แม่ทัพหนุ่มรูปงามเปี่ยมเสน่ห์แห่งบุรุษ ไม่ว่าสตรีใดได้เห็นล้วนต้องการเข้าสู่อ้อมแขน ปรารถนามีค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนกับเขา กระนั้น ชายหนุ่มกลับเป็นคนที่มีนิสัยหวงเนื้อตัวอย่างมาก ไม่คิดมีสัมพันธ์กับสตรีใดง่ายๆ กระทั่งคืนนั้นเขาถูกวางยาปลุกกำหนัดและตื่นขึ้นมาอย่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์พร้อมสาวน้อยผู้หนึ่ง การแต่งงานเกิดขึ้นอย่างมิอาจปฏิเสธ เขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแผนการของนางที่ต้องการผูกมัดจึงโกรธเกลียดอย่างยิ่ง หากแต่ท่าทางของนางกลับมิได้ดีใจอะไรเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังทำสีหน้าเศร้าสลดและเสียใจตลอดเวลาที่ได้เป็นภรรยาของเขา ทำเอาแม่ทัพหนุ่มยิ่งมีโทสะ เขาคิดว่านางควรยินดีที่ได้ตัวเขาสมใจแต่นางกลับทำท่าทางเช่นนั้น ทั้งยังพร้อมจะไปจากเขาตลอดเวลา ชายหนุ่มจึงแสดงออกอย่างเกรี้ยวกราดโดยไม่รู้ใจตัวเอง ทั้งอารมณ์ร้ายเพราะหึงหวงและตามใจนางอย่างไม่สนใจว่าใครจะเป็นหรือตาย ขอเพียงนางไม่หายไปทางใด
View Moreยามราตรีกาลอันมืดมิด สายลมหนาวเหน็บพัดโชยกรีดอากาศเข้าบาดผิวขาวนวลเนียน ทำให้สองข้างแก้มแห้งตึง
หลิงเวย อยู่ในอาภรณ์สีดำสนิท กำลังเดินอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามริมระเบียงนอกห้องที่เป็นมุมอับและมืดมิดของโรงเตี๊ยมอี้ฉาง
สถานที่แห่งนี้อยู่ในตัวเมืองของเขตแดนแคว้นเฉิน ที่ปกครองโดยฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียน นางแอบย่องเข้ามายังที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
มิรู้ได้ว่าทำไมโรงเตี๊ยมแห่งนี้ถึงไม่รัดกุมเอาเสียเลยจนสตรีไร้ฝีมือเช่นนางยังสามารถแอบเข้ามาได้โดยง่าย
หลิงเวยคิดว่าจะแอบเข้ามาพักเพื่อเอาแรงเสียหน่อย ในเวลานี้นางกำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน เรี่ยวแรงที่ใช้เดินทางเริ่มถดถอย หากจะเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแบบโจ่งแจ้ง อาจจะนำมาซึ่งการตามตัวนางให้กลับไป เช่นนั้นแล้วก็มีแต่จะคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น
ในตัวเมืองแห่งนี้โรงเตี๊ยมมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ห้องพักย่อมมีมากมายเช่นเดียวกัน มันจึงมิใช่การยากอันใดหากนางจะแอบเข้าไปแล้วแอบเข้าพักห้องใดสักห้องหนึ่ง หากมีคนมาเจอแล้วจับได้ว่านางแอบเข้ามานางเพียงแค่จ่ายเงินไป หากแต่การเข้ามาแบบเปิดเผยอาจจะนำมาซึ่งการถูกถามหาจากคนที่อาจจะแอบตามนางมา ไม่แน่ว่าบิดาของนางอาจจะล่วงรู้แล้วว่านางแอบหนีออกจากจวนมามิได้อยู่เหย้าเฝ้าเรือนเหมือนเช่นเคย
นางตัดสินใจหนีออกจากจวนของนางที่มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีกรมคลังนามว่าหลิงอี้ถัง
