Search
Library
Home / LGBTQ+ / เมียอ้ายเข้ม | ฮักบ่ฮู้ลืม ที่บ้านโคกสะแบง / บทที่ 14 ลาบหมู🌾

บทที่ 14 ลาบหมู🌾

2025-06-24 12:01:51

เช้าตรู่ในหมู่บ้านโคกสะแบง เสียงไก่ขันปลุกให้ผู้คนเริ่มต้นวันใหม่ เสียงพูดคุยของชาวบ้านที่ออกไปนาบ้าง ตกปลาบ้าง และเข้าสวนยางพาราบ้าง เรียกความคึกคักให้หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้อีกครั้ง

พลตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าพร้อมกับสัมผัส กลิ่นไอชื้นจากทุ่งนาและเสียงลมพัดผ่านยอดข้าวทำให้เขารู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานเสียงฝีเท้าหนักก็ดังขึ้น ก่อนที่พลจะหันไปตามต้นตอของเสียง พร้อมกับเข้มเดินขึ้นมาบนเถียงนา พร้อมน้ำเย็นในขัน ก่อนที่จะยื่นวางไว้ข้างตัวของพล

“ตื่นแล้วเหรอพล?ไปล้างหน้าเร็ว วันนี้มีงานเยอะนะครับ” เข้มพูดพร้อมรอยยิ้ม

อือ....

พลทำเสียงงัวเงียขึ้นเขาไม่อยากจะตื่นเลยเพราะอากาศมันค่อนข้างหนาว ก่อนที่พลจะลุกนั่งพร้อมกับจ้องที่อีกฝ่ายก่อนที่จะถามขึ้น

“งานอะไรเหรอครับ?” พลถามขณะยกขันน้ำขึ้นจิบ

“พี่จะพาพลไปช่วยตัดไม้ไผ่กับดิน ไว้ทำซุ้มขายของในงานบุญบ้าน เมื่อวานไม้ไม่พอ”

เข้มเองเขาพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะรอพลล้างหน้าล้างตาเสร็จ ก่อนที่ไม่นานดินจะขี่รถไถมารับใช้เวลาไม่นานทั้งสามก็มาถึงป่าไผ่ที่เป็นของที่นาของลุงดำ ดินเพื่อนสนิทของเข้มเขามายืนรออยู่หน้าก่อไผ่พร้อมอุปกรณ์ครบครัน

ระหว่างการตัดไม้ไผ่ ดินก็ดูแลพลอย่างออกนอกหน้า ทั้งคอยช่วยถือไม้ไผ่ คอยบอกทาง และเอาน้ำมาให้ พลเองก็อยากจะปฏิเสธ แต่ทว่าถ้าจะปฏิเสธตนก็กลัวเสียมารยาทจึงปล่อยเลยตามเลย แต่ทว่าเขากลับไม่ทันสังเกตสีหน้าของเข้มที่เริ่มเคร่งเครียดขึ้นทุกที

“น้องพลครับระวังเด้อครับอย่าหยางม่องหั่น เดี๋ยวหนามเกี่ยวเอาเด้อครับ” ดินพูดจบก็รีบเดินมาขว้าแขนพลพร้อมจับมือพลเพื่อช่วยเดินข้ามไม้ไผ่ที่กองอยู่ เพราะเป็นห่วงว่าคนร่างเล็กจะบาดเจ็บ ในขณะที่เข้มหันมามองทันที และเสียงตัดไม้ก็หยุดลง

“ดินมึงมาทำงานหรือจะดูแลพลอย่างเดียวว่ะ ปล่อยกูแม่งฟันไผ่อยู่ผู้เดียว?” (ดินมึงทำงานหรือจะมาดูแลพลอย่างเดียววะ ปล่อยกูฟันไผ่อยู่คนเดียว)

“ก็ทั้งสองอย่างละลูกพี่ กะน้องเขาน่ารักจะตาย กูกะอดเอ็นดูเขาบ่ได้” (ก็ทั้งสองลูกพี่ ก็น้องเขาน่ารักจะตาย กูก็อดเอ็นดูเขาไม่ได้)

