ฟีนิกซ์ เบื้องหน้าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงทายาทเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แต่เบื้องหลังใครจะรู้ว่าเขาคือมาเฟียผู้มีอำนาจแม้แต่กฎหมายยังทำอะไรเขาไม่ได้ เขามีจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวแต่ใครเล่าจะกล้าเข้าไปแตะ “รักเขาขนาดนั้นเลยเหรอลูก” ผู้เป็นพ่อเมื่อเห็นลูกชายเพียงคนเดียวทุกข์ใจก็อดสงสารไม่ได้ “ให้แลกด้วยชีวิตผมก็ยอม” “พ่อจะช่วยจนสุดความสามารถแต่พ่อขอได้ไหมถ้าช่วยเธอไม่ทัน…ฟินต้องมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อนะ” “ผมรับปาก” เมธาวี อดีตติวเตอร์สาวที่ผันตัวเองมาเป็นพนักงานออฟฟิศ คุณแม่ลูกสองที่เลี้ยงลูกตามลำพังแต่แล้ววันหนึ่งโลกก็เหวี่ยงรักแรกรักเดียวกลับมาหาเธออีกครั้ง "ถ้าย้อนเวลากลับไปได้!" "วันนั้น...ฉันจะไม่ให้โอกาสคุณ" "หึ~ งั้นก็เสียใจด้วยแล้วกันเพราะเวลามันย้อนกลับไปไม่ได้ ดังนั้นเธอก็ต้องมีฉันเป็นผัวต่อไป" จากคนรักกลับกลายเป็นคนแปลกหน้า จากรักที่เคยหวานกลับกลายเป็นความขมขื่น จากคนที่เคยปกป้องกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายกัน อดีตเขาเคยยอมเป็นหมาที่รักเธอหมดหัวใจไม่ว่าเธอต้องการสิ่งใดเขาพร้อมที่จะหามาให้ปัจจุบันเป็นเธอต่างหากที่ต้องรักเขาอย่างเจ็บปวด
View Moreบรรยากาศภายในคอนโดมิเนียมหรูเต็มไปด้วยความกดดันเนื่องจากผู้เป็นเจ้าของห้องอยู่ในอารมณ์เดือดดาลพร้อมที่จะตะบันหน้าใครก็ตามที่กล้ามายุ่งกับเขาในตอนนี้
“ผมว่าพ่อกลับไปเถอะครับ ผมไม่อยากให้ใครมาติวอะไรผมทั้งนั้นแหละ”เด็กหนุ่มเจ้าของห้องบอกผู้เป็นพ่อด้วยความไม่พอใจ
“พ่อเองก็ไม่ได้อยากบังคับฟินหรอกนะลูกแต่นี่ก็เพื่ออนาคตของฟินนะ”ประนพผู้เป็นพ่อบอกกับบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาอย่างใจเย็นต่างจากทิพย์อาภาผู้เป็นภรรยาที่อยากจะจัดการลูกชายตัวดีเสียให้เข็ดหลาบ
“ถ้าไม่อยากให้จ้างครูมาติวแกก็ทำเกรดให้มันดีๆสิแล้วฉันจะไม่บังคับแกอีก!”ทิพย์อาภาว่าให้ลูกชายอย่างเหลืออด ไม่รู้ทำไมลูกชายที่ไอคิวสองร้อยกลับทำคะแนนสอบได้แย่ขนาดนี้ หากไม่ได้ครูประจำชั้นของลูกชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอบอกกล่าวเห็นทีสิ้นเทอมนี้ลูกชายของเธอได้สองตกทุกวิชาแน่
“หึ~ แม่จะมาสนใจอะไรผมตอนนี้”ฟีนิกซ์ปรายตามองผู้เป็นแม่เพียงนิดเพราะก่อนหน้านี้แม่ของเขาไม่แม้แต่จะโทรถามสารทุกข์สุขดิบของเขาเลยด้วยซ้ำ
“ฟิน! ฉันเป็นแม่แกนะทำไมถึงพูดกับแม่แบบนี้”
“แม่เหรอ? เฮอะ~ ก็แค่ทำให้เกิดมาไหม ผมไม่เห็นรู้สึกว่ามีแม่อยู่ในชีวิตเลยด้วยซ้ำ”
“ฟิน!”
