แม่ทัพหนุ่มรูปงามเปี่ยมเสน่ห์แห่งบุรุษ ไม่ว่าสตรีใดได้เห็นล้วนต้องการเข้าสู่อ้อมแขน ปรารถนามีค่ำคืนวสันต์อันเร่าร้อนกับเขา กระนั้น ชายหนุ่มกลับเป็นคนที่มีนิสัยหวงเนื้อตัวอย่างมาก ไม่คิดมีสัมพันธ์กับสตรีใดง่ายๆ กระทั่งคืนนั้นเขาถูกวางยาปลุกกำหนัดและตื่นขึ้นมาอย่างเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์พร้อมสาวน้อยผู้หนึ่ง การแต่งงานเกิดขึ้นอย่างมิอาจปฏิเสธ เขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแผนการของนางที่ต้องการผูกมัดจึงโกรธเกลียดอย่างยิ่ง หากแต่ท่าทางของนางกลับมิได้ดีใจอะไรเลยแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังทำสีหน้าเศร้าสลดและเสียใจตลอดเวลาที่ได้เป็นภรรยาของเขา ทำเอาแม่ทัพหนุ่มยิ่งมีโทสะ เขาคิดว่านางควรยินดีที่ได้ตัวเขาสมใจแต่นางกลับทำท่าทางเช่นนั้น ทั้งยังพร้อมจะไปจากเขาตลอดเวลา ชายหนุ่มจึงแสดงออกอย่างเกรี้ยวกราดโดยไม่รู้ใจตัวเอง ทั้งอารมณ์ร้ายเพราะหึงหวงและตามใจนางอย่างไม่สนใจว่าใครจะเป็นหรือตาย ขอเพียงนางไม่หายไปทางใด
view moreยามราตรีกาลอันมืดมิด สายลมหนาวเหน็บพัดโชยกรีดอากาศเข้าบาดผิวขาวนวลเนียน ทำให้สองข้างแก้มแห้งตึง
หลิงเวย อยู่ในอาภรณ์สีดำสนิท กำลังเดินอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตามริมระเบียงนอกห้องที่เป็นมุมอับและมืดมิดของโรงเตี๊ยมอี้ฉาง
สถานที่แห่งนี้อยู่ในตัวเมืองของเขตแดนแคว้นเฉิน ที่ปกครองโดยฮ่องเต้เฉินหยางหมิงเซียน นางแอบย่องเข้ามายังที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
มิรู้ได้ว่าทำไมโรงเตี๊ยมแห่งนี้ถึงไม่รัดกุมเอาเสียเลยจนสตรีไร้ฝีมือเช่นนางยังสามารถแอบเข้ามาได้โดยง่าย
หลิงเวยคิดว่าจะแอบเข้ามาพักเพื่อเอาแรงเสียหน่อย ในเวลานี้นางกำลังรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน เรี่ยวแรงที่ใช้เดินทางเริ่มถดถอย หากจะเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแบบโจ่งแจ้ง อาจจะนำมาซึ่งการตามตัวนางให้กลับไป เช่นนั้นแล้วก็มีแต่จะคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น
ในตัวเมืองแห่งนี้โรงเตี๊ยมมีมากมายจนนับไม่ถ้วน ห้องพักย่อมมีมากมายเช่นเดียวกัน มันจึงมิใช่การยากอันใดหากนางจะแอบเข้าไปแล้วแอบเข้าพักห้องใดสักห้องหนึ่ง หากมีคนมาเจอแล้วจับได้ว่านางแอบเข้ามานางเพียงแค่จ่ายเงินไป หากแต่การเข้ามาแบบเปิดเผยอาจจะนำมาซึ่งการถูกถามหาจากคนที่อาจจะแอบตามนางมา ไม่แน่ว่าบิดาของนางอาจจะล่วงรู้แล้วว่านางแอบหนีออกจากจวนมามิได้อยู่เหย้าเฝ้าเรือนเหมือนเช่นเคย
