สวี่เชี่ยนยกมุมปากขึ้น เผยรอยยิ้มของผู้ชนะเฉินจิ้นกับสวี่เชี่ยนยืนอยู่หน้าบาทหลวงอีกครั้ง พระถามเฉินจิ้นอีกครั้งว่า "คุณเฉินจิ้น คุณยินดีรับคุณสวี่เชี่ยนเป็นภรรยาไหม ไม่ว่าจะยากจนหรือมั่งมี สุขภาพดีหรือเจ็บป่วย จะไม่ทอดทิ้งกัน"เฉินจิ้นมองพระแล้วตอบว่า "ผมยินดี"เขาพูดว่า ผมยินดีสามคำนี้ดังก้องในหูของเย่ฮวนเอ่อร์ ร่างกายของเธอชาวาบจนสมองว่างเปล่าไปหมดจ้าวอี้พูดว่า "เย่ฮวนเอ่อร์ เธอเห็นแล้วใช่ไหม เฉินจิ้นแต่งงานกับสวี่เชี่ยนจริงๆ เขาไม่เคยชอบเธอเลย ทุกอย่างมีแค่เธอฝ่ายเดียวที่คิดไปเอง มีแค่เธอฝ่ายเดียวที่วิ่งตามเขา!"น้ำตาของเย่ฮวนเอ่อร์ไหลพรากเป็นสาย บาทหลวงด้านในกล่าวว่า "พิธีเสร็จสิ้น บัดนี้ผมขอประกาศว่า คุณเฉินจิ้นและคุณสวี่เชี่ยนได้เป็นสามีภรรยาอย่างเป็นทางการแล้ว ใส่แหวนแต่งงานได้"เด็กถือดอกไม้ยกกล่องแหวนเพชรขึ้นมา สวี่เชี่ยนค่อยๆ สวมแหวนให้เฉินจิ้นเฉินจิ้นก็หยิบแหวนขึ้นมา ค่อยๆ สวมให้สวี่เชี่ยนเถ้าแก่สวี่เป็นคนเริ่มปรบมือ ทุกคนต่างกล่าวคำอวยพรว่า "ขอให้คู่บ่าวสาวมีความสุข!""ขอให้มีลูกชายเร็วๆ ภายในสามปีได้ลูกสอง!"สวี่เชี่ยนรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่ส
สุดท้ายเขาก็โกหก!น้ำตาของเย่ฮวนเอ่อร์ไหลพรากลงมาในทันที ผิดหวัง ผิดหวังอย่างถึงที่สุด แม้กระทั่งเวลานี้… เขาก็ยังโกหกเธออยู่!ทำไมกัน?เย่ฮวนเอ่อร์สะอื้นจนพูดแทบไม่ออกเฉินจิ้นที่ปลายสายได้ยินเสียงสะอื้นของเธออย่างชัดเจน หัวใจของเขากระตุก “ฮวนเอ่อร์… เป็นอะไรไป? เธอกำลังร้องไห้เหรอ? เกิดอะไรขึ้น?”ตอนนี้แขกทุกคนในงานต่างก็จับจ้องมาทางเฉินจิ้นกับสวี่เชี่ยน เพราะพวกเขาคือเจ้าบ่าวเจ้าสาวในพิธี แต่เฉินจิ้นกลับหยุดกลางเวทีเพื่อตอบโทรศัพท์ เสียงซุบซิบเริ่มดังขึ้นในหมู่แขกสวี่เชี่ยนก้าวเข้ามาข้างเขา ดึงแขนเสื้อเบาๆ อย่างร้อนใจ “เฉินจิ้น… ทุกคนกำลังมองอยู่นะ มีอะไรไว้ค่อยพูดหลังพิธีเถอะนะ”ด้านนอก เย่ฮวนเอ่อร์ยืนมองเข้าไปในงาน น้ำเสียงสั่นเครือ “เฉินจิ้น… นายกำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่? หรือว่านายกำลังยุ่งกับการแต่งงานกับสวี่เชี่ยน?”ดวงตาเฉินจิ้นเบิกกว้าง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก “ฮวนเอ่อร์… เธอรู้แล้วเหรอ ใครบอกเธอ?”“ฉันอยู่หน้าประตู!”อะไรนะ?เฉินจิ้นเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นเย่ฮวนเอ่อร์ยืนอยู่ที่ทางเข้าดวงตาของเธอชุ่มไปด้วยน้ำตา มองตรงมายังเขา สายตาทั้งสองสบกันเวลาราวกับหยุดนิ่งลงใน
