เมื่อบุรุษที่หมายปองมีใจให้กับสตรีอื่น และสตรีผู้นั้นก็เป็นถึงสหายรักของตน เฉินเส้าหว่านจึงรับอาสาเป็นแม่สื่อให้กับเขา พร้อมกับหาทางพิชิตใจชายในดวงใจให้สำเร็จ
view moreบทที่ 1 เร่งรัด
“ปึง...” เสียงตบโต๊ะดังสนั่นไปทั่วตำหนักของฮองเฮา เม่งฉีเต๋อถึงกับบันดาลโทสะอย่างหนัก ใบหน้าของนางแดงก่ำแล่นริ้วไปทั่วร่างของหญิงวัยกลางคน สายตาของนางยังคงจ้องหน้าบุตรชายคนโต “หงเฟยหย่า” รัชทายาทของแคว้นเจี้ยนอย่างเหลืออด
“นี่เจ้าคิดจะทำให้ข้าอกแตกไปเลยเช่นนั้นหรือ” เสียงตวาดด้วยความโมโหและร้อนใจจนถึงกับแผดเสียงออกมา
หงเฟยหย่าถอดทอนหายใจพร้อมกับเบือนหน้าอย่างรู้สึกเหนื่อยใจยิ่งนัก แต่เขาก็ยังคงยืนนิ่งอย่างสงวนท่าทีเช่นเคย “เสด็จแม่ ข้าบอกท่านหลายครั้งแล้วว่าข้ายังไม่มีความคิดที่จะแต่งงานในเวลานี้”
“แต่นี่เจ้าอายุยี่สิบห้าแล้วนะ องค์ชายคนอื่นๆ ต่างมี สตรีในวังหลังมากมาย...แล้วดูเจ้าสิ วังหลังของเจ้านั้นกลับว่างเปล่าไร้ซึ่งกระทั่งสาวใช้อุ่นเตียงแม้สักคนเดียว”
“โธ่...เสด็จแม่ ท่านอย่าได้เป็นกังวลกับข้าเช่นนี้เลย หากวันใดข้าพบคนที่ต้องใจแล้วละก็ ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่มีวันปล่อยคนผู้นั้นไปเป็นแน่” หงเฟยหย่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ดวงตารีเรียวราวกับเหยี่ยวหรี่ลง สองคิ้วขมวดแน่นด้วยความตึงเครียดพร้อมกับจ้องมองมารดาของตนอย่างต้องการให้นางเลิกคาดคั้นเขาเสียที
หลิวรั่วอัน องครักษ์ข้างกายของหงเฟยหย่าก้มหน้าพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาอย่างนึกขบขันกับคำกล่าวของชายหนุ่มตรงหน้า ตั้งแต่เขารู้จักกับหงเฟยหย่ามาก็ไม่เคยเห็นเขาปรายตามองหญิงสาวคนใดแม้แต่น้อย แต่เขากลับกล่าวคำมั่นราวกับพบคนที่ถูกใจเสียแล้ว
หงเฟยหย่าหรี่ตาลงพร้อมกับปรายตามองหลิวรั่วอันด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะหันกลับไปหามารดาเช่นเคย
หลิวรั่วอันได้แต่เม้มปากลงและก้มหน้าลงต่ำอย่างสงบเสงี่ยมอีกครั้ง
“เจ้าก็ลองดูก่อนเถิด...วันก่อนข้าได้เจอคุณหนูซางหว่านถิง บุตรสาวของใต้เท้าซาง ข้าดูแล้วนางนั้นหน้าตาหมดจด กริยาท่าทางล้วนแล้วแต่เหมาะสมกับเจ้ายิ่งนัก แม้เวลานี้เจ้าจะยังมิได้คิดผูกสมัครรักใคร่กับนาง แต่อย่างน้อย เจ้าก็ควรหาเวลาทำความรู้จักกันเสียก็มิได้เสียหายอันใด” เม่งฉีเต๋อยังคงเกลี้ยกล่อมบุตรชายอีกครั้ง ตำแหน่งรัชทายาทนั้นหากมิมีทายาทสืบสายเลือดเช่นนั้นจะมั่นคงได้เช่นใด
“เสด็จแม่...สตรีเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ไร้แก่นสาร ท่านอย่าได้บังคับข้าอีกเลย” หงเฟยหย่ายังคงยืนกรานเช่นเดิมโดยมิได้สนใจมารดาที่เวลานี้นางได้ควันออกหูอีกครั้ง เมื่อถูกบุตรชายขัดใจอย่างไม่ไว้หน้า
หงฟางซินที่ยืนอยู่ด้านข้างก็รีบปรี่เข้ามานั่งด้านข้างมารดาพร้อมกับบีบมือนางอย่างต้องการแก้สถานการณ์ที่กำลังจะปะทุอีกครั้ง “เสด็จแม่...นานทีพวกเราจะอยู่กันพร้อมหน้า วันนี้ข้าว่าเรื่องนี้พอแค่นี้ก่อนเถิด” ชายหนุ่มรีบเฉไฉเปลี่ยนเรื่องในทันที นี่เป็นครั้งที่กี่หนแล้วที่เขาต้องยืนฟังมารดาและพี่ชายทุ่มเถียงกันเกี่ยวกับเรื่องสตรีในตำหนักหลังของพี่ชายของตน
“เจ้าก็อีกคน เวลานี้เจ้าก็อายุเหมาะสมแล้ว ข้าจะต้องรีบหาสตรีที่คู่ควรให้กับเจ้าเสียที จะได้ไม่ต้องเหมือนพี่ชายเจ้า ที่เอาแต่ล่องลอยเช่นนี้” เม่งฉีเต๋อมิวายหันมาแหวใส่บุตรชายคนเล็กอีกครั้ง
หงฟางซินได้แต่ทำหน้าเหวอขึ้นมา เมื่อจู่ๆ มารดาวกกลับมาหาเรื่องเขาแทนพี่ชายไปเสียได้
หงเฟยหย่าได้แต่กลั้นหัวเราะอย่างหนัก แต่ก็มิวายหันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้กับน้องชายอย่างนึกชอบใจ
หงฟางซินได้แต่เบ้ปากอย่างนึกขัดเคืองที่เขาต้องมาพลอยโดนหางเลขจากมารดาไปอีกคน “เสด็จแม่...ท่านโมโหเสด็จพี่แล้วเหตุใด ท่านจึงมาลงที่ข้าเล่า” ชายหนุ่มมิวายบ่นกระปอดกระแปดออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ไม่รู้แหละ เอาเป็นว่าข้าจะจัดงานชมดอกไม้ ข้าตั้งใจจะเชิญเหล่าสตรีในเมืองหลวงมาร่วมงานเลี้ยง พวกเจ้าสองคนก็จงเตรียมตัวไว้ให้ดี” เม่งฉีเต๋อกล่าวตัดบทอย่างเอาแต่ใจ นางหมายมาดอย่างแรงกล้าว่าจะต้องหาคู่ครองที่เหมาะสมให้แก่บุตรชายทั้งสองของนางให้จงได้
เสียงพ่นลมหายใจดังลึกขึ้นมา หงเฟยหย่าได้แต่เม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นอย่างไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงกับมารดาของตนต่อไปอีก “เสด็จแม่ ข้ายังราชกิจที่ต้องดูแล เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน เอาไว้วันหน้าข้าจะหาเวลามาเยี่ยมท่านในคราวหลัง”
หงเฟยหย่ากล่าวจบก็โค้งตัวคำนับลามารดาในทันที เขาหันกายกลับพร้อมกับปรายตาไปยังหลิวรั่วอันอย่างให้สัญญาณ “กลับได้แล้ว”
สิ้นคำสั่งหลิวรั่วอันก็รีบโค้งกายคำนับลาเม่งฉีเต๋อและหงฟางซินอย่างเร่งรีบ พร้อมกับก้าวเท้าตามหลังเจ้านายของตนออกจากตำหนักไปเช่นกัน
“นี่เจ้าดูสิ...ดูสิ่งที่พี่ของเจ้าทำกับข้า...ข้าพูดเรื่องนี้ทีไร พี่ของเจ้าก็ทำท่าหุนหันหนีหน้าข้าไปเสียทุกครั้ง แล้วเช่นนี้เมื่อไหร่พี่ของเจ้าจะได้แต่งงานเสียที” เม่งฉีเต๋อแทบจะลุกขึ้นเต้นเร่า เมื่อเห็นว่าบุตรชายคนโตฉวยจังหวะหลบหน้านางอีกครั้ง
หงฟางซินได้แต่ทำหน้าเลิกลักขึ้นมาอย่างทำตัวไม่ถูก เมื่อจู่ๆ พี่ชายก็หนีเอาตัวรอดไปเสียเช่นนั้น เขาหันไปยิ้มเจื่อนให้กับมารดาอีกครั้ง “เสด็จแม่ ท่านก็รู้ว่าเสด็จพี่ย่อมมีความคิดอ่านเป็นของตนเอง เสด็จแม่ก็อย่าได้ทำให้เสด็จพี่ต้องลำบากใจอีกเลย”
“เจ้าจะไปรู้อันใด พี่ชายของเจ้าเป็นถึงรัชทายาท แต่จนถึงบัดนี้กลับยังมิมีทายาทแม้แต่คนเดียว เช่นนั้นต่อไปตำแหน่งของเขาจะมั่นคงได้เช่นใดกัน”
“เสด็จแม่อย่าได้เป็นกังวลเลย ไม่แน่ว่าเสด็จพี่ อาจจะพบเจอกับหญิงสาวที่ถูกใจเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ เสด็จแม่ก็โปรดรออีกสักหน่อยเถิด” หงฟางซินยังคงเกลี้ยกล่อมมารดาให้ใจเย็นลง เขานั้นรู้ดีว่าพี่ชายของตนนั้นทั้งเย่อหยิ่งและทะนงมากเพียงใด หากเขาคิดสิ่งใดแล้ว เขาย่อมไม่แปรเปลี่ยนเป็นแน่
“เจ้าก็อย่ามาพูดเข้าข้างพี่ชายของเจ้าให้ข้าต้องอารมณ์เสียอีกเลย” เม่งฉีเต๋อค้อนขวับใส่บุตรชายคนเล็กของตนอีกครั้ง
หงฟางซินได้แต่ยิ้มเจื่อนด้วยความจนใจอีกครั้ง “เช่นนั้นข้าขอตัวลาก่อน เสด็จแม่โปรดรักษาพระวรกายด้วย” ชายหนุ่มกล่าวจบก็รีบล่าถอยออกไปอีกคน
ตอนที่ 58 ความจริงดั่งฝัน หลังจากกลับมาจากการเยี่ยมเยียนเจียงอันเล่อที่สกุลหาน หงฟางซินก็นิ่งเงียบไปจนตลอดทาง สายตาดูเหม่อลอยออกไปพร้อมกับเสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นเป็นระยะๆ เฉินเส้าหว่านจ้องมองชายหนุ่มอย่างผิดสังเกต แต่นางก็ไม่อยากเซ้าซี้เขาให้รู้สึกรำคาญใจ ดังนั้นนางจึงยังรักษาอาการเอาไว้ และพยายามขบคิดอย่างหนักว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายหนุ่มกันแน่ ภายในห้องนอนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำยาน หงฟางซินถอดเสื้อตัวนอกออก พร้อมกับปลดสายคาดเอวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขานั่งลงบนโต๊ะ มือหนึ่งยกถ้วยชาขึ้นจิบ พลางทอดสายตามองออกไปด้านนอกด้วยความรู้สึกหวิวโหวงอย่างบอกไม่ถูก “พี่เฟย...ท่านเป็นอันใดไป เหตุใดตั้งแต่กลับมาจากจวนสกุลหานถึงได้ดูเคร่งขรึมเช่นนี้” เฉินเส้าหว่านที่อดรนทนไม่ไหวจึงเอ่ยทักออกมา เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่สู้ดีของสามี “ตอนนี้ใต้เท้าหานก็มีบุตรชายบุตรสาวเป็นของตัวเองแล้ว แต่ว่าข้ากลับยังไร้วี่แวว” หงฟางซินบ่นอุบออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ยิ่งได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของหลานทั้งสอง เขาก็ยิ่งรู้สึกอิจฉาขึ้นมาจับใจ “พี่เฟย...ท่านอย่าคิดมาก
ตอนที่ 57 มิพรากจาก ยามรุ่งสางของวัน หลิวรั่วอันปรือตาตื่นขึ้น เขานั้นราวกับอยู่ในความฝัน เมื่อร่างกายรู้สึกถึงสัมผัสที่เล้าโลมขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มขยับกายดิ้นรนด้วยความรู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วร่าง และเมื่อตื่นเต็มตา เขาก็ได้เห็นหงเฟยหย่าที่กำลังคลอเคลียอยู่บนตัวเขาไม่ห่าง “เฟยหย่า...เจ้าคนลามก” เสียงโวยวายดังขึ้นอีกหน สองมือพยายามปัดและผลักไสคนบนร่างออกห่าง “เมื่อคืนข้าตามใจเจ้าแล้ว เช้านี้เจ้าตามใจข้าสักครั้งไม่ได้หรือ” หงเฟยหย่ากระซิบเสียงสั่นอย่างออดอ้อนออเซาะ ท่าทางเช่นนี้ยิ่งทำให้หลิวรั่วอันเริ่มโมโหขึ้นมาอีกครั้ง “เมื่อคืนเจ้าทำข้าจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว...นี่เจ้าคิดจะทำอยู่อีกหรือ...หรือเจ้าอยากให้ข้าตายไปเสีย” หงเฟยหย่าทำหน้าสลดลงไป เขาทอดสายตามองหลิวรั่วอันอย่างนึกน้อยใจ “ข้าผิดหรือที่ข้ารักเจ้ามากเกินห้ามใจ...ข้ายอมทิ้งทุกสิ่งเพื่อมีเจ้าอยู่เคียงข้าง...แต่แค่เวลาไม่ถีงปี เจ้ากลับเบื่อหน่ายและรำคาญข้าเช่นนี้” หงเฟยหย่าโอดครวญอย่างมีมารยา หลิวรั่วอันสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างพยายามหักห้ามอารมณ์ นี่นับเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเชียว ที
ตอนที่ 56 เคียงกัน ลมหนาวจากเทือกเขาฉางหลงพัดวูบผ่านสายลม ลมเย็นโบกพัดสัมผัสใบหน้าคมเข้มจนรู้สึกได้ถึงความเย็นเยือกที่กำลังมา เสียงฝีเท้าของม้ายังคงย่ำก้าวไปตามทางอย่างต่อเนื่อง บุรุษสองคนควบขี่ม้าเคียงกันไปราวกับภาพวาด “เฟยหย่า...ข้าว่าเราควรพักที่โรงเตี๊ยมด้านหน้าเสียก่อน” เสียงเข้มของหลิวรั่วอันดังขึ้น พร้อมขยับชายเสื้อเข้าหาตัวด้วยความรู้สึกเหน็บหนาว “ข้าตามใจเจ้า” หงเฟยหย่าตอบกลับอย่างว่าง่าย พร้อมเร่งบังเหียนควบขี่ไปยังโรงเตี๊ยมที่อยู่ด้านหน้า บุรุษทั้งสองลงจากหลังม้าก้าวเข้าไปด้านในโรงเตี๊ยม หลิวรั่วอันหยิบตำลึงในชายเสื้อยื่นให้กับเถ้าแก่ “ห้องพักหนึ่งห้อง พักสองคน” เมื่อได้รับเงินดังกล่าว เถ้าแก่ก็รีบพาคนทั้งสองไปยังห้องพักที่อยู่ด้านบนสุด หลังจากที่หงเฟยหย่าหลบลี้ตนเองออกจากความวุ่นวาย เขาก็ออกเดินทางพร้อมกับหลิวรั่วอันไปยังสถานที่ต่างๆ บ้างก็หยุดพักแรม บ้างก็อยู่ชั่วคราว แต่เมื่อมีคนเริ่มจับสังเกตได้ พวกเขาก็ออกเดินทางต่อไปอย่างไม่มีจุดหมาย ห้องพักของโรงเตี๊ยมอยู่ชั้นบน แม้จะไม่หรูหราสะดวกสบายมากนัก แต่ก็สะอาดสะอ
ตอนที่ 55 จดหมายลึกลับ หลังพิธีแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของหงฟางซินกับเฉินเส้าหว่านผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน ภายในตำหนักของหงฟางซินก็คึกคักขึ้นอีกครั้ง เมื่อหงจูเหลียงมีราชโองการแต่งตั้งหงฟางซินขึ้นเป็นรัชทายาทแห่งแคว้นเจี้ยน และแต่งตั้งเฉินเส้าหว่านเป็นพระชายารัชทายาท ราชโองการถูกประกาศออกไปโดยถ้วนหน้า เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างพากันแวะเวียนมาเยี่ยมและแสดงความยินดีต่อรัชทายาทคนใหม่ ผู้ที่จะขึ้นเป็นฮ่องเต้ในอนาคต เม่งฉีเต๋อเองก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าโปรดปรานลูกสะใภ้ของตนมากเพียงใด นางไม่เพียงมอบเครื่องประดับและข้าวของอันมีค่ามากมายให้แก่เฉินเส้าหว่าน แต่ยังออกปากอย่างหนักแน่นว่าหากมีผู้ใดกล้าลบหลู่ลูกสะใภ้ของตน นางจะจัดการอย่างเด็ดขาด แม้อยากตายก็มิอาจตายได้ นั่นยิ่งทำให้เฉินเส้าหว่านกลายเป็นสตรีสูงศักดิ์ที่มีแต่คนเคารพและยำเกรง แม้กระทั่งจวนสกุลเฉินเองที่เคยเงียบเหงา บัดนี้กลับเต็มไปด้วยกลุ่มคน ทั้งขุนนางและพ่อค้าที่พากันมาร่วมยินดีกับเฉินกวนซีและเฉินซูเถิงที่ได้เป็นถึงพ่อตาแม่ยายของรัชทายาทแห่งแคว้น สกุลเฉินจึงมีหน้ามีตาขึ้นมาในชั่วพริบตา สร้างความปลาบปลื้มใจให