นางตัดสินใจหนีออกจากจวนของนางที่มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีกรมคลังนามว่าหลิงอี้ถัง
เหตุที่ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่าบิดากับฮูหยินใหญ่ที่กาลก่อนเป็นเพียงฮูหยินรองบอกกล่าวถึงเรื่องของการส่งตัวธิดาของตระกูลเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กับราชวงศ์เฉินตามเหตุผลทางการเมือง
แน่นอนว่าเป็นธิดาคนใดก็ได้ในตระกูลที่จะได้สิทธิรับเลือกนั้น แต่ทว่าบิดากลับเจาะจงให้เป็นนาง
และบุคคลที่นางจะต้องแต่งงานไปเป็นหนึ่งในชายาของเขาก็คืออ๋องเฉินนามว่าหยางหลง
ใครๆ ก็รู้ว่าเฉินหยางหลงผู้นี้เจ้าชู้เจ้าสำราญปานใดและในวังของเขาก็มีอนุชายาอยู่แล้วจนเต็มวังหลัง
เช่นนั้นแล้วกับนางที่เป็นบุตรีซึ่งเกิดจากหนึ่งในภรรยาของบิดา เป็นสตรีด้อยค่าภายในจวนของบิดาตลอดมาหลังจากที่มารดาสิ้นใจไป กระนั้นแล้วไยนางต้องยอมให้ประวัติซ้ำรอยอันหม่นหมองเฉกเช่นมารดา
ตั้งแต่นางเกิดมานางต้องทนเห็นมารดาทนช้ำใจทุกเมื่อเชื่อวัน ตั้งแต่นางจำความได้มารดาของนางต้องฝืนยิ้มให้บิดามิรู้ได้ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ต้องอดทนกับความวุ่นวายหลังจวนไม่รู้กี่ครา
ถึงแม้ว่าจะทำตัวดีงามเพียงใดก็ไม่แคล้วถูกดูแคลนและย่ำยีศักดิ์ศรีจากสตรีด้วยกัน กระทั่งมารดาของนางตายไป สีหน้าเศร้าโศกเสียใจยังเป็นแค่การเสแสร้ง หลายนางต่างยิ้มเยาะชอบใจที่มารดาของนางตายจาก นางต้องอยู่อย่างเดียวดายยากลำบากตลอดมา
ในระยะหลายปีมานี้ นางไร้บิดาใส่ใจ ไร้ใครเคียงข้าง แม้แต่บ่าวไพร่ยังช่วยงานดูแลนางแบบขอไปที
ไหนจะบรรดาพี่น้องต่างมารดาอีกเล่า แค่คิดนางก็อยากจะสำรอกโลหิตออกมาเป็นลิ่มๆ แล้ว
หากจะให้นางไปเป็นหนึ่งในชายาของอ๋องเฉินนั่นแล้วมีบุตรออกมาซ้ำรอยชะตานาง นั่นย่อมเป็นการที่สิ้นคิดยิ่งนัก
หลิงเวยคิดถึงเรื่องนี้ด้วยความขัดเคืองในใจอยู่จนตลอดทางเดินตามมุมต่างๆ ของบ้านเรือนภายในตัวเมืองแห่งนี้ที่กำลังมืดดำด้วยราตรียามไฮ่(21.00-22.59น.) นางแอบหนีออกมาจากจวนในเวลายามเซิน(15.00-16.59น.)หลังจากได้ยินเรื่องราวในทันที นี่ก็หลายชั่วยามแล้วกระมังที่นางหนีออกมา
หญิงสาวใช้เวลาใคร่ครวญอยู่ครู่ใหญ่ด้วยดวงตาคู่สวยที่เริ่มหรี่เล็กแคบลงเพราะรู้สึกง่วงงุนเต็มที นางกำลังยืนเอาแผ่นหลังบอบบางแนบกับผนังห้องตรงมุมมืดของซอกหลืบระหว่างห้องพักของโรงเตี๊ยมอี้ฉางแห่งนี้ที่นางแอบเข้ามาได้จนสำเร็จก่อนจะอำพรางตัววูบไหวแทรกกายบางเข้ามายังห้องพักห้องหนึ่ง
อันที่จริงนางมิได้มีวรยุทธใดๆ แต่นางกลับเข้ามาได้น่าแปลกยิ่ง!
