"อ้าปากเร็วๆดิ มือกูจะเป็นตะคริวแล้วเนี่ย"
"ให้ป้อนแค่นี้อย่ามาบ่น เมื่อกี้ฉันไม่เอาไม้บรรทัดฟาดหัวแกแตกก็บุญเท่าไหร่แล้ว" "มันน่าจับอุ้มไปนั่งยางจริงๆ~" ภามพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่มือยังคงป้อนกล้วยปิ้งที่ตัวเองเพิ่งสั่งมาจากแอปเขียวสดๆร้อนๆให้วาโยได้กินไม่หยุดพัก "โอ๊ย! เลอะจมูกฉันแล้วเนี่ย ใจลอยไปหาสาวคนไหนห๊ะ" วาโยทำหน้ามุ่ยใส่คนป้อน พอภามเห็นแบบนั้นก็รีบหยิบกระดาษทิชชู่มาถูจมูกให้ทันที "ไอ้ภาม! ฉันเจ็บนะ ถ้าแกจะเช็ดก็ทำให้มันดีๆสิ" "แล้วกูทำไม่ดีตรงไหน?" "แกจะถูทำไมเล่า จะเอาเลขไปซื้อหวยหรือไง" "เพื่อนพี่สองคนดูเหมือนแฟนกันเลยนะคะ" "เป็นปกติของมันสองคนแหละจ้ะ พี่เห็นแบบนี้มาตลอด จนพี่ชินแล้ว" เจเจก้มหน้าทำรายงานต่อ เพราะสิ่งที่เขาเห็นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับกลุ่มนี้ "เออไอ้ภาม" "ว่า" "วันนี้มึงไม่ไปหาน้องคริตตี้หรอวะ" "ไม่ไป วันนี้กูนัดน้องกิ๊ฟไว้" "ระวังเอดส์นะมึง" "ดูปากกูนะไอ้เจ..." ภามยกนิ้วชี้ที่ปากตัวเองก่อนจะพูดกับเจเจที่พยักหน้ารับ "ความสุขของกู! มึงไม่ต้องเสือก" "....." เจเจถึงกับอ้าปากค้าง "พี่เจเป็นแบบเพื่อนหรือเปล่าคะ" "ไม่ค่ะ พี่มีน้องจอยคนเดียว" "มุสา วาทา..." "คุณวาโยครับ นี่เพื่อนไง^^" วาโยกรอกตามองบนเตรียมท่องศีลห้า ไอ้คำว่ามีน้องจอยคนเดียวเนี่ย พูดแบบนี้มากี่คนแล้ว นี่มันวิถีของคนเจ้าชู้ชัดๆ "เสร็จแล้วโว๊ย!" "โอ๊ย! แกจะตะโกนทำไมภาม หูฉันจะแตก" "ก็กูเสร็จแล้วอ่ะ" วางปากกา "กูก็เสร็จแล้ว" เจเจส่งไฟล์งานทั้งหมดให้วาโยก่อนจะพับโน๊ตบุ๊คใส่กระเป๋า "ไปจ๊ะน้องจอย" เจเจจูงมือจอยเดินออกไป ส่วนภามก็หยิบเงินหลายพันบาทขึ้นมาวางบนโต๊ะตรงหน้าวาโย พรึ่บ~ "อะไร?" "เอาไปทำนม เห็นนั่งมองนมเด็กไอ้เจมันอยู่ได้" ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เพื่อนชายยังกดสายตามองซาลาเปาสองลูกที่ซ่อนรูปอยู่ใต้ร่มผ้าอีกต่างหาก "นี่แกว่าฉันไม่มีนมงั้นหรอ?" "ป๊าว~" เสียงสูง "ไอ้ภาม! แกมันน่าโดนเพ่งกระบาลให้แตกจริงๆ" ไม่มีวันไหนที่ทั้งคู่ไม่ตีฝีปากกัน ถ้าไม่ได้ทะเลาะสงสัยจะนอนไม่หลับ วาโยเป็นคนนำงานกลุ่มไปส่งอาจารย์ พอจัดการเรื่องรายงานกลุ่มเสร็จก็กลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่คอนโด เตรียมตัวไปดูหนังรอบหกโมงเย็นกับแฟนหนุ่ม @โรงภาพยนตร์ กึกกัก! กึกกัก! กึกกัก! "......" เสียงถอนหายใจ "เป็นอะไรหรือเปล่าโย" "เสียงอะไรก็ไม่รู้ค่ะพี่โอบ ดังมาจากข้างหลัง" วาโยรู้สึกเหมือนโดนคนที่นั่งอยู่ด้านหลังถีบเก้าอี้ แถมยังมีเสียงตะกุกตะกักดังรบกวนขณะที่เธอนั่งดูหนังอีก "โอ๊ย! นี่ช่วยเบาหน่...