เมื่อคุณหนูสุดเอาแต่ใจอย่างเธอดันตกหลุมรักหนุ่มน้อยแสนเนิร์ดตั้งแต่แรกเห็น เธอจึงเริ่มแผนการตื้อให้ได้หัวใจเขามา ทว่าพอได้รู้จักตัวตนเขาน่ะมันฮอตเสียยิ่งกว่าไฟ "คุณเป็นผู้หญิงนะครับ มันดูไม่งาม" "ไม่งาม? ให้ตาย ทิวเขาเป็นคนแรกเลยนะที่พูดแบบนี้น่ะ รู้ไหมผู้ชายเกือบทั้งมหาลัยเขาอยากได้ดาวเหนือกันขนาดไหน" "....." 'อาการแบบนี้ แผนฉันสำเร็จแล้วสินะ' ดาวเหนือคิดในใจ ขณะสบสายตาทิวเขาที่เผลอจ้องตอบพอดี "คุณแน่ใจแล้วใช่ไหมที่ทำแบบนี้" ดาวเหนือสะดุ้งเล็กน้อยในยามที่อีกฝ่ายใช้ฝ่ามือจับเข้ามายังเอวของเธอ ทิวเขาเห็นท่าทีของเธอก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคงจะไม่เคย ที่ทำมานี่คงจะอวดเก่งสินะ "หึ" ทิวเขายักยิ้มที่มุมปาก สายตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นดาวเหนือไม่เคยเห็นมาก่อน พอได้เห็นก็ทำเอาเธอถึงกับกลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ ไหนจะมือร้อนๆ ที่เริ่มจะบีบเค้นเอวเธอนั่นด้วย จากใจกล้าอยากลองเล่นของเสียหน่อย กลายเป็นฝ่ายปอดแหกเสียเอง บ้าเอ้ย ไม่คิดว่าพอเขาเล่นด้วย เธอกลับไม่กล้าดันต่อเสียอย่างนั้น จากที่บอกว่าเขามันเด็กน้อย พอเอาเข้าจริงแล้วกลับเป็นเธอเสียเองที่ดีแต่ปาก
View More“สุดหล่อที่เรียนอยู่ปีสองน่ะ สั่งเครื่องดื่มหน่อยสิคะ”
เสียงลูกค้าโต๊ะหนึ่งตะโกนมาแข่งกับเสียงจอแจพูดคุยของคนในร้าน
แต่เพราะความหูดีของ ทิวเขา นั่นล่ะ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองมือลูกค้าที่ยกขึ้นมาไหวๆ เพื่อทำเครื่องหมายว่ากำลังสั่งอะไรอยู่
“ได้ครับ”
ชายหนุ่มผู้อยู่หลังเคาน์เตอร์ผสมเครื่องดื่มตอบรับอย่างเป็นอันเข้าใจความหมาย แค่มองไม่กี่วิ เขาก็จำได้แล้วว่าลูกค้าต้องการเครื่องดื่มประเภทไหน อีกทั้งยังรู้ไปถึงรสนิยมด้วย
อย่างเช่นคนเมื่อครู่นี้ กางมือห้านิ้วสองครั้งนั่นก็หมายความว่าขอแบบจัดหนักจัดเต็ม หวาน มัน ซ่า เปรี้ยว เอามาทุกรสชาติให้มันขยี้ซ่านไปทั้งหัวใจ
เสียงเพลงที่ออกร็อคนิดๆ หากใครได้มาฟังคงคิดอยากแจ้งความว่ามีผับมาเปิดใกล้สถานศึกษา
แต่เข้ามาแล้วก็คงเก้อล่ะ
เพราะตึกสามคูหานี้มันคือคาเฟ่แนวใสๆ ของเหล่านักศึกษา หนุ่มๆ สาวๆ แถวนี้ล้วนติดอกติดใจฝีมือการผสมเครื่องดื่มหลากรสชาติของทิวเขากันทั้งนั้น
ทิวเขาไม่ได้มีดีแค่ฝีมือหรอก เขายังมีดีถึงหน้าตาที่หล่อคมมากด้วยเสน่ห์ แค่เพียงเขามอง คนที่เห็นก็คิดว่าเขาหว่านเสน่ห์แล้ว ทั้งที่เขาก็แค่มองไปเรื่อยเปื่อย
เพราะแบบนั้นคาเฟ่แห่งนี้จึงไม่เคยร้างสาวๆ
ทุกวันจะต้องมานั่งกันจนเต็มทุกโต๊ะ เพื่อมองหนุ่มหล่อให้มันชุ่มชื่นหัวใจ
“เครื่องดื่มได้แล้วครับ” เสียงนุ่มๆ เอ่ยบอกแก่ลูกค้าสาวในชุดมหาวิทยาลัย เพียงเขาวางแก้วน้ำปั่นสีหวานลงบนโต๊ะ จะต้องมีฝ่ามือเนียนนุ่มแตะบนหลังมือเขาเสียทุกครั้ง
มันคือความเคยชินไปเสียแล้ว
“ขอบคุณนะคะสุดหล่อ”
ทิวเขาทำเพียงยิ้มเบาๆ ก่อนจะขอตัวเดินกลับ เมื่อพ้นสายตาลูกค้ารายนั้น สีหน้าของเขาก็ไร้ซึ่งรอยยิ้ม
ต่อให้มีสาวสวยแค่ไหนมายั่ว ทิวเขาก็ทำเพียงเหมือนมองนกมองไม้ ไร้ซึ่งความพิศวาส
เพราะทั้งชีวิตของเขามีแค่สองอย่างเท่านั้น
ทำงานหาเงินกับตั้งใจเรียนหมอให้จบ เรื่องอย่างอื่นน่ะหรือ ไม่มีทางทำให้เขาหวั่นไหวไปได้หรอก
“ไง เจ้าเด็กบ้านกำพร้ามีสาวมาแต๊ะอั๋งอีกแล้วสินะ”
คำพูดนี้ดังมาจากชายหนุ่มเจ้าของร้าน ทิวเขาไม่โกรธสักนิดที่ถูกเรียกแบบนั้น เพราะเขา...เป็นเด็กกำพร้าจริงๆ นั่นล่ะ
“ตามเคยล่ะครับพี่”
“เออแต่มันก็จริงนะ ถ้าร้านนี้ไม่มีเรานะ พี่คงเจ๊งไปนานแล้ว”
“พูดเกินไปแล้วพี่เมฆ มันจะใช่ผมที่ไหนล่ะ เพราะพี่ต่างหากครับที่เลือกทำเลร้านดี แถมยังเป็นนักผสมเครื่องดื่มตัวยงอีก”
“ถ่อมตัวเก่งจังนะเราน่ะ เอาก็เอา เป็นเพราะพี่มันมือทองเองล่ะร้านถึงได้รุ่งขนาดนี้”
ทิวเขาฟังอีกฝ่ายเล่นใหญ่แล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ถึงเขาจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ก็ยังดีที่ได้รู้จักคนดีๆ อย่างพี่เมฆ ที่ไม่เคยคิดว่าเด็กไม่มีพ่อแม่เช่นเขาเป็นคนไม่น่าคบหา
ตั้งแต่จำความได้ ทิวเขาก็เติบโตมากับสถานรับเลี้ยงเด็ก จนเมื่ออายุได้สิบแปด เขาจึงออกมาหางานทำควบคู่กับเรียนไปด้วย
โดยเฉพาะภาระหน้าที่เป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กด้วยแล้ว ทิวเขาจึงจำเป็นต้องตั้งใจกับทุกอย่างในชีวิต
“โต๊ะ7 เอา ลองแบล็ค1 น้ำมะนาวปั่นยูนิคอร์น1 คาราเมลมัคคิอาโต้2”
ออเดอร์เข้าแล้ว ทิวเขาจดตามที่ลูกค้าสั่งก่อนจะหันไปถามพี่เจ้าของร้าน
“พี่เมฆครับผมขอสูตรน้ำมะนาวปั่นยูนิคอร์นหน่อย ครับ”
“เฮ้ยๆ สูตรนี้ยากนะ และพี่ก็ยังไม่เคยสอนเราเลย เราไปทำอย่างอื่นเถอะ เดี๋ยวพี่ทำเอง”
“ลูกค้าเต็มร้านเลยให้ผมช่วยพี่ดีกว่า บอกมาเถอะครับผมจำได้”
7 ปีต่อมา...ทิวเขาซึ่งอยู่ในชุดสีเขียวเข้มเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ร่างกายเหนื่อยล้าไม่ใช่น้อย แต่เขาก็ภาคภูมิใจที่วันนี้ได้ช่วยคนไข้ไว้ได้อีกคนแล้ว“วันนี้มีคิวผ่าตัดอีกไหม”“ไม่มีแล้วค่ะคุณหมอ”“หมดเวรของผมแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”ทิวเขาขับรถออดี้คันหรูออกจากโรงพยาบาลเอกชนที่ตนทำงานอยู่ วันนี้ภรรยาคนสวยของเขาโทรมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เสียงที่เอ่ยออกมานั้นดูจริงจังเสียจนเขานั้นอยากจะกลับบ้านเสียตอนนั้นเลย ถ้าไม่ติดว่ายังเหลือเคสผ่าตัดสุดท้าย ป่านนี้เขาคงได้อยู่กับภรรยาไปแล้วรถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าไปในคฤหาสน์เพราะเขาต้องมารับภรรยาที่บ้านพ่อตาเสียก่อน“สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่”“ไหว้พระเถอะลูก” คุณนายสร้อยฟ้ากล่าว พลันยิ้มแย้มด้วยความเอ็นดูลูกเขยที่ว่านอนสอนง่าย ทิวเขาเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวนี้ได้สามปีแล้ว และไม่มีครั้งไหนที่เขาจะหนักใจเมื่อก้าวเข้ามาสู่ความหรูหราร่ำรวยของครอบครัวภรรยา“ดาวเหนืออยู่ไหนเหรอครับ”“นู้นจ้ะ อยู่ที่สวนเลย”“ครับ งั้นผมขอตัวไปหาเขาก่อนนะครับ”ทิวเขาเดินเข้าไปในสวน ดอกกุหลาบหลากสีบานสะพรั่ง สวยสดงดงาม แต่มีสิ่งหนึ่งที่สวยงามกว่าดอกไม้เหล่านั้น
“พ่อกับคุณสร้อย รู้จักกันตั้งแต่ก่อนที่พ่อจะคบกับแม่ของลูกเสียอีก เวลาที่มีปัญหาพ่อก็มักจะมีคุณสร้อยนี่แหละคอยอยู่ข้างๆ คุณสร้อยเป็นคนที่คอยหาลูกค้าให้พ่อมาตลอด แล้วอีกอย่างก็เป็นคนติสท์ ที่บ้านทิ้งมรดกไว้ให้เป็นพันล้าน แต่ชอบเที่ยวทำอะไรตามความรู้สึก จนผ่านไปเจ็ดปีนั่นล่ะ พ่อก็รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้จึงได้ตามจีบจนเธอยอมใจอ่อนแต่งงานกับพ่อ”“เดี๋ยวนะคะ พ่อกำลังจะบอกว่า คุณสร้อยเป็นคนดีเหรอคะ แล้วทำไมหนูถึงเจอแต่เรื่องไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้ละ”“พ่อบอกแล้ว เธอน่ะเป็นคนติสท์แตก แต่เอาเข้าจริง ก็เอ็นดูหนูมากนะลูก แค่ชอบแกล้งแรงไปหน่อย”ดาวเหนือตัวชาไปครึ่งซีก พ่อบอกว่า 'แค่แกล้ง' มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร หน้าตา สีหน้า ปากคอที่เลาะร้ายเช่นนั้นน่ะเหรอ คิดเอ็นดูเธอ?!“คุณจะไปบอกทำไมคะว่าฉันเอ็นดูแก ดาวเหนือไม่มีทางเชื่อหรอกว่าฉันไม่ได้ร้าย”“ก็มันคือเรื่องจริง คุณทำไปก็เพราะหวังดีกับแก แล้วจะให้ผมนิ่งเฉยให้ลูกเข้าใจผิดอีกทำไมกัน”“เฮ้อ...คุณก็เป็นซะแบบนี้ ดูเอาเถอะ หน้าดาวเหนือแย่ขนาดไหน”พ่อหันมองลูกสาว ดาวเหนืออาการย่ำแย่จริง หน้าขาวจนไร้สีเลือด คงตกใจไม่น้อยกับความจริงในหลายๆ เรื่อง“เพ
16 ปีที่แล้วบริษัทนำเข้าดาวเคียงฟ้าเป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเกิดข่าวอื้อฉาวขึ้นที่ถูกสร้างโดยเฟคนิวส์ก็โดนถล่มอย่างหนัก ถึงแม้จะมีหลักฐานมาพิสูจน์แต่เพราะพลังโซเชียลมีเดียที่เป็นดั่งมีดสองคมก็ยังคงโจมตีเข้ามาไม่หยุด“คุณนี คุณหยุดที่ผมได้ไหม ผมขอร้อง”“ไม่ บริษัทคุณจะล้มละลายวันนี้พรุ่งนี้ใครจะไปรู้ ฉันไม่ทนอยู่สภาพแบบนี้หรอกนะ”“เรารักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณพูดออกมาแบบนี้”“เมื่อไหร่จะหายโง่สักที ที่ฉันอยู่ก็เพราะเงินของแกทั้งนั้นแหละ ตอนนี้แกไม่มีเงินให้ฉันแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป หลบ!!”สองสามีภรรยาที่แต่งงานกันมาเข้าปีที่เจ็ด พวกเขาเกิดปากเสียงกันเมื่อคนเป็นภรรยาทราบมาว่าสามีของเธอกำลังตกต่ำ เสียงเด็กร้องสลับกับเสียงฟ้าร้องไปมา สามีของเธอนิ่งไปทันทีที่เธอพูดจบ นัยน์ตาของเขาแดงก่ำจากพิษรักที่กำลังถูกทรยศ“แล้วลูกล่ะ คุณไม่รักลูกเหรอ”“ใครอยากมีก็เลี้ยงไปสิ ฉันไม่ได้อยากให้มันเกิดมาสักหน่อย”มณี หรือแม่ของดาวเหนือพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ที่ผ่านมาเธอไม่ได้รักลูกจริงเลย มณีเพียงแสร้งทำดีเพื่อให้สามีหลงเธอจนหัวปักหัวปรำต่างหากแต่ในวันนี้ มันคือฟางเส้นสุดท้ายของคน
ทางด้านทิวเขาเมื่อเขาเข้าไปในโกดังร้างได้ ก็ได้เห็นแสงสว่างเดียวจากโคมไฟดวงหนึ่ง ส่องแสงสว่างไปยังทางมืดมิดเบื้องหน้า เขากลั้นใจชั่วอึดหนึ่ง ก่อนจะย่างเดินไปตามทางบังคับนั้นอย่างช้าๆ“ดาวเหนือ!”เขาตะโกนเรียกชื่อคนรัก สักประเดี๋ยวก็มีเสียงตอบกลับมา เสียงนั้นฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ราวกับมีสิ่งใดขวางกั้นจนทรมานพอฟังอีกครั้ง ทิวเขาก็ใจเต้นระทึกลั่นอก ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เสียงอู้อี้ก็ยิ่งดังขึ้น จนกระทั่ง...“ทิวเขา!!”เป็นดาวเหนือเองที่ส่งเสียงตอบกลับมา ทิวเขาตาเบิกโพลงกลับภาพที่เห็น ดาวเหนือถูกจับมัดแขนมัดขารวบรัดไว้กับเก้าอี้ มีผ้าผืนเก่าปิดปากไว้ เธอพยายามดิ้นรน ทั้งร้อง ทั้งเรียกหาแต่เขาอยู่เช่นนั้น“มาแล้วเหรอ ทิวเขาสุดที่รัก”ผิงผิงเดินไขว้หลังยิ้มแย้มออกมาจากมุมมืด เธอมาหยุดยืนคั่นกลางระหว่างทิวเขากับดาวเหนือ หันหน้ามาหาชายหนุ่มที่รักหมดหัวใจมากไปกว่านั้น ทิวเขายังเห็นผู้ชายอีกคนเดินตามออกมาด้วย ทว่าสีหน้าที่มองมายังดาวเหนือไม่ได้มีแววเย็นชาเหมือนอย่างผิงผิงแม้แต่นิด“ผิง ทำแบบนี้ทำไม ปล่อยดาวเหนือเดี๋ยวนี้”“เฮอะ ตลกสิ้นดี มาถึงก็ทำตัวเป็นพระเอกน้ำเน่าเลยนะ มาบอกให้ปล่อยงั้นเหรอ ฝันไ
ดาวเหนือลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ ละทิ้งเตียงนอนที่อุดอู้มาทั้งวัน เดินไปยังตู้เสื้อผ้า เปิดลิ้นชักเพื่อดูของด้านในนิดหน่อย แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจ ยกมือตบหน้าผากหลังจากของใช้ที่ต้องการร่อยหรอไปหลายอย่างเลยเชียว“อ้าว หมดแม้กระทั่งผ้าอนามัยเลยเหรอเนี่ย” หญิงสาวคว้านมือเข้าไปด้านในสุดอย่างเสียอารมณ์ “เฮ้อ...ออกไปซื้อดีไหมนะ”ดาวเหนือคิดสักประเดี๋ยวหนึ่ง ก็เกิดอยากออกไปเซเว่น ร้านสะดวกซื้อที่ว่าอยู่ซอยถัดไปนี่เอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้งถ้าเธอจะออกไปก่อนที่ทิวเขาจะกลับมา“เอาละ รีบไปรีบกลับก็แล้วกัน”หญิงสาวเดินออกมาจากหอพักด้วยกางเกงขายาวสวมใส่เสื้อฮู้ดธรรมดา เมื่อมาถึงเซเว่นดาวเหนือก็หายห่วง จัดการมองหาของที่ต้องการเธอซื้อของรวมถึงผลไม้และอาหารแช่แข็งสำเร็จรูปสำหรับทำอาหารทานมื้อเย็น แต่เธอไม่ใช่คนทำหรอกนะ คนทำตัวจริงยังไม่กลับมาจากมหาวิทยาลัยนั่นเลยดาวเหนือเดินกลับทางเดิมที่เธอเดินมา สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าและมีบ้านคนเพียงแค่ไม่กี่หลัง ก็นี่มันทางผ่านเฉยๆ นี่เนอะ ถ้ากลับทางถนนใหญ่คนเยอะก็จริง แต่เดินไกลกว่า มอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ไม่มีเสียด้วย เธอไม่ยอมเดินไกลกว่าเพราะอยากกลับไปให้ทันก่อนที่ทิวเข
เช้าวันนี้ทิวเขาออกไปเรียนคนเดียว จุดมุ่งหมายของเขามีเพียงผิงผิง ที่คาดว่าฝ่ายนั้นจะอยู่ใต้ตึกของคณะ ผิงผิงเป็นเพื่อนสาวคนเดียวที่เขาสนิทด้วย แต่ตอนนี้ เธอยังเป็นคนเดียวที่คอยทำให้เขาไม่สบายใจ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุด ที่ทำให้ทิวเขาต้องนอนไม่หลับมาทั้งคืน“ผิง เราขอคุยด้วยหน่อย”“มีอะไรหรือเปล่าทิวเขา นั่งก่อนสิ นี่กำลังคุยกับเพื่อนๆ สนุกเลย”“เรามีเรื่องต้องคุยกับผิงตอนนี้ มาคุยกันหน่อยเถอะ”ทิวเขาไม่เคยพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแกมหงุดหงิดมาก่อน หากเรื่องที่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับน้องผู้หญิงคนนั้น เขาคงจะลืมทุกเรื่องไปแล้วทิวเขาเดินนำผิงผิงมายังมุมลับตาคน ใต้บันไดไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน เพราะจุดนี้เป็นเพียงมุมเชื่อมต่อไปอีกอาคารหนึ่งเท่านั้น ผิงผิงมองสถานที่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันมาสบตากับทิวเขา สีหน้าของเขาบึ้งตึงตั้งแต่เจอกันแล้ว“มีอะไรเหรอทิวเขา”“เรื่องทั้งหมด ผิงเป็นคนทำใช่ไหม”“เรื่องอะไร?” ผิงผิงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนที่เธอจะพลันคิดได้ หรือว่า...ทิวเขาจะรู้อะไรเข้า“ผิงรู้ดีแก่ใจ ทั้งเรื่องฝน เรื่องในห้องน้ำ และยังไม่รวมที่อื่นอีก”“ทิวเขา...”“คราวนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าเรื่องอะไร”ผิงผิงกัดริมฝีปากตัวเ
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าอ่อนๆ ลอดเข้ามาจากทางหน้าต่างฝั่งระเบียง ผ้าม่านสีขาวปิดไว้มิดชิดก็จริง แต่ก็ไม่อาจปิดกั้นแสงแดงเข้ามาได้ ร่างบางที่นอนหมดเรี่ยวแรงบนเตียงค่อยๆ ขยับลุกขึ้น เสมองไปยังอีกคนที่นอนไม่ห่างกัน หรือจะเรียกให้ถูก เธอนอนทับตัวเขาเสียมากกว่าโดยมีอ้อมแขนเขากอดรัดไว้ตลอดจนรุ่งเช้ามาถึงดาวเหนือลุกลงจากเตียงเดินกายเปลือยเปล่าเข้าห้องน้ำ เธอไม่มีความอายเมื่ออยู่กับเขา และยังชินเสียอีกด้วยเมื่อต้องแก้ผ้าเดินผ่านหน้าเขาไปไม่รู้ต่อกี่ครั้ง“ดาวเหนือตื่นเร็วจัง”เสียงเอ่ยทักเบาๆ ทำให้ร่างบางชะงักเท้า ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินกลับมายังคนที่นอนกึ่งนั่งบนเตียง“รีบตื่นทำไม เหนื่อยไม่ใช่เหรอ นอนต่อเถอะ”เธอแหย่เขาด้วยรอยยิ้ม และคนถูกแกล้งก็ยิ้มออกมาทันใดพร้อมกับตวัดแขนดึงเอวเธอให้เข้ามาชิดอกแกร่ง ริมฝีปากของคนเพิ่งตื่นนอนจรดหน้าผากหญิงสาว กระซิบคำน่ารัก“อยากฟินเหมือนเมื่อคืนต่อจัง สักรอบดีไหม”“บ้าน่าพอเถอะ”เธอกลั้นยิ้มไว้แทบแย่ หมู่นี้ทิวเขาชักจะร้ายขึ้นทุกวัน คำพูดคำจาก็ล่อแหลมกลั่นแกล้งเธอให้พลาดท่าให้ไม่รู้ต่อกี่ครั้ง และไหนจะความอบอุ่นในอ้อมแขนเช่นนี้อีก บอกเลย ไม่หลงก็คงไม่
“แย่เลย ขอโทษนะที่ถาม”ไม่หรอก ผมดีใจจะตาย”ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่ดาวเหนือก็มองออกว่ามันตรงข้ามกับความรู้สึกของเขา“ผมเห็นทั้งเพื่อน พี่ น้อง หลายคนที่ไปแล้วได้ดี แต่ก็มีบางคนที่อาจจะโชคร้ายได้ครอบครัวไม่ดี แบบนั้นน่ะ ไม่ถูกเลือกมันดีที่สุดแล้ว”“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ทิวเขาพูดเยอะขนาดนี้” ดาวเหนือเอียงคอมองแฟนหนุ่มด้วยความชื่นชม“ทิวเขาเคยคิดอยากเจอพ่อแม่ตัวจริงไหม”“เคยนะ จริงๆ ตอนนี้ก็ยังคงอยากเจอท่านอยู่ ผมอยากจะถามทำไมถึงเลือกที่จะทิ้งผม ทำไมถึงไม่มาหาผมบ้าง ตอนนี้สบายดีไหม ทำอะไรอยู่ ไม่มีใครไม่อยากเจอพ่อแม่ตัวเองหรอกนะ”“นั่นน่ะสิ คงมีแต่ดาวเหนือเองนี่แหละ”คำพูดที่ออกมาจากปากเธอทำเอาทิวเขาต้องหันกลับมามองหน้าอย่างแปลกใจ เท่าที่รู้มา เหมือนเธอจะไม่ถูกกับพ่อ แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะไม่ถูกกันถึงขนาดไม่อยากเจอหน้ากันเลย“เมื่อก่อนครอบครัวดาวเหนือก็เหมือนครอบครัวคนอื่น ดาวเหนือมีทุกอย่างที่เพียบพร้อม เงิน ทอง ครอบครัวที่แสนสุขใครเห็นก็อิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งทั้งสองก็เกิดทะเลาะ ตอนนั้นดาวเหนืออายุแค่ห้าขวบเลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่สิ่งหนึ่งที่รู้คือพ่อชอบเอาผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้าน”
ในที่สุดช่วงปิดเทอมก็มาถึง ถึงแม้จะเป็นปิดเทอมสั้นแต่สำหรับดาวเหนือแล้วเวลานี้มันคือสวรรค์ เป็นเวลาเดือนกว่าๆ แล้วที่เธอและทิวเขาคบกันมา ช่วงแรกที่ทุกคนรู้ว่าทั้งสองคบกันก็มีข่าวซุบซิบมากมายแต่ไม่ใช่ข่าวดีหรอกนะ บ้างก็ว่าทิวเขาไม่ได้รักเธอจริง บ้างก็ว่าทิวเขารักเธอเพราะเงิน บ้างก็ว่าเธอไปข่มขู่ทิวเขาเฮ้อ ไปกันใหญ่แล้วถ้าคิดว่านี่หนักแล้ว ไม่เลย...บางคนพูดกันถึงขนาดว่าทิวเขาขายตัวให้ดาวเหนือเลยก็มี เธอทนไม่ไหวจึงได้โพสรูปคู่ลงในไอจีพร้อมกับประโยคแคปชั่นแซะๆ ไปเรื่องถึงได้เงียบลง ดาวเหนือไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมถึงได้มีคนสนใจเรื่องไร้สาระกันขนาดนี้“ดาวเหนือ มากินข้าวครับ” ทิวเขาเรียกเธอที่เอาแต่นอนอยู่บนเตียงไม่ไปไหน“วันนี้ทำอะไรทานคะสุดหล่อ”ทิวเขาส่ายหน้าอย่างเอ็นดู “พอได้แล้ว แซวอยู่ได้”“แหมม ทำเป็นเบื่อที่ถูกแซว แสดงว่ามีสาวๆ มาแซวบ่อยใช่ไหม”“เฮ้ย! มีที่ไหนกัน ไม่มีเลย”“เชอะ อย่าให้รู้ว่ามีนะแม่จะตีเข่าใส่เลย” ดาวเหนือทำทีเป็นโหดใส่เพื่อข่มขู่แต่มีหรือคนถูกขู่จะกลัว เขามองเธอเป็นแฟนสาวที่น่ารักเสมอ ทิวเขาวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่ดึงรวบตัวแม่เสือสาวเข้ามาในอ้อมกอด ริมฝีปากบรรจงจ
Comments