Share

ทาสแมวเต็มขั้น

Penulis: suniki
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-15 18:28:57

“อีอี~”

ใบหน้ากลมป้อมหันมองทางต้นเสียงจึงเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ กำลังฉีกยิ้มราวคนโง่งมวิ่งอ้าแขนตรงมาหานาง หงอี้มองเขาด้วยแววตาเบื่อหน่าย รอจนเขาวิ่งมาใกล้ตัวจึงกระโดดหลบวิธีวงแขนนั้นอย่างง่ายดาย เมินสีหน้าผิดหวังของคนชอบฉวยโอกาส ยืนส่ายพวงหางดมกลีบดอกกุหลาบสีชมพู ดูยโสไม่น้อย

“เหมี๊ยววว ม่าวว” อย่าคิดว่าเป็นสหายของชินอ๋องแล้วจะมากอดข้าตอนไหนก็ได้นะเจ้าคะ เป็นบุรุษมิควรใกล้ชิดสตรี

“เจ้าใจร้าย ข้าอุตส่าห์ได้ของเล่นมาใหม่ สั่งทำพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”

หงอี้ยังคงเมินบุรุษร่างใหญ่แต่ขี้ใจน้อย ดวงตากลมมองตามผีเสื้อแสนสวยบินผ่านหน้าไป พอมันเกาะบนกลีบดอกไม้นางจึงยกเท้าหน้าหวังเขี่ยอย่างนึกสนุก

แมวขนยาวสีขาวท่ามกลางดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่ทำคนมองใจละลาย สลัดความน้อยใจหลังถูกแมวเมินทิ้ง นั่งมองความน่ารักนั้นอย่างมีความสุข

เมื่อสามปีก่อนชีวิตของท่านกุนซือหนุ่มแม้จะสุนกสนานตามประสาแต่ก็เงียบเหงาไร้จุดหมาย จนกระทั่งการปรากฏตัวของเจ้าก้อนขนสีขาวในอ้อมแขนของไต้ชินอ๋อง โดยไม่รู้ตัว กงเจิ้งก็ถูกดวงตาสีเทากลมแป๋วคู่นั้นหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมความน่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้น

ดูเนื้อตัวกลม ๆ และขนปุกปุยนั่นสิ ความนุ่มนิ่มยามกอดหงอี้เอาไว้ทำกงเจิ้งอยากกอดอยากฟัดให้หนำใจ แต่พอเขาเริ่มทำแบบนั้น หงอี้ก็จะร้องโวยวาย พอหลุดออกไปได้ก็ทำเหมือนเขาไร้ตัวตนและไม่ยอมให้เขาคลอเคลียอีก

กงเจิ้งรู้สึกสิ้นไร้เรี่ยวแรงนับพันหน อยากถูกแมวรัก แต่แมวกลับไม่รัก แม้ว่าจะเอาของกินหรือของเล่นมาหลอกล่อมากแค่ไหนก็ตาม

ไต้ชินอ๋องยืนมองสหายเพียงคนเดียวพ่วงตำแหน่งกุนซือของกองทัพ กำลังนั่งทำหน้าเศร้าหลังถูกแมวเมินด้วยความคิดอันว่างเปล่า เหลือบมองหงอี้จอมซุกซน แอบหนีเที่ยวมาถึงจวนตระกูลกง เบี่ยงปลายเท้าไปยังสวนดอกไม้

หงอี้นั่งทอดความสุขจากกลิ่นหอม พลันได้กลิ่นอันคุ้นเคยของเจ้านายจึงสะดุ้งตัวแข็งทื่อ ค่อย ๆ หันมอง ร่างสูงยืนเอาแขนไพล่หลังมองนางอย่างไร้อารมณ์

หูลู่หางตกคืออาการของแมวทำความผิดแล้วถูกจับได้

แง้ว เหมี๊ยว ซวน ข้าแค่เดินเล่นเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว

ไต้ชินอ๋องโน้มกายลงมา ใช้นิ้วเขี่ยปลายจมูกเจ้าตัวกลมผู้กำลังส่งสายตาออดอ้อนมาให้ หวังว่าเขาจะใจอ่อนเหมือนทุกที “คงกำลังหาข้อแก้ตัวอยู่ละสิ หืม? พอข้าไม่อยู่แล้วซุกซนไม่เข้าเรื่อง”