เหตุที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่าบิดากับฮูหยินใหญ่ที่กาลก่อนเป็นเพียงฮูหยินรองบอกกล่าวถึงเรื่องของการส่งตัวธิดาของตระกูลเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับราชวงศ์เฉินตามเหตุผลทางการเมือง
แน่นอนว่าเป็นธิดาคนใดก็ได้ในตระกูลที่จะได้สิทธิรับเลือกนั้น แต่ทว่าบิดากลับเจาะจงให้เป็นนาง
และบุคคลที่นางจะต้องแต่งงานไปเป็นหนึ่งในชายาของเขาก็คืออ๋องเฉินนามว่าหยางหลง
ใครๆ ก็รู้ว่าเฉินหยางหลงผู้นี้เจ้าชู้เจ้าสำราญปานใดและในวังของเขาก็มีอนุชายาอยู่แล้วจนเต็มวังหลัง
เช่นนั้นแล้วกับนางที่เป็นบุตรีซึ่งเกิดจากหนึ่งในภรรยาของบิดา เป็นสตรีด้อยค่าภายในจวนของบิดาตลอดมาหลังจากที่มารดาสิ้นใจไป กระนั้นแล้วไยนางต้องยอมให้ประวัติซ้ำรอยอันหม่นหมองเฉกเช่นมารดา
ตั้งแต่นางเกิดมานางต้องทนเห็นมารดาทนช้ำใจทุกเมื่อเชื่อวัน ตั้งแต่นางจำความได้มารดาของนางต้องฝืนยิ้มให้บิดามิรู้ได้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ต้องอดทนกับความวุ่นวายหลังจวนไม่รู้กี่ครา
ถึงแม้ว่าจะทำตัวดีงามเพียงใดก็ไม่แคล้วถูกดูแคลนและย่ำยีศักดิ์ศรีจากสตรีด้วยกัน กระทั่งมารดาของนางตายไป สีหน้าเศร้าโศกเสียใจยังเป็นแค่การเสแสร้ง หลายนางต่างยิ้มเยาะชอบใจที่มารดาของนางตายจาก นางต้องอยู่อย่างเดียวดายยากลำบากตลอดมา
ในระยะหลายปีมานี้ นางไร้บิดาใส่ใจ ไร้ใครเคียงข้าง แม้แต่บ่าวไพร่ยังช่วยงานดูแลนางแบบขอไปที
ไหนจะบรรดาพี่น้องต่างมารดาอีกเล่า แค่คิดนางก็อยากจะสำรอกโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ แล้ว
หากจะให้นางไปเป็นหนึ่งในชายาของอ๋องเฉินนั่นแล้วมีบุตรออกมาซ้ำรอยชะตานาง นั่นย่อมเป็นการที่สิ้นคิดยิ่งนัก
หลิงเวยคิดถึงเรื่องนี้ด้วยความขัดเคืองในใจอยู่จนตลอดทางเดินตามมุมต่างๆ ของบ้านเรือนภายในตัวเมืองแห่งนี้ที่กำลังมืดดำด้วยราตรียามไฮ่(21.00-22.59น.) นางแอบหนีออกมาจากจวนในเวลายามเซิน(15.00-16.59น.)หลังจากได้ยินเรื่องราวในทันที นี่ก็หลายชั่วยามแล้วกระมังที่นางหนีออกมา
หญิงสาวใช้เวลาใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่ด้วยดวงตาคู่สวยที่เริ่มหรี่เล็กแคบลงเพราะรู้สึกง่วงงุนเต็มที นางกำลังยืนเอาแผ่นหลังบอบบางแนบกับผนังห้องตรงมุมมืดของซอกหลืบระหว่างห้องพักของโรงเตี๊ยมอี้ฉางแห่งนี้ที่นางแอบเข้ามาได้จนสำเร็จก่อนจะอำพรางตัววูบไหวแทรกกายบางเข้ามายังห้องพักห้องหนึ่ง
อันที่จริงนางมิได้มีวรยุทธใดๆ แต่นางกลับเข้ามาได้น่าแปลกยิ่ง!
แต่ช่างเถิด ในเมื่อนางยืนสังเกตอยู่เป็นนานแล้ว นางมองเข้ามาแล้วเห็นเป็นห้องว่างไม่มีผู้ใดเข้ามาพัก ทั้งยังเป็นห้องหับสะอาดสะอ้านดี ห้องนี้เป็นห้องอยู่ไกลจากห้องอื่นๆ มามากโข นางแอบสังเกตอยู่เป็นนานเห็นมีบรรดาแขกคนอื่นเลือกห้องพักรอบนอกที่มีทิวทัศน์ดีที่ดีกว่านี้ เหลือเพียงห้องนี้ที่อยู่ด้านในสุดลึกสุดจากหลายๆ ห้องถัดออกไปยังบริเวณด้านหน้าที่ไร้แขกคนใดสนใจไม่แม้แต่จะเฉียดเข้ามาใกล้
เอาล่ะ!
