ร้านคาเฟ่ ‘Bookmark Brews’ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยไทระ เป็นร้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ในตัวเอง ด้วยการตกแต่งผสมผสานระหว่างความอบอุ่นของไม้และชั้นหนังสือที่วางเรียงรายตามผนัง เสียงเพลงแจ๊สเบา ๆ คลอไปกับกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นที่อบอวลทั่วร้าน
แทนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเบียร์ ทั้งสองมองไปรอบ ๆ ร้านเพื่อสำรวจบรรยากาศ แสงธรรมชาติส่องผ่านหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้ทุกมุมของร้านดูสว่างและสงบ
“ที่นี่เหรอ?”
เบียร์ถาม พลางเลิกคิ้วเมื่อเห็นลูกค้าสองสามคนกำลังนั่งอ่านหนังสือในมุมต่าง ๆ ของร้าน และบางคนก็ใช้มีแล็ปท็อปนั่งทำงาน
“ตามพิกัดคือที่นี่ล่ะ” แทนตอบพลางกวาดสายตามองหาหญิงสาวคนนั้น
ทั้งสองคนเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ โดยมีน พนักงานสาวประจำร้านก็เอ่ยต้อนรับด้วยรอยยิ้มสดใส
“ยินดีต้อนรับค่ะ รับอะไรดีคะ”
“เอสเพรสโซ่ร้อน” แทนสั่งเสียงเรียบ
“อเมริกาโน่ร้อน” เบียร์ต่อด้วยน้ำเสียงสุภาพ
แทนมองไปรอบ ๆ ร้าน สายตาสำรวจไปยังมุมต่าง ๆ ก่อนจะหันกลับมาถามมีนด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูปกติ
“พนักงานวันก่อน...”
กริ๊ง!
เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้น ดึงความสนใจของทั้งแทนและเบียร์
“พี่มีน เมล็ดกาแฟมาส่งค่ะ ให้เจทำไงคะ?”
เสียงหวานใสเรียกความสนใจของแทนทันที ร่างบางในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาพร้อมแล็ปท็อปในมือ และกระเป๋าผ้าสะพายข้างไหล่ ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนถูกรวบไว้เป็นหางม้าเผยให้เห็นลำคอระหง ใบหน้าสวยสดไร้การแต่งแต้ม ผิวเนียนละเอียดดูธรรมชาติ
กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอทำให้แทนรู้สึกเหมือนโลกหมุนช้าลงชั่วขณะ หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เธอหันมาสบตาแทนเพียงชั่ววินาที ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยความสดใส แต่ก็ดูมีอะไรบางอย่างที่ซ่อนลึกอยู่ ก่อนที่เธอจะเลื่อนสายตาไปยังเบียร์ และส่งยิ้มสุภาพให้ตามมารยาท
เบียร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เลิกคิ้วเล็กน้อยพลางกระซิบ
“คนนี้เหรอ?”
