ตอนที่ 5 เริ่มแผนการ
วันนี้ถิงถิงกับอี้ฟานมีนัดจดทะเบียนสมรส อี้ฟานส่งคนมารับเธอที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วทั้งสองก็ไปเจอกันที่สำนักงาน การจดทะเบียนผ่านไปได้ด้วยดีและค่อนข้างจะรวดเร็ว และที่สำคัญอี้ฟานได้กำชับให้ทุกคนในวันนี้ เก็บเรื่องการจดทะเบียนสมรสของเขาและถิงถิงเป็นไว้ความลับห้ามเผยแพร่ออกไปโดยเด็ดขาดขาดไม่งั้นเขาจะเล่นงานคนปล่อยข่าวให้ถึงที่สุด
หลังจากจดทะเบียนสมรสเสร็จอี้ฟานก็พาถิงถิงกลับมาที่บริษัทของเขา แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนที่เธอเคยมามาก เพราะครั้งก่อนเธอต้องไปนั่งรอเขาที่ห้องรับแขกนานเกือบสองชั่วโมง แต่ครั้งนี้เธอกำลังเดินเข้าห้องทำงานส่วนตัวของประธานบริษัท ซึ่งเป็นห้องที่ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปได้ง่ายๆ
“เธอจะเอาน้ำอะไร บอกอาคังได้เลย เราจะได้เริ่มคุยเรื่องงานกัน” อี้ฟานบอกกับถิงถิงทันทีที่เข้ามาภายในห้อง ถิงถิงมองสำรวจห้องของเขาเล็กน้อยก่อนจะหันไปบอกอาคัง
“ฉันขอน้ำเปล่า แต่ขอเป็นน้ำอุ่นนะ” เธอบอกก่อนจะนั่งลงบนโซฟาภายในห้องทำงาน อี้ฟานที่ถอดสูทตัวนอกออกแล้วก็เดินมานั่งที่โซฟาอีกตัว
“ก่อนจะคุยเรื่องงานฉันของถามอะไรเธอหน่อยสิ” ถิงถิงหยุดการมองสำรวจห้องเปลี่ยนมาเป็นจ้องเขาและรอคอยคำถามที่เขาจะถาม
“ทำไมเธอถึงเลือกฉัน”
“เพราะพี่มีจุดอ่อนให้ฉันใช้งานไง” ถิงถิงตอบแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ
“แค่นี้เหรอ ฉันว่าไม่น่าจะใช่ มีคนอีกตั้งเยอะแยะที่มีจุดอ่อนให้เธอใช้งาน แล้วก็ไม่จำเป็นที่เธอต้องลงทุนแต่งงานด้วยซ้ำ” อี้ฟานพูดอย่างคนที่อ่านเกมขาด
“แล้วพี่คิดว่ายังไง” ถิงถิงถามหยั่งเชิง เธอต้องการรู้ว่าอี้ฟานรู้ทันเธอถึงไหน
“ถ้าให้ฉันเดา เธอไม่ไว้ใจคนพวกนั้น เธอกลัวว่าพวกนั้นจะแทงข้างหลังเธอ”
“ใช่” เธอตอบเขาไปตรงๆ
“แล้วเธอมั่นใจได้ยังไงว่าฉันจะไม่แทงข้างหลังเธอเหมือนคนอื่น” อี้ฟานถาม เขาอยากรู้ว่าเธอมั่นใจได้ยังไงว่าเขาจะอยู่ข้างเธอจนถึงที่สุด
“มั่นใจสิ เพราะพี่คือคนเดียวที่ส่งของขวัญให้คุณปู่ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา” ถิงถิงตอบแบบยิ้มๆ เมื่อก่อนในทุกๆปีคุณปู่จะจัดงานเลี้ยงบริษัทพร้อมกับวันเกิดของท่าน เพราะเป็นวันเดียวกัน แต่ว่าตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีก่อนที่ท่านเริ่มป่วย ท่านก็ยกเลิกจัดงานวันเกิดให้จัดแค่งานเลี้ยงของบริษัทอย่างเดียว และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครให้ของขวัญวันเกิดกับท่านอีกเลยนอกจากอี้ฟานคนเดียว