ไอ้ภาม~" วาโยตัดสินใจหันไปหวังจะด่าแต่ต้องชะงักและเพ่งมองไปที่ชายหญิงคู่หนึ่งให้เต็มตา ถึงได้รู้ว่าหนึ่งในนั้นคือเพื่อนสนิทของตัวเอง เธอเลยพูดชื่อนั้นออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "เมื่อกี้โยพูดว่าอะไรนะ? พี่ไม่ทันฟัง" วาโยส่ายหน้า "แล้วโยหันไปเรียกชื่อใคร... " หมับ! วาโยรีบจับหน้าโอบหันกลับมามองจอภาพยนตร์ เพราะไม่อยากให้เห็นคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่ด้านหลัง "เปล่าค่ะ" โอบมองหน้าวาโยอย่างสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อและหันไปมองจอตามเดิม "เอ่อ...เดี๋ยวโยขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" "ให้พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย?" "ไม่เป็นไรค่ะ พี่โอบดูหนังไปดีกว่า เดี๋ยวขาดตอนนะคะ" คุยกับโอบจบ วาโยก็หันกลับไปมองคนด้านหลังแล้วส่งสัญญาณชี้นิ้วไปที่ประตูทางออก @หน้าโรงภาพยนตร์ วาโยยืนกอดอกรอภามที่กำลังเดินตามออกมา "แกทำบ้าอะไรไอ้ภาม" "ทำไร?" ภามเลิกคิ้วถามเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "แกจะแสดงหนังสดในโรงหนังรึไง" "ก็แค่จูบ..." "แค่จูบบ้าอะไร ถ้าฉันหันไปไม่ทัน ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมแกไม่พากันออกไปทำที่อื่น" "ก็มันเป็นฉากเลิฟซีนไง เลยอดใจไม่ไหว นิดๆหน่อยๆน่า~ อย่าคิดมากดิ" ภามยกมือยีผมวาโยแต่เธอกลับปัดออก พรึ่บ~ "ฉันจะไม่คิดมากเลย ถ้าแกไม่ได้รบกวนฉัน" "บ่นมากหน้าแก่เร็วนะค๊าบ~" ภามยกมือบีบปากวาโยจนเธอหน้ายู่ แต่เขากลับยิ้มออกมาเชิงแหย่เย้า "อื้อ! เจ็บนะ" วาโยดึงมือภามออกก่อนจะมองค้อน "จะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ" "แกจะไปไหน" "ก็พาน้องไปต่อไง อารมณ์เสือในตัวยังค้างอยู่เลย แต่คงพาไปต่อที่โรงแรมนะ เพราะถ้าพากลับไปห้องเดี๋ยวเมียที่คอนโดงอน...ไปนะ! แล้วเจอกัน~" ภามหมุนตัวเดินออกไป ก่อนจะหันกลับมาอีกครั้งแล้วทำปากจู๋ส่งจุ๊บให้วาโย "อึ๊ย! ขนลุก" วาโยยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาลูบแขน แล้วทำหน้าตาสยิวก่อนจะตะโกนตามหลังภาม "ฉันไม่ใช่เมียแกโว๊ย! พูดจาให้มันเป็นศิริมงคลหน่อย" "วาโย" "อ้าว พี่โอบ หนังจบแล้วหรอคะ" "จบแล้วครับ...ว่าแต่ ทำไมเราออกมาเข้าห้องน้ำนานจัง" "อ๋อ! พอดีโยท้องเสียน่ะค่ะ" ยกมือลูบท้อง "งั้นเรากลับกันเลยมั้ย เดี๋ยวพี่ไปส่ง" "กลับเลยก็ได้ค่ะ" ทั้งคู่เดินจูงมือกันออกไปจากหน้าโรงหนัง จากนั้นชายหนุ่มก็ไปส่งแฟนสาวที่คอนโดหลายปีต่อมา... ตอนนี้ลูกสาวตัวน้อยอดนมแม่อย่างเป็นทางการแล้ว ก็เหลือแต่ตัวพ่อเนี่ยแหละที่ร้องขอกินนมก่อนนอนเกือบทุกคืน