แทนไม่ได้ตอบ แต่ดวงตาคมยังคงจับจ้องไปที่เธออย่างไม่อาจละสายตาได้
มีนยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นพลางก้าวออกจากเคาน์เตอร์
“เดี๋ยวพี่ออกไปรับเอง น้องเจมารับออเดอร์ของหนุ่มหล่อสองคนนี้แทนพี่หน่อยนะ”
เธอวางแล็ปท็อปลงบนเคาน์เตอร์ หันมาชะโงกหน้าดูออเดอร์ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวาน
“เอสเปรสโซ่กับอเมริกาโน่ร้อนนะคะ เชิญไปนั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ” น้ำเสียงนุ่มนวลของเธอทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย
“ครับ” เบียร์ตอบแทน ขณะที่สังเกตเห็นแทนยืนมองเจนิ่งโดยไม่พูดอะไร
เบียร์สะกิดแขนแทนเบา ๆ “ไปเถอะ”
แทนถึงได้รู้สึกตัว และเดินตามเบียร์ไปยังโต๊ะที่มุมร้าน แต่สายตาของเขายังคงเหลือบมองหญิงสาวหลังเคาน์เตอร์ด้วยความสนใจ
แทนนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมร้าน ดวงตาคมจ้องมองไปที่เจซึ่งกำลังยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ การกระทำทุกอย่างของเธอช่างดูเป็นธรรมชาติ แต่กลับดึงดูดความสนใจของเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เธอหยิบแก้วเซรามิกสองใบออกมาจากชั้นวาง จัดวางลงบนถาดเล็ก ๆ อย่างเรียบร้อย ก่อนจะหันไปหยิบก้านชงกาแฟ (Portafilter) ออกมาจากเครื่องชงเอสเปรสโซ
มือเรียวของเธอหยิบถ้วยใส่ผงกาแฟบดที่เตรียมไว้แล้ว ตวงกาแฟบดอย่างพอดีลงในก้านชง ใช้แทมเปอร์ (Tamper) กดผงกาแฟเบา ๆ ด้วยน้ำหนักที่ดูเหมือนจะถูกฝึกฝนมาอย่างดี ท่าทางของเธอสงบนิ่ง แต่เปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ
แทนมองมือของเธอที่จับก้านชงเสียบกลับเข้ากับเครื่องชงกาแฟ เสียงเครื่องทำงานเบา ๆ ขณะที่น้ำร้อนถูกดันผ่านผงกาแฟ กลายเป็นช็อตเอสเปรสโซที่มีครีม่าสีทองอ่อนลอยอยู่ด้านบน
เธอหยิบแก้วใบแรก วางไว้ใต้หัวจ่ายของเครื่อง พร้อมเทช็อตเอสเปรสโซลงไปอย่างแม่นยำ ก่อนจะหยิบแก้วอีกใบสำหรับทำอเมริกาโน่ เธอเติมน้ำร้อนลงไปในแก้วอย่างพอดิบพอดี จากนั้นจึงเทช็อตเอสเปรสโซลงไปเป็นลำดับสุดท้าย
แทนมองเจที่ขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว เธอหยิบถาดเล็กขึ้นมาวางแก้วกาแฟทั้งสองใบ ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดขอบแก้วให้เรียบร้อย ท่าทางของเธอทุกขั้นตอนดูเป็นธรรมชาติ แต่กลับแฝงความพิถีพิถัน
ในสายตาของแทน เธอไม่ได้ดูเหมือนคนชงกาแฟธรรมดา แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนศิลปินที่กำลังสร้างสรรค์ผลงาน
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ เจเดินออกจากเคาน์เตอร์ พร้อมกับถาดที่บรรจุเครื่องดื่ม กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นลอยมาถึงโต๊ะของแทน
“เอสเปรสโซ่ร้อน และอเมริกาโน่ร้อนค่ะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมส่งยิ้มสุภาพ
แทนรับแก้วกาแฟ ขณะที่สายตายังคงจับจ้องเธอ โดยไม่อาจละสายตาได้ หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“นายน่าจะอาการหนักนะ” เบียร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแซวขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นแทนไม่ละสายตาจากเจ
“อืม...พี่คิดว่าไง? คิดว่าใช่มั้ย?”
เบียร์ยกกาแฟขึ้นจิบอย่างใจเย็น ดวงตาคมกวาดมองร่างบางที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็ดเคาน์เตอร์และจัดขวดไซรัปให้เรียงตัวอย่างพอดิบพอดี ท่าทางของเธอเรียบง่าย แต่กลับดูน่าค้นหา
“แล้วนายล่ะ? คิดว่าไง?”
แทนไม่ตอบ แต่สายตาเริ่มจับสังเกตบางอย่างที่เขามองเห็น เขาเหลือบไปที่แล็ปท็อปที่เจวางอยู่ใกล้เคาน์เตอร์ หน้าจอเปิดค้างไว้ เผยให้เห็นแผนที่ที่เขาคุ้นเคยอย่างไม่น่าเชื่อ—มันคือแผนที่
“แผนที่ในเกม…” แทนพึมพำเบา ๆ
เขาเหลือบมองเจที่กำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างลงในสมุดบันทึกเล่มเล็ก ท่าทางของเธอที่ก้มหน้าก้มตาอย่างจริงจังไม่ต่างจากสิ่งที่เขาจำได้เมื่อครั้งที่เฝ้าดูการวางแผนของ J.W. ในเกม
มือเรียวของเธอที่จับปากกาไว้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้แทนย้อนนึกถึงท่าทางการควบคุมในเกมที่ดูชำนาญและมั่นใจ
เมื่อเจหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม ข้อมือของเธอเผยให้เห็นรอยจาง ๆ บางอย่างบนผิว แม้จะเห็นเพียงเสี้ยววินาที แต่แทนไทจำได้ทันทีว่ามันคือสัญลักษณ์ที่เหมือนกับลวดลายของกิลด์ชาโดว์วิงส์ที่ J.W. ใช้เป็นอวาตาร์ในเกม
เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ ริมฝีปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมฉายแววพึงพอใจ
“เป็นเธอนี่ล่ะ”
เบียร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามหัวเราะในลำคอ
“หึหึ แล้วนายจะทำยังไงต่อไปล่ะ?”
แทนไทไม่ตอบทันที แต่กลับก้มหน้าลงจิบกาแฟอย่างใจเย็น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ดูแฝงความเจ้าเล่ห์
“ก็ต้องรอดูไป...” เขาพูดเสียงเรียบ ขณะที่ในใจกลับเต็มไปด้วยแผนการที่เริ่มก่อตัวอย่างเงียบๆ
เบียร์ที่นั่งมองเงียบ ๆ ยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพยักพเยิดไปทางเจ
“เด็กคนนี้เป็นรุ่นน้องที่คณะเรานี่”
คำพูดของเบียร์ทำให้แทนไทเลิกคิ้วเล็กน้อย ดวงตาคมกริบเหลือบไปมองสัญลักษณ์ที่ปกเสื้อนักศึกษาของเจ ซึ่งเป็นเครื่องหมายของคณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์
“หืม? จริงด้วย” แทนหรี่ตามองตาม สีหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสนใจมากขึ้น
“มิน่าล่ะ สกิลการป้องกันตัวสูงปรี๊ด” เบียร์หัวเราะเบาๆ อย่างถูกใจ
แทนไทเอนตัวพิงเก้าอี้ ก่อนพึมพำเสียงต่ำ
“แบบนี้มันน่าจับมาทดสอบเกมซะให้เข็ด”
เบียร์ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ทดสอบเกมน่ะได้ แต่อย่าเผลอไปทดสอบอย่างอื่นล่ะ” เขาพูดพลางยักคิ้วกวน ๆ ให้แทน
แทนไทหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“หึ ก็อยากอยู่...” เขาตอบหน้าตาย แต่สายตากลับเหลือบมองไปยังเจอีกครั้ง
แม้จะอยู่ในชุดนักศึกษาตัวหลวม ๆ แต่ก็ไม่ได้ลดความโดดเด่นของทรวดทรงเธอลงเลย โดยเฉพาะหน้าอกที่ใหญ่เกินตัว แทนไทพยายามเก็บอาการไว้อย่างแนบเนียน
เบียร์ที่นั่งมองอยู่ข้าง ๆ หัวเราะในลำคอ
“เพิ่งจะเคยเห็นนายสนใจผู้หญิงก็คราวนี้ล่ะ”
แทนไม่ได้ตอบ แต่รอยยิ้มบาง ๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาบอกทุกอย่าง
‘เธอจะหนีไปไหน ในเมื่อเธอคือคนที่ฉันอยากเจอมาตลอด’
»——————◦•♛•◦——————«
เจรู้สึกประหลาดใจไม่น้อยเมื่อแทนไทเริ่มมานั่งทำงานที่ร้านคาเฟ่ของเธอแทบทุกเย็นโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน การปรากฏตัวของเขาไม่เพียงทำให้บรรยากาศในร้านเปลี่ยนไป แต่ยังทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ผู้คนแน่นขนัดทุกมุม โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต่างพากันเข้ามานั่งพร้อมสายตาที่มองตรงไปยังแทนไท บางคนถึงกับแอบถ่ายรูปหรือกระซิบกระซาบกันด้วยความตื่นเต้น
ในทางกลับกัน ผู้ชายส่วนหนึ่งที่มักแวะเวียนมาที่ร้าน กลับไม่ได้สนใจแทนไทเท่าไหร่ พวกเขามักเข้ามาพูดคุยหรือหยอดคำหวานกับเจแทบทุกครั้งที่เจอ
เจได้แต่ยิ้มตามมารยาทให้ทุกคน แต่ในใจกลับสงสัย
‘คนอย่างแทนไท… มานั่งทำงานที่นี่ทุกวันทำไม?’
