรเปิดซองจดหมายนั้นแล้วอ่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"ลุง เป็นจดหมายเชิญจากสำนักงานเกษตรจังหวัด เขาเชิญลุงไปเป็นวิทยากรพิเศษในงานมหกรรมเกษตรประจำจังหวัดปีนี้ค่ะ"ลุงเหมืองเงยหน้าขึ้นจากงานในมือ เขามีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน"เขาเชิญจริงเหรอ นึกไม่ถึงเลยว่า เขาจะเห็นค่าคนบ้านนอกอย่างลุง รู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ"แพรยิ้มก่อนจะเอ่ยตอบกลับ "เขาไม่ใช่แค่เห็นนะคะลุง เขายังแนบมาด้วยว่า จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ลุงในฐานะบุคคลต้นแบบเกษตรกรของจังหวัด และมอบโล่เกียรติคุณให้กับบริษัทของเรา ในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอย่างซื่อตรงต่อผู้บริโภคด้วยค่ะ"ลุงเหมืองวางปากกาในมือลงแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มีทั้งความภูมิใจ ทั้งความซาบ
เช้าวันจันทร์อันเงียบสงบ แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างบ้านไม้หลังเล็กในหมู่บ้านดอนแดงพัฒนา ในบ้านหลังเดิมที่ในตอนนี้เพิ่มเติมคือมีบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมตั้งอยู่บ้างกัน แม้จะปลูกบ้านหลังใหม่แล้ว แต่ลุงเหมืองก็ไม่ต้องรื้อบ้านไม้หลังเก่าออก นั่นก็เพราะที่นี่คือทุกความทรงจำวันนี้ลุงเหมืองตื่นขึ้นแต่เช้าตามนิสัยเดิม เขาเดินลงจากเตียง หยิบเสื้อเชิ้ตสีซีดที่รีดเรียบไว้เมื่อคืนขึ้นมาสวมใส่ แล้วเดินออกมายังเฉลียงหน้าบ้าน สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกล่าวกับตัวเองเบา ๆ"อีกวันแล้วสินะ อีกวันของการได้สู้ต่อ"ถึงแม้วันนี้ลุงเหมืองจะไม่ต้องตอกบัตรเข้าโรงเรียนเหมือนสมัยก่อนตอนที่ยังเป็นภารโรง แต่กิจวัตรของเขากลับยุ่งยากกว่าเดิมนับสิบเท่า ตอนนี้เขาเป็นผู้นำของบริษัทใหญ่ เป็นเจ้าของแบรนด์มะเขือเทศที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงระดับโลก เป็นแรงบันดาลใจของชาวบ้าน และก็ยังเป็นคนของชุมชนเสมอลุงเหมืองเดินไปยังกระถางต้นมะเขือเทศที่ตั้งเรียงไว้ข้างเฉลียง ยื่นมือไปลูบเบา ๆ ที่ใบเขียวชอุ่มและยิ้มอย่างพอใจ“ทุกอย่างเริ่มจากเจ้าพวกนี้สินะ”เช้าวันนั้น ในห้องประชุมใหญ่ของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด สาขา
เสียงเครื่องคัดแยกผลผลิตดังกึกก้องอยู่ในโรงงานบรรจุมะเขือเทศของบริษัท เหมืองแดง อินเตอร์เทรด จำกัด ลุงเหมืองในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวพับแขนก้าวเท้าเข้าไปตรวจดูผลผลิตที่เพิ่งถูกบรรจุลงกล่องส่งออกล็อตใหม่ด้วยสายตาพึงพอใจจากแปลงผักเล็ก ๆ หลังบ้าน หลังโรงประชุมของโรงเรียน จากฟาร์มขนาด 1 ไร่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครรู้จัก วันนี้ชื่อของ "เหมืองแดง" ถูกพูดถึงในวงการเกษตรอินทรีย์ทั้งในและต่างประเทศ ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ในหลายเมืองใหญ่ของโลกเลือกใช้มะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ปลูกด้วยมือของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นอดีตภารโรงจากบ้านดอนแดงพัฒนา ผู้ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นเจ้าของบริษัทส่งออกมะเขือเทศพันธุ์แดงหวานตะวันออกที่ผู้คนต่างรู้จัก“ลุงเหมืองครับ ออเดอร์จากดูไบรอบใหม่น่าจะส่งได้สัปดาห์หน้า ทีมคัดแยกอยากขอเพิ่มคนหน่อยครับ”เสียงของหัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ลุงเหมืองพยักหน้าแล้วหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาจ่อปาก“ฝ่ายบุคคลครับ ช่วยจัดคนเพิ่มที่ไลน์คัดแยกดูไบรอบใหม่ด้วยนะครับ”พูดจบ เขาก็หันไปยิ้มกับพนักงานคัดแยกคนหนึ่ง“ขอบใจมากนะ ขยันขันแข็งกันจริง ๆ ขอบคุณที่สู้ด้วยกัน”“ด้วยความยิ
เสียงรถตู้ของทีมงานจากต่างประเทศแล่นเข้ามาจอดที่หน้าฟาร์มเหมืองแดงในยามเช้าตรู่ แสงแดดอ่อนของวันใหม่สาดส่องลอดผ่านต้นมะม่วงหน้าบ้าน เสียงไก่ขันดังแว่วอยู่ลิบ ๆ แต่เสียงนั้นกลับเบาไปถนัดตา เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นที่แผ่ซ่านไปทั่วหมู่บ้านดอนแดงพัฒนาในตอนนี้“ลุงเหมืองมาแล้ว สารคดีต่างประเทศมาแล้ว”เด็ก ๆ วิ่งกรูมาตามถนนดินแดงที่เคยเงียบเหงา ส่งเสียงร้องลั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้านลุงเหมืองใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวดูสะอาดตา ตัดกับกางเกงผ้าสีเข้มยืนรออยู่หน้าฟาร์ม และมีแพรอยู่ข้าง ๆ ในชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้เรียบง่าย ทั้งสองคนยิ้มแย้มแต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากวันแรกที่เริ่มเพาะเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศลงดิน“ไม่คิดเลยนะคะว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้” แพรพูดเบา ๆ“ลุงก็ไม่คิดเหมือนกัน แค่คิดว่าจะปลูกกินเอง ขายได้นิดหน่อยก็พอใจแล้ว”ทีมงานสื่อสารคดีจากญี่ปุ่นก้าวลงจากรถ เคย์โกะอยู่ข้างหน้าพร้อมส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น“อรุณสวัสดิ์ค่ะลุงเหมือง คุณแพร ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะคะ”“ยินดีต้อนรับครับคุณเคย์โกะ ยินดีต้อนรับทุกคน เชิญทางนี้ครับ”ลุงเหมืองกล่าวน้ำเสียงมั่นใจและหนักแน่น แม้ภายในจะยัง