“เหตุผลแค่นี้เหรอที่เธอเลือกฉัน”
“คุณปู่ชอบของขวัญของพี่มากนะ” อี้ฟานเข้าใจความหมายที่ถิงถิงจะสื่อ เธอคงจะบอกว่าเขามีความใส่ใจที่จะเลือกของขวัญให้คุณปู่จางจริงๆ ไม่ใช่แค่เลือกไปงั้นๆ ซินะ แต่ของขวัญที่เขามอบให้ปู่จางเขาก็ตั้งใจเลือกทุกชิ้นจริงๆ
“ฉันนึกว่าเธอจะมีเหตุผลอย่างอื่นซ่ะอีก อย่างเช่น เธอแอบชอบฉัน” อี้ฟานพูดพร้อมกับทำหน้าเจ้าเลห์ แต่ถิงถิงกลับส่ายหน้าให้กับคนหลงตัวเอง
“พี่ก็หล่อนะ แต่พี่ไม่ใช่สเปคฉัน” นี่เขากำลังถูกเมียที่พึ่งจะจดทะเบียนได้แค่ชั่วโมงเดียวบอกว่าตัวเองไม่ใช่สเปกนี่นะ
“แล้วสเปคเธอเป็นแบบไหน” อี้ฟานอดที่จะถามไม่ได้ ผู้หญิงทุกคนต่างบอกว่าเขาคือสเปคของพวกเธอ แต่คนที่เป็นเมียกลับบอกว่าเขาไม่ใช่แล้วเธอชอบผู้ชายแบบไหนกัน
“ฉันชอบผู้ชายที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ซึ่งมันน่าจะตรงข้ามกับพี่” ถิงถิงตอบอย่างหนักแน่น
“ยัยเด็กน้อย เธอยังไม่รู้อะไร ฉันนะอบอุ่นกว่าที่เธอคิดอีกนะ ถ้าไม่เชื่อไปที่เตียงสิฉันจะแสดงให้ดูว่าความอบอุ่นของฉันมันเป็นยังไง” ถิงถิงหน้าแดงทันทีที่อี้ฟานพูดจบ เพราะคำพูดและสายตาของเขามันบ่งบอกชัดเจนว่าความอบอุ่นของเขามันหมายถึงเรื่องอะไร ส่วนอี้ฟานเองก็แอบขำเบาๆ ที่เขาสามารถแกล้งเธอได้
“ฉันว่าเรามาคุยธุระของเราต่อดีกว่าค่ะ ฉันยังมีธุระต่อ” ถิงถิงรีบเปลี่ยนเรื่องตอนนี้เธอรู้สึกเหนื่อยจากการที่หัวใจทำงานหนักเพราะเรื่องที่เขาพูดเมื่อสักครู่
“ไม่อยากลองทดสอบหน่อยเหรอ หลังประตูบานนั้นมีเตียงอยู่นะ” อี้ฟานยังไม่หยุดพูดจาแกล้งเธอ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผลถิงถิงคงรู้ทันแล้วว่าเขาแค่แกล้งพูดแหย่เธอเล่น เธอมองเขาด้วยสายตาลำคาน
“พี่จะจริงจังได้หรือยัง ถ้ายังฉันจะได้กลับได้กลับบ้านไปก่อน” พูดจบเธอก็ทำท่าจะลุกขึ้น จนอี้ฟานต้องรั้งไว้
“โอเคๆ ฉันไม่แกล้งแล้วนี่แผนงานโครใการพัฒนาลองอ่านดูสิ” ถิงถิงรับแผนงานจากอี้ฟานมาอ่านทีล่ะหน้าอย่างละเอียด เวลาแค่สองวันเขาสามารถเขียนแผนงานที่ละเอียดได้ขนาดนี้เลยเหรอ สมกับที่เป็นซาตานจริงๆ
“พี่เขียนแผนงานออกมาได้ละเอียดดีนะคะ พี่เขียนเองเหรอ” หลังจากได้อ่านแผนงานถิงถิงก็รู้สึกอดที่จะชมเขาไม่ได้ เพราะแผนงานของเขาเขียนออกมาได้ดีจริงๆ
