น้องขาลนิ่งไปทันที เขาเอียงคอไปมองโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของฉัน แววตาคมปลาบหันกลับมาสบตากับฉัน เย็นเยียบจนรู้สึกสั่นกลัวน้องขาลไม่เหมือนเดิมมาตั้งแต่เมื่อวาน และฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร“งั้นขอเช็คโทรศัพท์หน่อยสิครับพี่หมี่”ฉันเม้มริมฝีปาก ฉันแค่คิดนะ เหมือนว่าเขาจะไม่ไว้ใจฉันเลย ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าพอเริ่มคบกับน้องขาล เขาก็เปลี่ยนไปนิดๆ หน่อยๆ“จะเช็คทำไมคะ ไม่ไว้ใจพี่เหรอ” น้ำเสียงที่ถามกลับไปห้วนสั้นไม่ต่างกัน ไม่รู้ว่าจะมาชวนทะเลาะอะไรในตอนที่เพิ่งเจอเรื่องพวกนั้นมาด้วยนะ“ผมเช็คไม่ได้เหรอครับ ผมจะได้รู้ตัว” น้ำเสียงที่พ่นออกมามีแววประชดเจือปนเล็กน้อย แม้ว่าฉันจะไม่อยากจะเชื่อว่าน้องขาลจะออกปากประชดประชันได้ เพราะก่อนที่เราจะคบกันเขาเป็นสุนัขที่ดีมาโดยตลอด แต่พอตกปากรับคำขอคบเป็นแฟน ขาลเริ่มแสดงท่าทีเป็นใหญ่ขึ้นทีละน้อยและฉันก็... ไม่ค่อยชอบท่าทางถือดีนั่นเท่าไหร่“เช็คก็ได้ค่ะ เอาเลย” ฉันไม่ชอบเวลามีใครมางอแงในเวลาที่ฉันกำลังหัวเสีย เลยพยักเพยิดหน้าไปทางมือถือที่นอนนิ่งอยู่บนโต๊ะ น้องขาลสบตาฉันกลับ เขากัดริมฝีปาก กำหมัดแน่น แล้วเดินผ่านไหล่ฉันไปกดโทรศัพท์ดูด้วยร่างกำยำที่เกร็งเครี
ที่โรงพยาบาลฉันล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์ มือข้างหนึ่งเล่นปากกา หมุนไปมา ในระหว่างที่นึกถึงใบหน้าของเหยี่ยวที่เจอเมื่อวาน เขาดูแตกต่างจากอดีตวันวานซะเหลือเกินเหยี่ยวเป็นเด็กที่มี IQ สูงกว่าเด็กทั่วไป เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณอาของฉัน จึงไม่แปลกที่ฉันที่รู้ดีในตอนนั้นหลงชอบเขา เหยี่ยวเป็นเด็กตัวสูงหุ่นเพรียว เล่นกีฬาเก่ง และเรียนเก่งได้อันดับหนึ่งมาตลอด พ่อถึงกับพูดว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน คงจะจับดองกันกับฉันไปแล้วแต่... เมื่อวานเหยี่ยวที่กลับมานั้นเปลี่ยนไปมากเขาทำผมสีเงินด้วยทรงผมที่กำลังฮอตฮิตที่เกาหลีตอนนี้ ท่าทางดูกำยำขึ้น ไปสักเพิ่มมาด้วยรึเปล่า ไม่เหลือแม้แต่เค้าเหยี่ยวคนเดิมที่ไม่เคยสนใจแฟชั่นและผอมเพรียวที่เคยรู้จักฉันเอาปากกามาจรดริมฝีปากของตัวเองไม่ได้หวั่นไหวหรอก... แค่รู้สึกไม่ชอบมาพากลนิดหน่อยอยู่ดีๆ ก็นึกถึงคำพูดก่อนที่จะขึ้นเครื่องของเขาวนเวียนอยู่ในหัว‘ถ้ากลับมา รักษาสัญญาด้วยนะ’อย่าโทษกันนะ ที่คราวนี้ไม่รักษาสัญญาฉันหลับตาลง ผ่อนปรนลมหายใจออกมา ในรอบหลายปีที่ไม่ได้เจอกัน แทนที่ฉันจะดีใจ ฉันกลับรู้สึกสั่นไหวมันไม่ดีเลยก๊อก ก็อกฉันสะดุ้งเฮือก เมื่อเห
เหยี่ยวจ้องมองภาพของผู้ชายคนนั้นที่ลงทุนกรีดเนื้อหลังมือของตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากแฟนสาว แววตาคมกริบจ้องไปที่ภาพบาดตาบาดใจ อย่างเช่นที่ว่าพี่หมี่พุ่งตรงเข้ามาดูแผลของมันทันที พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างสุดซึ้งเป็นภาพที่เหยี่ยวได้รับรู้ในทันทีว่าหัวใจพี่หมี่ไม่ใช่ของเขาอีกต่อไปแล้วเวลาที่เธอบอกชอบเขามันก็นานมากแล้ว คงมีแต่เขาที่ยังคงปักใจกับคำสารภาพรักของเธอ โดยลืมคำว่ากาลเวลามันเปลี่ยนคนได้นี่ไม่ใช่พี่บะหมี่คนเดิมที่น่ารักและไร้เดียงสาเหมือนเช่นวันวาน เธอเซ็กซี่ขึ้น สวยขึ้น โตขึ้น หน้าตาคมเฉี่ยวบาดใจขึ้น และที่สำคัญ เธอมีแฟนแล้วเขาคงต้องยอมแพ้ใช่รึเปล่าแฟนเธอก็ดูท่าจะโรคจิตคลั่งรักใช้ได้ แววตาที่มองมาที่เขาเหมือนเสือหวงถิ่น พี่หมี่คืออาณาเขตที่มันสร้างไว้ และมันจะไม่ให้เขาเข้าไปกล้ำกรายลงทุนกรีดเนื้อเพื่อให้เธอเบนความสนใจ มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทำกันเขาไม่ใช่คนที่ไร้สติแบบนั้นหรอก จะทำให้รู้ว่าเขาดีกว่าหลายต่อหลายเท่าร่างสูงคิดในใจพร้อมกับชักมือถือขึ้นมา กดแอปที่สามารถโทรเข้าหาเบอร์ตัวเองได้ ทำทีเหมือนมีใครอีกคนโทรกลับมาไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่อี
[พาร์ท : ขาล]โคตรรู้สึกไม่สบอารมณ์เผลอทำตัวไม่เป็นมิตรกับมันต่อหน้าแฟนตัวเองจนได้ ทั้งที่คิดว่าก่อนหน้านี้หลังจากเป็นแฟนกับพี่หมี่จะพยายามเข้าใจ ไม่แสดงอาการหึงหวงมากเกินไป และเชื่อใจเธอให้มากกว่านี้แต่ไม่ ในใจลึกๆ ผมไม่เข้าใจ ไม่เชื่อใจเธอเลยสักนิด ผมมีความรู้สึกกลัวว่าพี่หมี่จะทิ้งผมอยู่ตลอดเวลา เป็นความกลัวที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ยิ่งพอมาได้คบกับเธอ ความหวงอะไรแบบนี้ก็เพิ่มมากขึ้นจนแทบทรมานผมไม่เคยรู้ว่าพี่หมี่มีญาติเป็นผู้ชาย ที่ต้องยอมรับว่ามันดูดี มันตรงสเปคที่พี่หมี่เคยพูดไว้ทุกอย่าง ทันทีที่เปิดประตูมาเจอมัน ก็เหมือนกับเจอผู้ชายในอุดมคติของแฟนผมอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่ผมพยายามจะเป็น แต่สุดท้ายคนที่มีมันทั้งหมดนั่นกลับก้าวเข้ามาในวันแรกที่เราปันใจให้กันแล้วผมรู้สึกเป็นกังวล เป็นกังวลหนักสัสๆสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง แต่ใจกลับร้อนระอุไม่หยุดหย่อน ผมเหลือบกายใหญ่ๆ ไปมองแฟนผมที่นั่งคุยกับมัน ท่าทางพี่หมี่ดูมีความสุขดี ในขณะที่มันเองก็จ้องหน้าเธอไม่ละสายตาชุดเดรสสีดำที่สั้นเลยเข่าขึ้นมา อยากเข้าไปกระชากเธอขังไว้ในห้อง แล้วฉีกมันเป็นชิ้นๆ ทำให้เธอรู้ว่าเธอจะใส่ชุดที่ยั่วยวนแบบนี้ออกมาร
ผู้ชายเรือนผมสีเทาทรงมัลเล็ตรากไทร พร้อมด้วยแววตาประดุดเหยี่ยวนกที่กำลังยืนจ้องคอนโดตึกของลูกพี่ลูกน้องของตัวเองอยู่เนิ่นนาน เขาเพิ่งกลับมาจากจีน และทันทีที่กลับมาที่ไทย ก็เร่งรุดมาหาเธอโดยเร็วที่สุดผู้หญิงที่เป็นแสงสว่างให้เขาตลอดมา เธอที่สวยดั่งเทพีที่ตกลงมาจากสวรรค์‘เหยี่ยว’ คือชื่อของเขา เขาผู้เป็นดั่งนักล่าบนท้องฟ้า เรียนไฮสกูลที่จีนอยู่สองปี หลังจากพรากกับเธอคนนั้น ทันทีที่เรียนจบแล้วทางครอบครัวอนุญาตให้กลับมาที่ไทย เขาก็สืบหาที่อยู่ของเธอ แล้วตามมาที่นี่เหยี่ยวยกนาฬิกาขึ้นมอง นี่เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ เธอคงกลับจากโรงพยาบาลแล้วมั้งแต่ด้วยความไม่มั่นใจว่าจะได้เจอเธอรึเปล่า เหยี่ยวยืนรออยู่ด้านล่างตึกจนตกสี่โมงเย็น เขาเลยก้าวเข้าไป กดเลขชั้นที่สายสืบของเขาบอกว่าเป็นห้องพักของเธอเหยี่ยวเดินอาดๆ นำพาเรือนกายสูงใหญ่กำยำและเต็มไปด้วยรอยสัก Old School มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องๆ หนึ่ง เขากดกริ่งอย่างไม่เร่งร้อนทั้งที่ในใจแทบระอุจากความคิดถึง และรู้สึกได้เลยว่าภายในห้องมีฝีเท้าหนักๆ ก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นแกรกประตูถูกเปิดออก พร้อมกับร่างกายกำยำที่เท่าๆ กันกับเขาปรากฏตรงหน้า ผู้ชายคนนั้นมีเรือ
[พาร์ท : ขาล]ก็แค่ลองล้อเล่นดู ไม่ได้คิดว่าพี่หมี่จะทำมันจริงๆ หรอกจนเธอเอามือที่สั่นเล็กน้อยคว้าที่ปลายหัวองคชาตของผม ผมมองหน้าเธออย่างท้าทาย เกลี่ยเส้นผมยาวๆ สีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าเธอออก ในขณะที่รู้สึกได้ถึงความอุ่นวาบตรงหัวเธอใช้ปากครอบทั้งถุงยางและปลายหัวเห็ดใหญ่ของผม รูดลงอย่างไม่ช่ำชอง แต่ดันเสียวได้ใจ ผมเบิกตากว้าง รู้ว่าพี่หมี่ใจเด็ดแต่ไม่คิดว่าจะกล้าทำขนาดนี้ พอเธอรูดลงไปลึกขึ้น ผมก็แหงนคอขึ้นคำราม เกร็งหน้าท้องจนเส้นเลือดขึ้นที่สะบั้นเอวเสียวชิบหาย ขนาดมีถุงยางครอบอีกชั้น ยังสัมผัสได้ถึงความอุ่นของน้ำลายเธอเลยเหมือนถูกลนไฟในทุกๆ ที่ที่พี่หมี่สัมผัส เธอที่กระดกบั้นท้ายขึ้น ใช้ปากจิ้มลิ้มนั้นเอาถุงยางครอบลงไปจนสุดโคน ผมกัดฟันแน่น เผลอเอื้อมมือสอดลงไปใต้อกใหญ่ๆ ของเธอ ขยำมันด้วยความแรงระดับหนึ่งอย่าทำให้ทนไม่ไหวเลย ขอร้อง“อ๊ะ...!” คนตัวเล็กถูกผมยกขึ้นนั่งทับหน้าท้องแกร่งแล้วเอนนอนลงไปที่ปลายเตียง เธอหน้าแดงซ่านในขณะที่ร่องแคบสีชมพูที่แฉะเยิ้มถูไถไปกับลำท่อนที่เคลือบด้วยถุงยาง พี่หมี่กัดริมฝีปาก ในขณะที่ผมเอื้อมมือขึ้นไปม้วนผมยาวๆ ของเธอเล่นอย่างอ้อยอิ่ง “มะ... มันน่าอายนะ”