...และใช่ เขายังคงใจอ่อนให้กับดวงตาสีเทากลมแป๋วอันแวววาวนั่นอีกตามเคย

“ในเมื่อจวนของเจ้ามันไร้สีสัน อีอีต้องชอบมาเล่นที่จวนของข้าอยู่แล้ว เรื่องนี้โทษอีอีได้ที่ไหน”

“เข้าข้างกันปานนี้ เอาไปเลี้ยงเองเลยดีหรือไม่”

ได้ยินวาจาประชดของไต้ชินอ๋อง กงเจิ้งตาวาว นอกจากไม่เกรงใจยังยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบานกล่าวว่า “หากเจ้ากล้าให้ ข้าก็กล้ารับ”

นอกจากเขาจะกล้ารับแล้วยังพร้อมอ้าแขนรอ จะจัดเตรียมพื้นที่ ของกินของเล่นให้ดีกว่าจวนอ๋องเสียอีก อยู่ที่เจ้าหน้าปลาตายนี่จะยอมปล่อยอีอีมาให้เขาหรือเปล่าเถอะ

ไต้ชินอ๋องทำเสียงขึ้นจมูก ส่งสายตาให้สหายในทำนองว่า ฝันไปเถอะ

โน้มกายอุ้มหงอี้ผู้กำลังเดินวนคลอเคลียเขาไม่ห่างแนบอก กลิ่นหอมของจวี๋ฮวาทำให้จิตใจสั่นไหวของชินอ๋องสงบลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เป็นเช่นนี้ ในวัดร้างเมื่อสามปีก่อนแม้จะเป็นตัวน่าเกลียด กลิ่นหอมนี้ยังคงเด่นชัด กลิ่นที่ช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่ว่าจะอาบน้ำกี่ครั้งยังคงไว้ซึ่งกลิ่นของจวี๋ฮวา กลายเป็นกลิ่นประจำตัวของหงอี้นับแต่นั้น

กงเจิ้งมือไม้สั่นเทาจนต้องรีบกุมเอาไว้ เหตุใดอีอีของเขาถึงชอบคลอเคลียเจ้าหน้าปลาตายแทบตลอดเวลา คนอยากอุ้มไม่ได้อุ้ม อิจฉาตาร้อนไปหมดแล้ว

เจ้านี่มีอะไรดีมากกว่าบุรุษผู้สดใสและมีแต่ความสนุกสนานอย่างเขาหรือ

ไต้ชินอ๋องยิ้มมุมปากเยาะเย้ยสหาย ส่งสายตาของผู้ชนะไปให้ จนกงเจิ้งแยกเขี้ยวจึงหัวเราะชอบใจกล่าวว่า “คืนนี้โรงประมูลซวี่หัวจะประกาศวันประมูลของ เจ้าสนใจไปดูของดีก่อนงานประมูลจะเริ่มหรือไม่”

“ถึงขนาดทำให้เจ้าเอ่ยปากว่าเป็นของดีได้ แปลว่าไม่ธรรมดา”

“ไม่ธรรมดาหรือไม่ ดูด้วยตาก็ตัดสินได้แล้ว”

“ตกลง ข้าไปรถม้าเจ้านะ”

กงเจิ้งไม่รอให้ชินอ๋องอนุญาตก็เดินตัวปลิวไปขึ้นรถม้าของจวนอ๋อง ซึ่งจอดรออยู่หน้าประตูจวน ปล่อยเจ้าของรถเดินตามหลังพลางกล่าวกับแมวขาวในอ้อมแขนว่า

“ข้าจะให้คนไปส่งเจ้ากลับจวน ใกล้ค่ำแล้วห้ามหนีไปเที่ยวเล่นที่ใดอีก หากพูดไม่ยอมฟัง งดของหวานเป็นเวลาสามวัน”

หงอี้แหงนหน้ามองเจ้านายผู้ใจดำ ส่งเสียงประท้วงแผ่วเบาเพื่อบอกว่านางจะเชื่อฟัง แต่เมื่อคิดว่าชินอ๋องกับกงเจิ้งจะไปโรงประมูล ความอยากรู้อยากเห็นพุ่งขึ้นสูงจนนางตะกายตัวหนีจากมือองครักษ์ พอมือหนาเอื้อมมาเพื่ออุ้ม หงอี้จึงอ้าปากงับจนอีกฝ่ายได้เลือด