“คุณภา! ใจเย็นๆก่อนคุยกับลูกดีๆได้ไหม ผมขอร้อง”ประนพพยามหว่านล้อมผู้เป็นภรรยาเพราะหากจะห้ามปรามลูกชายก็มีแต่จะบานปลายไปทางที่แย่เปล่าๆ
“คุณก็ดูลูกชายคุณพูดสิ”
“ฟินมีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก มีอะไรบอกพ่อได้นะ เรามาช่วยกันแก้ปัญหาดีไหมลูก”ประนพพยายามหว่านล้อมลูกชายให้บอกถึงสาเหตุที่ลูกชายได้ทำตัวดื้อรั้นแบบนี้ เขามั่นใจว่าลูกชายต้องมีเหตุผลบางอย่างถึงได้ทำแบบนี้ไม่งั้นคนเรียนดีแบบฟีนิกซ์คงไม่ทำแบบนี้แน่นอนและการที่จะให้ลูกชายเรียนเพิ่มเติมมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่แล้วเพราะฟีนิกซ์เรียนดีมากๆอยู่แล้ว
“ผม…”ดวงตาคมเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
“นั่นสิ แกมีปัญหาอะไรฟินแกอยากได้รถใหม่เหรอหรืออยากได้คอนโดใหม่หรือแกอยากได้อะไรแกบอกแม่มาสิเดี๋ยวแม่ซื้อให้”
“หึ~ ผมอยากได้ค่าขนมเพิ่มเป็นเดือนละล้าน”ฟีนิกซ์ประชดประชันมารดาเพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมารดาของเขาก็ใช้เพียงเงินแก้ปัญหาให้กับเขาเสมอ
“ล้านนึ่ง! เฮอะ~ ฉันให้สองล้านเลยแต่แกต้องทำเกรดให้ได้ตามที่สัญญานะ”ฟีนิกซ์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำเพียงมองผู้เป็นแม่นิ่งไม่ได้แสดงท่าทียินดียินร้ายแม้แต่นิดเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้เป็นแม่อยู่แล้ว
“คุณมันใช่วิธีแก้ปัญหาเหรอ”ประนพพยายามปรามภรรยาเพราะลูกชายเงินไม่ขาดมืออยู่แล้วดังนั้นเงินไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอนแต่ก่อนที่ทั้งสามจะได้พูดอะไรกันต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นทิพย์อาภาก็พยักหน้าให้กับเลขาคนสนิทเพื่อเปิดประตูให้กับแขกผู้มาใหม่
“เชิญค่ะ ท่านประธานรออยู่ด้านใน”ทันทีที่ได้รับการอนุญาตจากเลขาของผู้ว่าจ้างเมธาวีก็เดินตรงไปยังจุดที่บุคลเหล่านั้นนั่งอยู่ก่อนจะยกมือขึ้นประนมไหว้ผู้มีอายุมากกว่าตามมารยาท
“สวัสดีค่ะ ดิฉัน เมธาวีค่ะ”เสียงหวานกล่าวทักทายน้ำเสียงหวานน่าฟังจนคนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่อดปรายตามองเจ้าของเสียงไม่ได้