แม้เธอจะพยายามไม่สนใจ แต่การที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นทุกเย็น ราวกับกลายเป็นส่วนหนึ่งของร้าน มันก็ยากที่จะไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบตัว
เย็นวันหนึ่ง บรรยากาศในร้านคาเฟ่คึกคักตามปกติ แต่แทนไทที่นั่งประจำโต๊ะมุมโปรด กลับดูเหมือนกำลังพักผ่อนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาปิดสนิทคล้ายกับพักสายตา
แต่หน้าจอแล็ปท็อปของเขาเปิดค้างอยู่ ภาพบนจอแสดงรายละเอียดของ ‘โปรเจกต์ H’ เกมใหม่ที่ยังอยู่ในขั้นพัฒนา เนื้อหาภายในหน้าจอเผยให้เห็นแนวเกมที่ผสมผสานความแฟนตาซีและเทคโนโลยีไซเบอร์พังก์ โลกของ Helios Online ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างแสงสว่างของอารยธรรมโบราณ และพลังมืดลึกลับที่ครอบงำทุกสิ่ง
ข้อมูลเกี่ยวกับระบบ Dynamic Decision Making และการออกแบบบอสที่ปรับตัวตามสไตล์การเล่นของผู้เล่นแสดงอยู่บนจอ พร้อมภาพคอนเซปต์อาร์ตที่แสดงฉากเมืองลอยฟ้าที่เปล่งประกายด้วยแสงพลังงานโบราณ และป่าลึกที่ถูกเงามืดปกคลุม
ในขณะเดียวกัน เจเดินเข้ามาที่โต๊ะของเขาเพื่อเก็บจานแซนวิชที่ว่างเปล่า มือเรียวหยิบจานขึ้นเบา ๆ ก่อนที่สายตาจะสะดุดกับภาพบนหน้าจอแล็ปท็อปของแทนไท
“โปรเจกต์ H...”
เจพึมพำเบา ๆ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความสนใจ ข้อมูลที่เธอเห็นนั้นเป็นรายละเอียดเชิงลึกที่แสดงถึงการออกแบบเกมอย่างประณีต
เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอ พลางมองภาพคอนเซปต์อาร์ตของ Helios Online ด้วยความตื่นเต้น โลกในเกมดูเหมือนจะซับซ้อนและลึกซึ้ง ระบบการเล่นที่ผู้เล่นสามารถกำหนดชะตากรรมของโลกในเกมได้ เป็นแนวคิดที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน
แทนไทที่ทำเป็นหลับตาอยู่ ลืมตาขึ้นช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก เมื่อรู้สึกถึงสายตาของเจ
“สนใจเหรอ?” เสียงทุ้มของเขาดึงความสนใจของเจ เธอสะดุ้งเล็กน้อย รีบวางจานลงก่อนจะหันมาสบตาเขา
“เอ่อ...แค่ผ่านตาค่ะ” เจตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่ดวงตายังคงเปล่งประกายความสนใจ
แทนไทยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างใจเย็น
“นี่เป็นโปรเจกต์ใหม่... เกมที่เรากำลังพัฒนาอยู่”
คำพูดนั้นยิ่งทำให้เจรู้สึกตื่นเต้น เธอพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบเฉย
“ดูน่าสนใจดีค่ะ”
แทนไทเลิกคิ้วเล็กน้อย ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์
“ถ้าสนใจ...พรุ่งนี้ไปที่นี่สิ” เขาพูดเสียงเรียบ พลางยื่นนามบัตรที่อยู่ของสำนักงานของเขาให้เธอ
เจชะงักเล็กน้อย ดวงตากลมโตมองนามบัตรที่เขายื่นส่งมาให้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองหน้าเขาด้วยท่าทางลังเล
เอาไงดีวะ? เกมใหม่...