หลิงเวยไม่มีการรอช้าไปมากกว่านี้ ก่อนที่ตาของนางจะปิดลง นางเข้ามาภายในห้องไร้ซึ่งใครสนใจเข้าพักแล้วพุ่งกายขึ้นเตียงนอนที่ถูกปิดล้อมด้วยม่านมุ้งมิดชิดในทันทีก่อนดึงผ้าผืนหนาที่อยู่ตรงปลายเตียงมาห่มร่างอย่างสบายใจ
กลิ่นของเทียนหอมและเครื่องหอมภายในห้องพักนี้ก็หอมหวนดี กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกสมองปลอดโปร่งโล่งสบายคล้ายขาวโพลนยิ่งนัก นางนอนพลิกตัวเล็กน้อยจัดท่าเพื่อความสบายเนื้อตัวอีกครู่หนึ่งแล้วหลับใหลไปในเวลาเพียงไม่นาน
นางเหนื่อยเหลือเกิน...
หลายวันผันผ่าน...สองสะใภ้บ้านฟงก็ยังคงมีสภาพย่ำแย่ ทั้งจิตใจและร่างกาย เนื้อตัวมอมแมม เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่น ร่างกายอ่อนระโหยโรยแรง ก็ได้ยินเสียงดังคำรามลั่นอยู่นอกห้องเก็บฟืนทันใดนั้น ประตูห้องเก็บฟืนก็ถูกหลันเอ๋อร์เปิดออก นางอยู่ในอาภรณ์สีดำสนิท ท่าทางปราดเปรียว สองมีดาบโค้งคมกริบงดงาม นางเข้ามาจับกุมหลิงเวยและหลี่ลี่เหมย ให้ออกมาจากห้องเก็บฟืนที่ด้านนอกโรงน้ำชาถูกถล่มจนราบคาบเห็นได้ชัดว่า ฟงชินหยางและฟงจินหมิงกลับมาแล้ว และรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเรือนร่างสูงใหญ่ของพวกเขายืนตระหง่านคล้ายปีศาจจากขุมนรก ในมือของพวกเขา มีชายหนุ่มผู้หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นแม่ทัพผู้นั้น ซึ่งเป็นสามีของหลันเอ๋อร์หลันเอ๋อร์กระชับดาบในมือที่จ่อคอของสะใภ้บ้านฟงทั้งสองพร้อมคำรามลั่น “มอบชายชั่วผู้นั้นมาให้ข้า”“เอาไปเลย!” ฟงชินหยางและฟงจินหมิงคำรามพร้อมกันพลางเหวี่ยงแม่ทัพผู้นั้นส่งให้หลันเอ๋อร์คล้ายกับเหวี่ยงหุ่นไม้ไร้ค่าก็ไม่ปานเป็นความจริงที่ว่า สองพี่น้องบ้านฟงนั้นโกรธมาก จึงจัดการกับแม่ทัพผู้นี้จนหมดสภาพ เพื่อจับตัวมาแลกกับภรรยาอันเป็นที่รัก โดยไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นหลันเอ๋อร์รีบปล่อยตัวประกันของต
จบประโยคยาวเหยียดนั้นของหลันเอ๋อร์ทุกสายตาของฮูหยินใหญ่แต่ละคนล้วนซับซ้อนแปลกประหลาดบางคนถึงกับหลุดแค่นเสียง หึ ออกมาหลันเอ๋อร์ยังคงเล่าต่อ“แน่นอนว่าข้าเชื่อลมปากของเขา เพียงแต่ต้องขอพิสูจน์ด้วยตาของตนเอง ข้าจึงใช้วิชาตัวเบาปีนหลังคาแล้วแอบมองเขายามร่วมรักกับภรรยาคนอื่นๆ และสิ่งที่ข้าได้เห็นสามีทำ ก็คือสายตาอบอุ่น รอยยิ้มจริงใจ คำพูดหวานล้ำ และกิจกรรมที่เขาทำกับภรรยาแต่ละนาง ไม่ว่าจะเป็นจุมพิตดูดดื่ม ขบเม้มตามส่วนต่างๆ ฝ่ามือที่ลูบไล้ส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างหลงใหล กลางลำตัวที่ทำจังหวะ ก็ร่วมรักได้ร้อนแรงถึงใจ ซึ่งไม่แตกต่างจากที่ทำกับข้าเลยสักนิด เมื่อเสร็จสมทั้งสองฝ่าย เขายังก้มหน้าพรมจูบภรรยาทุกคนอย่างรักใคร่ ปากก็กล่าววาจาบอกไป ว่าให้ทำตัวดีๆ ปรนนิบัติสามีตามหน้าที่”หญิงสาวเว้นช่วงประโยคโดยการยกถ้วยชาขึ้นจิบแก้กระหายแล้วเล่าต่อ “อันที่จริงข้าควรพอใจ เมื่อสามีบอกว่ารักข้าเหนือใคร ถึงแม้เขาจะเป็นสามีที่รักภรรยาทุกนางอย่างเท่าเทียม เพียงแต่วันหนึ่ง เมื่อข้าตั้งครรภ์ สามีก็มีภรรยาเพิ่ม แน่นอนว่ายามข้าตั้งครรภ์ สามีย่อมมาหาข้าน้อยลง ข้าจึงเริ่มไม่สนใจเขา ข้าคิดแค่ว่าจะสนใจแค่ลูก