“ดื้อ? ”

แง้ว! ม่าวววว อย่ามาจับตัวข้านะ ซวน ข้าไม่ดื้อ

ชินอ๋องมองแมวดื้อแผลงฤทธิ์จนคนของเขาได้เลือดเพราะหงอี้ทั้งกัดทั้งข่วน หากเขาไม่เกร็งข้อมือเอาไว้มันอาจร่วงไปกองบนพื้น

สุดท้ายจึงต้องกระเตงเจ้าก้อนขนสีขาวไปโรงประมูลอย่างช่วยไม่ได้ อาการงอแงถึงสงบลง

กงเจิ้งยิ้มเยาะกับสหายผู้ปากอย่างใจอย่าง บอกจะลงโทษบ้างละ หากพูดไม่ฟังจะทิ้งให้คนอื่นเอาไปเลี้ยงบ้างละ ขู่ว่าจะเอาไปปล่อยที่เดิมไม่เว้นแต่ละวัน

สามปี!

เขาเห็นมันข่มขู่มาตลอดสามปี สุดท้ายเป็นยังไง ทำตามที่ลั่นวาจาไม่ได้สักข้อ พอมีคนมาทำท่าสนใจหงอี้ก็แยกเขี้ยวมองตาขวาง หวงจนออกนอกหน้า

ชิชะ กลายเป็นทาสแมวเต็มตัวยังไม่ยอมรับอีก เป็นทาสทั้งที่หน้าตายังเหมือนปลาตาย

เห็นแล้วหมั่นไส้!!

ในเวลาต่อมา สองคนหนึ่งแมวเดินเข้าประตูลับของโรงประมูล โดยมีผู้ดูแลออกมาต้อนรับอย่างนอบน้อม แขกคนสำคัญอย่างไต้ชินอ๋องและท่านกุนซือ ห้ามมองข้ามเด็ดขาด

หงอี้ถูกจับยัดในอกเสื้อของชินอ๋องโผล่ออกมาเพียงหัว จมูกสีชมพูขยับสูดกลิ่นฟุดฟิดใบหูสองข้างกระดิกไปมาชวนใจละลาย ดวงตากลมแป๋วสีเทากวาดมองรอบตัวอย่างตื่นเต้น

ย่อมต้องตื่นเต้น นางยังไม่เคยเข้ามาในสถานที่เช่นนี้มาก่อน รู้สึกได้ถึงคำว่าร่ำรวยได้ชัดสุด ๆ

หากจำไม่ผิดเมื่อคราวนางแอบหนีเที่ยวเล่นในตลาด ได้ยินคนพูดถึงหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือโรงประมูลซวี่หัวเป็นของฮ่องเต้ เปิดขึ้นเมื่อคราวเป็นองค์รัชทายาท พอครองบัลลังก์จึงส่งมอบให้จวิ้นอ๋องดูแล

ไต้ชินอ๋องก็เป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบ เขาจึงได้รับสิทธิมากมายรวมถึงการเข้าชมของร่วมประมูลก่อนล่วงหน้า

เมื่อเดินมาถึงส่วนลึกของโรงประมูล จัดเอาไว้ใต้ดินเพื่อป้องกันลูกค้าหรือผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้ามาขโมยหรือวางกลลวงต่อของประมูลอันล้ำค่า ด้านหน้าของทุกคนคือประตูบานใหญ่ เสียงคำรามของตัวอะไรบางอย่างจากด้านในดังออกมาถึงด้านนอก หงอี้เกร็งตัวจนไต้ชินอ๋องรู้สึกได้

มิใช่ความกลัวแต่กำลังตื่นเต้น เฝ้ารอมากกว่า

กงเจิ้งเลิกคิ้วตั้งแต่ได้ยินเสียงคำรามแล้ว หากเขาเดามิผิดของดีที่ชินอ๋องว่าต้องเป็นตัวด้านในแน่ แค่เสือจำเป็นต้องมาดูด้วยตัวเอง?

