แต่ละวันมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหมือนกันนะจะว่าไปหลังจากที่เขาตัดสินใจที่จะเริ่มทำงานหาเงินตอนนี้ก็เวลาก็ล่วงเลยเข้าเดือนที่สามแล้ว รายได้ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมากเลยทีเดียว เมื่อก่อนที่บ้านตู้เย็นยังเป็นหลังเล็กๆใส่ของได้ไม่มากตอนนี้เป็นเป็นหลังใหม่แล้วและสามารถกักตุนของสดต่างๆได้มากขึ้น.. และเขาสามารถซื้อวัตถุดิบอย่างอื่นได้เพื่อมาทำของขาย วันนี้เขาเลือกทำซูชิทอดและวางไส้หลังจากทอดและหั่นผ่าตรงกลางให้มันแยกออกจากกัน และนำไส้ต่างๆที่เขาคิดว่าน่าจะเข้ากันลงไปวางตรงกลางและราดด้วยซอสในฉบับของเขา
“ แตงโม ตังเม.. กินไหมเอ่ย.. มาๆมาลองชิมให้น้าก่อนนะครับ..” หนูทดลองตัวดีคือเจ้าก้อนกลมของเขานี่แหละ เจ้าสองคนนี้มักจะคอยชิมอาหารต่างๆให้กับเขาอยู่ตลอดเวลาถ้าเมื่อไรเจ้าสองคนนั้นคายทิ้งนั่นก็หมายความว่า… หยุดทำเพราะมันไม่อร่อยและเขาก็จะต้องปรับปรุงและแก้ไขรสชาติไปจนกว่าเจ้าสองก้อนกลมจะกิน ถ้าเมื่อไรที่เจาสองก้อนกลมกินหมดนั่นหมายความว่าอาหารของเขาผ่านแล้ว
“ กิน.. กิน…”
หึหึ.. อ้วนเอ้ย.. จะอวบอ้วนไปถึงไหนกันนะเจ้าสองก้อนเอ้ย.. ให้ตายสิเจ้าเด็กสองคนนี้นับวันยิ่งน่ารักและน่าเอ็นดูขึ้นไปอีก เมื่อก่อนเขาก็หลงหลานของเขามากแต่พอเริ่มโตเริ่มพูดและเริ่มสูงขึ้นเจ้าสองก้อนกลมยิ่งหล่อและสวยขึ้นไปอีก.. เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าพ่อของเจ้าสองก้อนกลมได้มาเห็นเจ้าสองก้อนกลมนี้จะรู้สึกยังไง จะรู้สึกหลงรักและหวงเหมือนที่เขาเป็นรึเปล่า…
ติ๊งต๊อง… ติ๊งต๊อง.. ติ๊งต๊อง…
“ใครกัน ไม่มีมารยาทเอาซะเลย กดอยู่ได้ ”
ตึกตึกตึก.. แกร๊ก…
เขามักจะล็อกบ้านเอาไว้เสมอเพื่อความปลอดภัยของเขาและหลานน่ะ เวลาอยู่กันสามคนมันจะต้องรอบคอบไว้ก่อน อันที่จริงที่นี่ก็ไม่ได้มีขโมยหรือโจรอะไรหรอกเพราะบ้านเรือนที่ติดกันและคนรอบๆบ้านก็มักจะออกมานั่งคุยเล่นกันตลอดเวลา แต่ก็อย่างว่าเขาต้องการป้องกันไว้ก่อน กันไว้ดีกว่าแก้น่ะ..
ตึกตึกตึก…
“ครับ? ” ใครกัน ผู้ชายสองคนนี้คือใครกันหล่อเชียวแล้วมาหาใครกัน เขาไม่ได้รู้จักใครเลยนะ เขาไม่เคยเห็นคนหน้าตาแบบนี้มาก่อน
“ปาริณีไม่สิ ปาล์มอยู่รึเปล่า?” ใครกันผู้ชายคนนี้คือใครกัน ทำไมถึงมาอยู่บ้านหลังเดียวกับปาล์มได้?
