จากวันที่เขาประสบอุบัติเหตุเขาต้องอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือนค่า ใช้จ่ายก็หลายแสนอยู่ ที่สําคัญตํารวจก็ยังจับคู่กรณีไม่ได้ คุณตํารวจคิดว่าคู่ กรณีน่าจะเป็นคนต่างชาติที่มาท่องเที่ยวและก็กลัวความผิดเลยรีบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว.. งานที่ทําเขาก็ไม่ต้องไปทําอีกต่อไปเพราะว่าเขา โดนไล่ออกแล้ว.. เรื่องราวมรสุมชีวิตของเขามันเป็นเรื่องที่ทุเรศสิ้นดี.. ภาระทุกอย่างเลยต้องมาตกอยู่ที่ปาล์มแค่คนเดียว.. เขาสงสารปาล์มแต่ ปาล์มเองบอกให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเพียงแค่เขาสู้ และอยู่กับปาล์ม.. ปาล์มก็พร้อมที่จะทําทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาเดินได้เหมือนกัน.. ตอน นี่เขาก็อยู่บ้านมาเกือบสามเดือนแล้ว.. ช่วงนี่ปาล์มไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านเท่าไรเห็นว่าต้องท่างานเยอะเลยต้องไปอยู่ห้องพักของทางที่ท่างานที่เจ้า นายเป็นคนจัด ให้เพราะมัน ใกล้และสะดวกในการเดินทาง.. ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ปาล์มพูดเอาไว้.. แต่ปาล์มก็แวะมาหาเขานะ หลังเลิกงานก็จะแวะ มาหาเขาทุกวัน และก็จะกลับช่วง 6 โมงเย็นเป็นประจํา
"วันนี่ปาล์มได้กินข้าวรึยังเนี่ย.. หน้าตาไม่ดีเลย เป็นอะไร? ปวดหัวเหรอ? พักผ่อนเพียงพอไหมปาล์ม” วันนี้ปาล์มดูไม่ดีเลยอ่ะ เป็นอะไรรึเปล่านะหรือว่าทำงานหนักเกินไป… เขาอยากแบ่งเบาภาระปาล์มแล้ว เขาสงสารปาล์มมากๆเลยที่จะต้องทำงานคนเดียวและไหนจะต้องเจียดเงินเดือนของตัวเองมาจ่ายค่าใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ปาล์มในตอนนี้มีภาระหน้าที่ที่หนักหนาเกินตัวไปแล้วนะ.. เขาจะทำยังไงดี…
“ไม่เป็นไร เราไม่เป็นไร ตัวล่ะ วันนี้ทำกายภาพเป็นยังไงบ้าง.. ยังเจ็บที่เข่าอยู่ไหม?” เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร วันนี้เธอรู้สึกเพลียมากๆ เธอเหนื่อย เธอบอกไม่ถูก
“ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว.. เราเป็นห่วงตัวนะปาล์มถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน… เราเหลือกันแค่สองคนนะปาล์ม.. ” งานก็ไม่มีทำภาระทุกอย่างมาตกอยู่ที่ปาล์มคนเดียวเขาสงสารปาล์ม เขาอยากจะแข็งเพื่อที่เขาจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของปาล์มให้ได้มากที่สุด.. ตอนนี้เขาทำได้แค่พยายามทำให้ตัวเองแข็งแรงเร็วๆเพื่อที่ปาล์มจะได้ไม่ต้องมาเป็นห่วงเขา
“ปาล์ม.. เรากลับบ้านกันไหม? ที่นี่ค่าใช้จ่ายและค่าครองชีพมันสูงมากๆเลยนะ.. เรากลับไปอยู่บ้านของพวกเรากันไหม? ” เขาคิดเรื่องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วเพราะตั้งแต่ที่เขาป่วยเขาก็แอบเห็นค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆที่ปาล์มจะต้องจ่ายเพื่อเขาแล้วมันทำให้เขาสงสารปาล์มขึ้นไปอีก เขาไม่รู้หรอกว่าปาล์มทำเรื่องกู้ยืมในบริษัทเท่าไร และที่บริษัทนั้นเขาคิดค่าต่างค่าดอกเบี้ยกับปาล์มยังไง.. เขาเป็นห่วงปาล์ม..
“เรื่องนี้ขอคิดดูก่อนนะไปป์ เรายังต้องทำงาน เรายังต้องใช้หนี้ที่บริษัทน่ะเราหวังว่าตัวจะเข้าใจเรานะไปป์..” เธอมีเหตุผลมากกว่านั้น.. แต่เหตุผลนั้นเธอไม่สามารถพูดกับไปป์ได้เรื่องนี้เธอจะต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด.. ไม่เป็นไรเพื่อไปป์เธอทำได้เพื่อน้องชายฝาแฝดของเธอเธอยอมทำทุกอย่าง..
“เราแล้วแต่ปาล์มนะปาล์มว่ายังไงเราก็ว่าตามนั้น.. กินข้าวด้วยกันก่อนไหมวันนี้เราทำต้มข่าไก่ด้วย.. ” เขาทำได้แค่นี้จริง เขาทำได้แค่ทำมื้อค่ำไว้รอปาล์ม.. ช่วงนี้ปาล์มมากินข้าวที่บ้านบ่อยเขาเลยเลือกที่จะซื้อของสดติดตู้เย็นเอาไว้เผื่อวันไหนปาล์มแวะมาปาล์มจะได้กินกับข้าวฝีมือเขายังไงล่ะ..
“อืม.. ก็ดีนะ งั้นเดี๋ยวเราไปจัดโต๊ะเลยนะ..”
“ได้ๆ งั้นเราไปดูต้มข่าไก่ก่อนนะ ทำตั้งแต่สี่โมงเย็นน่ะ ตอนนี้น่าจะเข้มข้นพอดีเลยล่ะ เราใส่เลือดลงไปด้วยของชอบตัวเราจำได้.. ถ้าพรุ่งนี้มา.. เราจะทำข้าวมันไก่ให้กินนะ เรามีสูตรน้ำจิ้มแล้ว…” สิ่งที่เขาชอบที่สุดก็คือการทำอาหาร ปาล์มเองก็ทำกับข้าวเก่งเพราะแม่และพ่อของพวกเราท่านเคยเปิดร้านข้าวแกงมาก่อน บ้านที่กรุงเทพฯหลังนี้ท่านเก็บหอมรอมริบทีละนิดทีละหน่อยซื้อมันเอาไว้ โชคดีของพวกเขาที่ไม่ต้องเช่าบ้านอยู่แต่ก็อย่างว่า ค่าน้ำค่าไฟ และไหนจะค่าโทรศัพท์ต่างๆนาๆ มันก็มีมาก บางครั้งก็ต้องปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน.. ทุกอย่างจะต้องใช้เงินดังนั้นเขาจึงอยากจะชวนปาล์มกลับไปอยู่บ้านเราอีกหลังเพราะอย่างน้อยค่าครองชีพก็น่าจะถูกกว่าที่นี่เยอะ.. แต่เขาก็แล้วแต่ปาล์ม ปาล์มอยู่ที่ไหนเขาก็จะอยู่ที่นั่น.. เพราะเราคือแฝดกันเราเกิดมาพร้อมกัน เราก็จะต้องไปทุกที่ด้วยกัน…