ชินอ๋องคาดเดาความคิดของกงเจิ้งออกจึงกล่าวว่า “เสือที่มีจิตวิญญาณ”

“ฉลาดถึงขั้นเข้าใจภาษาคนหรือไม่”

คำตอบคือการพยักหน้าด้วยความมั่นใจ ประตูห้องเปิดออก เสียงคำรามและแรงกดข่มทำเอากุนซือหนุ่มสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ กลิ่นไอนั้นมีอานุภาพสามารถทำให้ขาสั่นเทาหรือทรุดลงไปกองบนพื้นอย่างหมดสภาพได้หากคนคนนั้นมีจิตใจอ่อนแอ โชคดีที่การใช้ชีวิตในสนามรบช่วยขัดเกลาจิตใจของเขาจนแข็งแกร่ง จึงไม่ถึงขั้นทรุดไปกองบนพื้นให้ขายหน้า

กงเจิ้งหายใจลำบากเล็กน้อย ทว่ากลิ่นจวี๋ฮวาจากหงอี้ช่วยให้ความหนักอึ้งในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากชินอ๋องที่ยังคงรู้สึกเฉย ๆ ต่ออำนาจกดข่มที่แผ่ออกมา เขายังรู้สึกว่ากลิ่นประจำตัวของหงอี้ดูจะเข้มข้นกว่าปกติ ความผิดปกติที่มองเห็นชัดนี้ส่งผลให้บางอย่างในใจร้องเตือน

แม้แต่คนเฝ้าหน้าประตูห้องที่ทำการเปิดประตูต้อนรับสองคนหนึ่งแมว ยังยืนได้แม้ตัวจะสั่นเทาก็ตามที แตกต่างจากครั้งก่อนหน้า พวกเขาแทบลงไปนอนดิ้นบนพื้น จนต้องยืนเฝ้าโดยเว้นระยะห่างออกมาพอสมควร

กลางห้องมืด แสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว กรงขนาดใหญ่บรรจุร่างพยัคฆ์ร้ายตัวใหญ่สีขนดำสนิท หากไม่สังเกตให้ดีจะมองไม่เห็นลายพาดกลอนตลอดตัว

ผู้ดูแลไม่ได้มีจิตใจเข้มแข็งปานนั้น ถูกแรงกดดันจึงทำได้เพียงยืนรอหน้าประตูพร้อมคนของเขา แม้จะรู้สึกว่าวันนี้ความหนักอึ้งน้อยกว่าทุกครั้งก็ตาม มีเพียงชินอ๋องพ่วงหงอี้และกงเจิ้งเดินเข้าไปในห้องด้วยฝีเท้าแผ่วเบา

เสือดำแสนดุร้ายถูกขังอยู่ในกรง เมื่อเห็นมนุษย์ตัวจ้อยเดินเข้ามาใกล้ก็ยิ่งคำรามข่มขู่ หวังให้ความน่ากลัวของมันสร้างความหวาดหวั่นแก่ผู้บังอาจเยื่องกายเข้าใกล้ โดยไม่ใส่ใจความกดดันของมัน กรงขังทำจากเหล็กกล้าที่หาได้ยากถูกนำมาตีขึ้นรูปเพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งน้อยกว่าตัวด้านในเพราะมีบางส่วนคดงอ หากใช้แรงกระแทกอีกไม่กี่ทีคงพังกรงเหล็กจนไม่เหลือซาก

เจ้ามนุษย์ตัวจ้อย ถือดีว่าตนเองเก่งกล้า ใช้กลลวงของตนเองจึงจับข้ามาขังในที่ชั้นต่ำ หากข้ามิถูกพวกเจ้าวางยาสลายพลัง กรงชั้นต่ำนี้หรือจะทานต่อพลังข้าได้

หงอี้ตาวาวเมื่อได้ยินเสียงของเสือดำในกรงขัง นางอาศัยการทำตัวเป็นของเหลวจนหลุดจากวงแขนของชินอ๋องมายืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง ไม่รอให้ใครส่งเสียงปรามก็รีบเดินเข้าไปใกล้กรงเหล็กอย่างไม่กลัวตาย ด้วยขนาดของสัตว์สองชนิดมีความต่างกันมาก กงเจิ้งแทบหัวใจวายเมื่ออีอีเข้าไปอยู่ในระยะตะปบของพยัคฆ์ร้าย

“หงอี้ ถอยกลับมาหาข้า” ไต้ชินอ๋องสั่งหงอี้เสียงเครียด ดวงใจแกว่งไกวกับภาพตรงหน้า เขาไม่เคยพลาดขนาดนี้มาก่อน แค่แมวตัวเดียวกลับคว้าไว้ไม่ทัน เพียงการตบของอุ้งเท้าใหญ่แค่ครั้งเดียวร่างสีขาวเล็กจ้อยนั่นคงแหลกเหลวเป็นเศษเนื้อ

หงอี้ยังคงเมินคำสั่งของชินอ๋อง นางนั่งลงแหงนหน้าเพื่อพูดคุยกับเสือดำผู้เกรี้ยวกราด

นึกว่าเสียงใครบ่นเข้าหูมาแต่ไกล ที่แท้ก็เสือแก่เจ้าอารมณ์นี่เอง

เจ้าว่าผู้ใดแก่ อายุน้อยกว่าข้าไม่กี่สิบปี ช่างเอ่ยว่าข้าแก่ออกมาได้ไม่อายปาก

“ทำอะไรสักอย่างสิ” กงเจิ้งเอียงหน้ากระซิบเสียงเย็น ไม่ยอมละสายตาจากภาพอันหวาดเสียวตรงหน้า

ไต้ชินอ๋องขยับเท้าเข้าไปใกล้กรงเสืออีกนิด ขนาดของสัตว์ทั้งสองต่างกันจนเขาใจหาย วัดจากหัวไม่รวมหาง เสือตัวนี้มีความยาวมากกว่า6ฉื่อ (ประมาณ3เมตรกว่า) แค่ส่วนหัวก็เท่ากระทะใบใหญ่ในจวนอ๋อง ยังมีอุ้งเท้า

ดูมนุษย์ทั้งสองคนนั้นสิ ทำท่าทางพิลึก น่าเกลียดนัก

อย่ามาว่าซวนของข้านะ ท่านบอกมาว่าพลาดท่าถูกจับมาได้ยังไง แล้วทำไมข้าถึงคุยกับท่านรู้เรื่อง

นับแต่หลุดเข้ามาในโลกนี้ เวลาพบเจอสัตว์ไร้บ้านนางไม่เคยพูดกับพวกมันรู้เรื่อง นอกจากแม่แมวซึ่งก็มาจากนางไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความแปลกแยกทำให้นางรู้สึกเศร้าจนกลายเป็นความเหงา ราวกับว่านางถูกทำให้โดดเดี่ยวในโลกใบนี้อีกครั้ง

พอเจอสัตว์ที่อาจเป็นพวกเดียวกันจึงตื่นเต้นและอยากหาคำตอบ จนไม่สังเกตถึงความกังวลของหลี่ไต้ซวนและกงเจิ้ง ที่เห็นนางอาจหาญเข้าใกล้ตัวอันตราย พอเสือดำเอ่ยขึ้นจึงหันกลับไปมอง

ใบหน้าของกงเจิ้งซีดเผือด แม้แต่คนไร้ความรู้สึกอย่างชินอ๋องยังขมวดคิ้วเคร่งเครียด อุ้งเท้าน้อยจึงตบลงบนพื้นส่งเสียงร้องบอกคนทั้งสองว่านางไม่เป็นอะไร ตาแก่นี่ไม่ทำอะไรนางหรอก พวงหางส่ายไปมาเชื่องช้าราวต้องการปลอบโยนคนทั้งสองให้คลายความกลัว

“อีอีกำลังบอกอะไร”

“บอกว่าจัดการได้”

นี่ก็อีกเรื่อง เขาคาดเดาไม่ถูกเลยว่าสหายอ่านภาษากายของแมวน้อยออกได้อย่างไร พอถามก็ส่งแววตาน่าหมั่นไส้มาให้เขาจนเลิกอยากรู้ไปแล้ว

ภาษากายของหงอี้ทำให้ชินอ๋องประหลาดใจ แต่เสือดำไม่อยากทิ้งลายความดุร้ายจึงพยายามดันหน้าออกจากลูกกรง คำรามเสียงกร้าวเพื่อข่มขู่ตามวิสัยผู้ที่เป็นเจ้าป่า ฟันแต่ละซี่ในปากมีขนาดเท่านิ้วโป้งของบุรุษลอยอยู่บนหัวของหงอี้ มันแหลมคมสีขาววาววับ น้ำลายสีใสยืดตามการอ้าปากคำรามดูน่าหวาดเสียวนัก