ไหนใครบอกว่าแต่งงานอยู่ด้วยกันนานๆแล้วผัวจะเบื่อ แต่นี่ไม่เลย... รู้สึกว่าภามรักและหลงเธอมากกว่าเดิมเสียอีก ถึงบางวันทั้งคู่จะไม่ได้ทำรัก เขาก็ขอแค่ได้กอดได้หอมเมียให้ชื่นใจก่อนไปทำงานแค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ววันนี้เป็นวันที่หมอนัดสาวน้อยอย่างวรินทร์มารับวัคซีนครบสี่ขวบที่โรงพยาบาล แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่วาโยเจอรุ่นพี่อย่างแทนที่เคยเรียนร่วมคณะเดียวกันสมัยมหาลัย"น้องวาโยนี่เองพี่ก็คิดว่าใคร^_^" "พี่แทน มาหาหมอหรอคะ""ครับ พี่พา เอ่อ... พาน้องสาวมาฝากครรภ์ ว่าแต่เรามาทำอะไรที่แผนกเด็กเล็กหรอครับ?""โยพาลูกสาวมาฉีดวัคซีนค่ะ""อ้าว นี่เรามีลูกแล้วหรอ แล้วไหนล่ะสามี? ทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็กๆมากับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย" "เขามาด้วยนะคะพี่แทน..." แทนแกล้งชะเง้อคอมองข้ามผ่านคนตัวเล็กไปทางด้านหลังก็ไม่เจอใคร วาโยเลยหันมองข้างๆที่มีภามยืนอยู่ แล้วทำหน้างงๆว่าพี่แทนไม่เห็นภามจริงๆหรอ หรือเขาแค่แกล้งเล่น? วรินทร
@หนึ่งปีต่อมา...ตอนนี้วาโยคลอดลูกสาวได้สี่เดือนแล้ว และเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายในการสอบปลายภาคสำหรับนักศึกษาปีสี่ ทั้งภามและวาโยเลยต้องเรียนหนักเป็นพิเศษ แต่หน้าที่เลี้ยงลูกส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่างภาม เขาอยากให้วาโยโฟกัสกับเรื่องเรียนให้เต็มที่ ไม่ต้องห่วงวรินทร์เดี๋ยวเขาจะดูแลให้เองอย่างเช่นวันนี้คนที่เลี้ยงลูกอยู่ในห้องก็เป็นภาม ส่วนวาโยเธอออกมานั่งเรียนอยู่โซนด้านนอกกับอาจารย์ที่แม่สามีจ้างมาสอนพิเศษให้ถึงเพนท์เฮาส์ แต่ทว่า! นั่งเรียนยังไม่ถึงชั่วโมงภามก็เดินออกมาตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ เพราะเขาเห็นอาจารย์ที่มาสอนวาโยวันนี้ไม่ใช่คนเดิม"โย ลูกร้องหิวนม เข้าไปดูลูกในห้องหน่อย" "ตอนนี้เลยหรอ แต่ฉันยังเรียนไม่จบครอสเลยนะ" ปกติภามไม่เคยปล่อยให้ลูกร้องนี่นา นมก็ปั๊มไว้ให้ตั้งเยอะมาบอกว่าลูกร้องหิวนมได้ยังไง ไม่ใช่ว่าวาโยไม่เป็นห่วงลูกนะ แต่ปัญหาแค่นี้เธอเชื่อว่าภามจัดการได้สบายอยู่แล้ว"นมที่ปั๊มแช่ไว้ในตู้เย็นละลายไม่ทัน""อ๋อ โอเค..." ที่แท้ก็นมละลายไม่ทันนี่เอง วาโยเลยละสายตาจากภามหันกลับมามองอาจารย์ก่อนจะพูดต่อ "งั้นเดี๋ยวโยขอเข้าไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันเรื่องสินสอดเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับบ้านไปดูฤกษ์ วาโยเลยขอกลับมาอยู่คอนโดก่อน รอจนกว่าจะแต่งงานแล้วค่อยย้ายไปอยู่เพนท์เฮาส์ที่ภามซื้อให้ และเธอมองว่ามันไม่ใช่ของเธอแต่เพียงผู้เดียว แต่เป็นเรือนหอของเราสองคนต่างหาก'โยจำคำแม่ไว้นะลูก... ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงขี้อ้อน หมั่นเอาใจลูกเขยแม่ให้มากๆ อย่าปล่อยให้ผู้ชายดีๆแบบภามหลุดมือไปเด็ดขาด'วาโยหวนนึกถึงคำพูดของแม่แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ฮึบ!เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน อ้อนแฟนตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสักหน่อย พอคิดได้ดังนั้นวาโยก็เดินมาหาภามที่นั่งอยู่บนโซฟา ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนตักของแฟนหนุ่มจนเขาต้องวางไอแพดในมือลงข้างตัวแล้วยกมือมาโอบเอวเธอไว้แทน"แกดูอะไรอยู่หรอ" "ดูแพ็คเกจคลอดลูก กินข้าวอิ่มแล้วหรือไง" ความจริงทั้งคู่กินข้าวด้วยกันไปแล้วรอบนึง แต่ผ่านมายังไม่ถึงชั่วโมงวาโยก็ร้องหิวอีก ภามเลยทำให้กินอีกรอบ ส่วนตัวเขาก็มานั่งดูโปรแกรมคลอดลูกรอเธอไปพลางๆ"อิ่มแล้ว..." "แล้วทำไมยังไม่ไปอาบน้ำอีก""รอแฟนไปอาบให้""ฮึ?""ก็ช่วงนี้ฉันหน้ามืดบ่อยๆ กลัวตัวเองจะเป็นลมในห้องน้ำ แกอาบให้ฉันหน่อ
"อย่าเพิ่งเป็นลม เพราะยังไม่หมดแค่นั้น""ยังมีอีกหรอ!?" แค่นี้เธอก็จะเป็นลมอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรที่เซอร์ไพรส์มากกว่านี้อีกมีหวังได้วูบไปจริงๆแน่"...." ภามที่ยืนช้อนหลังวาโยอยู่ในตอนนี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีออกมาใช้ ก่อนจะสอดมือล้วงกระเป๋าหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมายื่นไปด้านหน้าของวาโยแล้วเปิดกล่องดังป๊อก! โชว์แหวนเพชรน้ำดีด้านในให้คนตัวเล็กที่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ได้เห็น"อะ อะไรของแกเนี่ยO_O" "แต่งงานกันนะโย..." วาโยมองแหวนเพชรเม็ดโตในกล่องที่มีความเปล่งประกายวิบวับสวยงามเล่นกับแสงไฟภายในห้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ถึงจะแอบหวังให้เขาขอแต่งงานแต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆทำให้เธอตั้งตัวรับไม่ทัน เธอมองแหวนในกล่องอีกครั้งก่อนที่ภาพจะตัดไปราวกับมีคนมาสับสวิตซ์ พรึ่บ! "เห้ย! โย ทุกคน! เมียผมเป็นลม" ภามรีบย่อตัวลงอุ้มคนตัวเล็กที่หมดสติขึ้นทันที แล้วภาพก็ตัดมาทางฝั่งของอาโป... "จะปล่อยฉันไปได้รึยัง" นี่เป็นคำถามที่ร้อยของวันนี้ที่นิเนยเอ่ยถามอาโป เขาเล่นขังเธอไว้ในห้องกับเขาตั้งแต่จับตัวเธอมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวเธอไป"จะให้ผมปล่อยป