“ใช่สิ โครงการนี้ยังเป็นความลับอยู่จะให้คนอื่นเขียนได้”
“แต่ฉันขอถามอะไรพี่หน่อย” ถิงถิงวางแผนโครงการลงก่อนจะจ้องหน้าอี้ฟานด้วยสายตาจริงจัง “พี่คิดจะเอาเงินหมื่นล้านไปทิ้งกับโครงการนี้จริงๆเหรอ ฉันเข้าใจแล้วแหละว่าทำไมพวกตาแก่บริษัทพี่ถึงไม่เห็นด้วย โครงการนี้มันบ้าชัดๆ พี่จะให้ห้องพักใหม่กับคนที่ขายที่ให้พี่แบบไม่เสียค่าใช่จ่ายเนี่ยนะ ที่ตรงนั้นราคาก็ไม่ใช่ว่าจะแพง แล้วห้องที่พี่จะให้กับคนที่ขายที่ให้พี่ก็ยังเป็นห้องสำหรับครอบครัวที่ราคาแพงกว่าค่าที่ไม่รู้ตั้งกี่เท่าเนี่ยนะ พี่บ้าไปแล้วหรือเปล่า” ถิงถิงถามอย่างไม่เข้าใจคนที่คิดโครงการนี้ได้ต้องเป็นคนบ้าเท่านั้น และคนที่สนับสนุนก็คงจะบ้าไม่ต่างกัน
อี้ฟานไม่ได้ตอบคำถามของถิงถิงในทันที แต่เขาแค่จ้องหน้าของเธออย่างเงียบๆ ถิงถิงเองก็จ้องหน้าเขาเหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างจ้องมองกันอยู่นานโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร ในที่สุดถิงถิงก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“พี่มันบ้า ฉันเองก็คงบ้าไม่ต่างจากพี่ที่คิดว่าโครงการนี่มันดี” ถิงถิงได้แต่ถอนหายใจ เธอคงบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่เห็นด้วยกับโครงการของเขา “เงินก้อนแรกสามพันล้านจะโอนเข้าทันทีที่เราเซ็นสัญญา พี่ตกลงมั้ย” อี้ฟานพยักหน้าตอบรับแทนคำตอบ
“เรื่องสัญญากับรายละเอียดทั้งหมดฉันจะให้คนจัดการให้เสร็จก่อนงานแต่งจะเริ่มก็แล้วกัน” อี้ฟานบอก
“ค่ะ”
“ว่าแต่ทำไมพี่ดูมั่นใจจังว่าฉันจะเห็นด้วยกับความคิดของพี่” ถิงถิงถามเพราะอี้ฟานดูมั่นใจมากว่าเธอจะต้องเห็นด้วบกับความคิดของเขาแน่ๆ
“เพราะเธออ่านมันจนจบและไม่ขว้างแผนงานของฉันทิ้งเหมือนคนอื่น ว่าแต่เธอไม่มีอะไรจะบอกฉันเหรอ” อี้ฟานตอบคำถามก่อนจะถามกลับ
“บอก? เรื่องอะไรคะ” ถิงถิงถามกลับด้วยความสงสัย เธอยังมีเรื่องอะไรที่ต้องบอกเขาอีกงั้นเหรอ
“เธอไม่คิดจะบอกฉันหน่อยเหรอว่าตอนนี้คุณปู่จางมอบตราประจำตระกูลให้เธอแล้ว”
“พี่รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ” ถิงถิงรู้สึกแปลกใจที่อี้ฟานรู้เรื่องนี้ เรื่องนี้มีแค่เฉพาะคนในตระกูลเธอแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้
“ไม่ใช่แค่เธอหรอกนะที่สืบเรื่องของฉัน ฉันเองก็สืบเรื่องเธอเหมือนกัน แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าฉันกับเธอจะบอกเรื่องพวกนั้นกับฉันเองโดยที่ไม่ต้องสืบ ถึงยังไงเราก็เป็นผัวเมียกันจริงมั้ย” อี้ฟานพูดด้วยรอยยิ้มแต่เป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์
“แต่ช่างเถอะเรื่องนั่นก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันอยู่แล้วจะบอกไม่บอกก็เรื่องของเธอ ส่วนเรื่องงานแต่งเธอจัดการได้เลยนะเอาตามที่เธอคิดได้เลย เพราะพรุ่งนี้ฉันจะต้องไปทำงานที่ต่างเมืองกว่าจะกลับก็ประมาณสองอาทิตย์”
“สองอาทิตย์เลยเหรอ”
“ทำไม ไม่อยากให้ฉันไปเหรอ หรือเธออยากจะให้ฉันอยู่กล่อมเธอนอนทุกคืน”
“พี่จะไปก็ไปสิ ฉันไม่ว่าอะไรสักหน่อย แล้วอีกอย่างฉันไม่ใช่เด็กที่จะต้องมีคนมากล่อมนอน ขอแค่พี่อย่าเทงานแต่งก็พอ” ถิงถิงพูดอย่างไม่สนใจเขาจะไปทำงานที่ไหนมันก็เรื่องของเขาสิ เกี่ยวอะไรกับเธอขอแค่เขาไม่ลืมงานแต่งแค่นั้นก็พอ
“เธอลืมอะไรไปหรือเปล่า ถึงได้ไล่ฉันไปแบบนี้”
“ลืม ลืมอะไรคะ”
“ก็ลืมสัญญาข้อสุดท้ายไง” ถิงถิงนึกถึงสัญญาข้อสุดท้ายที่คุณปู่ของเธอขอเพิ่ม
“แล้วยังไงคะ” แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกี่ยวอะไรกับการไปทำงานนอกเมืองของเขา
“ก็ไม่ยังไง แต่ถ้าภายในสองปีนี้เราไม่มีลูกข้อตกลงทั้งหมดจะถูกยกเลิก แล้วความพยายามทั้งหมดของเราก็จะศูนย์เปล่า ทำลูกนะไม่ใช่ว่าทำครั้งเดียวแล้วติดเลยนะมันต้องทำบ่อยๆสิ แล้วเธอลองคิดดูนะสองอาทิตย์ที่ฉันไม่อยู่เราจะพลาดโอกาสที่จะทำลูกกันไปกี่ครั้ง” คำพูดของอี้ฟานทำให้ถิงถิงรู้สึกเขิน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็พยายามเก็บอาการไว้ไม่ให้เขารู้
“ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ สองปีแผนพัฒนาของพี่ก็น่าจะเริ่มเข้าที่เข้าทางไม่น่าจะได้รับผลกระทบอะไรถ้าสัญญาจะถูกยกเลิก หรือต่อให้สัญญาของเราถูกยกเลิกฉันก็พร้อมจะสนับสนุนพี่ต่อเพราะฉันชอบโครงการของพี่จริงๆ” ถิงถิงบอก
“ฉันอาจจะไม่เป็นอะไร แล้วน้องชายของเธอล่ะ แค่สองปีน้องเธอจะพร้อมที่ขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเหรอ” อี้ฟานเอาเรื่องของน้องชายมาอ้าง
“เรื่องนั้นก็ไม่ยากค่ะ เราก็แค่กำจัดตัวแปรที่จะเป็นอุปสรรคกับการขึ้นเป็นหัวหน้าตระกูลของหวังเหล่ยออกไปให้หมดก็พอ แค่นี้ก็ไม่มีน่าจะปัญหา” อี้ฟานมองท่าทางที่พูดอย่างจริงจังของถิงถิง นี้เธอคิดจะจบความสัมพันธ์กับเขาภายในสองปีโดยที่เขาไม่ได้กินเธอนี่นะ มันจะตลกเกินไปล่ะ