การถูกมนุษย์จับมาขังในกรงห่วย ๆ นี่ ทำให้มันเสียศักดิ์ศรี

ทว่าอุ้งมือน้อยกลับยกขึ้นมาตวัดตบลงบนปากของมันเต็มแรงอยู่หลายที พร้อมส่งเสียงขู่ฟ่อในทำนองให้หุบปาก เสือดำถอยกลับเข้าไปในกรงเมื่อถูกแววตาสีเทากลมโตคู่นั้นจับจ้องเขม็ง พลังวิญญาณเข้มข้นลอยเอื่อยรอบตัวร่างน้อย แม้ส่วนหนึ่งจะถูกอักขระโบราณตรึงไว้ก็ยังสามารถทำให้เลือดในกายของมันเกือบแข็งตัว

ตาจ้องตาไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายมันก็ยอมแพ้ ก่อนจะพ่นลมออกจากจมูกอย่างหงุดหงิด เมื่อถูกแมวตัวจ้อยกดข่มต่อหน้ามนุษย์

ศักดิ์ศรีของพยัคฆ์อันแสนภาคภูมิใจ ถูกเจ้าตัวเล็กนี่ใช้อุ้งมือปัดร่วงหล่นหายไปหมดแล้ว กะอีแค่ดวงตาสีเทาอ่อนเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มเกือบดำ เกิดเป็นอานุภาพอันแสนเข้มข้น ก็สยบความก้าวร้าวของมันลงได้อย่างง่ายดาย

*****

ปมมาอีกหนึ่ง เดี๋ยวจะตามมาเรื่อย ๆ ไม่ใช่ปมซับซ้อนอะไร เกี่ยวกับชาติกำเนิดและอะไรหลายอย่างของตัวน้องค่ะ 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   โดนแมวงอน

    เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดีหงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้มเมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจการถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจาก

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ไม่รู้ตัว

    แม้เมื่อวานชินอ๋องจะกลับมาพร้อมสตรีและยังดื่มน้ำผึ้งยามค่ำคืน จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ แต่พ่อบ้านรวมถึงคนสนิทไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเขาเพียงลอบส่งสายตาเพื่อพูดคุยกันว่าสตรีนางนั้นหายไปที่ใดแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องกำลังเดินอุ้มหงอี้ที่หายตัวไปออกมาจากห้องสาวใช้ผู้เข้าไปปรนนิบัติถูกพ่อบ้านสอบซัก ได้ความว่าไร้เงาของสตรีที่ท่านอ๋องอุ้มเข้าห้องน่าแปลกเกินไป รวมถึงน่าเหลือเชื่อ คนทั้งคนจะหายไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลยหรือการหายตัวไปของหงอี้ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย แมวตัวนี้ชอบเที่ยวเล่น ซุกซนตลอดเวลา หายตัวไปก็กลับมาเองได้ พวกเขาทั้งหมดเคยชินเสียแล้ว เมื่อคืนถึงถึงก็เพียงนึกห่วงเท่านั้น เช้านี้พบอยู่กับท่านอ๋อง เป็นอันว่าหายห่วงหงอี้กลับมาอยู่ในร่างแมวเพียงแค่คิดเท่านั้น นางยังนึกแปลกใจ ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วผลปรากฏว่าว่างเปล่า นางยังคงเป็นแมวสีขาวขนปุย แล้วเหตุใดจึงเกิดขึ้นมันได้รับการกระตุ้น?แล้วอะไรคือตัวกระตุ้น หงอี้ปวดหัวไปหมด ยิ่งคิดยิ่งใช้สมองมาก ความหิวยิ่งถาโถม เสียงท้องเจ้ากรรมดังเข้าหูชินอ๋อง จนเขาก้มมองเจ้าก้อนขนในอ้อมอกอย่างนึกสงสาร รีบหันไปสั่งสาวใช้จัดโต๊ะอาหาร จับนางเข้าประจำที่นมอ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เสียอาการ