เย่ฮวนเอ่อร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าโรงแรม ถึงกับชะงักแน่นิ่งไปทั้งตัว เธอไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เฉินจิ้น… เขาแต่งงานกับสวี่เชี่ยนจริงๆ เหรอ?เป็นไปไม่ได้จ้าวอี้พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “เย่ฮวนเอ่อร์ ตอนนี้เธอเห็นกับตาแล้วใช่ไหม? นี่แหละ งานแต่งของเฉินจิ้นกับสวี่เชี่ยน!”เย่ฮวนเอ่อร์ส่ายหน้า ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างสั่นคลอนภายในห้องจัดเลี้ยง พิธีกรงานแต่งก้าวขึ้นเวที “แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ขอบคุณที่สละเวลามาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานระหว่างคุณเฉินจิ้นและคุณสวี่เชี่ยน… ตอนนี้ผมขอประกาศให้พิธีเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ และขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นเวที!”ไฟในห้องจัดเลี้ยงค่อยๆ หรี่ลง เสียงดนตรีบรรเลงในงานแต่งอันไพเราะก็ดังขึ้นมา สวี่เชี่ยนคล้องแขนเฉินจิ้น เดินบนพรมแดงด้วยท่าทีอ่อนหวาน ทั้งสองเดินไปยังแท่นพิธีอย่างช้าๆบาทหลวงหันมามองทั้งสองคน “คุณสวี่เชี่ยน… คุณยินยอมรับเฉินจิ้นเป็นสามีไหม ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรือเจ็บไข้ได้ป่วย คุณจะไม่ทอดทิ้งกัน?”สวี่เชี่ยนหน้าแดง พยักหน้า “ฉันยินยอมค่ะ”บาทหลวงหันไปหาเฉินจิ้น “คุณเฉินจิ้น… คุณยินยอมรับคุณสวี่เชี่ยนเป็นภรรยาไหม ไม่ว่าจะย
เย่ฮวนเอ่อร์ถูกจ้าวอี้ลากตัวไปอย่างไม่เต็มใจ เขาพาเธอมาถึงหน้าโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งเย่ฮวนเอ่อร์พยายามสะบัดแขนออก “จ้าวอี้! ปล่อยฉันนะ ไม่ว่านายจะพาฉันไปไหน ฉันก็ไม่ไป!”จ้าวอี้หัวเราะเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอกลัวอะไรนักหนา!”เย่ฮวนเอ่อร์กัดฟันตอบ “ฉันไม่ได้กลัว! ฉันแค่เชื่อใจเฉินจิ้น! ถ้าเลือกจะรักใครสักคน ก็ต้องเชื่อใจเขา ไม่ใช่ระแวง ฉันเชื่อว่าเฉินจิ้นจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น!”“เธอมันโง่ เย่ฮวนเอ่อร์ เฉินจิ้นมันก็แค่ใช้ความไว้ใจของเธอ ใช้ความบริสุทธิ์และความอดทนของเธอหลอกเล่น เขาน่ะมันพวกเจ้าชู้ หลอกผู้หญิงไปวันๆ!”“หุบปาก จ้าวอี้! อย่าดูหมิ่นแฟนของฉัน! เฉินจิ้นเป็นของฉัน ไม่มีใครมีสิทธิ์พูดจาดูถูกเขา!”“แฟนเธอเหรอ?” จ้าวอี้จ้องเธอตาเขม็ง ก่อนจะกวาดตามองทั่วร่างเธออย่างลุกล้ำ “หมายความว่ายังไงเย่ฮวนเอ่อร์...หรือว่าเธอกับเฉินจิ้นนอนด้วยกันแล้ว?”เย่ฮวนเอ่อร์ถลึงตาใส่เขา “มันไม่ใช่เรื่องของนาย!”เธอหันตัวจะไปแต่ข้อมือเล็กขาวกลับถูกเขาคว้าไว้แน่น จ้าวอี้ตาแดง เสียงสะอื้นเจือโกรธ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอนอนกับเขาแล้วใช่ไหม? พูดออกมาสิ!”เขากำลังคลั่ง อยากได้คำตอบจากเธอเย่ฮว
เฉินจิ้นรู้ตัวดีว่าเขาเห็นแก่ตัว… เขาไม่มีอะไรจะมอบให้เธอได้เลย แต่ก็ยังคงกอดเธอไว้แน่น เพราะเขากลัว… กลัวจะเสียเธอไปเย่ฮวนเอ่อร์ยกมือโอบคอเขาไว้แน่น “เฉินจิ้น นายเป็นของฉันคนเดียว รู้ไว้ด้วย!”นายเป็นของฉันคนเดียว!คำพูดของเธอแฝงไว้ด้วยความหวงแหนที่ชัดเจนเฉินจิ้นยกมือโอบท้ายทอยของเธอ ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากสีแดงระเรื่อของเธอเบาๆแต่เป็นเพียงจูบแผ่วเบาเพียงครู่เดียว จากนั้นก็ผละออก เย่ฮวนเอ่อร์ซบหน้าลงบนอกเขาอย่างว่าง่ายเฉินจิ้นพูดเสียงเบา “ฮวนเอ่อร์ นอนได้แล้วนะ”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกง่วงพอดี เธอจึงหลับตาลงอย่างสงบตอนที่เย่ฮวนเอ่อร์ลืมตาตื่น เฉินจิ้นก็ไม่อยู่แล้ว การสอบเข้ามัธยมปลายได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่ฮวนเอ่อร์พาเฉินหยวนหยวนไปถึงสนามสอบ วันแรกของการสอบผ่านไปด้วยดีมาก หลังจากกลับมาบ้าน หยวนหยวนคาดว่าได้คะแนนเกือบเต็มเมื่อก่อน เฉินจิ้นเคยเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดในการสอบสายวิทย์ หยวนหยวนก็เหมือนพี่ชายของเธอไม่มีผิด เย่ฮวนเอ่อร์มีความมั่นใจในตัวน้องสาวคนนี้อย่างเต็มเปี่ยมเช้าวันถัดมา เย่ฮวนเอ่อร์ก็พาหยวนหยวนไปส่งที่สนามสอบอีกครั้ง เธอนั่งรออยู่นอกสนามสอบอย่างเงียบๆ ทันใดนั้น
เย่ฮวนเอ่อร์มองเฉินจิ้น “เฉินจิ้น คืนนี้นายจะไม่ไปไหนใช่ไหม?”เฉินจิ้นเพิ่งปลอบสวี่เชี่ยนจนหลับได้ ตอนนี้เขาแอบกลับมา และก็ยังต้องกลับไปอีกในช่วงใกล้รุ่ง แต่ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่เฉินจิ้นพูดเบาๆ “เธอนอนเถอะ เดี๋ยวพอเธอหลับแล้ว ฉันค่อยไป”เย่ฮวนเอ่อร์เลื่อนผ้าห่มให้ กวักมือเรียกเขา “งั้นมานอนข้างในด้วยสิ ข้างในอุ่นมากเลย”เฉินจิ้นจึงนอนลงข้างๆ เย่ฮวนเอ่อร์ร่างนุ่มนิ่มของเธอเบียดเข้ามา ศีรษะเล็กๆ วางบนแขนของเขา พร้อมกับดวงตากลมโตแวววาวที่จ้องมองเขาอย่างเงียบๆหัวใจของเฉินจิ้นเหมือนถูกละลาย เขาเอื้อมมือโอบเธอเข้ามาในอ้อมอกทั้งสองคนกอดกันไว้แน่น เฉินจิ้นเหลือบมองเฉินหยวนหยวนที่นอนอยู่ด้านใน ตอนนี้เธอหลับสนิทแล้ว“หยวนหยวนหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ?”“ประมาณสี่ทุ่ม ก่อนนอนยังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่นะ พรุ่งนี้เธอมีสอบเข้ามัธยมปลาย สอบสามวัน พรุ่งนี้เช้าฉันจะพาเธอไปที่สนามสอบเอง ไม่ต้องเป็นห่วง”เย่ฮวนเอ่อร์พูดปลอบเขา น้ำเสียงอ่อนโยนเฉินจิ้นกระตุกมุมปากเบาๆ ภาพตรงหน้าทำให้เขานึกถึงพ่อแม่ของตัวเองในอดีต พ่อออกไปทำงาน แม่ดูแลบ้าน พ่อเหน็ดเหนื่อยอยู่ข้างนอก แม่ก็จัดการทุกอย่างภายในบ้