อยากลอง...แต่ว่า...ไปหาเขาเนี่ย...
จะไม่โดนตบใช่มั้ย...สาวเยอะขนาดนั้น...
แต่เกม...
โอ๊ย! เอาวะ!! ช่างแม่ง! โดนตบก็แค่ตบกลับ
หลังจากตบตีกับความคิดในหัวของตัวเองจนเสร็จ เจสูดลมหายใจลึก แล้วตัดสินใจยื่นมือไปรับนามบัตร พลางส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“ถ้างั้น ฉันไม่เกรงใจนะคะ”
แทนหัวเราะในลำคอ
“ได้สิ ฉันจะรอนะ” น้ำเสียงของเขาฟังดูปกติ แต่สายตาที่มองเธอกลับมีความหมายลึกซึ้ง
เจเลิกคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เธอเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์ ปล่อยให้แทนไทมองตามหลังเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนุก
‘ติดกับละ...’
แทนคิดในใจ รอยยิ้มมุมปากปรากฏขึ้นอย่างพึงพอใจ พร้อมกับวางแผนที่จะใช้โปรเจกต์นี้ดึงเธอเข้ามาใกล้เขามากขึ้น
เสียงบรรเลงเปียโนแผ่วเบาของ Canon in D คลอเคลียไปกับบรรยากาศแสนโรแมนติกของ Aurora Grand Hall สถานที่จัดงานแต่งงานสุดหรูที่ถูกตกแต่งอย่างงดงามเหนือคำบรรยายภายในฮอลล์กว้างใหญ่ถูกประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีขาวนวล สลับกับสีพีชและทองอย่างลงตัว ซุ้มดอกไม้ที่ตกแต่งด้วย ไลแลค และ ไฮเดรนเยีย ส่งกลิ่นหอมละมุนชวนให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย แสงไฟจากแชนเดอเลียร์คริสตัลที่ห้อยระย้าอยู่เหนือศีรษะส่องประกายระยิบระยับ เพิ่มความหรูหราให้กับงานราวกับงานราตรีในเทพนิยายพรมยาวสีงาช้างทอดตัวจากประตูทางเข้าจรดแท่นพิธี สองข้างทางเต็มไปด้วยแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในวันสำคัญ ทุกสายตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า—ที่ซึ่งช่วงเวลาสำคัญของงานกำลังจะเริ่มขึ้นบนเวทีหลัก มีจอ LED ขนาดใหญ่กำลังฉายภาพของคู่บ่าวสาว ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบกัน จนถึงวันที่พวกเขาก้าวข้ามทุกอุปสรรคและยืนเคียงข้างกันในวันนี้—วันที่พวกเขาจะเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกัน—และแล้ว ประตูบานใหญ่ก็ค่อยๆ เปิดออก—เสียงบรรเลงดนตรีดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง แขกในงานต่างกลั้นหายใจ เฝ้ารอการปรากฏตัวของเจ้าสาวที่แท่นพิธี เจ้าบ่าว—แทนไทยืนรออยู่ในชุดสูททักซิ
ภายในห้องแต่งตัวของเจ้าสาว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกลิลลี่และกุหลาบขาวอบอวลไปทั่ว ผสมกับกลิ่นหอมจางๆ ของเครื่องหอมที่จุดไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้สงบและผ่อนคลายแสงแดดยามสายส่องผ่านม่านโปร่งสีขาว กระทบกับชุดเจ้าสาวที่เจสวมใส่อยู่ ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินเนื้อนุ่ม แต่งด้วยลูกไม้ปักมือที่แสนประณีต ประดับไข่มุกเม็ดเล็กละเอียดราวกับหยดน้ำค้างต้องแสง กลีบผ้าถูกออกแบบให้พริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนแสงวาววับราวกับต้องมนต์เจนั่งอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ผิวเนียนละเอียดของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตากลมสวยสะท้อนเงาของตัวเองในกระจก ผมยาวสลวยถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบร้อย ปล่อยปอยผมนิดๆ ลงมารับกับกรอบหน้าทำให้ดูอ่อนหวานกว่าเดิมเธอขยับมือสัมผัสชายกระโปรงเบาๆ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับเพิ่งตระหนักได้จริงๆ ว่าวันนี้...