ฤดูใบไม้ผลิอากาศกำลังดีชินอ๋องแคว้นเป่ยฉีนามว่าฉีเล่อและพระชายาเฉิน นามว่าลี่หลินแจ้งข่าวมาว่า จะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านฟง เพื่อพาท่านชายน้อยมาท่องเที่ยวหาท่านตาท่านยาย ฟงชินหยางและฟงจินหมิงจึงพาคนไปคอยอารักขายังดินแดนห่างไกล คงเหลือไว้เพียงสะใภ้ใหญ่และสะใภ้รองอยู่เหย้าเฝ้าเรือนดูแลสองผู้เฒ่าฟง และทำหน้าที่ออกงานสร้างสัมพันธ์ไมตรีระหว่างตระกูลต่างๆยามบ่ายวันนี้…มีงานเลี้ยงน้ำชาของฮูหยินบ้านหนึ่งที่หลิงเวยกับหลี่ลี่เหมยเป็นตัวแทนฮูหยินบ้านฟงไปร่วมงานงานเลี้ยงวันนี้จัดขึ้นที่โรงน้ำชาอันขึ้นชื่อเลื่องลือที่สุดของเมือง เจ้าของโรงน้ำชามีนามว่า หลันเอ๋อร์และก็เหมือนเฉกเช่นทุกครั้ง ที่มีงานเลี้ยงเมื่อใด จะต้องมีเหล่าฮูหยินมากมายได้ร่วมรับฟังและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ชีวิตให้แก่กันฮูหยินคนที่หนึ่งเล่าจบ ฮูหยินคนที่สองเล่าตาม ฮูหยินคนที่สามเล่าบ้าง หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไปทุกเรื่องราวที่เล่าก็ไม่พ้นเรื่องใหญ่ นั่นก็คือเรื่องของสามีพวกนางนั่นเองคำกล่าวที่ว่า เรื่องราวภายในของครอบครัวไม่ควรแพร่งพรายออกนอกเรือน ล้วนไร้ประโยชน์ เมื่อเหล่าฮูหยินทั้งหลายได้รวมตัวกัน โดยไร้ซึ่งหูตาของพ่อแม่ส
หญิงสาวบรรจงจัดแจงทุกสิ่ง เสื้อผ้าอาภรณ์ยังอบกลิ่นที่เขาชื่นชอบแต่อืม...ดึกป่านนี้แล้ว เหตุใดจินหมิงยังไม่มานะ?หลี่ลี่เหมยนั่งรอฟงจินหมิงกลับจากไปดูแลกิจการเหมือนดั่งเช่นทุกวันหากแต่วันนี้นั้น นางเตรียมการหลายอย่างตามที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งยังเตรียมการยั่วยวนสามีพร้อมๆ กับสะใภ้ใหญ่อีกด้วยแต่ทว่าสามียังไม่กลับเสียที หลี่ลี่เหมยจึงอ่อนล้าจากการฝึกทำงานและทำอาหารที่ตนเองไม่เคยได้ทำมาก่อน หญิงสาวจึงเผลอหลับไปเมื่อใดไม่ทราบได้เมื่อฟงจินหมิงกลับเข้าเรือนมาก็รีบอาบน้ำชำระเหงื่อไคลตามวิสัยก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนชั้นในให้เบาที่สุด เพื่อมิให้เป็นการรบกวนภรรยาระหว่างทางของห้องชั้นนอกเชื่อมต่อกับห้องชั้นใน ชายหนุ่มเดินมาหยุดมองอาหารมากมายบนโต๊ะที่เขารู้มาจากบ่าวรับใช้ ว่าหลี่ลี่เหมยลงมือทำเองทุกอย่าง โดยให้พี่สะใภ้ช่วยสอน ก็ให้รู้สึกอิ่มเอมใจนักเขาใช้เวลานั่งชิมอาหารฝีมือภรรยาทีละคำด้วยความเต็มใจ ถึงแม้ว่ารสชาติยังไม่ดีสักเท่าไหร่ แต่เขาก็กินทุกอย่างจนหมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่ข้าวสักเม็ดเมื่อจัดการกับอาหารเสร็จสิ้น ฟงจินหมิงก็ล้างมือด้วยน้ำสะอาดที่ลอยกลีบดอกไม้หอมฟุ้ง บ้วนปากด้วยชาที่นา
“แต่ว่า” หลิงเวยยังคงเด็ดเดี่ยวเกี่ยวกับมารยาที่ได้ร่ำเรียนมาฟงชินหยางกระชากชุดของตนออกจากตัว จนเผยแผงอกหนาแน่น กล้ามหน้าท้องแข็งแกร่ง“สามีไม่ไหวแล้วนะภรรยา”เสียงของเขาแทบจะละลายหลิงเวยได้เลยเชียว“ไม่เจอกันตั้งหลายวัน เจ้างามเลิศล้ำขึ้นทุกวัน น่าขย้ำเสียจริง”ประโยคหวานๆ ที่เป็นความจริงทุกประการเช่นนี้ชายหนุ่มไปแอบฝึกมา เพื่อภรรยาโดยเฉพาะหลิงเวยถึงกับอมยิ้ม สามีนางช่างร้ายกาจ“เมื่อสามีว่าเช่นนี้ก็พิสูจน์ให้ภรรยาได้ประจักษ์เถิด”ไม่ต้องใช้มันแล้วมารยาสตรี ดูลีลาบุรุษดีกว่าหญิงสาวคิดเช่นนั้น จึงตวัดวงแขนเรียวเล็กขึ้นโอบลำคอหนาของชายหนุ่มให้โน้มลงมามุมปากพยัคฆ์พลันยกโค้งชั่วร้ายด้วยความพึงพอใจ “ลำบากภรรยาแล้ว” ที่เอ่ยเช่นนี้ เพราะจะร่ายลีลาใส่นางมิใช่แค่เพียงชั่วยาม แต่จะทำนางจากชั่วราตรีนี้จวบจนย่ำรุ่งกระทั่งบรรจบอีกราตรีหนึ่งจนกว่าจะหายคิดถึงหลิงเวยคลี่ยิ้มงดงามตอบรับ “ภรรยายอมลำบาก ขอเพียงสามีลีลาดีเป็นที่น่าพอใจ”“อ่า...” นางกำลังท้าทายสายตาคมดำของฟงชินหยางพลันทอประกายระยิบระยับ เรียวนิ้วแกร่งลากไล้แผ่วเบาจากเนินอกหยุ่นนุ่มลงไปที่หน้าท้องแบนราบ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างง
บุรุษของบ้านอื่นนั้นหากตัดปัญหาที่ฝ่ายชายเจ้าชู้เจ้าสำราญเกินไปจนมีเมียเต็มเรือนแล้ว ยังต้องมีเรื่องของขั้วอำนาจหรือเส้นสายการค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้บุรุษเจ้าบ้านต้องแต่งภรรยาเข้ามาเพื่อผลประโยชน์หลากหลายประการ แต่หากตัดเรื่องเหล่านั้นออกไป ยังมีเรื่องของทายาทสืบสกุล ซึ่งฝ่ายบุรุษยังจำต้องแต่งภรรยาเข้ามาหลายนาง เพื่อสร้างทายาทขยายตระกูลให้กว้างไกลแต่กับบ้านฟงนั้น บุรุษของบ้านมิใช่ชายเจ้าชู้หรือเจ้าสำราญแต่อย่างใด อีกทั้งขั้วอำนาจหรือเส้นสายการค้าล้วนมีมากล้นและผู้มีอำนาจดูแลจัดการ ยังเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน ไร้การแบ่งแยกฝักฝ่ายทว่าเหนือสิ่งอื่นใด การสร้างทายาทยังต้องเป็นไป มิอาจหลีกเลี่ยงได้แม้เพียงคืนเดียวบุรุษหนุ่มแน่นรูปร่างใหญ่กำยำ เรือนกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามในอาภรณ์สีน้ำตาลเข้ม เจ้าของใบหน้าหล่อเหลา ท่าทางกร้าวแกร่งทรงพลัง ไหล่กว้างแผ่นหลังตั้งตรง งามสง่าทุกสัดส่วน ได้รูปสมบูรณ์แบบไปหมดทุกสิ่งเขากำลังเดินเข้ามายังเรือนส่วนตัวในจวนแม่ทัพฟงเขาคือ ฟงชินหยาง ท่านแม่ทัพใหญ่ผู้เกรียงไกร ฉายาปีศาจสงครามพิชิตชายแดนหลายวันที่ผ่านมา ฟงชินหยางต้องไปสะสางงานนอกด่าน ทำให้คิดถึงเมียรักเ
Comments