“นั่นฟีนิกซ์ลูกชายของฉันเด็กที่เธอจะต้องมาติววิชาคณิตศาสตร์ให้กับเขาหวังว่าเธอจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ”
“ดิฉันจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ค่ะคุณทิพย์อาภาไม่ต้องเป็นห่วง”
“ฉันไม่ได้ห่วงว่าเธอจะไม่เต็มที่…ช่างเถอะฝากด้วยแล้วกันฉันมีประชุมต่อ”
“ส่วนวิชาที่เหลือแม่จะให้ครูมาวันหลัง”ทิพย์อาภาบอกกับลูกชายก่อนจะเดินนำเลขากับสามีออกไป
สายตาคมของเด็กหนุ่มจ้องมองติวเตอร์สาวไม่วางตาจนเจ้าของในหน้าหวานรู้สึกประหม่าจนต้องยกมือขึ้นมาจับตามใบหน้าตัวเองเพราะเกรงว่าจะมีอะไรติดหน้าของเธออยู่
“อะ เอ่อ…เราชื่อฟินเนอะครูชื่อเมย์นะคะ เมธาวีเรียกพี่เมย์หรือครูเมย์ก็ได้ค่ะ”
“พี่อายุเท่าไหร่”
“ฮะ อ่อ 23 ค่ะ”คำถามของลูกศิษย์ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียนสักนิดทำให้ติวเตอร์สาวเลิ่กลักเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามออกไปตามที่เด็กหนุ่มถาม
“มีแฟนหรือยัง”
“เอ่อ…คือพี่ขอไม่ตอบเรื่องส่วนตัวพวกนี้นะคะ เรามาเริ่มเรียนกันเลยไหมคะ”เมธาวีเลี่ยงที่จะตอบคำถามอย่างสุภาพที่สุดไม่รู้ว่างานนี้เธอจะเจอเด็กชีกอเข้าแล้วหรือเปล่า แต่งานนี้เธอจะพลาดไม่ได้เพราะมันชี้ชะตาปากท้องของเธอและครอบครัวได้เลย
“ผมไม่จำเป็นต้องเรียนหรอกเราไปดูหนังกันไหม”
“ฟินครูว่าเราเริ่มเรียนกันเลยดีกว่านะคะเพราะเรามีเวลาเรียนกันแค่สัปดาห์ละสองชั่วโมงเท่านั้นนะคะ”
“อย่าพูดเหินห่างแบบนั้นได้ไหม แทนตัวเองว่าพี่สิผมว่าแบบนั้นน่ารักกว่า”
“อืมแบบนั้นก็ได้ เรามาเริ่มกันเลยนะ”
“อืม”ทันทีที่ได้รับคำตอบจากฟีนิกซ์เมธาวีก็ระบายยิ้มออกมาด้วยความยินดีเห็นทีงานนี้จะไม่ได้หินอย่างที่สถาบันแจ้งมาตั้งแต่ต้น
เวลาผ่านไปจนครบสองชั่วโมงตามเวลาเมธาวีจึงหยิบแบบฝึกหัดยื่นให้ลูกศิษย์ใหม่ป้ายแดงของเธอแต่แทนที่เด็กหนุ่มจะหยิบที่แบบทดสอบกลับจับมือเธอแทนทำให้เธอตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังคงสงวนท่าทีไว้ได้
“ผมหิว”
“เอ๋?”
“ไปทานข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ”
“ครูว่า”
“พี่!”
“พี่ว่าคงไม่เหมาะมั้ง”
“ถ้าไม่ไปอาทิตย์หน้าก็ไม่ต้องมาแล้วนะผมจะเปลี่ยนติวเตอร์ใหม่”
“อย่านะ! พี่ไปก็ได้”สุดท้ายเมธาวีก็จำต้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะงานนี้หากพลาดเธอถูกทางสถาบันไล่ออกแน่
“ก็แค่นี้”
ทันทีที่เห็นว่ารถที่เด็กหนุ่มจะพาเธอไปทานข้าวเป็นมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์เมธาวีก็ถึงกับหนักใจเพราะชุดที่เธอสวมอยู่เป็นชุดสูทกระโปรงทรงเอซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของสถาบันกวดวิชาทำให้ไม่สะดวกที่จะนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์แบบนี้เสียเท่าไหร่
“ทำไมรังเกียจที่จะนั่งมอเตอร์ไซค์เหรอ”ฟีนิกซ์เอ่ยถามเมื่อเมธาวีไม่ยอมขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เขาเสียที
“เปล่าหรอกพี่นั่งได้”แม้มันจะค่อนข้างลำบากก็เถอะเมธาวีพูดต่อในใจ
“เดี๋ยว”แต่ทันทีที่เท้าของหญิงสาวกำลังก้าวขึ้นมอเตอร์ไซค์เจ้ารถก็ร้องห้ามเสียก่อน เพราะนึกขึ้นได้ว่ารถขอตัวเองนั้นไม่เหมาะกับชุดที่หญิงสาวสวมใส่อยู่
“อ๊ะ”
ภายในงานเลี้ยงหรูหราบรรยากาศชื่นมื่นเต็มไปด้วยความยินดีที่ต่างมาแสดงความยินดีกับบ่าวสาวโดยงานถูกจัดขึ้นที่คฤหาสน์ที่เป็นเรือนหอของทั้งคู่นั่นเอง“สวยมากเลยเมย์”เฟรย่าจับตัวเพื่อนสาวหันซ้ายหันขวามองหาจุดบกพร่องแต่ก็ไม่เจอแม้แต่จุดเดียว“ไร้ที่ติ”เฟรย่าบอกอย่างภูมิใจ“ขนาดลูกสองแล้วยังเป๊ะเว่อร์”จัสมินมองเพื่อนรักอย่างทึ้งๆ“เข้าใจกันผิดแล้วจ้ะ กำลังจะเป็นคุณแม่ลูกสาม”“ห๊ะ!”เฟรย่าร้องออกมาอย่างตกใจ“แหมมกลับมาเจอกันปุบก็ซัมกันหนักเลยนะ รีบมีเจ้าตัวเล็กเลยนะ”จัสมินเย้าแหย่เพื่อนรัก“มีสามีเด็กก็งี้แหละ กินอร่อยนะ”เมธาวีเย้าแหย่เพื่อนกลับโดยไม่ทันได้สังเกตว่าสามีเด็กเดินเข้ามาทันได้ยินพอดี“อร่อยขนาดนั้นเลย”น้ำเสียงทุ้มต่ำถามใบหน้านิ่งเรียบแต่ใบหูกลับแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด“มาก ถึงใจสุดๆ”เมธาวีตอบกลับแบบไม่ต้องคิด“เมย์”เฟรย่าสะกิดเพื่อนเพื่อเตือนสติว่าพวกเขาไม่ใช่คนพูดประโยคนั้น“อะไรของแกยายเฟร""ผัวเด็กแก"ทันทีที่ได้ยินคำเฉลยของเพื่อนรักเจ้าสาวของงานถึงกับหน้าถอดสีกันเลยทีเดียว เขาจะหาว่าฉันลามกหรือเปล่าเนี่ยนั้นคือคำถามที่เมธาวีถามตัวเอง"งั้นพวกฉันไปรอในงานนะ"จัสมินบอ
ทันทีที่ความใหญ่โตถูกกระแทกเข้าช่องทางคับแคบฉ่ำน้ำร่างบางก็โผเข้ากอดเจ้าของการกระทำราวกับต้องการให้คนตัวโตปลอบแต่อีกฝ่ายกลับกระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่องเล็กด้วยความกระสัน"อึก~ เบาหน่อยสิจุก"ร่างบางใบหน้าเหยเกเมื่อความใหญ่โตถูกถอนออกแทบจะหลุดออกจากกันก่อนจะกระแทกแทรกเข้ามาจนสุดลำอีกครั้ง“ก็หิว งั้นถ้าไม่อยากจุกก็กระแทกสิ”มาเฟียหนุ่มเอ่ยกระตุ้นให้ร่างบางปรนเปรอตนเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่ง“กระแทกผมสิครับพี่เมย์”คนตัวโตอ้อนเหมือนที่หญิงสาวชอบและทุกครั้ง เธอก็แพ้ลูกอ้อนแบบนี้ทุกทีแต่ครั้งนี้กลับผิดคาด หึ~ แต่ถ้าอ้อนไม่ได้ผลงั้นคงต้องบังคับสินะแต่วิธีบังคับในแบบของฟีนิกซ์นั้นเป็นการบังคับแบบเต็มใจเท่านั้นมันจึงจะถึงใจปึก~ ปึก~ ปึก~คนตัวโตกระแทกเอวสวนขึ้นใส่ร่องเล็กคับแคบจนร่างบางกระเด้งกระดอนไปตามแรงกระแทกกระทั้น“อื้อ~ จุก!”ร่างเล็กร้องประท้วงทันทีเมื่อถูกเล่นงานที่ใจกลางความเป็นสาวปัก! ปัก! ปัก!ร่างบางเริ่มขยับโยกส่งตัวตนเข้าช่องน้ำหวานเป็นจังหวะเนิบนาบ“ขอแรงอีกได้ไหมครับ”“มะ มันเสียว”แม้ปากจะปฏิเสธแต่สะโพกมนก็เร่งจังหวะกระแทกตามแรงอารมณ์ที่มีไม่ต่างจากคนร้องขอ“เมียผมแ
หลังจากเพื่อนๆของชายหนุ่มกลับไปทิพย์อาภาก็ถือโอกาสพูดเคลียร์ใจกับลูกสะใภ้เสียเลย"เมย์""คะ?""เรื่องเมื่อตอนนั้นแม่ขอโทษนะแม่ไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ทำมันจะทำร้ายหนูขนาดนั้น"ทิพย์อาภาบอกอย่างรู้สึกผิด"เรื่องนั้นเมย์ไม่ได้คิดอะไรแล้วค่ะ เรื่องมันผ่านมานานแล้ว""ขอบใจนะ""อีกอย่าง...คนที่ช่วยเมย์จากการถูกส่งขายอวัยวะก็คือคุณแม่นี่คะ"เมธาวียิ้มอ่อนให้กับแม่ของชายคนที่เธอรัก"ตอนนั้นเมย์ไม่มั่นใจว่าใช่คุณแม่ไหมแต่หลังจากที่เมย์ออกมาได้แล้วเมย์ก็มารู้ว่าคนที่ช่วยซื้อเมย์ออกมาก็คือเพื่อนของคุณแม่ ที่มีสามีชื่อชยันต์""...""หลังจากนั้นก็เป็นมาเฟียที่ชื่อชยันต์ที่รับตัวเมย์มาส่งคุณปู่เอง""เมย์พยายามจะบอกเรื่องนี้กับฟินในตอนนั้นแต่เขาก็หายหน้าไป""แม่ตั้งใจช่วยเมียผมแต่แรกแล้วเหรอ""อืม ก็ฟินรักเขาขนาดนั้นแม่จะปล่อยเขาเป็นอะไรไปได้ยังไง""...""ความสุขของฟินก็คือความสุขของแม่ ถึงแม้ความรักของแม่ฟินจะไม่ต้องการก็ตาม"คนเป็นแม่น้ำตาคลอด้วยความน้อยใจที่ลูกไม่เคยรักเธอเลย"ใครบอกว่าฟินไม่รักแม่"ฟีนิกซ์เดินเข้าไปสวมกอดคนเป็นแม่น้ำตาคลอ"ฟินรักแม่นะ รักมากด้วยฟินต้องการแม่มาตลอด"คนเป็
กว่าที่หมอจะยอมให้มาเฟียหนุ่มกลับบ้านได้ก็กินเวลาไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม พื้นที่แออัดในห้องพักสี่เหลี่ยมทำอารมณ์มาเฟียหนุ่มค่อนข้างหงุดหงิดทำให้พยาบาลที่เขามาทำหน้าที่ทำงานกันค่อนข้างลำบากเดือดร้อนหมอเดนิสต้องเขามาทำการรักษาให้แบบส่วนตัว“ครั้งหน้ากรุณาอย่าเจ็บนะครับหมอขอร้อง”เดนิสบอกมาเฟียหนุ่มด้วยความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมเอาแต่ใจของคนไข้แต่คนไข้กลับไม่สะทกสะท้านสักนิด“แกเป็นหมอไม่มีสิทธิปฏิเสธคนไข้แบบฉัน”“คนไข้แบบแกหมอปกติที่ไหนจะรักษาได้”เดนิสมองฟีนิกซ์อย่างเบื่อหน่าย แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเป็นเจ้าของไข้เพื่อนจอมเอาแต่ใจแต่ครั้งนี้ฟีนิกซ์ดันบ้ากว่าเดิมไม่เห็นเมียไม่ยอมล้างแผลไม่ยอมกินยา“คุณเมย์ได้กลับไปพักผ่อนบ้างไหมครับ”เมื่อพูดกับคนไข้ไปก็เปล่าประโยชน์เดนิสจึงหันมาสนใจหญิงสาวที่ใบหน้าอิดโรยราวกับคนอดหลับอดนอน“ไอ้หมอคุยกับคนไข้ก็พอครับอย่าเสือกยุ่งกับเมียคนไข้”“เฮ้อ~ ว่างก็ไปเช็คประสาทบ้างนะ”จากที่กำลังเป็นห่วงหญิงสาวเพียงคนเดียวในห้องพักผู้ป่วยเดนิสชักอยากจะพาเพื่อนตัวเองไปเช็คประสาทขึ้นมาแล้ว“ขอโทษแทนเขาด้วยนะคะ”“ไม่เป็นไรหรอกครับผมชินแล้ว ตอนอยู่อังกฤษมั
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงเย็นสองบอดี้การ์ดคนสนิท ก็เข้ามาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เจ้านายหนุ่มภายในห้องพักแต่ดูเหมือนว่ามีอยู่หนึ่งคนที่ท่าทางแปลกไปจนเจ้านายหนุ่มสังเกตได้“ปราบ”“ครับนาย"“เอเดนมันเป็นอะไรของมันมองฉันอย่างกับฉันไปหยิกไข่มัน”ตั้งแต่ตอนที่เดินเข้ามาพร้อมเมธาวีเอเดนก็เอาแต่มองค้อนเจ้านายหนุ่มไม่หยุดนี่ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงคิดว่าเอเดนงอนเขาอยู่แน่ๆ“เอ่อ”ปราบปรามกระอักกระอ่วนอยู่ไม่น้อยเพราะจะให้เขาตอบไปตามตรงก็กลัวจะทำให้เจ้านายไม่พอใจ“เฮอะ”พอได้ยินเจ้านายว่าตัวเองแบบนั้นความน้อยใจยิ่งเพิ่มขึ้นจนลืมความเกรงกลัวที่เคยมีต่อเจ้านายแถมยังสะบัดหน้าหนีผู้เป็นนายราวกับสาวน้อยงอนคนรัก“เอเดนแกอย่าทำแบบนี้ขอร้องฉันจะอ้วก”ฟีนิกซ์เห็นท่าทางของมือซ้ายคนสนิทอดขยาดไม่ได้ ตัวโตอย่างกับควายมาทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้“ผมทำอะไรก็ไม่ดีในสายตานายหรอกครับ”พูดจบก็สะบัดหน้าหนีอีกรอบฟีนิกซ์ถึงกับกุมขมับกับท่าทางของเอเดน เรียกได้ว่าหมดคำจะพูด“ลากตัวมันออกไปเถอะฉันรำคาญลูกตา”“ครับนาย”ปราบปรามโค้งหัวให้เจ้านายเล็กน้อยแล้วเดินไปลากตัวเอเดนออกไปแต่เอเดนกลับไม่ยอมง่ายๆจนสุดท้ายฟีนิกซ์ก็จำต้องมา
เมธาวีเดินออกมาสูดอากาศในช่วงเช้ามืดเหมือนอย่างทุกวันแต่วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันดูผิดแปลกไปหมดเริ่มตั้งแต่เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามจากที่เห็นเขากับพ่อจะมานั่งทำกิจกรรมยามเช้ากันในทุกๆวันแต่วันนี้ทั้งคู่กลับสวมสูทพร้อมกับยืนรักษาความปลอดภัยอยู่หน้ารั้วบ้านของเขาแทนแถมยังเอาแต่จ้องมองมาที่บ้านของเธอจนร่างบางรู้สึกประหม่าสุดท้ายเมธาวีก็เดินกลับเข้าบ้านแทนการไปสูดอากาศตามที่ตั้งใจตอนแรก“ถ้าเป็นแบบนี้ทุกวันมีหวังอึดอัดตาย”“อ้าวเมย์ทำไมวันนี้กลับเข้าบ้านเร็วจัง”“แม่เห็นบ้านตรงข้ามยังคะ”“อ่อ เห็นแล้ว”“แล้วแม่ไม่แปลกใจเหรอคะหรือกลัวไหมคะ”“จะกลัวทำไมละคนของพ่อเจ้าพาทั้งนั้น”“นี่แม่ก็รู้เหรอคะ”“รู้สิ”“…”“ก็พวกนั้นเขามากับเจ้านายเขาบ่อยๆน่ะ”“มาบ่อย? ตอนไหนทำไมเมย์ไม่รู้”“ก็ถ้าเมื่อก่อนรู้จะอยู่ที่นี่ต่อไหมล่ะ”“…”“ก็นั่นแหละพ่อเจ้าพาเลยไม่ให้ใครบอกเมย์รวมทั้งแม่ก็ด้วย”“งั้นก็แสดงว่าคนที่ไม่รู้อะไรเลยมีแค่เมย์สินะคะ”“อย่าไปโกรธพ่อเจ้าพาเลยลูก เขาก็ทำหน้าที่ของเขาเต็มที่แล้ว เจ้าพาเองก็ไม่ต้องทนรู้สึกขาดพ่อ”“อืม เมย์ไปชงโกโก้อุ่นๆดื่มก่อนนะคะ”“จ๊ะ”ผู้เป็นแม่มองตามลูก
“นายหญิงไปเยี่ยมนายหน่อยเถอะนะครับ นี่ก็สองวันแล้วนายยังไม่ยอมทานอะไรเลย”เอเดนยังคงพยายามอ้อนวอนนายหญิงของตน“ทนหิวไม่ไหวเขาก็กินเองแหละ”แต่เมธาวีกลับตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ“แม้แต่แผลก็ไม่ยอมให้หมอตรวจเลยนะครับ”เอเดนเสริมอีกหน“ฉันไปมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก”เธอจะไปช่วยอะไรได้เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เพิ่งโดนเขาไล่ตะเพิดมา“ได้สิครับนายรักนายหญิงขนาดนั้น”เอเดนถึงกลับสะบัดคอหันมองปราบปรามอย่างไม่เชื่อหูถึงเขาจะรู้ว่าหญิงสาวมีความสำคัญกับเจ้านายเขามากแต่ก็ยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำอย่างที่ปราบปรามพูด“ทำไมพี่กล้าพูดแบบนั้นเกิดนายอาละวาดต่อหน้าคุณเมย์จะทำไง”เอเดนกระซิบถามปราบปรามให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน“ไม่มีทาง”“พวกคุณกลับไปเถอะตอนนี้เขาคงแค่สับสน”“ถ้างั้นนายหญิงจำเรื่องเมื่อหาปีก่อนได้ไหมครับ ตอนที่นายหญิงหายไป รู้ไหมครับว่านายต้องแรกทั้งชีวิตเลยนะครับ”เมธาวีที่ไม่ได้รู้เรื่องราวทั้งหมดในตอนนั้นก็ได้แต่เงียบรอฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมสุดท้ายฟีนิกซ์ถึงยอมปล่อยมือจากเธออย่างง่ายดาย5 ปีก่อนทันทีที่รู้ว่าแฟนสาวหายตัวไปฟีนิกซ์ก็ออกตามหาถึงหนึ่งวันเต็มๆแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สุด