เป็นวันแต่งงานของเธอ“เฮ้อ...”เสียงถอนหายใจแผ่วเบาหลุดออกมา เธอไม่ได้ไม่อยากแต่งงาน... แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปเพียงสามเดือนก่อน ข่าวการหมั้นหมายของเธอกับแทนไทกลายเป็นกระแสใหญ่ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่กำลังจะได้แต่งงานกับเจ้าของบริษัทเ
สามเดือนต่อมา—บรรยากาศภายใน Aurora Convention Hall คึกคักไปด้วยเสียงฮือฮาของเหล่านักข่าวและแฟนเกมที่มารวมตัวกันเพื่องานแถลงข่าวครั้งยิ่งใหญ่ของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอบนเวทีหลัก จอ LED ขนาดยักษ์ฉายภาพโลโก้ของเกมใหม่ล่าสุด ‘Helios Online’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ โปรเจกต์ H—เกมออนไลน์ระดับ Next-Gen ที่ใช้เทคโนโลยี Neural AI อันล้ำสมัย ซึ่งสามารถพัฒนาและตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างอัจฉริยะและบุคคลที่กำลังได้รับความสนใจจากทุกสายตาในตอนนี้ คือชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำสง่า ‘แทนไท ไทระ คณิณัตถ์’ ซีอีโอของเมกาเบิร์ธ สตูดิโอเขานั่งอยู่บนเวทีหลัก ข้างๆ กับคณะผู้บริหารและทีมพัฒนา ใบหน้าคมเข้มยังคงสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความมั่นใจแสงแฟลชจากกล้องจำนวนมากสาดส่องมายังเวทีแทนไทนั่งไขว่ห้าง มือข้างหนึ่งจับไมโครโฟน ดวงตาคมจับจ้องไปที่นักข่าวที่กำลังยกมือขอสัมภาษณ์พิธีกรยื่นไมค์ให้กับนักข่าวคนแรก“คุณแทนไท โปรเจกต์ H หรือ Helios Online เป็นเกมที่ใช้ AI ขั้นสูง ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีใหม่ของวงการเกมออนไลน์ คุณช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมครับ?”แทนไทพยักหน้าช้าๆ ก่อนตอบเสียงเรียบแต่หนักแน่น“Helios
ภายในห้องทำงานของแทนไท กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยอวลในอากาศ แต่บรรยากาศกลับเย็นยะเยือกจนน่าขนลุกชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปที่หน้าจอทีวีขนาดใหญ่ที่กำลังรายงานข่าว การหายตัวไปของบุคคลสำคัญในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี“คริส วอลตัน ผู้บริหารระดับสูงของนีโอนิกซ์ หายตัวไปเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางการกำลังเร่งติดตามตัว— “ซันที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะทำงาน พึมพำขึ้นขณะโยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะกระจกเสียงดัง“หมอนั่นหายตัวไปเหรอ?”“ก็ไม่แปลก” คินเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบแก้วเหล้าขึ้นจิบด้วยสีหน้าเรียบเฉย“คนอย่างมัน พอรู้ว่าทางการกำลังจ้องเล่นงาน ก็คงเตรียมแผนหนีไว้อยู่แล้ว”แทนไทเหยียดยิ้มบางๆ แต่ในดวงตามีเพียงความเย็นชา“หนี? คิดว่าไปได้ไกลแค่ไหนกัน?”เขาหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออกไปยังหมายเลขหนึ่ง เสียงเรียกสัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนจะมีเสียงตอบรับจากปลายสายแทนไทพูดเพียงสั้น ๆ“จัดการตามแผน”ปลายสายเงียบไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะตอบกลับมาเสียงเรียบ “รับทราบครับ”• • • • • • •อีกฟากหนึ่งของโลก—“บ้าชิบ! ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้!?”คริส วอลตัน เดินวนไปมาอยู่ภายในห้องเพนต์เฮา
ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล เสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ ลอยอวลในอากาศ แสงไฟสีขาวสะอาดตาทำให้บรรยากาศของห้องดูเงียบเหงาไปถนัดตาซันและคินนั่งอยู่คนละฝั่งของเตียง พวกเขาเฝ้าดูธีรัชที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ ผ้าพันแผลสีขาวบริเวณชายโครงด้านซ้ายของเขา บ่งบอกถึงร่องรอยของกระสุนที่ฝังเข้าไปในร่างกายเขาเกือบตาย—เพราะการตัดสินใจของตัวเองโชคดีที่นำตัวมาส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงไปนอนเฝ้ารากมะม่วงแล้ว หมอแจ้งว่า กระสุนไม่โดนอวัยวะสำคัญแต่ก็ทำให้เสียเลือดไปมากกว่าที่คาด ทั้งซันและคินถึงจะได้ยินแบบนั้น แต่ก็ยังไม่วางใจแม้หมอจะบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ทั้งซันและคินก็ยังไม่วางใจกริ๊ก...เสียงเปิดประตูทำให้ทั้งสองเงยหน้าขึ้นทันที“มันยังไม่ตื่นอีกเหรอ?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากหน้าประตู ก่อนที่ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตดำจะก้าวเข้ามาในห้อง ดวงตาคมกริบของแทนไทกวาดมองไปยังร่างที่นอนแน่นิ่งบนเตียง ก่อนจะสบตากับซันและคิน“อืม...หมอบอกว่ามันเสียเลือดเยอะ โชคดีที่กระสุนไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ” ซันพูดเสียงเรียบ แต่แฝงความเป็นกังวล“แต่มันก็เกือบไปแล้
ภายในห้องประชุมลับของเมกาเบิร์ธ แทนไทนั่งเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังหน้าจอที่กำลังแสดงข้อมูลของ นีโอนิกซ์—บริษัทคู่แข่งที่พยายามเล่นสกปรกกับพวกเขามาตลอดทุกการเคลื่อนไหวของฝั่งนั้นถูกเก็บบันทึกไว้หมดแล้วหลักฐานการว่าจ้างแฮ็กเกอร์ที่พยายามแทรกซึมเข้าระบบ ข้อมูลการโอนเงินระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง—ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาแล้วซันนั่งไขว่ห้างอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ เขาใช้ปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ สีหน้าครุ่นคิด ขณะที่คินนั่งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ กอดอกแน่น พลางจ้องมองหน้าจอที่ฉายเอกสารลับต่างๆ“เราได้ข้อมูลที่ต้องการหมดแล้ว” ซันเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและจริงจัง“ไอ้พวกนั้นคิดว่าแผนมันยังไม่แตก” คินเสริมเสียงเรียบ ก่อนจะกระตุกยิ้มเย็นแทนไทละสายตาจากหน้าจอ ดวงตาคมกริบเปล่งประกายเจ้าเล่ห์“เพราะงั้น...” เขาหยุดเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ“ได้เวลา ‘ส่งคืน’ แล้วล่ะ”ซันกับคินสบตากันทันที—พวกเขารู้ดีว่า แทนไทหมายถึงอะไรแทนไทยิ้มเย็นขณะเลื่อนสายตาอ่านแผนตอบโต้บนไอแพดที่เขาเตรียมการมาอย่างดี เขาหันไปม