อึก! อ้วก~"โย!" ภามลืมตาตื่นจากฝันดียังไม่ทันถึงเสี้ยววิ ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงวิ่งตรงไปหาเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำทันที พอเข้ามาถึงเขาก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปช่วยลูบหลังให้วาโยที่นั่งกอดโถส้วมอ้วกอยู่อย่างหมดสภาพด้วยความเป็นห่วง "ไหวมั้ย""ฉันไหว อ้วก~" วาโยชูนิ้วโอเคตอบกลับมาทั้งที่ยังก้มหน้าอ้วกไม่หยุด"ตัวแสบทำไมแกล้งแม่แต่เช้าเลย ถ้าคลอดออกมาเมื่อไหร่พ่อจะตีให้" มาโหมดดุลูกซะแล้วเมื่อเห็นเมียอ้วกจนเหนื่อย"ดุแค่ฉันก็พอ เว้นลูกไว้คนนึง" วาโยอ้วกเสร็จก็หันมายิ้มหวานให้ภาม เชิงบอกเป็นนัยๆว่าแค่นี้เองสบายมาก "หึ ลูกคงดื้อเหมือนแม่สินะ" พูดจบภามก็ช้อนตัวอุ้มวาโยมานั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำจากฝักบัวใส่มือแล้วเอามาลูบหน้าให้วาโย แต่ทว่า! สายตาเขาดันเกเรไม่ได้มองแค่หน้าสวยๆของเธอ แต่ดันมองต่ำลงไปกว่านั้นอีก...เนินหน้าอกขาวๆที่ล้นออกมาจากชุดนอนสุดวาบหวิวที่เธอแอบลุกขึ้นไปใส่มาเมื่อคืน มันชวนมองซะจนภามลอบกลืนน้ำลายลงคอดัง อึก!ยิ่งเปียกน้ำยิ่งเห็นไปถึงไหนต่อไหน... "จะมองอีกนานไหม" เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำให้ภามเลื่อนสายตากลับมามองหน้าเธอก่อนจะเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วเก็บฝักบัวเข้าที่ "
พอมาถึงโรงพยาบาลภามก็ขอรถเข็นมาให้ฉันนั่งแล้วเข็นฉันเข้าห้องตรวจ แต่พอเจอหมอผู้ชายก็บอกว่าไม่สะดวกใจเลยต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอผู้หญิงแทน และคิดว่าเรื่องจะจบ แต่ไม่เลย ภามไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์ผ่านช่องคลอดบอกว่ากลัวโดนหัวลูก ให้ตายเถอะ! หมอเลยต้องอธิบายหลักการทั้งหมดที่มีให้คุณพ่อมือใหม่ได้ฟังกว่าจะยอมได้หมอถึงกับยกมือกุมขมับ... ผลตรวจเลือดออกมาว่าฉันท้องจริงๆ และอัลตร้าซาวด์เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ลูกในท้องยังเล็กมากขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว อายุครรภ์แค่ 6 สัปดาห์ถือว่าโตตามเกณฑ์ พอหมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่และลูก เท่านั้นแหละ! ผู้เป็นพ่อก็ยิ้มออกมาไม่หุบ ดีใจยิ่งกว่าฉันที่เป็นแม่เสียอีกหาหมอเสร็จภามก็พาฉันไปช็อปปิ้งต่อ ขนาดท้องฉันแบนราบจนแทบจะมองไม่ออกด้วยซ้ำแต่เขาก็ยังซื้อชุดคลุมท้องให้ บอกว่าในอนาคตก็ต้องใช้ ตอนแรกจะซื้อของลูกมาด้วยนะ ฉันเลยห้ามไว้ก่อนบอกเขาว่ารอรู้เพศก่อนค่อยซื้อก็ได้ พอกลับมาถึงคอนโดก็ยังไม่วายนั่งดูรูปอัลตร้าซาวด์แล้วยิ้มอยู่คนเดียวไม่ค่อยจะเห่อเท่าไหร่เลย...อ๋อ! ยังมีอีกเรื่องที่หมอย้ำ คือช่วงนี้ให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าอายุครรภ์จะครบ 3 เดือนขึ