เมื่อพ่อหม้ายลูกแฝดอยากมีรักอีกสักครั้งกับเพื่อนน้องสาว ทั้งคู่กำลังเริ่มต้นบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่ดีแก่กันแต่ก็ต้องมาสะดุดเมื่อ ภรรยาเก่ากลับมาทวงเอาสมบัติเพิ่มโดยเอาลูกชายฝาแฝดมาเป็นตัวประกัน
View Moreเสียงทารกน้อยวัยสิบเดือนร้องประสานเสียงดังลั่นห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้สำหรับเด็กเพราะรู้สึกไม่สบายตัว แต่หากบอกออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จึงใช้วิธีการงอแงเพื่อบอกอาการให้คนที่เห็นรู้ พี่เลี้ยงสองคนวุ่นวายเพื่อหาวิธีทำให้ทารกน้อยทั้งสองสงบลง ให้กินนมก็แล้ว พาอุ้มเดินทั่วบ้านก็แล้วแต่ทารกน้อยก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดก่อกวน
“เอายังไงดีวะนังลำดวน” พี่เลี้ยงผู้มีประสบการณ์เอ่ยถามเพื่อนที่ทำงานที่เป็นพี่เลี้ยงลูกของนายหัวด้วยกัน เดิมทีทั้งคู่เป็นคนงานที่ไร่แต่เพราะเคยเลี้ยงเด็กอ่อนมาก่อนธัชกรจึงได้ให้ทั้งสองมาช่วยชัญญาภรรยาของตนเลี้ยงลูก
“โทรหาคุณนายดีไหม เดี๋ยวฉันเข้าไปเอาโทรศัพท์ก่อน ฝากแกดูคุณหนูก่อนนะ”
พูดจบลำดวนก็รีบวิ่งเข้าห้องของเธอไป ครู่เดียวเธอกลับมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ มองไปยังนวลจันทร์ที่อุ้มเด็กสองคนพลางโยกตัวกล่อม ลำดวนรีบกดเบอร์โทรหาคุณนาย นวลจันทร์มองไปทางลำดวนที่หน้ามุ่ยก็เดาได้ว่าคุณนายไม่รับโทรศัพท์เช่นเคย
“โทรหาพ่อเลี้ยงสิ”
“แต่พ่อเลี้ยงทำงานอยู่นะ ฉันไม่กล้าโทรไปหรอก” ลำดวนเอ่ยตอบพร้อมเดินไปช่วยเพื่อนอุ้มทารกน้อยอีกคน
“มีเรื่องอะไรกัน”
ไม่ทันที่ทั้งคู่ได้เถียงกันเสร็จร่างสูงก็เดินเข้ามามองลูกชายฝาแฝดที่งอแงเสียงดัง แล้วมองหน้าพี่เลี้ยงที่มองเขาราวกับมีความหวังอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มมองไปรอบบ้านพบลูกชายอีกคนที่ลำดวนกำลังเดินไปอุ้มมาหา พร้อมกับบอกว่าคุณหนูทั้งสองไม่รู้เป็นอะไรตั้งแต่สองทุ่มถึงร้องไห้ไม่หยุด แถมยังแหวะนมออกมาบ่อยครั้ง
“คุณนายล่ะ” ธัชกรถามเพราะตั้งแต่กลับมายังไม่เจอภรรยาของเขาเลย
“เอ่อ”
เห็นพี่เลี้ยงทั้งสองอ้ำอึ้งธัชกรก็พอเดาทุกอย่างได้ ภรรยาของเขาออกไปนอกบ้านอีกแล้ว สามสี่เดือนมานี้ชัญญาอยู่ไม่เคยติดบ้าน ช่วงแรกแค่กลับดึกแต่พักหลังมานี้มีค้างที่อื่นด้วย โทรหาก็ไม่เคยรับพอถามก็บอกว่าไปนอนบ้านแม่ แล้วยังหงุดหงิดใส่เขาทุกครั้ง ธัชกรจึงไม่อยากจะถามอะไรต่อแล้วก็หวังว่าเมื่อลูกเริ่มโตภรรยาของเขาจะคิดได้บ้าง