“พายุ!”เด็กชายตัวน้อยที่ได้ยินเสียงเรียกอันคุ้นเคยรีบหันตามเสียงเรียก พายุที่เห็นพ่อของเขารีบวิ่งเข้าหาพ่อด้วยความหวาดกลัวฟีนิกซ์ก็รีบกอดเอาลูกรักมาไว้ในอ้อนแขน“พ่อ แม่ แม่เจ็บ”พายุบอกคนเป็นพ่อดวงตาแดงก่ำอย่าง น่าสงสาร แม้จะสงสารลูกชายตัวน้อยแค่ไหนแต่ตอนนี้เขาต้องหาตัวเมธาวีให้เจอก่อนโชคดีเหลือเกินที่ลูกชายวัยแค่สี่ขวบแต่สามารถสื่อสารได้เก่งมากๆ“แม่อยู่ไหน”คนเป็นพ่อถามลูกชายด้วยความกระวนกระวายใจก่อนจะได้สติเมื่อมือขวาคนสนิทเดินเข้ามาพอดี“เมียฉันอยู่ไหน!”“คุณเมย์ยังอยู่ข้างในครับ พวกนั้นมีปืนและมากันหลายคนผมเกรงว่าคุณเมย์จะได้รับอันตรายเลยยังไม่กล้าเข้าไปครับ”เป็นบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่คอยดูแลความปลอดภัยของหญิงสาวเป็นผู้รายงาน“บ้าชิบ! ปราบพาลูกฉันไป”ฟีนิกซ์สบถออกมาอย่างหัวเสียแต่ก็ไม่ลืมนึกถึงความปลอดภัยของลูกชาย“แต่..”ปราบปรามไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้เจ้าอยู่กับลูกน้องโดยปราศจากเขาคอยซัพพอร์ต“แกก็รู้ว่าอะไรสำคัญกว่าฉัน”ที่เขายอมผันตัวมาเป็น มาเฟียก็เพื่อความปลอดภัยของเมธาวีแล้วชีวิตเขาจะมีค่าอะไรถ้าเมธาวีและลูกๆของเขาเป็นอะไรไป“ครับนาย”แม้ไม่อยากจะทำตามคำสั่งนี้แต่ปร
ครืด~ ครืด~ ครืด~ เสียงสมาร์ทโฟนแจ้งเตือนสายแล้วสายเล่าแต่เจ้าของเครื่องก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกจากห้องน้ำมารับสายเสียที มีเพียงเสียงสายน้ำที่ตกกระทบพื้นห้องน้ำดังอยู่ไม่ขาดสายสุดท้ายชายหนุ่มจึงถือวิสาสะหยิบมันขึ้นมาดูเผื่อผู้โทรเข้ามาจะมีธุระด่วน“เบอร์ใครไม่เห็นบันทึกไว้”ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงตัดสินใจกดรับสายแทนหญิงสาวเจ้าของเครื่อง[เมย์พี่รอที่บ้านแล้วนะเมื่อไหร่จะกลับครับพี่อยากกอดเมย์จะแย่แล้ว]“…”ฟีนิกซ์ที่ได้ยินประโยคชวนหงุดหงิดจากปลายสายทำเพียงฟังเงียบๆสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ[เมย์ได้ยินพี่ไหม พูดกับพี่หน่อยสิครับ พี่คิดถึงจะแย่แล้วไหนบอกว่าคืนนี้เราจะค้างด้วยกันไง]“คงไม่ได้! เพราะเมธาวีกำลังนอนเอากับฉันอยู่”[มึงเป็นใคร!]“เลิกยุ่งกับเมียกูซะ! ถ้ามึงยังไม่อยากตาย!”ติ๊ด!ทันทีที่พูดจบฟีนิกซ์ก็กดตัดสายทันทีมือหนากำสมาร์ทโฟน ของหญิงสาวแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนก่อนจะปามันใส่ผนังจนแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี เมธาวีที่กำลังอาบน้ำอยู่รีบวิ่งออกมาด้วยนึกเป็นห่วงว่าชายหนุ่มจะได้รับอันตรายอะไรหรือเปล่า“มะ มีอะไรหรือเปล่า”เมธาวีเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะท่าทางของเขาต
Comments