เข้มถอนหายใจ พยายามข่มอารมณ์ เพราะเขาไม่อยากหึงออกนอกหน้าเพราะความสัมพันธ์อะไรกับพลก็ยังไม่มี และอีกอย่างดินก็เป็นเพื่อนสนิท เรียกได้ว่าวันที่ตนอกหักจากดาว ก็มีดินเป็นคนคอยมาอยู่เป็นเพื่อนที่เถียงนา คอยดื่มด้วย คอยปลอบใจ คอยนอนอยู่เป็นเพื่อน ถึงแม้ว่าเข้มจะไล่ด้วยความรำคาญก็แล้ว แต่ดินเองก็ไม่กลับแต่กลับไปนอนที่แคร่ไม้หน้าเถียง

เมื่อเสร็จงานจากก่อไผ่ พลเองเขาขอตัวไปช่วยชาวบ้านปั้นเจดีย์ทรายที่วัด พร้อมกับขิมน้องสาวของเข้มเจ้าเก่าเจ้าเเดิมเธอก็มาด้วย

ณ วัด อากาศยามสายก็เริ่มอบอุ่นขึ้น แดดที่ลอดผ่านตนไม้ใหญ่ก็ทำให้ไม่ร้อนจนเกินไป แต่กลับทำให้บรรยากาศอบอวลด้วยความสุขของผู้คนในชุมชนที่มาร่วมกันสร้างเจดีย์ทรายสำหรับงานบุญบ้านประจำปี

พลนั่งอยู่ข้างๆ ขิม น้องสาวของเข้ม ขิมเธอมาในชุดเสื้อม่อฮ่อมสีฟ้า พร้อมกับย่อตัวนั่งขัดสมาธิและตั้งใจตักทรายใส่กระบะเล็กๆ ก่อนเทลงพื้นเพื่อสร้างฐานเจดีย์ พลเองเขาก็ช่วยด้วยเพราะเรียกได้ว่าเป็นงานถนัดเขาเลยก็ว่าได้

“อ้ายพลๆ ดูสิ! ขิมเฮ็ดงามบ่จ้า?” (พี่พลๆ ดูสิ! ขิมทำสวยไหมคะ)

ขิมหันมายิ้มกว้าง ในขณะพลเองเขายิ้มตอบ ก่อนจะเอื้อมมือช่วยแต่งทรายที่ยังแม้ไม่เป็นรูปทรง พลเองก็ขยี้ไปที่ศีรษะของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ก่อนที่จะตอบเธอไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนปนขี้เล่น

“สวยมากเลยครับ น้องขิมเก่งจัง”

“อ้ายพลจะต้องซ้อยขิมเด้อจ้า! คันอ้ายพลซ้อยหนู หนูสิให้อ้ายเข้มหอมแก้มอ้ายพลมื่อละสิบรอบ” (พี่พลต้องช่วยขิมนนะคะ ถ้าพี่พลช่วยหนู หนูจะให้พี่เข้มหอมแก้มพี่พลวันละสิบรอบ)

ขิมเธอพูดขึ้นพร้อมเขินไปมา ก่อนที่พลจะหยิกแก้มทั้งสองข้างของเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู ถึงแม้เข้มจะไม่ทำแต่อีกหน่อยเขาก็ต้องทำแน่

“โอเคครับ งั้นพี่ว่าเรามาเริ่มตกแต่งกันเลยไหมครับ”

พลตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวาน พลางหยิบดอกไม้หลากสีที่วางอยู่ใกล้ๆ มาแต่งแต้มบนเจดีย์ทราย ทั้งคู่หัวเราะและเล่นกันไปพลางๆ ก่อนที่ขิมเธอจะหยิบดอกไม้เสียบผิดมุมจนเจดีย์เอียง

“ว้าย!”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ช่วยแก้ให้นะครับ”

พลพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับขิม ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงจัดทรายให้เข้าที่อีกครั้ง ขิมหัวเราะคิกคักและหันไปตักทรายใหม่ พลรู้สึกได้ถึงความไร้เดียงสาและน่ารักของเด็กคนนี้ ไม่นานเสียงชาวบ้านพูดคุยกันอย่างคึกคักก็แทรกขึ้น และหนึ่งในนั้นหยิบกล้องตัวใหญ่ขึ้นมาถ่ายรูป “น้องพลกับน้องขิมน่ารักจังเลย ถ่ายรูปไว้หน่อยดีกว่า” สิ้นสุดคำพูดไม่นานเสียงชัดเตอร์ก็ดังขึ้น

“ลงเพจจังหวัดดีไหม?” อีกคนพูดขึ้น ก่อนที่จะถามไปยังเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ดีเลย เดี๋ยวฉันลงให้เอง”

ไม่นาน ภาพของพลที่กำลังช่วยขิมปั้นเจดีย์ทราย พร้อมรอยยิ้มสดใสถูกโพสต์ลงในเพจชื่อดังของจังหวัด “เพจเสน่ห์บึงกาฬ” พร้อมข้อความว่า “หนุ่มน้อยจากเมืองกรุงช่วยงานบุญบ้านที่จังหวัดบึงกาฬ บ้านโคกสะแบง น่ารักและตั้งใจมาก” ภาพนั้นแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าพายุลูกใหญ่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา

ที่ห้องประชุมในตึกสูงกลางกรุงเทพฯ เจ้าสัวสิงหากำลังนั่งฟังพรีเซนเทชันเกี่ยวกับโครงการใหม่ ที่ตนกำลังจะให้ลูกชายในการทำโปรเจกต์ แต่ตอนนี้ลูกชายได้หนีหายไป ไม่นานก่อนที่เลขาของเขาเดินเข้ามาพร้อมโทรศัพท์ในมือ

“ท่านคะ มีข่าวที่คุณท่านต้องดูด่วนค่ะ”

เจ้าสัวรับโทรศัพท์มา ก่อนที่ภาพบนหน้าจอจะทำให้เขาชะงัก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมพลันเปลี่ยนเป็นโกรธจัดอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“พล!” เขาเอ่ยเสียงเข้ม ภาพที่เห็นคือใบหน้าของลูกชายเขา กำลังนั่งปั้นเจดีย์ทรายอย่างมีความสุข

“มันหนีไปอยู่ที่ไหน?บึงกาฬเหรอ!” เจ้าสัวตะโกนขึ้น เลขาเองเขาก็รีบพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะพูดทวนเพื่อให้ความมั่นใจ

“ใช่ค่ะ เป็นเพจของจังหวัดบึงกาฬ เห็นว่าตอนนี้คุณหนูพล อยู่ที่บ้านโคกสะแบงค่ะ”

“มันคิดจะทำอะไรของมัน!” สิงหาโกรธจัด ใบหน้าแดงก่ำ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที จนภรรยาอย่างฐาเธอเองก็ถึงกับต้องห้ามไว้ไม่ให้สามีตนรีบร้อนไปกว่านี้

“คุณคะ ใจเย็นก่อน ลูกอาจจะแค่ไปเรียนรู้ชีวิตใหม่ หรืออยากลองอะไรที่แตกต่าง”

“ชีวิตใหม่งั้นเหรอ! มันควรอยู่ที่นี่ อยู่กับครอบครัว ไม่ใช่ไปทำอะไรไร้สาระแบบนี้” สิงหาพูดขึ้นต่อรองภรรยาของตน

“แต่อย่างน้อยพลก็ดูมีความสุขไม่ใช่เหรอคะ?” ฐาผู้เป็นภรรยาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“พอได้แล้ว! ใจดีกันมามากพอแล้ว ฉันจะไปบึงกาฬเอง จะไปพามันกลับมา!”

เจ้าสัวเดินออกจากห้องทันที ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันในห้องประชุม และสายตาของทีมงานที่เต็มไปด้วยความสงสัย

โคกสะแบง

ที่ลานวัด พลและขิมยังคงช่วยกันตกแต่งเจดีย์ทราย เสียงหัวเราะและการหยอกล้อของทั้งสองสร้างบรรยากาศอบอุ่นจนชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา ก็อดที่จะหยุดดูและยิ้มออกมาให้กับความน่ารักของทั้งสองไม่ได้

“อ้ายพลๆ เดี๋ยวขิมเอาน้ำมาให้เด้อ ถ้าอยู่นี้เด้อ” (พี่พลๆ เดี๋ยวขิมเอาน้ำมาให้นะ รออยู่ตรงนี้นะ) ขิมพูดพร้อมลุกขึ้นวิ่งไปหาน้ำเย็น พลมองตามพร้อมรอยยิ้ม

“ถ้า คืออะไรเหรอน้องขิมพี่งงอีกแล้ว”

“อั่น มันแปลว่ารออะจ้า” (อ๋อ มันแปลว่ารอค่ะ)

“ครับผม ขิมน่ารักจริงๆ ขอบคุณนะครับน้องขิม”

ตอนเย็นของวัน ลมพัดเย็นสบาย เข้มเดินมาหาพลที่ลานวัดหลังจากช่วยชาวบ้านเตรียมซุ้มเสร็จ ใบหน้าคมของชายหนุ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นพลยังนั่งเล่นกับขิมที่มุมเจดีย์ทราย

“พล กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวค่ำกว่านี้ยุงจะกัดเอา” เข้มเอ่ยเบาๆ พร้อมกับชวนพลกลับเขาตั้งใจว่าคืนนี้จะค้างอยู่ที่บ้าน

“อ้ายเข้มมมมม!” ขิมโพล่งขึ้นก่อนจะวิ่งไปเกาะแขนพี่ชาย พร้อมกับอ้อนอย่างกับเด็กสามขวบจนเข้มเองก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนที่จะหยิกไปที่แก้มของเธอเบาๆ

“ขิมอยากกลับแล้ว อ้ายเข้มกลับบ้านป่ะ แต่อ้ายพลบอกว่าอยากอยู่ต่อ แต่หล่าอยากกลับบ้านแล้ว” (ขิมอยากกลับแล้ว พี่เข้มกลับบ้านกัน แต่พี่พลยังอยากอยู่ต่อ แต่หนูอยากกลับบ้านแล้ว)

“ถ้าพลก่อนขิมค่อยกลับพร้อมกัน เดี๋ยวกลับไปอ้ายจะเฮ็ดแนวกินสู่กิน” (รอพลก่อนขิมค่อยกลับพร้อมกัน เด่ยวถ้ากลับไปแล้วที่จะทำอาหารให้กิน)

เข้มลูบหัวน้องสาวของตนที่ทำหน้ามุ่ยเข้มเองก็ขยี้ผมของเธอเบาๆ ก่อนที่จะหันไปยื่นมือให้พลที่ยังนั่งอยู่ พลเองเงยหน้าขึ้นมองเข้มด้วยรอยยิ้มบาง ก่อนที่เขาจะมองหน้าขิมที่มุ่ยหน้าพลเองก็จำใจกลับบ้านทันที

“กลับก็ได้ครับ แต่ผมเหนื่อยแล้วนะ อยากพักมากเลย”

“ไหวไหม ถ้าพลไม่ไหวเดี๋ยวพี่อุ้มเอง” เข้มพูดพลางยักคิ้ว ทำเอาขิมอดที่จะแซวเสียงใสไม่ได้

“โอ๊ย หวานเกินไปแล้ว!”

ก่อนที่เธอจะโดนเขกหน้าผากเบาๆ ด้วยความหมั่นเคี่ยวของเข้ม

ณ บ้าน

ใต้ถุนบ้านเมื่อทุกคนกลับถึงบ้าน ขิมสาวน้อยคนเล็กของบ้าน เธอเองก็พลอยวิ่งเล่นไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปหยิบกล่องเครื่องประดับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

"อ้ายพลจ๋า หนูอยากลองเป็นช่างทำผมให้อ้ายได้บ่จ้า" (พี่พลคะ หนูอยากลองเป็นช่างทำผมให้พี่พลได้ไหมคะ) เสียงใสๆ ของขิมเอ่ยถามขึ้นมา พลเองก็ตอบเธอด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะไปนั่งใกล้ๆ กับเธอ

"ดีเหมือนกันเอาสิครับ ทำได้เลย"

พลตอบพร้อมยิ้มเอ็นดู ขิมจึงหยิบหวีมาหวีผมให้พลอย่างตั้งใจ ขณะที่หวีผม ขิมก็ร้องเพลงกล่อมพี่พลไปด้วย เสียงใสๆ ของเธอทำให้บรรยากาศใต้ถุนบ้านเป็นไปด้วยความสุข พลเองก็หลับตาพริ้มรับความรู้สึกผ่อนคลาย

“เสร็จแล้วจ้า!" ขิมร้องบอกเมื่อจัดทรงผมให้พลเสร็จสิ้น เธอเงยหน้ามองผลงานของตัวเองด้วยความภูมิใจ