“ ผมเป็นน้องชายฝาแฝดของปาล์มครับ..แล้วคุณเป็นใครครับ?” รู้จักปาล์มได้ยังไงกันนะ
ตึกตึกตึก…
“ไปป์.. หร่อย..อาหร่อย…”
“ แตงโม.. ตังเม.. วิ่งทำไม แล้วออกมากันทำไมครับ.. อ๊ะ…” อะไรกันเล่า ทำไมต้องมาจับไว้ด้วยเล่า.. แล้วผู้ชายคนนั้นกำลังจะทำอะไรทำไมถึงคว้าตัวหลานของเขาเอาไปกอดแบบนั้นเล่า.. จะบ้ารึยังไงและนี่อีกจะมาจับเขาไว้ทำไมเล่า…
“หยุด.. อย่าไปพึ่งไปยุ่ง ปล่อยให้พ่อลูกเขาได้อยู่ด้วยกันก่อน.. มานี่.. ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนฉันจะทำอะไรหลานนายหรอกน๊า นั่นน่ะพ่อของเด็กแฝดนะ มันคงไม่ทำให้เด็กสองคนนั้นต้องเจ็บตัวหรอก… มานี่…” เฮ้อ.. ผู้ชายบ้าอะไรว่าจำเป็นต้องหน้าสวยขนาดนี้ด้วยเหรอ? แว๊ปแรกที่เขาเห็นเขาก็คิดว่าเป็นผู้หญิงที่อยากเป็นผู้ชายหรือเรียกง่ายๆว่าทอมน่ะ แต่พอพูดออกมาที่ไหนได้.. ผู้ชายนี่หว่า แต่แม่ง.. หน้าโคตรสวยเลย ปากแดงน่ากัดฉิบหาย แล้วผิวหน้าคือดีมาก..
“คุณเอาอะไรมาพูดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของแตงโมและตังเม.. ปล่อยนะ.. พวกคุณคิดจะทำอะไรกันแน่ปล่อยนะ…” ให้ตายสิเขาไม่เคยเจอใครลากแบบนี้มาก่อนและคนบ้าอะไรเนี่ยทำไมมีแรงมากขนาดนี้นะ…
“หยุด.. ไอ้เตน่ะพ่อของเด็กแฝด ดูจากหนังหน้ามันสิว่าคล้ายกันขนาดไหน และดูดีๆว่าเหมือนกันมากแค่ไหน.. อย่าดื้อให้มันมากนักไม่งั้นจะโดนดี…” จะบ้าตายไม่ใช่แค่หน้าสวยแต่ตัวยังหอมอีก… ตายๆ ผิวก็โคตรเนียนและลื่นเอามากๆเลยด้วย
“ผมจะเชื่อได้ยังไงว่าสิ่งที่คุณพูดคือเรื่องจริง… ถ้าเพื่อนของคุณเป็นพ่อของแตงโมและตังเมจริง.. ทำไมพึ่งมาเอาป่านนี้ล่ะ ตอนที่ปาล์มท้องเพื่อนของคุณไปซุกหัวอยู่ที่ไหนมา คุณรู้ไหมว่าตอนที่ปาล์มท้องแตงโมและตังเม.. สภาพของพวกเราสองคนตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง.. และพวกคุนจะมาทวงสิทธิ์ตอนนี้น่ะเหรอ? มันไม่ง่ายไปหน่อยรึยังไง…” ไม่มีทางเขาจะไม่ยอมให้คนพวกนี้มาทำแบบนี้เป็นอันขาด ตอนที่พวกเรา.. ไม่สิตอนที่ปาล์มต้องการใครสักคนตอนนั้นทำไมไม่มาล่ะ แต่ตอนนี้.. ตอนที่พวกเราพอลืมตาอ้าปากได้พวกเขาก็รีบวิ่งแจ้นมาหาเพื่อที่จะมาทวงสิทธิ์เนี่ยนะ มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอ?
หมับ!!!