แต่ช่างเถิด ในเมื่อนางยืนสังเกตอยู่เป็นนานแล้ว นางมองเข้ามาแล้วเห็นเป็นห้องว่างไม่มีผู้ใดเข้ามาพัก ทั้งยังเป็นห้องหับสะอาดสะอ้านดี ห้องนี้เป็นห้องอยู่ไกลจากห้องอื่นๆ มามากโข นางแอบสังเกตอยู่เป็นนานเห็นมีบรรดาแขกคนอื่นเลือกห้องพักรอบนอกที่มีทิวทัศน์ดีที่ดีกว่านี้ เหลือเพียงห้องนี้ที่อยู่ด้านในสุดลึกสุดจากหลายๆ ห้องถัดออกไปยังบริเวณด้านหน้าที่ไร้แขกคนใดสนใจไม่แม้แต่จะเฉียดเข้ามาใกล้
เอาล่ะ!
หลิงเวยไม่มีการรอช้าไปมากกว่านี้ ก่อนที่ตาของนางจะปิดลง นางเข้ามาภายในห้องไร้ซึ่งใครสนใจเข้าพักแล้วพุ่งกายขึ้นเตียงนอนที่ถูกปิดล้อมด้วยม่านมุ้งมิดชิดในทันทีก่อนดึงผ้าผืนหนาที่อยู่ตรงปลายเตียงมาห่มร่างอย่างสบายใจ
กลิ่นของเทียนหอมและเครื่องหอมภายในห้องพักนี้ก็หอมหวนดี กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกสมองปลอดโปร่งโล่งสบายคล้ายขาวโพลนยิ่งนัก นางนอนพลิกตัวเล็กน้อยจัดท่าเพื่อความสบายเนื้อตัวอีกครู่หนึ่งแล้วหลับใหลไปในเวลาเพียงไม่นาน
นางเหนื่อยเหลือเกิน...
ริมศาลาขนาดเก้าเสากลางบึงสระบัวขนาดใหญ่ภายในจวนแห่งชินอ๋องผู้ครองหัวเมืองหลักของแคว้นเฉินชินอ๋องยังคงอารมณ์ดีมองฟงชินหยางอย่างนึกชมชอบในตัวบุรุษตรงหน้าไม่สร่างซา หากได้เขาคนนี้มาเป็นบุตรเขยเขาคงนอนตายตาหลับเป็นแน่แท้เสียงเพลงพิณยังคงแว่วดังพาทำนองน่าฟังขับกล่อมทุกผู้คนให้ถูกครอบงำด้วยสำเนียงเสียงแว่วหวานกังวานใสเคล้าคลอไปกับอากาศในยามสายของวันสบายๆ ผสมผสานสายลมเอื่อยเฉื่อยที่โลมไล้รอบเรือนกายของบุคคลทั้งหมดที่กำลังยืนอยู่ทางด้านนอกของศาลาอันใหญ่โตโอ่อ่า จู่ๆ เสียงทุ้มห้าวของบุรุษร่างใหญ่กำยำพลันดังทำลายบรรยากาศอันดีงามเสียสิ้น“กระหม่อมมีภรรยาอยู่แล้วนะพ่ะย่ะค่ะ”“...”เสียงนั้นเป็นเสียงของฟงชินหยาง เขาเลือกที่จะเอ่ยกับชินอ๋องตามตรงว่าเขามีภรรยาแล้ว เมื่อในวันนี้ชินอ๋องเองก็เลือกที่จะเอ่ยกับเขาตามตรงเช่นเดียวกัน เขาสังเกตได้ตลอดมาว่าธิดาของชินอ๋องชมชอบเขา หากแต่เขาไม่อาจปฏิเสธออกมาตามตรงได้แต่อย่างใด เนื่องจากจินเยว่ชิงและพระชายาเพียงทำท่าทางก้ำกึ่งตามแบบฉบับสตรีสูงศักดิ์มิได้เปิดเผยความนัยแบบตรงไปตรงมา เขาจึงทำได้แค่เพียงรอเวลานี้เพื่อที่จะให้ชินอ๋องได้ตัดสินใจเอ่ยกับเขาออกมา เขาจ
ในวันนี้ชินอ๋องเฉินจิ้นเหอส่งคนมาเชิญฟงชินหยางให้ไปร่วมดื่มน้ำชาเสวนาพาทีพร้อมเดินหมากล้อมกันตามปกติวิสัย ฟงชินหยางจึงเดินทางไปยังจวนของชินอ๋องในยามสายของวันโดยพาทหารหญิงคนสนิทข้างกายไปด้วยกันตามติดด้วยทหารหน้าบากนายหนึ่งตามไปด้วยอย่างมึนๆบุรุษร่างหนาใบหน้ามีแผลเป็นลากยาวหนวดเครารุงรังผู้นี้ยังคงทำหน้าที่อันหลากหลายได้ดีในทุกๆ วันไม่ว่าจะเป็นองครักษ์พิทักษ์พี่สะใภ้ เป็นหน่วยข่าวกรองไม่เปิดเผยตัวตนให้พี่ใหญ่ ทั้งยังเป็นหน่วยกล้าตายในสังกัดค่ายทหารได้อย่างแนบเนียน หลิงเวยและฟงจินหมิงเดินขนาบข้างมากับฟงชินหยางจนกระทั่งเข้ามายังภายในจวนก่อนจะถูกเชื้อเชิญจากข้ารับใช้ภายในจวนให้เดินตามไปยังทิศทางที่ข้ารับใช้บอกกล่าวว่าชินอ๋องทรงนั่งประทับรออยู่แล้วเป็นนานภายในศาลากลางสระบัวเพียงไม่นานบุคคลทั้งหมดจึงเดินมาถึงศาลาหลังใหญ่ขนาดเก้าเสาหลังหนึ่งตั้งอยู่กลางบึงสระบัวขนาดกว้างขวางเมื่อฟงชินหยางเดินมาจนถึงศาลานั้น เสียงเพลงพิณแว่วหวานส่งสำเนียงทำนองเสียงใสพลันดังกังวานอยู่ภายในศาลาฟงชินหยางถึงกับชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดิน หลิงเวยและฟงจินหมิงเองก็ไม่ต่างกัน ทั้งหมดพากันชะงักงันยืนตรึงอยู่กับท
“อันใดหรือเจ้าคะ” จินฮวาเอ่ยถามทหารหญิงคนสนิทของท่านแม่ทัพฟงในทันทีเมื่อมองเห็นผ้าปักงดงามล้ำค่ามากมายตรงหน้า “สำหรับลูกน้อยของเจ้าที่กำลังจะเกิดมา หวังว่าเจ้าคงไม่รังเกียจ” หลิงเวยบอกกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานจริงใจ“เอ่อ...มันงดงามมากเลยเจ้าค่ะ ไม่ธรรมดาเลย บุตรของข้ามิอาจเอื้อมเจ้าค่ะ” จินฮวาเอ่ยอย่างเกรงใจ ทุกวันนี้ท่านแม่ทัพฟงก็ดูแลพวกเราสองสามีภรรยาเป็นอย่างดีมากแล้ว“ข้ามีเยอะทีเดียว เจ้าอย่าได้เกรงใจ” หลิงเวยยังคงตั้งใจจริงจังในการขอโทษสตรีตั้งครรภ์ตรงหน้าจึงไม่คิดจะยินยอมให้จินฮวาปฏิเสธ “หากเจ้าไม่รับข้าเกรงว่าท่านแม่ทัพคงไม่พอใจ”“อา...เจ้าค่ะ” จินฮวายิ้มจนตาหยีรีบรับผ้าปักทั้งหมดเอาไว้ นางยอมรับว่าชมชอบอยู่ไม่น้อย ฝีมือปักผ้านี้ นางนั่งทำสิบปียังเทียบไม่ได้ “ผ้าปักพวกนี้ใส่ได้ทั้งบุตรสาวและบุตรชาย ไม่ว่าเจ้าจะได้บุตรเป็นชายหรือหญิงย่อมใช้ได้ทั้งหมด” “ขอบคุณแม่นางมากๆ เจ้าค่ะ ขอบคุณจริงๆ”สองสาวเพียงส่งยิ้มให้กันพร้อมเสียงหัวเราะสดใสดังกังวานคุยกันถูกปากถูกคอในเรื่องบุตรที่จะมีในไม่ช้าทำเอาในเวลาต่อมาเป็นฝ่ายบุรุษบ้างที่ต้องกลับกลายเป็นฝ่ายรอให้ฝ่ายสตรีเสวนาพาทีกันจนพอใจ