“ไม่เป็นไร ส่งมานี่มา” ธัชกรรับนทีแฝดพี่มาอุ้มเอาไว้คิดว่าจะกล่อมให้นอนเหมือนทุกที แต่ครั้งนี้รู้สึกแปลกเพราะตัวของลูกชายอุณหภูมิไม่เหมือนเดิม
มือใหญ่ยกขึ้นแตะหน้าผากเล็ก ๆ ของลูกชายก่อนจะเดินข้าไปแตะที่หน้าผากของอีกคนที่อยู่กับนวลจันทร์ จึงแน่ใจว่ามันไม่ปกติ
“สงสัยจะไม่สบาย ไปบอกคนรถให้เอารถออกผมจะพาลูกไปหาหมอ”
พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งลำดวลไปตามคนรถ ส่วนนวลจันทร์ให้เตรียมข้าวของสำหรับทารกน้อยนทีและรพีสำหรับออกไปข้างนอก สองพี่เลี้ยงรีบทำตามทันที ร่างเล็ก ๆ ถูกวางเอาไว้ที่เบาะนั่งสำหรับเด็ก เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งหมดจึงมุ่งหน้าพาทารกน้อยฝาแฝดไปที่โรงพยาบาลกลางดึกทันที
เมื่อสองแฝดถึงมือหมอแล้ว ธัชกรนั่งเงียบอยู่นานสองนานตรงหน้าห้องขณะที่พี่เลี้ยงทั้งสองเดินเข้ามาขอโทษเขา เพราะวันนี้มัวแต่ยุ่งเลยไม่ทันคิดว่าเด็กน้อยทั้งสองจะป่วยแบบนี้ ธัชกรก็เข้าใจจึงไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง ดวงหน้าเข้มละจากใบหน้าของพี่เลี้ยงทั้งสองก่อนจะเข้าสู่โหมดเงียบอีกครั้ง
ธัชกรชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปี เจ้าของไร่ส้มหลายร้อยไร่และเจ้าของโฮมสเตย์ของจังหวัดน่าน ด้วยช่วงนี้ใกล้ถึงช่วงหน้าหนาวเพื่อรองรับผู้คนที่จะเข้ามาพักเขาจึงได้ทำงานหามรุ่งหามค่ำ
เดิมทีเขาฝ่าฟันสร้างฐานะก็เพราะอยากจะให้ลูกเมียสุขสบาย เขาจึงพยายามสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์แบบตามที่เขาเคยวาดฝันโดยมีสาวในฝันที่ตนหมายปองเป็นคู่ตุนาหงัน
หลังจากที่ชัญญาคลอดลูก ธัชกรไม่อยากให้ภรรยาเหนื่อยจึงให้อยู่บ้านเลี้ยงดูลูกและมีพี่เลี้ยงช่วยอีกสองคน เดิมทีชัญญาเป็นคนเรียบร้อยและอ่อนหวานตามแบบฉบับคนเชียงใหม่บ้านเกิดของเธอ
แต่พอหลังจากที่คลอดลูกชายฝาแฝด ชัญญากลับกลายเป็นคนละคน ตอนแรกธัชกรคิดว่าคงเป็นเพราะฮอร์โมนคุณแม่หลังคลอดเขาจึงไม่ถือสาเมื่อภรรยาบ่นว่าเขาไม่มีเวลาให้ เมื่อมีเรื่องทะเลาะธัชกรก็เอาแต่เงียบไม่ตอบโต้เรื่อยมากระทั่งตอนนี้ลูกได้หนึ่งขวบแล้ว ชัญญาไม่ได้มีท่าทีแข็งกร้าวอ่อนลงเลย กลับหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้เธอเริ่มเที่ยวกลางคืนกลับบ้านอีกทีก็รุ่งสางของอีกวัน
ธัชกรพาลูกชายฝาแฝดกลับมาถึงบ้านก็ปาไปตีหนึ่งตีสอง พี่เลี้ยงพาสองแฝดเข้านอนแล้วก็กลับบ้านพักของตัวเองไป ด้วยความที่ธัชกรกลัวว่าลูกน้อยจะตื่นขึ้นมากลางดึกจึงได้อาบน้ำแล้วมานั่งทำงานเฝ้าลูกอยู่ที่ห้อง ชายหนุ่มจ้องมองรายงานที่คนงานเขียนมาส่ง กวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรในนั้นอย่างใจจดใจจ่อ สักพักก็ได้ยินเสียงล้อยางบดถนนเข้ามาภายในเขตบ้านด้วยความเคยชิน เขาถอนหายใจยาวเพราะรู้ว่านั่นเป็นรถของชัญญา
ร่างสูงเหลือบมองนาฬิกาข้อมือของเขา เข็มสั้นชี้ชัดที่เลขห้า เข็มยาวตรงดิ่งลงเลขหก เขาถอนหายใจก่อนจะหันไปมองร่างบอบบางที่เดินเซเข้ามาในบ้านพร้อมกับทักทายเขาด้วยถ้อยคำเดิม ๆ
“ไปไหนมา” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยถาม
“ฉันเครียดเลยไปดื่มมานิดหน่อย”
ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยมีเพียงคิ้วหนาที่เรียงตัวสวยบนสันคิ้วงามเท่านั้น เขาขมวดจนหัวคิ้วแทบจะติดกันพร้อมทั้งพ่นลมหายใจบ่งบอกว่าเขาไม่พอใจเธออย่างยิ่ง และดูเหมือนคนที่พึ่งกลับมาก็รับรู้ด้วยขณะที่เตะส้นสูงของตนไปคนละทิศละทางก็เอ่ยถามด้วยอาการหงุดหงิด
“อะไร ก็อยู่บ้านเฉย ๆ มันน่าเบื่อ คุณเอาแต่ทำงาน ฉันก็แค่ออกไปเที่ยวผ่อนคลายบ้างแค่นี้ ผิดอะไรนักหนาเหรอคะ” หญิงสาวเริ่มเสียงดัง ข่มผู้เป็นสามีให้เชื่อในสิ่งที่ตนยกมาอ้างกลบเกลื่อนความผิด
“คุณไปเที่ยวผมไม่เคยว่า แต่โทรหาทำไมไม่รับ คุณรู้ไหมว่าวันนี้ลูกไม่สบาย ถ้างานผมเสร็จช้าเหมือนทุกวันป่านนี้ลูกจะเป็นยังไง”
“ตอนบ่ายลูกยังดีอยู่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะไม่สบาย น่ารำคาญจริง ๆ ฉันไปนอนดีกว่า”
“เดี๋ยว” ธัชกรลุกขึ้นรั้งแขนภรรยาเอาไว้เพราะเขายังพูดไม่จบแต่กลับถูกแขนเล็ก ๆ สะบัดจนหลุด
“อะไรอีก จะเอาอะไรอีกแค่ไปเที่ยว บอกแล้วไง นี่ก็ไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะอะไรนักหนา”
เมื่อเห็นว่าเถียงกันต่อไปคงไม่วายทะเลาะตามเคย ธัชกรจึงเป็นฝ่ายยอมเสียเอง
“โอเค ผมขอโทษ แต่ขอได้ไหมต่อไปนี้ขอให้คุณอยู่กับลูกบ้าง”
“ฉันก็อยู่ไง”
“ไม่ใช่ผมหมายถึง...”
