รถหรูสีขาวยี่ห้อยุโรปราคาแพงเคลื่อนเข้ามาภายในบ้านสวนที่บรรยากาศเงียบสงบและสวยงาม เสียงยางรถบดถนนที่เรียบบ้างไม่เรียบบ้างตามสภาพการใช้งาน หลังจากเดินทางมาจากกรุงเทพหลายชั่วโมงในที่สุดก็มาถึงเสียที ‘ไร่ส้มธัชกร’ ของพี่ชายสุดที่รักของเมธาวี
ปกติเมธาวีจะไม่ขับรถส่วนตัวมาแบบนี้ เธอจะนั่งเครื่องบินแล้วพี่ชายก็จะให้คนงานในไร่ขับรถไปรับบ้าง หากมาตรงวันที่ธัชกรว่างเขาก็จะไปรับเอง แต่กลับมาบ้านคราวนี้เมธาวีไม่ได้มาคนเดียวเช่นทุกที
ดวงตางอนงามมองภาพภูเขาเบื้องหน้า สีเขียวทาทาบทั้งลูกผิดกับเมืองกรุงที่มีแต่ตึกสูงและมองไปทางไหนก็มีแต่ความวุ่นวาย
ป่าท่ามกลางธรรมชาติดูแล้วสบายตา หญิงสาวเกยคางมองความสงบที่สวยงามนั้นมาตลอดทางกระทั่งรถของพวกเธอเคลื่อนเข้ามาภายในไร่ ถนนที่เหมือนจะดีแต่ก็ทำให้รถโคลงไม่น้อย ความสนใจขอกวินตราจึงอยู่ที่ถนนมากกว่า
กวินตราตัดสินใจจะอยู่ที่นี่สักพัก ทั้งนี้ก็เพื่อหลบหน้าอดีตว่าที่คู่หมั้น ส่วนร้านจัดดอกไม้จ้างคนมาทำแทนสักระยะ
“เป็นยังไงมิน ชอบมั้ย” เมธาวีมองเพื่อนที่ดูพอใจกับธรรมชาติของที่นี่ เมื่อพวกเธอก้าวลงจากรถ ทันทีที่สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดก็ทำให้กวินตราถึงกับยิ้มออก รู้สึกสมองโล่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อื้ม ชอบมากเลยขอบคุณนะที่พามาด้วย”
“แหม จะให้เมทิ้งมินอยู่ที่นั่นคนเดียวได้ไง เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวให้แม่บ้านมายกของเข้าไปให้”
เมธาวีจูงมือเพื่อนรักเข้าไปในบ้าน เจอพี่เลี้ยงของสองแสบส่งสัญญาณให้พวกเธอเงียบเพราะทั้งคู่กำลังหลับอยู่ เมธาวีก็คิดว่าดีเลยจะได้พากวินตราไปดูห้อง ก่อนมาเธอได้โทรมาแจ้งแม่บ้านแล้วว่าจะมีเพื่อนมาค้างด้วยสักพักให้เตรียมห้องพักให้ด้วย แต่ดันลืมบอกพี่ชายไปเสียสนิทเพราะตอนแรกคิดว่าจะอยู่ที่กรุงเทพหลายวันเพื่อรอให้เสร็จงานแต่งของกวินตราถึงจะกลับ
แต่ตอนนี้ไม่มีงานแต่งแล้ว แถมยังกลับมาปุบปับจึงไม่ได้บอกใคร มีแค่โทรบอกแม่บ้านเตรียมห้องไว้ให้เท่านั้น
“มินนอนห้องนี้นะ ถัดไปเป็นห้องพี่ชายเราเอง ส่วนเราอยู่ห้องทางนั้น พอดีว่าห้องข้าง ๆ แม่บ้านบอกเอาไว้เก็บของเลยเตรียมไม่ทัน ห้องเล็กไปหน่อยตัวนอนได้เนอะ” เมธาวีถามอย่างเป็นห่วง
“สบายมาก” กวินตราคลี่ยิ้มให้เพื่อนรักก่อนที่เมธาวีจะขอตัวไปอาบน้ำพักผ่อนเสียหน่อยเดี๋ยวสองแสบตื่นจะไม่มีเวลาพัก
กวินตราวางกระเป๋าของเธอลงก่อนจะมองสำรวจไปรอบห้อง บ้านของเมธาวีเป็นไม้ผสมผสานความทันสมัยแต่ยังมีกลิ่นอายความเป็นไทยอยู่ไม่น้อย ดูจากบรรยากาศภายในบ้านตกแต่งออกมาดูมีความอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านมาก คนออกแบบคงอยากให้ทุกคนในบ้านอยู่แล้วรู้สึกมีความสุข
