ติ๊ด…. ติ๊ด….
เสียงอะไรนะ.. เสียงที่เขากำลังได้ยินนั่นมันคือเสียงอะไรกันแน่… แล้วทำไม.. เขารู้สึกเจ็บไปทั้งตัวแบบนี้ล่ะ..
ติ๊ด… ติ๊ด….
“โอ้ย….”
“ฟื้นแล้วค่ะ คนไข้ฟื้นแล้ว.. ”
ตึกตึกตึก….
เสียงเอะอะของคนที่อยู่รอบตัวทำให้เขาพยายามที่จะลืมตามองแต่ทำไมมันหนักแบบนี้นะ.. มันเจ็บทั้งตัวและยังขยับไม่ได้อีก… เขาอยู่ที่ไหนกันและเขาเป็นอะไรกันแน่…
ตึกตึกตึก….
“อย่าพึ่งขยับครับ.. ขอให้หมอตรวจเช็คร่างกายคุณก่อนนะครับ…”
และนั่นก็เป็นประโยคแรกที่เขาได้ยิน.. เขาเป็นอะไรนั้นตอนแรกเขาก็ไม่รู้แต่เมื่อเขาตั้งสติได้เขาก็พอจับใจความได้ว่าเขานั้นอยู่ที่โรงพยาบาล.. เขาประสบอุบัติเหตุ.. ใช่สิเขาประสบอุบัติเหตุ.. แต่เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่าเขาไปโดนอะไรมา เขาเจออะไรกันแน่…
ก๊อกๆๆ
“ ขออนุญาตค่ะ.. คนไข้เจ็บตรงไหนบ้างไหมคะนอกจากที่ขา..”
“ ไม่ครับ.. ไม่เจ็บตรงอื่นครับ.. ว่าแต่.. ผมไปเจออะไรมากันแน่ครับ…” ดูแล้วเขาน่าจะขาหักเข้าให้.. แต่ไม่มีอาการปวดหัวหรือว่าเจ็บต้นคออย่างที่คุณหมอท่านกังวล.. โชคดีที่เขาใส่หมวกกันน๊อคเอาไว้มันเลยทำให้หัวของเขาไม่กระแทกจนได้รับความบาดเจ็บที่คอและหัว แต่ก็นะ.. ขาของเขาหักจนต้องใส่เฝือก.. แขนก็หัก.. ทำไมมันช่างซวยอะไรแบบนี้ด้วยนะ..
“เรื่องนั้นต้องรอให้คุณตำรวจมาคุยนะคะพอดีดิฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเรื่องราวเป็นยังไง ถ้าคนไข้ต้องการอะไรก็กดปุ่มนี้เรียกได้ตลอดนะคะ…”
“ครับ.. ขอบคุณครับ…”
เพียงแค่พยาบาลออกจากห้องไปความรู้สึกต่างๆนาๆไม่ว่าจะสภาพร่างกายที่เขาสามารถเห็นได้ในตอนนี้.. จิตใจของเขาที่มันเริ่มรู้สึกห่อเหี่ยวและเป็นกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย.. มันทำให้เขารู้สึกดิ่งและไม่อยากที่จะอยู่ให้เป็นภาระปาล์มเอาซะเลย..
“เราควรทำยังไงดี… โรงพยาบาลเอกชน.. ค่าใช้จ่าย.. แล้วประกันสงคมอีกล่ะ เราจะได้ค่าชดเฉยที่เราลาป่วยไหม? ทำยังไงดี…” สมองของเขามีแต่เรื่องราวต่างๆนาๆวิ่งเข้าใส่จนมันเริ่มทำให้เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาตึ๊บๆ… เขาควรจะเริ่มจากตรงไหนดี..
ก๊อกๆๆ
“ไปป์.. ตัวตื่นแล้ว.. เป็นยังไงบ้างเราเป็นห่วงตัวมากเลยรู้ไหม…”
ปาล์มนั่นเอง… ในขณะที่เขากำลังนั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง.. ตอนนั้นเขามีความคิดแค่ไม่กี่อย่างก็คือ… หรือเขาควรจะเลือกที่หยุดปัญหาและภาระให้ปาล์มดี… จากตรงที่เขาอยู่นี่.. มันก็ทำให้เขาไม่ต้องทุกข์ทรมานอีกต่อไปและปาล์มจะได้ไม่ต้องมามีภาระเพิ่มขี้นอีก.. ภาระที่ชื่อว่าไปป์… เราสองคนทำงานก็จริงแต่หลายต่อหลายเรื่องเป็นปาล์มหมดเลยที่เป็นคนจัดการ เขามีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับไม่มี.. เงินเดือนก็น้อย ภาระค่าใช้จ่ายก็เยอะ.. เขาสงสารปาล์มถ้าเขาเลือกได้.. เขาไม่อยากเป็นภาระของปาล์มเลยสักนิด…
“ปาล์ม.. ตัวไม่ไปทำงานเหรอ? ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนเขาก็ได้นะ…” แฝดของเขานั่งเฝ้าเขาทั้งวันไ่ม่ยอมกลับไปไหนเลย.. แล้วแบบนี้เขาจะจัดการตัวเองยังไงล่ะ…
“ไม่ไป เราลาเจ้านายแล้ว.. เรื่องค่าใช้จ่ายตัวไม่ต้องเป็นห่วงนะไปป์ เราได้ทำเรื่องกู้ยืมกับทางบริษัทเอาไว้แล้วน่ะสำหรับพนักงานมันมีสวัสดิการแบบนี้อยู่.. ส่วนเรื่องคู่กรณี.. คงจะต้องรอดูต่อไปว่าจะเป็นยังไงเพราะทางคุณตำรวจก็ยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร ฝ่ายนั้นหนีไปก่อน แต่ยังพอมีคนเห็นเหตุการณ์อยู่นะเราว่าอีกไม่นานตำรวจก็คงจะจับตัวได้…”
ในขณะที่พี่สาวฝาแฝดของเขาพูดไปมือก็แกะส้มไปด้วย.. น้ำเสียงและท่าทางของปาล์มก็ดูจะมีเรื่องกังวลใจมากอยู่เหมือนกัน..
“ปาล์ม.. เราไม่อยากเป็นภาระให้ปาล์มเลย.. ”
“หยุดนะไปป์ เรามีไปป์แค่คนเดียวนะ ไปป์จะทิ้งเราเอาไว้คนเดียวเหรอ? ไปป์ไม่สงสารเราเหรอไปป์.. ขอร้อง.. อย่าไปไหน อย่าคิดทำอะไรไม่ดี เราขอห้าม ทั้งชีวิตเราเหลือไปป์แค่คนเดียว.. เราอยู่ไม่ได้นะถ้าไปป์จะทิ้งเราไปเราขอร้องได้ไหม.. อยู่เป็นเพื่อนเรา เราเกิดมาพร้อมกัน เราก็ต้องอยู่ไปด้วยกันตลอด ถ้าไปป์ทิ้งเราไป.. เราก็จะตามไปป์ไปทันที…”
“ไม่ๆ ปาล์ม.. ไม่เอา ไม่ทำ เราไม่ทำนะ เราจะไม่ทำ…”
สุดท้ายสิ่งที่เขาคิดมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เขาต้องการ.. เพียงเพราะน้ำตาของปาล์ม.. ปาล์มพูดถูก ถ้าเขาทิ้งปาล์มไป.. แล้วปาล์มจะอยู่ยังไง เราเกิดมาพร้อมกัน เราโตมาด้วยกัน เราทำอะไรต่างๆนาๆมาด้วยกัน.. เขาจะมาตัดช่องน้อยแต่พอตัวแบบนี้ไม่ได้..
ถ้าเธอรู้ว่าการที่เธอไปหาเรื่องไอ้ผู้ชายคนนั้นของพี่ณุแล้วจะทำให้ครอบครัวของเธอมีปัญหาถึงเพียงนี้…“แกไปทำอะไรให้ภาณุเขาโกรธแกช่วยบอกฉันมาได้ไหมยัยสา..”“คุณพ่อ… แล้วคุณพ่อจะถามอะไรหนักหนาคะ? เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว..” ใช่เรื่องมันผ่านมาแล้วแต่.. ธุรกิจของทางบ้านเธอมันยังคงมีปัญหาอยู่นี่สิ.. เธอจำได้หลังจากวันที่เธอไปหาเรื่องผู้ชายคนนั้น.. ผู้ชายของพี่ณุ.. หลังจากนั้นไม่นานพ่อของเธอก็โทรตามเธอกลับบ้านเมื่อเธอมาถึงบ้านเธอก็โดนพ่อตบเข้าให้ที่ใบหน้าของเธอ.. แม่ของเธอไม่ได้ช่วยหรือพูดอะไรเลยสักนิด.. เมื่อคุณพ่อเริ่มพูดเธอก็ถึงรู้ว่าพี่ณุได้ยกเลิกสินค้าทุกสิ่งทุกอย่างของครอบครัวเธอไป ยกเลิกสัญญาทุกอย่างที่บริษัทของเธอและของพี่ณุทำร่วมกัน.. ไม่เพียงเท่านั้นกิจการเล็กๆของเธอก็ถูกดิสเครดิตไปด้วย..มันทำให้เธอถึงกับไปต่อไม่เป็น เธอต้องฝ่าฝันมรสุมครั้งนี้อยู่นานเลยทีเดียวแต่มันก็ไม่ได้ดีขึ้นมาเลยสักนิด…“ถ้าแกไปขอโทษเขา… ไม่แน่ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นกว่านี้…”นั่นคือสิ่งที่พ่อเธอพูดกรอกหูมาตลอด.. เธอไม่อยากไปขอโทษเพราะเมื่อใดที่เธอไปขอโทษนั่นก็หมายความว่าเธอเป็นคนผิด.. เธอไม่ผิด เธอไม่ชอบผู้ชายคนนั้น.
สิ่งที่เขาทำกับไปป์มันคือความรู้สึกจริงๆของเขา… เขาไม่เคยรักใครมาก่อนแต่เขากลับมาแพ้ทางให้กับผู้ชายตัวเล็กคนนี้.. ผู้ชายหน้าสวย ทำกับข้าวเก่ง น่ารัก ใสซื่อ.. รักครอบครัวคนนี้… เขารักหัวปรักหัวปรำ ไปป์ไม่ต้องเล่นคุณไสยมนต์ดำอะไรใส่เขาเลย แค่รอยยิ้ม แค่ความโก๊ะ ความเปิ่นของไปป์มันก็ทำให้เขาหลงจนหาทางออกไม่เจอแล้ว.. วันนี้เขาต้องทำอะไรสักอย่าง… เขาไม่อยากเสียไปป์ไปแล้ว เพียงแค่ไม่กี่วันที่ไปป์ไปจากเขามันก็ทำให้เขาแทบจะไม่มีแรงใช้ชีวิตแล้ว.. และถ้าเขาปล่อยให้ไปป์หลุดมือไปอีก.. เขาคงจะต้องขาดใจตายแน่ๆ..“ จะไปไหนครับ?” อยู่ๆคุณณุก็พาเขาขึ้นรถโดยไม่ยอมบอกอะไรเลยสักนิด.. และดูเหมือนคุณณุจะดูรีบร้อนยังไงบอกไม่ถูก“มาเถอะนา.. ไม่ต้องถามมากถึงแล้วก็จะรู้เองนั่นแหละ.. ” ขยันสงสัย.. เรื่องขี้สงสัยนี่ยืนหนึ่ง.. แต่ถามว่าเข้าใจไหมก็ไม่ แต่ขอแค่สงสัยไว้ก่อนเฮ้อ.. เขาก็เลยไม่รู้อะไรเลยสินะ.. แต่ช่างเถอะแค่ไม่พาเขาไปทิ้งทะเลก็พอแล้ว…….“เอ๊ะ.. นี่มัน.. มาทำไมครับคุณณุ…” ทำไมคุณณุถึงพามาบ้านปาล์มล่ะ… หรือว่า.. ดีใจจังคุณณุจำได้ด้วยว่าเขาอยากเจอหลานๆ..“ลงมาเถอะ.. เข้าไปในบ้านกันได้แล้ว..” สงสัยเก่ง ข
เรื่องราวของเขาที่กำลังเจออยู่มันเป็นเรื่องบ้าบอขั้นสุดเลยก็ว่าได้.. จากที่เขาคิดว่าเขาจะได้อยู่อย่างเงียบสงบและทำในสิ่งที่เขาชอบแต่มันไม่ใช่.. ตอนนี้เขามีคุณณุที่เทียวไปเทียวมาเขามันบ้า เขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้าการไปมาระหว่างที่นี่และที่ทำงานมันต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมงในการขับรถแต่คุณณุเขาไม่ยอมแพ้.. คุณณุบอกว่า ถ้าเขาไม่กลับไปอยู่ที่บ้านของคุณณุ คุณณุจะไปๆมาๆที่นี่กับบริษัท.. และคุณเขาก็ทำจริงๆด้วยสิ“ เมียครับ.. ไปทำงานก่อนนะเดี๋ยวผัวจะรีบไปรีบกลับ อาบน้ำปะแป้งรอหอมๆเลยนะครับ.. หิว…”โอ้ย.. ทำไมเขาเป็นแบบนี้นะ ทำไมคุณณุถึงเป็นคนแบบนี้นะ.. ทะลึ่ง คิดแต่เรื่องบนเตียงอยู่ได้.. แค่นี้เขาก็จะตายแล้วนะ.. ไม่ไหวแล้ว..“ ไม่ต้องรีบครับ คุณณุควรจะขยันทำงานด้วยนะครับไม่ต้องรีบ..” เฮ้อ.. เหนื่อยนะคุณณุช่วงนี้ทำตัวเหมือนเด็กน้อยที่กำลังงอแงอยากได้ของเล่นชิ้นหนึ่งเอามากๆ และเขาขี้งอแงมากๆด้วย.. เฮ้อ…“ไม่.. ถ้าอยากให้ทำงานนานๆก็ต้องมาทำด้วยกัน.. ขอโทษได้ไหมครับเมีย.. ขอโทษนะครับ.. ตอนนั้นมันไม่รู้จะทำตัวยังไงนี่นา.. แต่ตอนนี้รักม้ากมาก.. กลับไปอยู่ด้วยกันนะครับเพราะว่าคิดถึง.. อยากเห็นหน้
หมับ…“หยุดนะไปป์ นายหนีฉันไม่ได้อีกแล้ว.. นายหนีฉันไม่พ้นแล้ว..” บ้านก็หลังแค่นี้จะวิ่งหนีไปไหนได้อีก..แฮ่กๆๆ“คุณณุ.. คุณณุปล่อยผม ปล่อยผมก่อน..” เหนื่อยมาก เหนื่อยสุดๆไปเลย แล้วแรงคุณณุก็มีมากมายมหาศาลแบบนี้.. เล่นเอาเขาเหนื่อยหอบไปเลยน่ะสิ“ นายจะหนีฉันอีกไหมไปป์ นายยังคิดหนีฉันอีกรึเปล่า?” เอาสิ ถ้าหนีเขาก็จะตาม ตามไปจนกว่าจะตายกันไปข้างนึงเลย..“ไม่ครับ.. ไม่แล้ว.. เหนื่อยแล้ว.. คุยกันดีๆนะครับคุณณุ.. ” เขาจะหนีไปไหนได้ล่ะตอนนี้เพราะมันไม่มีที่ให้หนีแล้วยังไงเล่า.. และที่สำคัญมันดันมาอยู่ในห้องนอนของเขาอีกนี่สิ…“ดี.. ดีมาก..”ในที่สุดยอด.. ในที่สุดเขาก็เจอสักที ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับถูกกระชากหัวใจออกไป ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องว้าวุ่นกระวนกระวายหัวใจ..ไปป์ที่เสียเปรียบคุณณุอย่างจังเขาทำได้แค่นอนนิ่งๆอยู่บนเตียงนอนของเขา.. การที่คุณณุนั่งคล่อมเขาอยู่จากข้างบนมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆขึ้นมา.. ไม่รู้สิและการที่คุณณุจ้องมาที่เขา.. มันทำให้เขาทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน…มือหนาของเขาค่อยๆเอื้อมไปยังใบหน้าของไปป์อย่างเชื่องช้า.. เขาไม่รู
เสียงโหวกเหวกที่ดังอยู่หน้าบ้านทำให้เขาต้องลุกไปมองเพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไร อันที่จริงเขาพึ่งมาอยู่ที่นี่ได้จะสองอาทิตย์แล้วแต่ก็นะ ทุกอย่างคือใหม่สำหรับเขาหมด ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน คนรอบข้างหรืออะไรก็ตาม เขาเลือกที่จะมาอยู่ที่นี่เพราะมันไม่มีใครที่รู้จักเขา โชคดีที่อย่างน้อยมิ้นก็ช่วยเขาเรื่องที่อยู่.. มิ้นให้เขามาอยู่แถวบ้านมิ้นที่ต่างจังหวัด นั่นเลยทำให้เขาอยากที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่อีกครั้ง.. และสิ่งที่เขาทำก็คือทำอาหารขาย ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะรอดหรอก เพราะแถวนี้ก็มีคนขายเยอะเหมือนกันแต่พอเขาได้เริ่มขายและช่วงแรกๆอาศัยทำแจกบ้างแถมบ้าง มันก็เลยเป็นการประกาศไปทั่วหมู่บ้านว่าเขาทำอาหารขายมีทั้งแบบสั่งออนไลน์ และสั่งหน้าร้าน มันก็ทำให้เขาพอมีรายได้เข้ามาบ้าง…“ มีอะไรกันเหรอครับป้าหนึ่ง..” เสียงมันดังมาจากฝั่งตรงข้ามบ้านเขานั่นเองที่สำคัญมันดังมากๆด้วยสิ“ ผัวเมียทะเลาะกันน่ะไปป์.. เห็นว่าผัวไปมีเมียน้อยล่ะมั้ง เมียจับได้เลยทะเลาะกันใหญ่โตเลยล่ะ.. ก็อย่างว่านะ เมียน้อยท้องเกือบ 5เดือนแล้วน่ะสิ.. เสียดายนะ เมียออกจะนิสัยดีขนาดนั้น วันๆก็อยู่บ้านทำนั่นทำนี่ ดูแลบ้าน
ได้ดิในเมื่อเขาเรียกก็แล้วแต่เจ้าตัวยังไม่เปิดประตูออกมา.. งั้นเขาก็ทำตามประโยคถัดไปก็แล้วกัน…“ไปป์… ออกมานะ มาคุยกันให้รู้เรื่อง.. ไปป์.. ไปป์..”ตึกตึกตึก…ไปไหนวะ ทำไมห้องเงียบๆ.. หรือว่าจะลงไปหาของกินข้างล่าง..เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นของเจ้าของบ้านดังลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างเร่งรีบ.. ฝีเท้าของเจ้าของบ้านปรี่มายังห้องครัวของบ้านทันทีเพราะเขาต้องการพูดคุยกับคนที่ทำให้เขาโมโหร้ายมาเป็นอาทิตย์…“ไปป์.. ไปป์..” ไม่อยู่.. ไม่อยู่ในครัว.. แล้วไปไหน..ผู้ชายร่างสูงใหญ่กำยำเดินไปเดินมาทั่วบ้านเพื่อหาใครบางคน.. ขายาวๆของเขาก้าวไปทั่วทิศทางของตัวบ้าน.. ทุกห้องที่เขามี ทุกที่ที่เขาอยู่เขาก็ไล่ตามหาคนที่เขาต้องการคุยมากที่สุด.. คนที่เขาอยากได้ยินคำว่าขอโทษ“ไปป์.. ไปป์!!! ฉันไม่ตลก ออกมานะ ออกมาเดี๋ยวนี้!!” ให้ตายสิวะ เขาเดินรอบบ้านแล้วนะ ทุกห้องทุกบริเวณของตัวบ้านเขาก็เดินจนครบแล้วนะทำไมไม่เจอตัวต้นเรื่องนะ..ตึกตึกตึก….“พวกแก.. เห็นไปป์ไหม?” ไม่ได้การเขาต้องถามคนเฝ้ายามประตูสักหน่อย..“อ๋อ.. ออกไปแล้วครับ ออกไปไหนไม่รู้ครับเห็นหอบกระเป๋าไปด้วย..”“อะ.. อะไรนะ? ออกไปแล้ว แล้วให้ออกไปได้ยังไ