หลิงเวยสังเกตเห็นอาการตื่นเต้นนั้นของฟงชินหยาง นางจึงเริ่มขมวดคิ้วพันมุ่นเริ่มขัดเคืองฉับพลัน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามคำใด สตรีตั้งครรภ์นางหนึ่งก็เดินนวยนาดเข้ามายังห้องโถงแห่งนี้“ท่านแม่ทัพฟง” เสียงอ่อนหวานของสตรีตั้งครรภ์ดังขึ้นทำให้หลิงเวยยิ่งเพิ่มระดับความขุ่นเคืองมองค้อนฟงชินหยางขวับๆฟงชินหยางเห็นหลิงเวยส่งสายตาสวยหวานพิฆาตมองมาจึงได้แต่เสียวสันหลังวาบๆ อย่างไม่เข้าใจอันใด ไยรู้สึกหนาว!จินฮวาผู้ไม่เข้าใจอันใดในบรรยากาศแปลกประหลาดจึงพาท้องกลมๆ ของตนเองมานั่งยังเก้าอี้บนโต๊ะอาหารตามวิสัยที่เคยกระทำมาเนื่องด้วยว่าท่านแม่ทัพฟงอนุญาตให้นางเป็นกรณีพิเศษ หลิงเวยเห็นสตรีตั้งครรภ์นางนี้ลงนั่งที่โต๊ะอาหารกับฟงชินหยางอย่างนั้นยิ่งเพิ่มระดับความโกรธกรุ่นจึงเอ่ย“ท่านแม่ทัพฟง” น้ำเสียงหวานล้ำแต่กลับแฝงความเย็นเยียบไม่ธรรมดาของหลิงเวยทำเอาฟงชินหยางถึงกับขนลุกชูชันนั่งตัวตรงแข็งทื่อกลายร่างเป็นก้อนหินก้อนใหญ่หลิงเวยยังคงเอ่ย “ท่านบอกแก่ข้าว่าไม่มีภรรยา เห็นได้ชัดว่าท่านโกหก!” ฟงชินหยางเลิกคิ้วคมเข้มขึ้นเล็กน้อยแล้วเอ่ยตอบเสียงเรียบซ่อนคลื่นสั่นไหวในอารมณ์ในแบบที่ไม่เคยเป็นกับใคร “ย่อมเป็น
หลายวันผ่านไป...ภายในค่ายทหารยังคงฝึกหนักเสียงดังโชร้งเชร้งเคล้งคล้างดังเดิม มีการซ้อมเคลื่อนพลเคลื่อนทัพดังเดิม มีการผลิตอาวุธอันทรงพลังตามคำสั่งของท่านแม่ทัพตามเดิม มีกฎระเบียบที่แสนจะเคร่งครัดไม่มีลดหย่อนดังเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมและเพิ่มเติมมาก็คือท่านแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยอยู่เหนือผู้ใดกำลังถูกสตรีอัปลักษณ์นางหนึ่งครอบงำ หลิงเวยยังคงดูแลจัดการเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ดูแลทำแผลที่ได้รับจากการฝึกหนักดูแลเรื่องอาหารการกินให้ฟงชินหยางเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะยังคงตีเนียนทำตัวเป็นเพียงทหารหญิงรับใช้คนสนิทให้เขาโดยหาได้เปิดเผยฐานะจริงๆ ของตนไม่ ด้วยยังคงยึดมั่นในคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีเยี่ยม ในขณะที่ฟงชินหยางก็ยังคงให้ความร่วมมือกับภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน เขาย่อมตามใจภรรยาในทุกๆ เรื่องโดยไม่ถามหาเหตุผลอันใดให้มากความ ในยามกลางวันนางอยากเป็นทหารหญิงรับใช้ให้เขาก็ให้เป็นไป เพียงแต่ในยามค่ำคืนนางต้องตามใจเขาในทุกกระบวนท่าลีลารักที่เขามอบให้ภายในห้องโถงของเรือนท่านแม่ทัพฟงบนโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายหน้าตาน่าทานถูกจัดการเป็นพิเศษเพื่อท่านแม่ทัพฟงแต่เพียงผู้เดียวหลิงเวย
ฟงชินหยางเฝ้ากลืนกินภรรยาตัวน้อยตักตวงความสุขจากร่างบางนุ่มนิ่มพร้อมตอบกลับจัดให้ด้วยความสุขไม่ต่างกันหลิงเวยแหงนหน้าปรือตามองคนตัวใหญ่ด้วยสายตาหยาดเยิ้มฉ่ำน้ำสบเข้าไปในดวงตาคู่คมที่กำลังทอประกายร้อนแรงก่อนถูกเขาปล้นลมหายใจด้วยจุมพิตเร่าร้อนเคล้าคลึงด้วยอารมณ์รัญจวนให้ยิ่งกระพือหวามไหวหัวใจเต้นเร่าๆ แทบทะลุออกมานอกอก ปลายลิ้นของทั้งสองโรมรันพัลวันก่อนจะลากไล้พันกันอีกเพียงครู่แล้วปล่อยออกจากกันเพื่อให้อิสระในการส่งเสียงครางครวญยามเมื่อเส้นทางปลายฝันเริ่มกระชั้นเข้ามาซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็มิรู้ได้ เส้นทางฝั่งฝันระยิบระยับของพวกเขาช่างมีมากเส้นนักหนา พวกเขาไต่เส้นฝันกันทั้งวันทั้งคืนไม่รู้กี่เส้นต่อกี่เส้น กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนเตียงตั่งขาโก่งขางอคนสองคนร่างสองร่างที่กำลังสอดประสานเข้าออกรุนแรงยังคงเร่าร้อนไต่ระดับพายุอารมณ์โดยไม่มีเก็บข่มใดๆกายหนาหยาบแกร่งกระแทกกระทั้นกระตุ้นเร้าให้ร่างบางสั่นสะท้านขึ้นลงไม่หนักไม่เบามอบความกระสันเสียวซ่านสาดเข้าใส่จนมีบางอย่างสาดกระเซ็นคล้ายระลอกคลื่นของสายธารคล้ายลาวาร้อนฉ่าท่วมทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มอ่อนนุ่มจนชุ่มชื้นถึงแม้จะมิได้เอื้อนเอ่ย ถึงแ
หลิงเวยหน้าแดงก่ำไม่สร่างซาเมื่อถูกบุรุษตัวใหญ่หนากระทำตามใจไม่เปลี่ยนแปลงแต่ทว่านางยังคงเชื่อฟังคำสั่งของแม่สามีเป็นอย่างดีถึงการปลอมตัวในครั้งนี้“ท่านไม่ควรทำตัวอย่างนี้กับสตรีแปลกหน้า” หลิงเวยเอ่ยคำเพื่อตักเตือนฟงชินหยางขณะถูกเขาช้อนร่างขึ้นอุ้มแล้วพานางมาวางบนเตียงนอนเตียงเดิมหลังจากที่เขาเข้ามาหานางตามคำเรียกหาแล้วพานางอาบน้ำใส่ผ้าแต่ทว่าเขากลับถอดผ้าของนางออกแล้วอุ้มนางมาที่เตียงนอน นางยังขาสั่นอยู่เลยทำต่อไม่ไหวเสียแล้ว“ลืมเรื่องเมื่อคืนแล้วหรือไร ไยความจำสั้น นี่มิใช่ว่าเราควรทำความรู้จักกันให้มากเข้าไว้หรอกหรือ” ฟงชินหยางยังคงให้ความร่วมมือในการปลอมตัวของภรรยาตัวน้อยเป็นอย่างดีขณะกำลังขึ้นคร่อมนางแบบทั้งตัว“หากว่าเรารู้จักกันแล้วอย่างไร ภรรยาของท่านคงไม่ยินดี” หลิงเวยตีมึนถามเจ้าของแผงอกแข็งตึงที่กำลังเบียดเสียดกับหน้าอกนุ่มๆ ของนางอย่างต้องการลองหยั่งเชิงเขา“อา...ข้าจะบอกว่าอย่างไรดี อืม...” ฟงชินหยางทำท่าคิดหนักบางอย่าง “ข้าควรบอกว่ายังไม่มีภรรยา”“...!”และอีกคราที่หลิงเวยต้องส่งค้อนวงใหญ่ใส่ฟงชินหยางชายหนุ่มไม่สนใจดวงตาสวยใสที่กำลังมองค้อนขวับๆ ตรงหน้า เขายังคงก้มหน