"เป็นจังใด๋จ้า หล่อขึ้นหลายเลยแมนบ่จ้า?" (เป็นยังบ้างคะ หล่อขึ้นเยอะเลยใช่ไหมคะ)

“ว้าว พี่หล่อก็เพราะน้องขิมเลยนะครับ" พลพูดพลางลูบหัวขิมเบาๆ ด้วยความเอ็นดู พร้อมกับสายตาของเธอที่จ้องมาทางเขา ที่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น

"ขอบคุณนะน้องขิม ที่ทำผมให้พี่"

ขิมเธอเองก็ยิ้มแก้มปริ เพราะความฝันลึกเธอก็คือช่างเสริมสวยและช่างแต่งหน้า เรียกได้ว่าการแต่งหน้าทำผม เธอถนัดสุดๆ ก่อนที่พลจะหันหน้ามาทางขิมและเข้ม ก่อนที่จะเก๊กหน้าหล่อ จนเข้มก็ถึงกับเสียอาการทันที

"ป๊าด!ๆ หล่อกว่าอ้ายเข้มเจ้าของบ้านอีกนะเนี่ย!" (โอ้โฮ้! หล่อกว่าพี่เข้มเจ้าของบ้านอีกนะเนี่ย!) ขิมพูดพลางหัวเราะเสียงใส เข้มที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ ก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ เข้มเองเลยแกล้งตีน้องสาวตนเบาๆ

"เอ่า เว้าแบบนี้ต้องถืกทำโทษ" (พูดแบบนี้ต้องโดนทำโทษ) เข้มพูดขึ้นขิมเองเหมือนเธอจะรู้ทัน เธอเลยเบ้หน้าใส่ก่อนที่เธอจะวิ่งหนีไปรอบบ้าน เข้มก็รีบลุกขึ้นวิ่งตามไปติดๆ

จนแสงตะวันลับขอบฟ้า ที่ลานดินหน้าบ้านถูกเนรมิตให้กลายเป็นดินแดนแห่งความโรแมนติก เข้มจัดเตรียมทุกอย่างอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่หลอดไฟโซล่าเซลล์สีส้มอุ่น ที่ห้อยระยางใต้ต้นไม้ใหญ่สร้างบรรยากาศให้อบอุ่นขึ้น เสื่อลายดอกไม้สีพาสเทลที่ถูกปูลงทับหญ้าสีเขียว พลเองก็เป็นฝ่ายจัดวางจานชามและแก้วน้ำอย่างเรียบร้อย

อาหารหลักคือลาบหมูจานใหญ่หอมฉุย ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายไปทั่วบริเวณ พร้อมผักสดหลากสีสัน และข้าวเหนียวร้อนๆ คู่ใจ เมื่อพลเดินเข้ามา เข้มก็ยิ้มให้กว้างแล้วตักลาบใส่จานให้พลเป็นคนแรก

“ลองชิมดูสิพล อร่อยนะ พี่ทำเองกับมือเลย” พลด้วยความที่อยากลองเขาก็ตักเข้าปากคำแรกและเป็นคำที่ใหญ่ ไม่นานสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที

“เผ็ด...เผ็ดมากครับอ้ายเข้ม!” เข้มหัวเราะลั่น ให้กับท่าทางที่พลแสดงออกมา มันช่างหน้าเอ็นดูเสียเหลือเกิน

“อ้าววว คนกรุงกินเผ็ดไม่เป็นสินะ” เข้มเอ่ยแซวขึ้น ก่อนที่ขิมเธอเองก็จะแกล้งตักลาบอีกคำใหญ่ใส่จานพล

“อย่ายอมแพ้เด้อจ้าอ้ายพล สู้เขา” พลทำหน้ายู่แต่ก็กัดฟันเคี้ยวต่อไป ข้างๆ มีเสียงหัวเราะคิกคักของขิมเป็นระยะๆ

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเขาช่วยกันเก็บจานชาม แล้วมานั่งคุยกันใต้แสงจันทร์ลานหน้าบ้าน พลเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เข้มฟัง เข้มก็ตั้งใจฟังด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ช่วงดึกบรรยากาศก็เงียบสงบและอบอุ่น มีเพียงสายลมเบาๆ พัดมาเท่านั้น พลอยทำให้พลเองรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก

ลานดินหน้าบ้านกลายเป็นมุมส่วนตัวของสองหนุ่ม เพราะขิมเธอได้ปรีกตัวไปนอน ไม่นานพลก็ขอตัวไปอาบน้ำเพื่อคลายร้อน ในขณะที่เข้มเองเดินตามมาเงียบๆ

พลที่กำลังที่จะเข้าห้องน้ำเขาหันมาเห็นพี่เข้มยืนพิงเสาประตู ดวงตาคู่คมของเข้มฉายแววอย่างมีนัยยะ แต่พลเองเขาก็อาบน้ำต่ออย่างคนไม่สนใจ และเขาไม่ปิดประตูด้วย ก่อนที่พลจะถามขึ้น

“พี่เข้มจะมายืนทำไมตรงนี้ครับ?” พลเอ่ยถาม

“มาดูแลไง เผื่อพลลื่น” เข้มตอบพลางยิ้มมุมปาก สายตาของเข้มจับจ้องไปที่ร่างสูงโปร่งของพลที่กำลังเปียกปอนด้วยน้ำ

“อ้ายเข้มพลไม่ใช่เด็กแล้วนะ”

พลพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ เข้มเองก็มองตาเป็นมัน ถ้าเขาได้นอนนากับพลสองคน พลไม่เหลือแน่ ต้องเสร็จเขาในคืนนี้แน่นอน แต่เข้มก็ทำได้แต่มองด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ก่อนที่พลจะเอื้อมผ้าเช็ดตัวพร้อมห่อร่างกายของตนเอง เดินเปิดแผ่นหลังขาวนำเข้มขึ้นชั้นสองไป ปล่อยให้เข้มได้มองอย่างเพลินใจ

เมื่อสวมเสื้อผ้าเสร็จก็เป็นคิวเข้มไปอาบน้ำ พลเองก็นั่งหนาวสั่นเพราะดึกมาอากาศมันค่อนข้างเย็น ไม่นานก่อนที่เข้มจะเดินขึ้นมาบนบ้านพร้อมกับผมเปียกเซอๆ

เข้มเดิมาด้วยชุดกางเกงขาสั้นพร้อมกับโชว์หุ่นล่ำและซิกแพ็กที่เปียกชุ่มหน่อยๆ ทำเอาพลอยากจะเข้าไปสัมผัสมันอีกครั้ง ก่อนที่เข้มเดินเข้าไปใกล้พลพลางจะเอื้อมมือไปเช็ดเส้นผมให้พล

ขณะที่เข้มยังคงนั่งเฝ้ามองพลที่กำลังหลับด้วยความล้า และพรุ่งนี้พลต้องตื่นมาทำขนมตั้งแต่เช้า เข้มค่อยๆ ยื่นมือไปลูบเส้นผมนุ่มเรียงเส้นของพลเบาๆ ก่อนที่จะถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“วันนี้พลเหนื่อยไหมครับ?” เข้มเอ่ยถามเบาๆ พลเองก็พลอยขหยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงงัวเงียในขณะที่ตายังหลับพริ้มอยู่

“นิดหน่อยครับ แต่สนุกดี” เข้มยิ้มให้กับคำตอบของพล ก่อนแขนแกร่งจะดึงพลเข้ามากอดแน่น พร้อมกับหอมลงที่ผมนุ่มฟอดใหญ่

“พี่ดีใจนะที่พลชอบอยู่ที่นี่ และสนุกไปกับมัน”

พลซบหน้าลงกับอกแกร่งของเข้ม ในขณะที่เข้มเองก็กอดพลไว้แน่น ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของพล ในใจเต็มไปด้วยความรักและความหลงใหล่ แต่ความผิดในใจก็ยังตีดันประทุขึ้นในในใจอยู่

“พี่ขอโทษอีกครั้งนะ ที่เคยทำให้พลเสียใจ ต่อไปนี้จะไม่มีวันนั้นอีก” พลยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบกลับด้วยเสียงงัวเงียจับฟังคำพูดยากไปว่า

“ผม...เชื่อครับ ผมนอนแล้วนะครับพรุ่งนี้มีนัดกับแม่พี่ทำขนมตอนตีสาม”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP