โต๊ะประจำของเจที่หลังตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์ เป็นมุมสงบที่เธอมักมานั่งพักผ่อนช่วงว่าง เสียงลมอ่อน ๆ พัดผ่านต้นไม้รอบบริเวณ เพิ่มความเย็นสบายให้บรรยากาศ แต่ความคิดของเจกลับไม่ได้สงบเหมือนสภาพแวดล้อมรอบตัว
เธอนั่งมองนามบัตรในมือเล่น หมุนมันไปมาระหว่างนิ้วอย่างใช้ความคิด
เอาไงดีเนี่ย...
เกมใหม่เลยนะ...
แต่...เขาชวนเราทำไม?
“เจ เจ!!” เสียงเรียกดังลั่นดึงเธอออกจากภวังค์ เจสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสาวที่ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า
“ห๊ะ?”
“เหม่อไปไหนของแกวะ?” แพรวาพูดพลางนั่งลงตรงข้าม ยื่นนิ้วชี้มาจิ้มแก้มของเจเบา ๆ
“เออ คิดไรเพลินๆ น่ะ” เจตอบปัด ๆ พร้อมกับดันมือเพื่อนออก
“แก พรุ่งนี้มีงานปาร์ตี้ประจำควอเตอร์ ไปกันมั้ย?” แพรวาพูดพลางทำตาเป็นประกายแบบอ้อนสุด ๆ
“ไม่ไปอะ”
“โหย แกอะ ไปหน่อยเหอะ นะ นะ นะ พรีสสสส!” แพรวาทำเสียงอ้อนสุดชีวิต พร้อมเขย่ามือเจไปมา
“อะไรของแกวะ ทำไมต้องอยากไปขนาดนั้น?” เจเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัย
“ก็....รอบนี้ เป็นคิวของกรุ๊ปพี่แทนไทจัดปาร์ตี้อะ อ๊ายย”
แพรวาทำท่าเขินอายมิดเมี้ยน พร้อมกรี๊ดเบา ๆ
“แล้ว?”
“พี่แทนไทปิดผับอีคลิปส์ ลักซ์ เลาจน์ เลี้ยงเลยนะ ผับหรู ไฮโซ ไม่ใช่ใครจะเข้ากันได้ง่าย ๆ นะจ๊า” แพรวามีสีหน้าตื่นเต้นเพิ่มขึ้นอีก
“แล้ว?”
“ฉันอยากไปอะ ไปเป็นเพื่อนกันหน่อยน้า นะ นะ นะ” แพรวาอ้อนสุด ๆ พร้อมจับแขนเจเขย่าเบา ๆ
เจมองหน้าเพื่อน ก่อนจะถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย
“เออๆ ไปก็ได้”
“เย้! งั้นไปซื้อชุดกัน” แพรวาร้องด้วยความดีใจ ถึงกับปรบมือและยิ้มกว้าง
“พรุ่งนี้ได้มะ วันนี้ฉันมีธุระ”
แพรวาหรี่ตามอง “ธุระอะไร?”
“เออน่ะ...” เจเลี่ยงตอบรายละเอียด ขณะที่คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อย ราวกับกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“พรุ่งนี้เจอกัน”
แพรวาเอนตัวมองหน้าเพื่อนอย่างสงสัย แต่เจรีบลุกขึ้นก่อนที่จะถูกซักไซ้ต่อ
‘ช่างมันละกัน ลองไปดูหน่อยก็ไม่เสียหาย’
เจคิดในใจก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้แพรวามองตามหลังเธอด้วยสีหน้างุนงง
• • • • • • •
เจยืนมองบ้านหลังตรงหน้าด้วยความแปลกใจ สายตาของเธอกวาดไปทั่วอาคารที่ดูแปลกตา ราวกับเป็นการผสมผสานระหว่างบ้านพักอาศัยและออฟฟิศสมัยใหม่
ตัวอาคารสีขาวสะอาดตา มีหน้าต่างบานใหญ่กรอบสีดำเรียงรายอยู่ทั่วด้านหน้า ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง หลังคาทรงแบนแบบโมเดิร์นเสริมด้วยสวนหย่อมเล็ก ๆ บนดาดฟ้าที่มองเห็นได้จากด้านล่าง
บริเวณทางเข้าถูกตกแต่งด้วยไม้ประดับเรียงรายสองฝั่งของบันไดหินอ่อน มีป้ายโลโก้เล็ก ๆ แบบมินิมอลติดอยู่ที่กำแพงข้างประตูแก้วอัตโนมัติ บ่งบอกว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงบ้านธรรมดา
เจก้มลงมองที่อยู่ในนามบัตรในมืออีกครั้ง สลับกับบ้านตรงหน้า
“ที่นี่เหรอ... ดูไม่เหมือนออฟฟิศเลยแฮะ”
เจพึมพำกับตัวเอง ขณะยืนอยู่หน้าตึกที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่จัดไว้อย่างพิถีพิถัน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ผสมกับกลิ่นดินชื้นหลังรดน้ำสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
แต่ความเงียบสงัดรอบ ๆ กลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังย่างเท้าเข้าสู่สถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับ
เจเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะยกนิ้วขึ้นลังเลที่จะกดกริ่งหน้าประตู
“มาแล้วเหรอ?”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้เจสะดุ้งเล็กน้อย เธอหันไปมองก็พบกับแทนไทที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่ง ดวงตาคมจ้องมองเธอด้วยท่าทางนิ่ง ๆ
“เอ้อ...ค่ะ” เจหันไปพยักหน้า พร้อมส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้เขา
“เข้ามาสิ”
แทนไทพูดเรียบ ๆ ก่อนจะเดินนำหน้าเธอไปยังประตูโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ร่างสูงเพียงเหลือบตามองเธอเล็กน้อย เขายื่นหน้าเข้าไปสแกนใบหน้าที่หน้าประตูอิเล็กทรอนิกส์ เสียงสัญญาณดังเบา ๆ ก่อนที่ประตูจะเปิดออกอัตโนมัติ
เจมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาเบิกกว้าง ทั้งประหลาดใจและประทับใจกับเทคโนโลยีที่ดูทันสมัย
“ว้าว... ประตูเปิดอัตโนมัติเลยเหรอคะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
แทนไทเหลือบมองเธออีกครั้ง ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากเล็ก ๆ
“ก็ไม่ได้แปลกอะไรสำหรับที่นี่ เดี๋ยวเธอจะเจออะไรที่น่าสนใจกว่านี้อีก”
“เช่นอะไรบ้างคะ?” เจรีบก้าวเดินไปเคียงข้างเขา ริมฝีปากบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอยากรู้
แทนไทไม่ได้ตอบทันที เขาเหลือบตามองใบหน้าสวยหวานของเจ ดวงตากลมโตเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ก่อนที่สายตาของเขาจะเลื่อนต่ำไปยังริมฝีปากบางสวยที่ขยับถามคำถามนั้น
“เดี๋ยวก็รู้” เขาตอบสั้น ๆ น้ำเสียงเรียบง่าย แต่แฝงความนัยบางอย่าง
แทนไทเดินนำเจไปยังห้องทำงานส่วนตัวที่ตั้งอยู่ภายในอาคาร
“ที่นี่เป็นออฟฟิศเหรอคะ? ฉันนึกว่าเป็นบ้านเสียอีก”
“ที่นี่ใช้แค่ฉันกับเพื่อนอีกสองคนทำงานเท่านั้นล่ะ” แทนไทตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของเขา
โต๊ะทำงานของแทนไทดูเรียบง่ายแต่แฝงความล้ำสมัย บนโต๊ะมีจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ถึงสองจอ ตั้งคู่กันอย่างสมมาตร แสงจากหน้าจอสะท้อนแสงไฟแบบ ambient ในห้องให้ดูอบอุ่น แต่ก็แฝงความไฮเทค คีย์บอร์ดเชิงกลแบบ RGB เปล่งแสงสีขาวนวล เมาส์ไร้สายดีไซน์ทันสมัยถูกวางข้างกันอย่างเป็นระเบียบ
บนโต๊ะยังมีแท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ที่ถูกตั้งไว้ในมุมหนึ่ง พร้อมกับหูฟังครอบหูระดับไฮเอนด์ที่แขวนไว้อย่างเรียบร้อย ข้าง ๆ นั้นมีกองเอกสารที่จัดเรียงไว้อย่างไม่รกจนเกินไป บ่งบอกถึงความเป็นระเบียบของเจ้าของ
แทนไทนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ วางมือบนคีย์บอร์ดก่อนจะเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เสียงพัดลมระบายความร้อนในเครื่องทำงานเบา ๆ แสดงถึงพลังของฮาร์ดแวร์ที่ถูกอัปเกรดมาอย่างดี
“นี่คือที่ที่คุณทำงานเหรอคะ?” เจถามพลางกวาดตามองอุปกรณ์ทั้งหมดด้วยความทึ่ง
“ใช่” แทนไทตอบเรียบ ๆ ก่อนจะพิมพ์บางอย่างลงในคอมพิวเตอร์ หน้าจอแสดงผลของโปรเจกต์ที่เต็มไปด้วยโค้ดและภาพคอนเซปต์เกมที่ดึงดูดสายตาของเจในทันที
“มาสิ มาดูใกล้ ๆ” เขากล่าว พลางเอนหลังพิงเก้าอี้ สายตาคมกริบจับจ้องไปที่เจ
ดวงตากลมโตของเจสบเข้ากับสายตาของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว หัวใจของเธอเต้นระส่ำ รู้สึกเหมือนถูกสะกดไว้ สายตาของแทนไทราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เธอไม่อาจเป็นตัวของตัวเองได้
เจกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย พยายามรวบรวมสมาธิ
ใจเย็นไว้...เจ
แค่หน้าหล่อๆ ทำใจเต้นแรงไปหมดแล้วไง (>.<)
แล้วสายตาอีก แดมเมจจะแรงไปไหนพ่อ!!
จะรอดจากตรงนี้มั้ย อีเจ!!
เธอสูดหายใจลึก ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาเขา ราวกับทุกการเคลื่อนไหวถูกดึงดูดโดยพลังบางอย่าง
“เป็นไง?” แทนไทถาม ขณะที่มุมปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย
เจพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
“ค่ะ... ดูน่าสนใจดี”
เธอยืนอยู่ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ สายตามองภาพบนหน้าจออย่างตั้งใจ โลกในเกมที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งระบบโค้ดซับซ้อน ดีไซน์ของเกมที่อลังการ และตัวละครที่ถูกออกแบบอย่างประณีต ทุกอย่างทำให้เธอตื่นเต้น
ในขณะที่เจจดจ่อกับภาพบนหน้าจอ แทนไทที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้เธออย่างเงียบ ๆ
เขารับรู้ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและไม่เคยเจอจากที่ไหนมาก่อน กลิ่นนั้นดึงความสนใจของเขาไปจนแทบไม่อยากละสายตา
กลิ่นหอมจากตัวเธอนี่...ทำใจสั่นสุดๆ
เวลาที่เธอมีสมาธิแบบนี้...น่ารักโคตรๆ
แทนไทเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเผลอคิดในใจ
นี่เหรอ...ตัวจริงของ J.W.
ความปรารถนาที่เขาเก็บงำมานานพลุ่งพล่านขึ้นในใจ เขารู้ดีว่าเขาพยายามมากแค่ไหนกว่าจะได้พบเธอในวันนี้ ความใกล้ชิดทำให้เขายิ่งรู้สึกถึงความต้องการที่ล้นทะลัก
เขาอยากได้เธอ...
อยากเอา...
ตอนนี้เลย...
แทนไทสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในใจ เขาหลุบตาลง พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เสียการควบคุม
เชี่ยเอ๊ย!! ใจเย็นไว้ไอ้แทน!
เขากำมือแน่น สายตายังคงจับจ้องเจที่ยังสนใจอยู่กับหน้าจอ
เธอคือ J.W.
เธอคือคนที่เขาตามหา...
ตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าเขาแล้ว...
แทนไทหันหน้าหนีเล็กน้อย พยายามเรียกสติกลับมา เขาแทบจะเก็บอาการไว้ไม่ไหว ความรู้สึกอยากคว้าตัวเธอมากอด มาจูบให้สมกับความปรารถนาที่เก็บไว้...มันแทบจะล้นทะลัก
แต่เขารู้ดีว่าต้องรอจังหวะ รอให้เธอรู้สึกแบบเดียวกับเขา
และเมื่อถึงตอนนั้น...เขาจะไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาด
เจที่กำลังจ้องหน้าจอที่แสดงโค้ดรันระบบบางอย่าง เธอเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ตรงนี้ดูมันแปลกๆ นะคะ...อ๊ะ!”
จังหวะที่เธอถอยออกจากโต๊ะเพื่อบอกแทน ขาของเธอกลับสะดุดเข้ากับขาของเขาอย่างไม่ตั้งใจ ร่างบางเสียหลักถลาไปข้างหลัง
ก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัว ร่างบางก็ล้มลงไปนั่งบนตักของเขาในลักษณะหันข้าง แขนแกร่งของแทนไทรวบเอวเธอไว้แน่นราวกับจงใจ มือของเจยันไปที่บ่ากว้างเพื่อพยุงตัว แต่กลับเหมือนจะเพิ่มความแนบชิดมากขึ้น
ดวงตาของทั้งคู่สบกันนิ่งงัน เสี้ยววินาทีนั้นราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ดวงตาคมกริบสีน้ำตาลเข้มสบเข้ากับดวงตากลมโตของเธอด้วยแววตาที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบระเบิด ริมฝีปากสวยของเขายกยิ้มเพียงเล็กน้อย แต่กลับสะกดเธอเอาไว้
“คะ..คุณแทน...”
เขาไม่ได้ตอบอะไร ใบหน้าคมเข้มของเขาโน้มเข้ามาใกล้ ใกล้จนเธอแทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่แตะบนแก้มของเธอ
และก่อนที่เธอจะตั้งตัวได้...ริมฝีปากหนาของเขาก็กดทาบลงบนริมฝีปากบางของเธอทันที
เจเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือเรียวพยายามดันไหล่กว้างของเขาออก แต่แทนกลับใช้มืออีกข้างรั้งท้ายทอยของเธอไว้แน่น ริมฝีปากร้อนกดลึกลงไปอีก ขยับไล่ต้อนริมฝีปากบางของเธออย่างร้อนแรง
“อื้ม...!”
เธอครางแผ่วเบาเมื่อเขาขบริมฝีปากล่างของเธออย่างยั่วเย้า เจรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง ความรู้สึกหวานล้ำจากจูบของเขาทำให้เธอแทบหมดแรงจะต่อต้าน
เมื่อเธอเผลอเผยอริมฝีปากเพียงเล็กน้อย เขาก็ไม่รอช้า ส่งลิ้นร้อนของเขาเข้าไปสำรวจในโพรงปากเล็ก ไล่ต้อนลิ้นเล็กของเธออย่างเอาแต่ใจ ราวกับต้องการครอบครองทุกส่วนของเธอ
มือหนาที่โอบเอวบางเพิ่มแรงกดแน่นขึ้น ขณะที่เขาขยับริมฝีปากเพื่อเปลี่ยนมุม เพิ่มความลึกซึ้งและเร่าร้อนในการจูบ เจรู้สึกเหมือนร่างทั้งร่างกำลังละลายไปกับสัมผัสที่ร้อนแรงนั้น
เธอพยายามหันหน้าหลบเล็กน้อย แต่เขาไม่ปล่อยให้เธอหนี มือหนารั้งท้ายทอยของเธอแนบแน่นขึ้นอีก พร้อมกับเพิ่มแรงจูบอย่างหนักหน่วงและร้อนแรง
เสียงลมหายใจที่ปะปนกันยิ่งเติมเต็มบรรยากาศเร่าร้อน เจรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงดูดเข้าไปในโลกของเขาอย่างสมบูรณ์ หัวใจเต้นรัวจนแทบหลุดออกจากอก แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงจะหนีออกจากสัมผัสนี้
เขาผละริมฝีปากออกมาเพียงเล็กน้อย ปล่อยให้เธอได้หอบหายใจ ดวงตาคมที่มองเธอฉายแววปรารถนาชัดเจน
“อย่าเพิ่งหนี...เพราะฉันยังไม่พอ”
และก่อนที่เธอจะทันได้ตอบอะไร ริมฝีปากร้อนก็ทาบลงไปอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งเร่าร้อนและดุดันกว่าเดิม...
เสียงบรรเลงเปียโนแผ่วเบาของ Canon in D คลอเคลียไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติกของ Aurora Grand Hall สถานที่จัดงานแต่งงานสุดหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามเหนือคำบรรยายภายในฮอลล์กว้างใหญ่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวนวล สลับกับสีพีชและทองอย่างลงตัว ซุ้มดอกไม้ที่ตกแต่งด้วย ไลแลค และ ไฮเดรนเยีย ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย แสงไฟจากแชนเดอเลียร์คริสตัลที่ห้อยระย้าอยู่เหนือศีรษะส่องประกายระยิบระยับ เพิ่มความหรูหราให้กับงานราวกับงานราตรีในเทพนิยายพรมยาวสีงาช้างทอดตัวจากประตูทางเข้าจรดแท่นพิธี สองข้างทางเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ ทุกสายตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า—ที่ซึ่งช่วงเวลาสำคัญของงานกำลังจะเริ่มขึ้นบนเวทีหลัก มีจอ LED ขนาดใหญ่กำลังฉายภาพของคู่บ่าวสาว ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงวันที่พวกเขาก้าวข้ามทุกอุปสรรคและยืนเคียงข้างกันในวันนี้—วันที่พวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกัน—และแล้ว ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก—เสียงบรรเลงดนตรีดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง แขกในงานต่างกลั้นหายใจ เฝ้ารอการปรากฏตัวของเจ้าสาวที่แท่นพิธี เจ้าบ่าว—แทนไทยืนรออยู่ในชุดสูททักซิ
ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่และกุหลาบขาวอบอวลไปทั่ว ผสมกับกลิ่นหอมจางๆ ของเครื่องหอมที่จุดไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้สงบและผ่อนคลายแสงแดดยามสายส่องผ่านม่านโปร่งสีขาว กระทบกับชุดเจ้าสาวที่เจสวมใส่อยู่ ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินเนื้อนุ่ม แต่งด้วยลูกไม้ปักมือที่แสนประณีต ประดับไข่มุกเม็ดเล็กละเอียดราวกับหยดน้ำค้างต้องแสง กลีบผ้าถูกออกแบบให้พริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงวาววับราวกับต้องมนต์เจนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ผิวเนียนละเอียดของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตากลมสวยสะท้อนเงาของตัวเองในกระจก ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย ปล่อยปอยผมนิดๆ ลงมารับกับกรอบหน้าทำให้ดูอ่อนหวานกว่าเดิมเธอขยับมือสัมผัสชายกระโปรงเบาๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับเพิ่งตระหนักได้จริงๆ ว่าวันนี้...เป็นวันแต่งงานของเธอ“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแผ่วเบาหลุดออกมา เธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงาน... แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปเพียงสามเดือนก่อน ข่าวการหมั้นหมายของเธอกับแทนไทกลายเป็นกระแสใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะได้แต่งงานกับเจ้าของบริษัทเ
สามเดือนต่อมา—บรรยากาศภายใน Aurora Convention Hall คึกคักไปด้วยเสียงฮือฮาของเหล่านักข่าวและแฟนเกมที่มารวมตัวกันเพื่องานแถลงข่าวครั้งยิ่งใหญ่ของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอบนเวทีหลัก จอ LED ขนาดยักษ์ฉายภาพโลโก้ของเกมใหม่ล่าสุด ‘Helios Online’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โปรเจกต์ H—เกมออนไลน์ระดับ Next-Gen ที่ใช้เทคโนโลยี Neural AI อันล้ำสมัย ซึ่งสามารถพัฒนาและตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างอัจฉริยะและบุคคลที่กำลังได้รับความสนใจจากทุกสายตาในตอนนี้ คือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำสง่า ‘แทนไท ไทระ คณิณัตถ์’ ซีอีโอของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอเขานั่งอยู่บนเวทีหลัก ข้างๆ กับคณะผู้บริหารและทีมพัฒนา ใบหน้าคมเข้มยังคงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจแสงแฟลชจากกล้องจำนวนมากสาดส่องมายังเวทีแทนไทนั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟน ดวงตาคมจับจ้องไปที่นักข่าวที่กำลังยกมือขอสัมภาษณ์พิธีกรยื่นไมค์ให้กับนักข่าวคนแรก“คุณแทนไท โปรเจกต์ H หรือ Helios Online เป็นเกมที่ใช้ AI ขั้นสูง ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของวงการเกมออนไลน์ คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมครับ?”แทนไทพยักหน้าช้าๆ ก่อนตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น“Helios