ร่างบางเดินไปเปิดม่านสีขาวตรงประตูที่เชื่อมไปยังระเบียงออกไปด้านหลังซึ่งเป็นลำธารเล็ก ๆ ถัดไปเป็นภูเขา เสียงสายน้ำไหลทำให้หญิงสาวแอบยิ้มออกมาอย่างไม่มีเหตุผล ดวงตากลมโตเหลือบมองไปไกล ๆ มีต้นส้มที่ปลูกเรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา นับได้ว่าเป็นวิวหลักล้านได้เลย หากเธอรู้ว่าบ้านของเพื่อนรักจะสวยขนาดนี้รู้แบบนี้ตามมาเที่ยวด้วยบ่อย ๆ ก็คงดี
แอ๊ดดดดดดด เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าด กวินตรามองตามเสียงไปก็พบแม่บ้านกำลังเปิดประตูเข้ามาทำความสะอาด ผ้าห่มสีขาวถูกเอาออกมาตากเอาไว้ที่ระเบียงขณะที่แม่บ้านสาวคนนั้นหันมาแล้วส่งยิ้มให้กวินตราอย่างเป็นมิตร
“คุณเป็นเพื่อนคุณเมใช่ไหมคะ” แม่บ้านอายุพอ ๆ กับกวินตราเอ่ยทักขึ้น
“ใช่ค่ะ” กวินตราตอบ
“สวยจังเลยนะคะ ได้ยินคุณเมพูดถึงคุณสองสามครั้งตอนเล่าให้นายหัวฟัง เธอบอกว่าคุณสวยยิ่งกว่านางเอกเบอร์หนึ่งเสียอีก วันนี้ได้เจอตัวจริงสมกับที่คุณเมบอกเลยค่ะ”
คำเยินยอของแม่บ้านที่พึ่งเคยพบหน้าครั้งแรกทำกวินตราถึงกับเขินจนทำตัวไม่ถูก เธอเอ่ยขอบคุณไปอย่างไม่ถือตัวก่อนจะเดินเข้าห้องมาเพื่อจะอาบน้ำและนอนพักสักหน่อย การนั่งรถที่ยาวนานที่สุดในชีวิตถึงแม้ว่ากวินตราจะนั่งเพียงอย่างเดียวก็เหนื่อยไม่น้อย
ตกเย็นแม่บ้านเดินขึ้นมาเคาะห้อง กวินตราตื่นพอดีจึงลุกมาเปิดประตูห้อง
“รับอาหารเลยไหมคะ คุณเมให้มาตามคุณลงไปทานข้าวค่ะ”
“ค่ะเดี๋ยวฉันตามลงไป”
มือเล็ก ๆ ผลักปิดประตูไม้เงาวับลงก่อนจะอ้าปากห้าวจนน้ำตาเล็ด หลังจากเกิดเรื่องวันนั้นกวินตราพึ่งได้นอนเต็มอิ่มวันนี้เป็นวันแรก อาจจะเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางแต่ก็เป็นผลดีที่ทำให้ตื่นมาตอนเวลาผีตากผ้าอ้อมแบบนี้ยังสดชื่นเป็นบ้า
“อ้าวนั่นไงอามินมาแล้ว” เสียงสดใสของเมธาวีดังขึ้นทันทีที่เห็นว่ากวินตราเดินลงมาจากชั้นสอง
“อามีน อามีน” เด็กน้อยทั้งสองเดินไปหากวินตราทันทีราวกับนัดกันไว้
หญิงสาวนั่งลงกอดร่างเล็กของเด็กทั้งสองเอาไว้ก่อนจะแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเพื่อทำความรู้จัก เด็กน้อยทั้งสองก็ได้บอกชื่อตัวเอง กวินตรามองใบหน้าเล็ก ๆ นั้นกับสันจมูกที่คมชัดขนาดนี้ ทั้งผิวยังขาวผ่องไม่ต้องพูดถึงหน้าตาเลย อย่างกับตุ๊กตา พ่อแม่ของเด็กทั้งสองคงเป็นคนที่หน้าตาดีมากแน่ ๆ กวินตราคิดในใจ
“ปะ กินข้าวกันหิวจะแย่” เมธาวีเดินมาอุ้มนทีแล้วให้กวินตราอุ้มรพีมาที่โต๊ะอาหาร
หลังจากทานอาหารแล้วกวินตราและเมธาวีได้เล่นกับต้าวแฝดจนกระทั่งเด็กน้อยเหนื่อยแล้วหลับไป วันนี้เด็กทั้งสองหลับง่ายจนแม่บ้านชม กวินตราที่กล่อมแป๊บเดียวนทีกับรพีก็หลับปุ๋ยแล้ว ขณะที่พวกเธอต้องพยายามอย่างหนักแทบทุกวันเพื่อพยายามพาเด็กทั้งสองเข้านอน
ร่างสูงกลับมาจากโฮมสเตย์หลังจากไปคุมคนงานที่กำลังถมที่เพื่อขยายที่พักอีกหลายแห่งเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว กว่าจะเสร็จก็ปาไปเกือบตีหนึ่ง หลังจากเข้ามาก็เจอรถของน้องสาวตัวแสบที่ไม่ได้เห็นมานาน รถคันนี้เขาซื้อให้เมธาวีเพื่อเป็นของขวัญเรียนจบ ปกติก็จอดเอาไว้ที่คอนโดในกรุงเทพ แต่ทำไมถึงมาจอดอยู่ที่นี่ได้
ชายหนุ่มมองแล้วครุ่นคิดก่อนจะมองขึ้นไปบนบ้านก็พบว่าตอนนี้ไฟทั้งบ้านปิดหมดแล้ว
“ป่านนี้คงหลับกันหมดแล้ว ไว้พรุ่งนี้ค่อยถามก็แล้วกัน”
ธัชกรเลือกที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้แล้วเดินเข้าบ้าน มือถือแฟ้มงานข้างหนึ่ง อีกข้างพาดเสื้อกันแดดที่ใส่ไปเมื่อเช้า มือไขกุญแจเข้าบ้านมา ปกติแล้วหากเมธาวีกลับบ้านเธอมักจะเอาสองแสบไปนอนด้วยแทบทุกคืนเพื่อจะไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของธัชกร นับได้ว่าน้องสาวคนนี้แบ่งเบาเขาได้มากเลยทีเดียว
แกร็ก แกร็ก
เสียงกลอนประตูถูกกดล็อกเอาไว้ก่อนร่างสูงจะเดินเข้าไปในบ้าน เสื้อและแฟ้มในมือถูกวางเอาไว้ที่โต๊ะโซฟาเช่นทุกวัน ก่อนจะเดินขึ้นบันไดก็บังเอิญได้ยินเสียงกุกกักในครัวจึงคิดว่าน้องสาวตัวดีลุกมากลางดึกจึงจะเดินไปดูเสียหน่อย
แสงสีส้มนวลกระจายไปทั่วทั้งห้อง ประตูตู้เย็นถูกเปิดทิ้งไว้ทว่ากลับไร้ซึ่งร่างคนอยู่ ร่างสูงจะเดินเข้าไปใกล้อีกหน่อยร่างเล็กก็พรวดลุกขึ้นขณะที่แก้มตุ่ยพร้อมในมือถือขวดน้ำขวดเล็กในมือ
ธัชกรตัวแข็งทื่อเมื่อถูกคนแปลกหน้าที่มาค้นของในตู้เย็นในบ้านของเขาพ่นน้ำใส่หน้า
“กรี๊ดดดดดด”
“นี่คุณ เบา ๆ”
ยังไม่ทันที่กวินตราจะได้ร้องเพราะคิดว่าเจ้าของบ้านเป็นผี จู่ ๆ ก็โผล่มาเงียบ ๆ กำลังจะก้าวขาเตรียมวิ่งกรี๊ดขึ้นไปบนบ้านด้วยความลืมตัว แต่กลับถูกฝ่ามือใหญ่รั้งข้อมือเอาไว้เสียก่อน ทว่ายังไม่ทันจะได้ทำอะไร ร่างสูงก็พลาดเหยียบน้ำที่หกราดอยู่บนพื้นจนเผลอดึงร่างเล็กที่จับเอาไว้ตามลงมาด้วย
ริมฝีปากบางที่เย็นเฉียบจรดลงบนริมฝีปากอุ่น กลิ่นวิสกี้จาง ๆ จากปากหนาที่พึ่งดื่มมากับพวกคนงานก่อนกลับคละคลุ้งในปาก ร่างเล็กดิ้นขลุกอยู่บนตัวเขาเพราะความตกใจ เนินอกสวยบดเบียดร่างแกร่งไปมาอย่างไม่ตั้งใจ ธัชกรกลืนน้ำลายลงคืออย่างยากลำบาก กลิ่นกายหอมกรุ่นของคนตัวเล็กนี้มันคืออะไรกันแน่ ทำไมพอได้กลิ่นก็ทำให้เขามีอารมณ์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก