หาดทรายสีขาวสะอาดกับระลอกคลื่นที่ซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ทำให้หนุ่มน้อยซึ่งเป็นแชมป์ว่ายน้ำของโรงเรียนไม่ลังเลที่จะลงไปโต้เกลียวคลื่นในทะเลกับบรรดาลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นด้วยความสนุกสนาน สามหนุ่มเล่นน้ำตามประสาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะท้าแข่งกันว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง รอยสยามซึ่งมีดีกรีแชมป์ว่ายน้ำจึงต่อให้สองหนุ่มเจ้าถิ่นเล็กน้อยด้วยการนับถึงสิบแล้วจึงว่ายตามไป แต่ในจังหวะที่รอยสยามเกือบจะเป็นผู้นำ เขากลับเห็นเด็กหญิงร่างเล็กพลัดหลุดจากห่วงยาง เด็กหนุ่มจึงพุ่งตัวว่ายเข้าไปช่วยดึงเด็กหญิงตัวน้อยขึ้นมาได้ทันท่วงที
“กรี๊ด!! ภพพลอย”
พิมพ์กรีดร้องลั่นเมื่อเห็นบุตรสาวพลัดหลุดจากห่วงยางแล้วจมน้ำต่อหน้าต่อตา ก่อนที่เด็กชายซึ่งกำลังเล่นน้ำอยู่ไม่ห่างจากบุตรสาวของเธอจะคว้าภพพลอยขึ้นมาได้ทัน พิมพ์รีบย่ำลงไปในทะเล คว้าตัวลูกสาวที่กำลังสำลักน้ำจนหน้าตาแดงมาจากอ้อมแขนของเด็กชาย พร้อมกับปลอบลูกสาวที่ร้องสะอื้นเพราะความตกใจ ก่อนจะหันมาละล่ำละลักขอบคุณเด็กชายเสียงรัว
“ขอบใจนะจ๊ะหนูที่ช่วยน้องไว้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยู่ใกล้น้องพอดี แต่น้องยังเด็กแล้วก็ว่ายน้ำไม่เป็น คุณน้าไม่น่าให้น้องลงมาเล่นน้ำตามลำพังนะครับ” รอยสยามเอ่ยตามประสาเด็ก ไม่ได้มีเจตนาจะว่ากล่าวหรือตักเตือนผู้ใหญ่ แต่เป็นห่วงในตัวเด็กน้อยเท่านั้น
“หนูภพซนมาก น้องหนีออกมาตอนน้ากับพ่อเขาเผลอ ไม่คิดว่าจะแอบหยิบห่วงยางออกมาเล่นน้ำทะเลคนเดียวแบบนี้” พิมพ์เอ่ยกับเด็กชายด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
“หนูภพแสบตาค่ะแม่พิมพ์” เด็กหญิงสะอื้นเบาๆ
“โอ๋ๆ เดี๋ยวแม่พาไปอาบน้ำนะคะ” พิมพ์เอ่ยกับบุตรสาววัยห้าขวบเศษด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะก้มหน้าลงทอดสายตามองเด็กหนุ่มอีกครั้งพร้อมกับเอ่ยถามอย่างเอ็นดู
“หนุ่มน้อยชื่ออะไรเอ่ย บอกน้าได้ไหมจ๊ะ” พิมพ์ถามเด็กชาย
“รอยสยามครับ ใครๆ ก็เรียกผมว่าสยาม” เด็กชายตอบด้วยเสียงฉะฉาน
“ขอบใจอีกครั้งนะจ๊ะรอยสยาม หนูภพขอบคุณพี่ชายก่อน พี่ชายเขาช่วยหนูภพไว้นะคะ”
เด็กน้อยหันมากระพุ่มมือไหว้เด็กชายทั้งสะอื้น ดวงตากลมวาวทอดมองหนุ่มรุ่นพี่ราวกับจะจดจำให้ขึ้นใจพลางเอ่ยเสียงเครือ
“ขอบพระคุณค่ะพี่สยาม ถ้าไม่ได้พี่ หนูภพคงจมทะเลตายไปแล้ว”
“ใครจะยอมให้สาวน้อยน่ารักๆ อย่างหนูภพตายล่ะครับ แต่ทีหลังห้ามซนหนีมาเล่นน้ำคนเดียวอีกรู้ไหม” ค่าที่เป็นลูกชายคนเดียว รอยสยามซึ่งอยากจะมีน้องอยู่แล้วจึงเอ็นดูเด็กหญิงมากเป็นพิเศษ
“หนูภพสัญญาค่ะ หนูภพจะไม่หนีมาเล่นน้ำอีกแล้ว”
“ดีครับ” รอยสยามยิ้มให้สาวน้อย
“เราจะได้พบกันอีกไหมคะพี่สยาม”
“ได้พบสิครับ บ้านคุณลุงพี่อยู่ตรงนั้น เอาไว้วันหลังหนูภพให้คุณแม่พาไปหาพี่ที่บ้านนั้นก็ได้” รอยสยามชี้ไปทางบ้านของผู้เป็นลุง
“พี่สยามจะไม่ลืมหนูภพใช่ไหมคะ” เด็กหญิงคาดคั้น
“ไม่ลืมครับ พี่จะจำหนูภพให้ขึ้นใจเลย” รอยสยามยิ้มกว้าง
“สัญญานะคะว่าพี่สยามจะไม่ลืมหนูภพ” ภพพลอยย้ำพลางทอดสายตามองพี่ชายที่ส่งยิ้มและพยักหน้าแทนคำตอบ
ภพพลอยเงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองอาคารก่ออิฐถือปูนทรงยุโรปสามชั้นตรงหน้า หลังคากระเบื้องเกล็ดปลาสีส้มอมแดงตัดฉับกับสีเหลืองอ่อนของตัวอาคารทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น เธอก็อธิบายไม่ได้ว่าเหตุใดจึงรู้สึกเช่นนั้น ดวงตาเรียวมองไล่ลงมาที่ด้านหน้าของชั้นที่สามซึ่งฉาบปูนเรียบ เฉลียงของบ้านประกอบด้วยเสาทรงกลม หัวเสาโค้งม้วนลงมาทั้งสองข้างแบบไอออนิก ซึ่งรับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมกรีกและโรมัน บานหน้าต่างทำจากไม้สักลงเชลแล็กขึ้นเงา แบ่งเป็นช่องกระจกสี่เหลี่ยมเล็กถึงหกช่อง เหนือขอบโค้งเป็นปูนปั้นลายเครือเถา ต่ำลงมาชั้นสองเป็นเฉลียงทอดตัวยาวตลอดแนวตั้งแต่ปีกขวาจนสุดไปยังปีกซ้ายของตัวบ้าน เนื้อที่บ้านกว้างกว่าหนึ่งไร่ มีสนามอยู่หน้าตัวอาคารสามชั้น ซึ่งควรจะดูกว้างกว่านี้ถ้าไม่มีต้นไม้ใหญ่กระจายให้ความ ร่มรื่นอยู่โดยรอบ จึงทำให้พื้นที่ดูแคบกว่าความเป็นจริง หญิงสาวยืนอยู่ตรงนั้น ทอดสายตามองอยู่อึดใจเพื่อรำลึกถึงวันแรกที่ได้ก้าวเข้ามา ณ สถานที่แห่งนี้
เธอยังจำได้มิรู้ลืม...หลายปีก่อนภพพลอยมีโอกาสมาเยือนคฤหาสน์อรรถสุนทรพร้อมกับมารดา เธอเคยวักน้ำในอ่างบัวเก่าแก่ที่วางขนาบข้างบันไดหินขัดทั้งซ้ายและขวา ซึ่งทอดขึ้นสู่หน้ามุขก่อนถึงประตูไม้สักหน้าอาคาร ยังจำได้ว่าดอกบัวผันสีม่วงเข้มชูก้านอวดความสวยงามของกลีบดอกที่เบ่งบานส่งกลิ่นหอมยั่วแมลง ภาพนั้นสวยงามดึงดูดสายตาเธอมาก
หลายปีผ่านไปเปลี่ยนภพพลอยจากเด็กหญิงเป็นสาวน้อยวัย 17 ปีที่มีใบหน้าสวยคมโดดเด่นสะดุดตา ยามเธอแย้มริมฝีปากยิ้มยิ่งสวยหยาดฟ้ามาดินเลยทีเดียว ด้านหน้าทางเข้าซึ่งมีประตูไม้สักบานคู่แบบไทยเปิดออกกว้างมีกระถางดอกโบตั๋นที่กำลังผลิดอก ส่งกลิ่นหอมกำจายเบาๆ ตั้งอยู่ ทำให้หญิงสาวที่กำลังจะเดินผ่านเข้าไปในบ้านอย่างคุ้นเคยเผลอหยุดสูดลมหายใจเข้า กักเก็บความหอมไว้ลึกเต็มปอด ก่อนจะจดปลายเท้าลงบนพื้นเรือนที่ปูด้วยกระเบื้องสี่เหลี่ยมแผ่นเล็กสีเทาสลับสีน้ำตาลอ่อน ดูงดงามคล้ายกับลวดลายของกลีบดอกไม้โปรยปรายบนพื้นพรม หญิงสาวทอดสายตามองภายในอาคารด้วยความคิดถึงอย่างแปลกๆ หน้าต่างบานไม้แบบเปิดปิดถูกสับด้วยตะขอเหล็กยาวไร้สนิม คงเพราะเจ้าของบ้านดูแลเป็นดี ม่านผ้าโปร่งสีฟ้าลายกระเช้าดอกไม้พลิ้วไหวตามแรงลม