“โอ๊ยคุณนี่ยังไง ยิ่งนับวันยิ่งน่ารำคาญ พอแล้วฉันจะไปนอน”
ดวงตาคมหลุบต่ำมองแก้วเหล้าในมือพร้อมขยับคนมันสองสามทีก่อนกระดกเข้าปากไป รสเฝื่อนแสบคอทำให้พ่อหม้ายลูกติดแบบธัชกรรู้สึกราวกับว่าในโลกนี้ของเขาช่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน แม้แต่เหล้ายังขมไม่เท่าชีวิตของเขาด้วยซ้ำ เมื่อคิดถึงตอนก่อนที่ยังมีภรรยาอยู่เคียงข้าง แต่ในวันนี้เหลือเพียงเขาและลูกทั้งสอง ธัชกรยอมหย่าให้ภรรยาที่ตัดสินใจเดินออกไปจากเขาและลูก ทั้งยังให้เงินเธอติดตัวไปหลายล้านด้วยเพราะไม่อยากจะทำให้ชีวิตของชัญญาไม่มีความสุขอย่างที่เธอบอกเขาตลอดมา
“น่าสงสารนายหัวจริง ๆ นะพี่ว่ามั้ย” เสียงน้อยเด็กสาววัยสิบแปดที่มีแม่และพ่อเป็นคนงานในไร่ ขณะที่มองธัชกรนั่งพักในร่มใต้ต้นส้มต้นเก่ารอโค่นด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เพราะหลังจากที่หย่าไปหลายเดือนมานี้นายหัวก็เอาแต่ติดเหล้า ทั้งยังปิดใจ สาวน้อยสาวใหญ่เฉียดเข้าใกล้เขาเป็นต้องปฏิเสธกลับไปทุกคน
“ก็นั่นน่ะสิ ทั้งหล่อทั้งรวยแถมขยันขนาดนี้ยังโดนทิ้งได้ หน้าตาแบบพี่นี่หมดหวังเลย” นายไม้คนงานในไร่ที่อายุมากกว่าน้อยห้าปีพูดขึ้น
“โห...พี่ พูดเกินไป คนดี ๆ อย่างนายหัวไม่ผิด คนผิดคือคุณนายต่างหาก นี่ถ้าเป็นหนูนะ มีผัวแบบนี้จะดูแลเป็นอย่างดีเลย”
“ฝันไปเถอะนังน้อย ก่อนหน้านี้ลูกสาวนายอำเภอทั้งสวยทั้งจบนอกเข้าหานายหัวยังไม่สนใจเลย นับประสาอะไรกับเอ็ง” สมพรแม่ของน้อยดับฝันลูกสาวทันควัน
“แค่สมมุติน่ะแม่ แค่สมมุติ”
ธัชกรหันไปมองกวินตราแล้วพยักหน้าให้อย่างเข้าใจขณะที่เมธาวีเองก็ดูไม่ได้ใส่ใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วเขาจึงตอบรับหลังจากที่ทานอะไรเสร็จวันนี้เมธาวีจะขอไปเดินตรวจงานกับกวินตราด้วย ส่วนธัชกรจะตามไปทีหลังเพราะว่าจะรออยู่คุยกับชัญญาก่อนในห้องรับแขกทั้งคู่ได้นั่งลงแล้วเปิดใจ ชัญญาเริ่มบทสนทนาทันทีไม่อ้อมค้อม“ฉันคิดดีแล้วนะคะ คือว่าฉันจะไปจากที่นี่”“คุณจะไปไหน อยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ผมไม่ว่าหรอก ลูกจะได้อยู่กับคุณด้วย”ชัญญาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าธัชกรต้องพูดแบบนี้ เขาเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ว่า แต่ฉันคงติดอยู่ที่นี่ตลอดไม่ได้หรอกนะคะ อีกอย่างไม่นานคุณก็จะแต่งงานใหม่ ถ้ามีเมียเก่าอยู่ด้วยมันจะดูน่าเกลียดไปมั้ย ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากพวกเด็ก ๆ ในไร่” ชัญญาพูดทีเล่นทีจริง“ใครจะกล้าว่าคุณ ที่นี่ก็บ้านของคุณเหมือนกันอย่าลืมสิครับ...เอาเป็นว่าคุณตัดสินใจยังไงผมจะไม่ขัดขวางเลย แต่ขออย่างเดียวขอให้คุณมาเยี่ยมเด็ก ๆ บ้าง ที่นี่ต้อนรับคุณเสมอนะ”ชัญญาน้ำตาคลอ เธอพึ่งจะคิดได้ว่าจร