“มานี่… อย่าไปยุ่งถ้าพูดไม่ฟังพ่อต่อยนะ.. มา..” ภาณุเดชรีบลากน้าของเจ้าแฝดหนีทันที.. เขารู้หรอกว่าคนเป็นน้าน่ะห่วงคนหลานและพี่สาวฝาแฝดมากขนาดไหนแต่เชื่อเถอะเพื่อนของเขาก็ห่วงเมียและลูกของมันเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันจะรู้ตัวช้าไปหน่อยแต่เมื่อมันรู้แล้วว่ามันขาดเลขาที่ขึ้นชื่อว่าเมียของมันไม่ได้.. มันก็รีบให้คนออกตามหาทันทีและกว่ามันจะรู้ว่าเลขาคนเก่งของมันอยู่ที่ไหนมันก็นานเหมือนกันเพราะมันไม่เคยรู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับเลขาคนเก่งของมันเลยเพื่อนเล่าให้เขาฟังตอนที่มันเมาเหมือนหมาก็คือว่า มันได้แอ้มเลขาของมันก็ตอนที่เจ้าตัวน่ะเดือดร้อนและ เรื่องเดือดร้อนนั่นก็น่าจะเกี่ยวกับเจ้าผู้ชายหน้าสวยคนนี่ด้วยเขาคิดว่า ใช่ถ้าไม่ใช่คน ในครอบครัวไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมทิ่งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อ แลกกับเงินแน่นอน แต่เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปและสาเหตุที่ทําให้เลขาของมันต้องหนีมันมาอยู่ที่นี่มันไม่ยอมพูดออกมา.. และเขาก็คิดว่ามัน น่าจะหนักหาพอตัวอยู่ไม่งั้นมันคงไม่กลัวขนาดนี้หรอก… เพียงแค่มันรู้ว่าเลขาคนสวยของมันอยู่ที่ไหนมันก็รีบชวนเขาขับรถมาที่นี่เลยล่ะ มันไม่ได้พึ่งมา แต่มันมาที่นี่ได้สองสามวันแล้วมันมาซุ่มดูอยู่สองสามวันแล้วและเมื่อมันเห็นว่าเลขาคนสวยของมันออกไปข้างนอกมันก็รีบวิ่งแจ้นมาที่บ้านของเลขาทันทีมันจะมาตั้งแต่วันแรกแล้วเพราะมันเห็นผู้ชายหน้าสวยคนนี้เข้าออกและอุ้มเด็กแฝดและแสดงความสนิทสนมกับเลขาของมันและเด็กแฝดแต่เขาห้ามมันเอาไว้เพราะมันจะต้องใจเย็นให้มากกว่านี้อีกนิดและพอได้โอกาสวันนี้เลยรีบบุกมาที่บ้านทันที
“เอาเป็นว่าเชื่อใจฉัน ไอ้บ้านั่นมันไม่ทำอะไรให้เด็กสองคนนั้นต้องเจ็บตัวหรอกถ้ามันทำอย่างมากก็แค่เอาเส้นผมของเด็กทั้งสองคนไปและเอาไปตรวจดีเอ็นเอก็เท่านั้น และถ้าเด็กแฝดเป็นลูกของมันจริงนายไม่ต้องห่วงหรอกเพื่อนฉันน่ะทวงลูกและเมียของมันแน่นอน ส่วนนายก็จะต้องดีใจและช่วยสนับสนุนให้พ่อแม่ลูกเขาได้อยู่ด้วยกันนะ นายจะต้องคอยช่วยเหลือให้พี่สาวฝาแฝดของนายได้ผัวและได้พ่อของลูกกลับมาสู่อ้อมกอดและอ้อมแขนอันอบอุ่นเร็วๆ…”
“นี่.. คุณพูดออกมาแบบนี้มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ? คุณรู้อะไรไหมช่วงที่ปาล์มท้องพวกเราลำบากมากแค่ไหน ช่วงที่เด็กๆเกิดมาปาล์มต้องเจอและต้องอยู่ในสภาพแบบไหน.. พวกคุณเคยคิดถึงเรื่องนี้กันบ้างรึเปล่า? อยู่ๆพวกคุณก็มาและจะมาเอาเด็กไปแบบนี้.. ผมไม่ยอมไม่มีทางยอม…” คนนิสัยไม่ดีเอ้ย.. พูดออกมาได้ยังไง
“ได้ไม่ได้ไม่รู้แต่ที่รู้เพื่อนฉันมันทำแน่ ดังนั้นต่อให้นายจะพยายามหลบหลีกหรือหลบหนีขนาดไหน.. บอกได้อย่างเดียวไม่มีทางหนีพ้นและที่สำคัญไม่ต้องคิดที่จะหนีหรอกยังไงก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว.. ใจเย็นๆหน่อยสิดูสิหน้าย่นเหมือนหมาแล้วนั่น…” เห็นแล้วก็ตลกดีดูสิทำหน้าเครียดแบบนี้และหน้าผากน่ะจะย่นเข้าหากันเหมือนหมาน่าย่นไม่ได้นะ หมดกันหน้าสวยๆ ในขณะที่มือของเขากำลังจะเอื้อมไปแตะที่หว่างคิ้วนั้น…
เพี้ยะ!!!
“อย่ายุ่ง…”
ฮึ้ย.. มันน่านัก กล้ามาก กล้าที่ปฏิเสธมือของเขา.. คอยดูเถอะพ่อจะแกล้งให้หนำใจไปเลย…