    “อึก อ๊ะ อ๊า”ถูกเคี่ยวกรำมาหลายชั่วยาม เสียงครางแสนหวานจึงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง หงอี้ถูกจับนอนตะแคงโดยมีร่างใหญ่ซ้อนประชิดด้านหลัง เรียวขาพาดบนแขนแกร่ง แอ่นอ้ารับการป้อนความเสียวจากท่อนกายใหญ่ที่ยังคงสอดเข้าออกอย่างพลิ้วไหวน้ำหวานเจิ่งนองจนรู้สึกแฉะตรงหว่างขา เม็ดเสียวเต่งบวมสั่นริกจากการขยี้ของท้องนิ้วสาก ยิ่งเขาดันเนินชายเข้าลึกนางยิ่งกระสันจนตัวกระตุก แอ่นบั้นท้ายเข้าหาราวนางโลมแสนร่าน กระหายรสสวาทไม่รู้อิ่ม“ขะ ข้า อ๊ะ ซวนจ๋า~ ช้าหน่อย อื้อ อ๊า”ทรมานเหลือเกิน...รัญจวนเหลือแสนกับราคะที่เขาปรนเปรอให้ไม่หยุดพัก“บอกให้ช้าลงแต่เจ้ากลับแอ่นรับไม่น้อยหน้า”“ฮึก อ๊า”“น้ำหวานของเจ้า ไหลอาบข้าจนเปียกแฉะ แมวน้อยแสนร่าน” เนินชายของเขาที่มีขนหยาบแห้งและเปียกวนกันเช่นนี้มาหลายชั่วยาม ถึงจะฉีดน้ำคาวออกไป อีกสักพักลำกายใหญ่ก็กลับมาขยายพองคับโพรงอุ่นให้เขาสร้างความหฤหรรษ์กับนางอีกครั้งวาจาแสนลามกขับความร้อนจนใบหน้าร้อนผ่าว เขินอายเหลือเกินกับความจริงที่เขากล่าวออกมา แต่กลีบบุปผากลับขมิบรัว ราวกับว่ากำลังประจานความคิดแท้จริงของนางให้เขารับรู้ว่าชอบมากแค่ไหนหลี่ไต้ซวนคำรามเมื่อนางทั้งดูดดึงและเ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้ของเขา

    หงอี้ร้อนวูบวาบตรงจุดประสานเชื่อม ความกระสั่นซ่านไต่ระดับ รู้สึกถึงเขามากกว่าทุกสิ่ง รอบกายราวถูกหยุดเวลาเอาไว้มีเพียงนางและเขาที่หลงระเริงในห้วงราคะ เอวคอดยกตามติดทุกการถอดถอน คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้เขาหนีห่าง ร้อนผ่าวจนใบหน้าแทบไหม้เมื่อสบตาหยอกล้อของเขามันเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนร่างเคลื่อนคลอนทรวงอิ่มไหวยวบยาบตามจังหวะขึ้นลง จนต้องประคองไว้ในอุ้งมือ นวดเคล้นเนื้อล้นผ่านง่ามนิ้ว แทรกท่อนกายผ่านความอ่อนนุ่ม ให้เนื้อของเขาและนางเสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่าความคับแน่น เจ็บตึงในร่องแคบเลือนหายไป เหลือเพียงความซ่านกระสันยามความใหญ่โตแทรกผ่าน ขาเรียวอ้ากว้างยิ่งกว่าเดิมนั่นทำให้เขาเข้าถึงทุกอณูการรับรู้ จ้วงทะยานตามความอยากจนกลีบอ่อนยู่เข้ายู่ออก จนหงอี้หนีออกจากความเสียวซ่านไม่พ้นมันมากขึ้น...เสียวขึ้น...ไต่ระดับความเสียวจนแทบขาดใจน้ำเมือกลื่นของนางหลั่งริน ทำให้เขาเร่งเร้าจ้วงแทงราวไม่รู้จักเต็มอิ่ม หลี่ไต้ซวนจุมพิตหน้าผากมลชื้นเหงื่อ ตามด้วยดวงตาทั้งสองข้าง พวงแก้มนุ่ม ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นก่อนจะหยัดนั่งตรงมองส่วนประสาน เอวหนาลดความเร็วลง กระทั้นแกนกายเคลือบน้ำหวานสีใสและเลือดสีแด