ชัญญามองหน้าหัสดินด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ“คุณไม่เสียดายเหรอคะ”“เสียดายสิครับ เสียดายมาก ๆ แต่ว่าผมเองก็ทำให้โอกาสมันหลุดมือไปเอง อีกนิดเดียวพวกเราจะได้แต่งงานกันแล้วแท้ ๆ แต่ผมกลับทำมันพังเพราะอารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง”“พวกคุณกำลังจะแต่งงาน แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ” ชัญญาพลิกเปลี่ยนท่านอนคว่ำเพื่อรอฟังเรื่องของอีกคนที่ดูเหมือนจะน่าสงสารกว่าเธอเสียอีกหัสดินถอนหายใจออกมายาว ๆ ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับชัญญาฟังชัญญายกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ เธอฟังจบก็ถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้ ที่แท้ชีวิตของชายคนนี้ก็น่าสงสารขนาดนี้ แต่เธอกลับคิดว่าเขาเข้มแข็งมาก ๆ ที่กล้าจะยอมรับความจริง“อยากกลับไปหาคุณมินมั้ยคะ ถ้าคุณอยากแย่งเธอฉันจะช่วย” ชัญญาถามด้วยสีหน้าจริงจังหัสดินชะงักไปครู่ใหญ่ ความคิดมากมายตีกันในหัวแต่ครู่เดียวชัญญาก็หลุดขำออกมา“ล้อเล่นน่ะค่ะ”“ตกใจหมดเลยครับ บอกตรง ๆ ผมก็เสียดายมินนะ แต่ว่าผมคงไม่แย่งเธอกลับมาแล้วละครับ ตอนนี้เธอเจอคนดี ๆ แล้ว ผมคงไม่เห็
นานแล้วที่เขาไม่ได้ฉลองงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสันขนาดนี้ ต้องขอบคุณกวินตราที่เข้ามาในชีวิตของเขา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองนั้นได้กลับไปแก้ไข้ข้อบกพร่องที่เคยเป็นพ่อและสามีที่เอาแต่ทำงานไม่สนใจครอบครัว และเธอคือคนที่รับข้อบกพร่องนั้นของเขาได้ ทว่าจากนี้ไปธัชกรจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก“เริ่มรู้สึกเสียดายแล้วเหรอครับพี่ดิน” ทนายหนุ่มกระซิบข้างหูพี่ชายด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง“เปล่า พี่คิดว่าวันนี้มินดูมีความสุขมากเท่านั้น เผลอ ๆ บางทีอาจจะมีความสุขมากกว่าอยู่กับพี่อีก”“เห้อ คนดีจริงจริ๊งพี่ชายผม ไปดีกว่าครับไปสนุกก่อนกลับ ผมจะเมาให้เละไปเลย”ณัฐชัยลุกขึ้นแล้วคว้าเอาแก้วของตัวเองเพื่อไปสนุกกับสาว ๆ คนงานในไร่ที่อยู่อีกโต๊ะ ก็ด้วยฝีปากช่างพูดช่างเจรจาเขาหาเรื่องมาเล่าจนสาว ๆ นี่กรี๊ดกร๊าดชอบใจกันทั้งโต๊ะ แต่ว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เอาแต่มองทนายจอมเจ้าชู้แล้วเบ้ปากวันก่อนยังของขึ้นใส่เธออยู่เลย วันนี้ไปหน้าม่อใส่คนงานบ้านเธอเสียแล้ว เกลียดจริง ๆ ผู้ชายแบบนี้เมธาวีคิดในใจก่อนจะถือแก้วแอลกอฮอล์ของตัวเองเดินเลี
ธัชกรจับแขนของหญิงสาวก่อนจะแกะเธอออก ทว่ายังไม่ทันจะได้เอาเธอออกจากตักเสียงของน้องสาวเธอก็เรียกกวินตราที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านพอดี ธัชกรใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ร่างของชัญญาถูกธัชกรผลักจนล้มลงที่พื้นกวินตรามองทั้งคู่ด้วยสายตาที่ผิดหวังก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องไม่สนกระทั่งเพื่อนสนิทที่เรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังตามมาก็ไม่ทันกวินตราปิดประตูห้องทันทีแล้วล็อกเอาไว้ปัง หญิงสาวหันไปเจอสภาพห้องถึงกับตะลึง ข้าวของเสื้อผ้าของเธอถูกรื้อกระจายเต็มห้อง กวินตราจึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้ากลับพบว่ามีเสื้อผ้าของคนอื่นมาแทนที่แล้วหญิงสาวเข้าใจแล้ว ธัชกรให้ภรรยาเก่าของเขากลับมาอยู่ที่นี่เหมือนที่แม่บ้านบอกจริง ๆ“มิน มินเปิดประตูให้ผมหน่อย” ธัชกรเรียกหญิงสาวอยู่หน้าห้อง กวินตรายกมือปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้เขาธัชกรเดินเข้ามาในห้องพอได้เห็นอย่างนั้นเขาถึงกับตกใจ มองหน้าหญิงสาวที่ตนรักก็คิดว่าเธอเข้าใจผิดเขาไปมากมายแล้วในตอนนี้“ผมไม่ได้ให้ชัญญามาอยู่ที่ห้องนี้นะ ผมให้เธอไปนอนกับลูก”“ช่างเถอะค่ะ มินไ
กวินตราเดินขึ้นชั้นสองได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ จึงเดินเข้าไปหา เห็นเมธาวีนั่งปลอบหลานชายทั้งสองอยู่ด้วยความยากลำบากเนื่องจากขาของเธอเจ็บและเด็ก ๆ ก็ดิ้นอยากจะเจอพ่อท่าเดียว“เม” กวินตราเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ก่อนจะยิ้มให้กับนที และรพีที่กำลังร้องไห้จนใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำ“อามิน พ่อกรอยู่ไหนครับ” เด็กน้อยเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งลงตรงหน้าตนเองกวินตรารับร่างเล็ก ๆ ทั้งสองเข้ามากอดเอาไว้ ดูเหมือนนทีกับรพีจะสงบลงได้เมื่อถูกกวินตรากอดเอาไว้ เมธาวีเห็นแบบนั้นก็เข้ามากระซิบว่าเธอจะไปเอาของว่างมาให้ เด็ก ๆ จะได้ใจเย็นลง เมธาวีเลยชวนพี่เลี้ยงลงไปเตรียมของช่วยเธอและป้าน้อยก็ต้องขอตัวไปเตรียมกับข้าวตอนเย็นภายในห้องจึงเหลือแค่กวินตรากับเด็กแฝดสองคน“อยากฟังนิทานมั้ย อามินจะเล่าให้ฟัง”“นิทานเหรอครับ นทีชอบนิทาน” เด็กน้อยยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาเตรียมนอนรอฟัง“รพีก็ชอบครับ ตั้งแต่แม่ไม่อยู่พวกเราก็ไม่เคยฟังนิทานเลย”กวินตราถอนหายใจด้วยความสงสารก่อนจะนอนลงแล้วอ้าแ
“คงอย่างนั้นมั้งคะ” กวินตราพูดก่อนจะหันไปเปิดดูตู้เย็น แต่ว่าในครัวมีแม่บ้านที่กำลังนั่งเตรียมผักอยู่ บางคนก็อยากจะร่วมวงเลยพูดขึ้นบอกทนายหนุ่มแขกของกวินตรา“ใช่ค่ะคุณทนาย เมื่อก่อนพ่อเลี้ยงไม่ได้ร่ำรวยอย่างทุกวันนี้หรอกนะคะ ทั้งสองคนเรียนจบมามีแค่ตัวเปล่า แต่แม่ของหนูเล่าให้ฟัง...” แม่บ้านวัยสิบเจ็บเล่าทำให้ทนายหนุ่มรีบเดินเข้าไปนั่งร่วมวงแม่บ้านเมาท์มอยเรื่องเจ้านาย“...ว่ายังไงครับเล่าหน่อย”เห็นทนายหนุ่มมีความสนใจใคร่รู้เรื่องชาวบ้าน แม่บ้านช่างเมาท์จึงได้เล่าต่อถึงเรื่องราวในอดีตของทั้งสองคนโดยที่ลืมไปเลยว่ากวินตรากับธัชกรมีความสัมพันธ์ดี ๆ ด้วยกันอยู่“ก็เมื่อก่อนเห็นว่าที่นี่เป็นที่ของพ่อคุณชัญญาค่ะ แต่ถูกเจ้าพ่อเมืองลำปางคนก่อนซื้อไป คุณธัชกรเห็นว่าที่นี่สำคัญกับคุณชัญญามากเขาจึงซื้อเอาไว้ก่อนจะทำสวนและต่อเติมโฮมสเตย์หลังจากที่แต่งงานมีลูกกันน่ะค่ะ”“อ้อ แบบนี้นี่เองสินะครับ พอดีผมส่งผู้ชายคนใหม่คนนั้นเข้าคุกไปแล้ว แบบนี้คุณธัชกรคงไม่คิดจะพาคุณชัญญากลับมาที่นี่หรอกมั้งใช่มั้ยครับ ก็ที่นี
Comments