“เจ้าหน้าบาก”“...!”เส้นเสียงทุ้มห้าวคำรามออกมาจากแม่ทัพฟงผู้ยิ่งใหญ่ทำเอาคนถูกเรียกถึงกับหางคิ้วกระดิกมุมปากกระตุกไม่คิดจะถามชื่อแซ่กันเลยรึพี่ใหญ่!ฟงชินหยางยืนถมึงทึงเอ่ยสั่งการเสียงดังไปทางบุรุษตัวโตที่ใบหน้ามีหนวดเครารุงรังพร้อมรอยแผลเป็นลากยาวที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่กลางลานกว้าง “เจ้าจงตามไปไต่สวนห้าคนนี้ร่วมกับรองแม่ทัพจิ่น เข้าใจหรือไม่เจ้าหน้าบาก”ฟงจินหมิงจึงลุกขึ้นยืนนิ่งๆ จ้องมองฟงชินหยางด้วยมาดไม่ธรรมดาพร้อมสายตาคมกล้าเอ่ยออกมา “ขอรับท่านแม่ทัพฟง”ฮึ่ม! ชื่อเจ้าหน้าบากก็ได้!“ออกไปให้หมด!” แม่ทัพหนุ่มคำรามอีกคราพาเอาเหล่าทหารกล้ารีบประสานมือเสียงดังพรึ่บพั่บก้มหัวคำนับแล้วรีบหมุนตัวจากไปอย่างไวฟงชินหยางจึงเดินตรวจตราภายในค่ายตามวิสัย ทุกทิศที่สายตาคมปลาบมองปราดไป เหล่าทหารทั้งหลายได้แต่อกสั่นขวัญแขวนรีบตรึงตัวขึงขังทำหน้าที่รับผิดชอบของตนเองอย่างเต็มกำลังคนใดฝึกยิ่งฝึกหนัก คนใดแบกหามยิ่งแบกหาม คนใดกวาดลานยิ่งกวาดลาน คนใดแอบหลับยิ่งต้องตื่นเต็มตาหาไม่แล้วคงไม่แคล้วได้หลับไปตลอดกาล ความเจ้ากฎเจ้าระเบียบเที่ยงตรงไม่อาจดูแคลน ความโหดเหี้ยมแต่เปี่ยมไปด้วยความเที่ยงธรรมไม่อา
บนเตียงนอนหนานุ่มภายในห้องนอนของเรือนประจำตำแหน่งแม่ทัพหลิงเวยสะลึมสลือตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดหัวตุบๆ รู้สึกพะอืดพะอมทั้งยังอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมากมายนักนางพยายามหยัดกายลุกขึ้นนั่งพลันรู้สึกเจ็บแปลบตรงกลางหว่างขาและยิ่งปวดหนึบยิ่งกว่าตั้งแต่ช่วงเอวลงไปนางรู้สึกคล้ายเอวจะเคล็ดเสียด้วยอา...สะโพกระบมไปหมดผิวเนื้อของนางถึงขั้นบวมน้ำเลยเชียวหญิงสาวนั่งระลึกถึงเรื่องราวเมื่อยามค่ำคืนอันร้อนแรงถึงจิตถึงใจกับฟงชินหยางสามีของนางนางพอจะจำได้เลือนรางว่านางรู้สึกแปลกๆ หลังจากที่ดื่มเหล้าของเขาเข้าไปหลังจากนั้นบนเตียงนอนนี้นางก็ถูกเขาจัดการเสียหลายท่าไม่ว่าจะเป็น นอนหงายฉีกขา นั่งผสานชันเข่า นอนคว่ำโก่งโค้ง นอนคว่ำคร่อมหลัง คลานเข่าเดินหน้า กึ่งนอนที่ขอบเตียง กระทั่งท่ายืนหันหน้าหันหลัง เขาขืนใจนางได้ทุกท่วงท่าด้วยลีลาร้ายกาจ แต่...อืม...หรือว่าเป็นนางที่ขืนใจเขาหลิงเวยสลัดศีรษะเบาๆ กะพริบตาขึ้นลงไล่ความมึนงงให้หลุดออกไป เห็นได้ชัดว่าในเหล้านั้นมียาบางอย่าง หากนางไม่เป็นคนดื่มมันแน่นอนว่าคนที่ดื่มมันย่อมต้องเป็นฟงชินหยางและหากว่านางมิได้เข้ามาแทรกกลางแน่นอนว่าคนที่มานอนที่เตียงนี่ย่
Mga Comments