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ยังไม่พอ

    ไต้ชินอ๋องแทบทะยานมาที่เรือนนอน ตอนเปิดประตูใช้เท้า ตอนปิดก็ยังใช้เท้ากระแทกปิดเสียงดังปัง ร่างบางในห่อผ้าอยู่ไม่สุข มือน้อยเลื้อยออกมาสอดเข้าสาบชุดลูบไล้ผิวเนื้อของเขา สัมผัสราวถูกขนนกปัดผ่าน สร้างความวาบหวามจนต้องข่มเสียงครางแสนพอใจแม้ความคิดจะอยากจับนางทุ่มลงบนเตียง ตามด้วยคร่อมทับทรมานให้สาสมกับความต้องการในอก แต่เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า จึงต้องสะกดความร้อนรุ่มวางหญิงสาวผู้อ้างตัวว่าคือหงอี้ แมวขี้เซาที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายตลอดสามปีเมื่อเป็นอิสระ หงอี้ใช้มือปัดผ้าคลุมออกอย่างนึกรำคาญ นางร้อนแทบตายแล้วแต่ชินอ๋องยังใช้มันห่อตัว ไยต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยนางก็แค่แมวตัวหนึ่งอุ้มไว้ในอกอย่างเปิดเผย มีสิ่งใดน่าอายกันนัยน์ตาสีเทากลม แวววาวจากแรงปรารถนา มองใบหน้าแดงก่ำของพ่อตัวร้ายหยาดเยิ้ม ยังคงไม่เข้าใจอยู่เหมือนเดิมนางแค่แอบดื่มสุราเองมิใช่หรือ ความร้อนในร่างกายโดยเฉพาะส่วนนั้นมาจากไหนหงอี้สับสนแต่ร่างกายไม่รักดีกลับเอนกายลงบนเตียงเย็นชืด บิดเร่าอย่างชอบใจ ชินอ๋องหายใจหอบกับภาพยั่วราคะของสตรีบนเตียง ผ้าปูสีดำตัดกับผิวกายนวลลออ เส้นผมสีเทาออกเงินกระจายไปทั่วหมอนใบใหญ่“อื้อ...เย็นจัง”บ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ฤทธิ์กำหนัดเล่นงาน

    บรรยากาศแสนหนักอึ้งบนโต๊ะของชินอ๋องหมดไป หงอี้จึงมีความคิดอยากลองชิมสุรา ว่าก็ว่าเถอะ นางเมื่อครั้งยังเป็นกมลเนตรชื่นชอบการเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาก ยี่ห้อไหนคนว่าดี ผสมแบบไหนคนว่าเด็ด เป็นต้องขอลองเสมอพออยู่ในร่างแมวความชอบจึงถูกงดเว้นไป หงอี้อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มเผลอยื่นอุ้งเท้าหน้าจุ่มลงในจอกสุรา ยกขึ้นใช้ลิ้นแตะ ๆ เพื่อทดลองรสชาติ ลิ้นน้อย ๆ สีแดงเลียอุ้งเท้าหน้าชวนให้คนมองรู้สึกจั๊กจี้อู้ววว รสชาติใช้ได้เลย ฤทธิ์ไม่แรงเท่าไหร่ ถือว่าพอแก้ขัดอาการเปรี้ยวปากได้หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดของนางจึงอยู่ที่จอกสุราตรงหน้า ลิ้มรสชาติแสนคิดถึงอย่างสุขใจ ดวงตากลมหลับพริ้มอย่างมีความสุข ความเร็วของการจุ่มอุ้งเท้าก็เพิ่มขึ้น เผลออีกทีสุราเต็มจอกก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งตายละ ซวนจะรู้ไหมทำไงดี ๆความกังวลส่งผลให้นางไม่ได้นอนเฉยอีกต่อไป ลุกขึ้นกลอกตามองไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะ..“หงอี้ ซุกซนอีกแล้วหรือ” ไต้ชินอ๋องบ่นไม่จริงจังนักออกมา เมื่อพบว่าจอกสุราของตนเองหกคว่ำ เมื่อมองดูตัวการกำลังส่งเสียงอย่างรู้สึกผิด จึงเรียกสาวใช้แถวนั้นมาเก็บกวาด สาวใช้รีบเช็ดสุราและเปลี่ยนจอกใหม่พร้อมเติมสุรา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status