ภายในห้องทำงานของแทนไท กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยอวลในอากาศ แต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่กำลังรายงานข่าว การหายตัวไปของบุคคลสำคัญในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี“คริส วอลตัน ผู้บริหารระดับสูงของนีโอนิกซ์ หายตัวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางการกำลังเร่งติดตามตัว— “ซันที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงาน พึมพำขึ้นขณะโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกระจกเสียงดัง“หมอนั่นหายตัวไปเหรอ?”“ก็ไม่แปลก” คินเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบแก้วเหล้าขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“คนอย่างมัน พอรู้ว่าทางการกำลังจ้องเล่นงาน ก็คงเตรียมแผนหนีไว้อยู่แล้ว”แทนไทเหยียดยิ้มบางๆ แต่ในดวงตามีเพียงความเย็นชา“หนี? คิดว่าไปได้ไกลแค่ไหนกัน?”เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง เสียงเรียกสัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนจะมีเสียงตอบรับจากปลายสายแทนไทพูดเพียงสั้น ๆ“จัดการตามแผน”ปลายสายเงียบไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบ “รับทราบครับ”• • • • • • •อีกฟากหนึ่งของโลก—“บ้าชิบ! ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้!?”คริส วอลตัน เดินวนไปมาอยู่ภายในห้องเพนต์เฮา
ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ ลอยอวลในอากาศ แสงไฟสีขาวสะอาดตาทำให้บรรยากาศของห้องดูเงียบเหงาไปถนัดตาซันและคินนั่งอยู่คนละฝั่งของเตียง พวกเขาเฝ้าดูธีรัชที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ ผ้าพันแผลสีขาวบริเวณชายโครงด้านซ้ายของเขา บ่งบอกถึงร่องรอยของกระสุนที่ฝังเข้าไปในร่างกายเขาเกือบตาย—เพราะการตัดสินใจของตัวเองโชคดีที่นำตัวมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงไปนอนเฝ้ารากมะม่วงแล้ว หมอแจ้งว่า กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญแต่ก็ทำให้เสียเลือดไปมากกว่าที่คาด ทั้งซันและคินถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยังไม่วางใจแม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ทั้งซันและคินก็ยังไม่วางใจกริ๊ก...เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นทันที“มันยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหน้าประตู ก่อนที่ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตดำจะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาคมกริบของแทนไทกวาดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ก่อนจะสบตากับซันและคิน“อืม...หมอบอกว่ามันเสียเลือดเยอะ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ” ซันพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความเป็นกังวล“แต่มันก็เกือบไปแล้
ภายในห้องประชุมลับของเมกาเบิร์ธ แทนไทนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงข้อมูลของ นีโอนิกซ์—บริษัทคู่แข่งที่พยายามเล่นสกปรกกับพวกเขามาตลอดทุกการเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นถูกเก็บบันทึกไว้หมดแล้วหลักฐานการว่าจ้างแฮ็กเกอร์ที่พยายามแทรกซึมเข้าระบบ ข้อมูลการโอนเงินระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง—ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาแล้วซันนั่งไขว่ห้างอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ เขาใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด ขณะที่คินนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกแน่น พลางจ้องมองหน้าจอที่ฉายเอกสารลับต่างๆ“เราได้ข้อมูลที่ต้องการหมดแล้ว” ซันเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง“ไอ้พวกนั้นคิดว่าแผนมันยังไม่แตก” คินเสริมเสียงเรียบ ก่อนจะกระตุกยิ้มเย็นแทนไทละสายตาจากหน้าจอ ดวงตาคมกริบเปล่งประกายเจ้าเล่ห์“เพราะงั้น...” เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ได้เวลา ‘ส่งคืน’ แล้วล่ะ”ซันกับคินสบตากันทันที—พวกเขารู้ดีว่า แทนไทหมายถึงอะไรแทนไทยิ้มเย็นขณะเลื่อนสายตาอ่านแผนตอบโต้บนไอแพดที่เขาเตรียมการมาอย่างดี เขาหันไปม