ตอนที่ 54 คืนเข้าหอ หลังจากความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง เฉินเส้าหว่านก็ยังนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิม ความประหม่าและเขินอายเข้ามาแทนที่ สองมือเรียวกำชายกระโปรงแน่นจนเนื้อผ้าแทบจะฉีกขาด ปลายนิ้วสั่นระริกอย่างไม่รู้จะทำตัวเช่นใด หงฟางซินโน้มใบหน้าเข้าหาหญิงสาว “เจ้าสวยเหลือเกิน...” เสียงทุ้มของเขาดังขึ้นเบาๆ ทำเอาหญิงสาวถึงกับสะท้านไหว เฉินเส้าหว่านสบตากับชายหนุ่มในที่สุด น้ำเสียงสั่นพร่าดังแผ่วออกมา “พี่เฟย...” หงฟางซินเอื้อมมือแตะมือบางของเธออย่างเชื่องช้า ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าหาหญิงสาวอีกครั้ง ริมฝีปากประกบลงบนริมฝีปากบางอย่างหิวโหย ลิ้นร้อนดูดดื่มเกี่ยวพันด้านในอย่างรุกล้ำรุนแรง เฉินเส้าหว่านหอบหายใจอย่างยากลำบาก สองมือบีบกำไหล่กว้างของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ลำแขนของหงฟางซินค่อยๆ โอบกระชับร่างบางเข้ามาแนบไว้ที่แผงอก เฉินเส้าหว่านสั่นเทาเล็กน้อย แต่นางก็มิได้ขัดขืนสัมผัสอันเรียกร้องและเร่าร้อนนั้นแต่อย่างใด นางกลับทำเพียงยกแขนขึ้นโอบรอบลำคอของเขา ตอบรับจูบนั้นด้วยความเต็มใจ เมื่อริมฝีปากของทั้งสองค่อยๆ ผละจากกัน ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาว
ตอนที่ 53 พิธีแต่งงาน หลังจากที่หงฟางซินปรับความเข้าใจกับเฉินเส้าหว่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในวันรุ่งขึ้นหงฟางซินก็รีบส่งจดหมายไปยังมารดาของตนโดยทันที เกี้ยวของฮองเฮาออกเดินทางตรงไปยังจวนสกุลเฉินอย่างยิ่งใหญ่เปิดเผย เฉินกวนซีจำต้องรีบออกมาต้อนรับฮองเฮาอย่างมิอาจเลี่ยงได้ “ใต้เท้าเฉิน...เชิญตามสบายเถิด” เม่งฉีเต๋อกล่าวออกมาเมื่อนั่งลงภายในห้องโถง เฉินกวนซีและเฉินซูเถิงแสดงสีหน้าอย่างกระอักกระอ่วนใจ “ข้ามาในวันนี้คงมิได้เป็นการรบกวนพวกท่านหรอกนะ” คำกล่าวทักดังกล่าวทำเอาคนทั้งสองได้แต่โค้งกายลงอย่างนอบน้อม “หามิได้พ่ะย่ะค่ะ” “ข้ามาในวันนี้เนื่องจากมีเรื่องสำคัญจะปรึกษากับพวกท่าน...เส้าหว่านเป็นหญิงสาวที่ข้ารักและเอ็นดูยิ่งนัก ข้าจึงอยากสู่ขอนางให้เป็นพระชายาขององค์ชายเก้า พวกท่านมีความเห็นเป็นเช่นใด” เม่งฉีเต๋อกล่าวความต้องการอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงนั้นดูราบเรียบแต่ทว่าฉายแววบีบคั้นอยู่ในที เฉินกวนซีมองหน้าภรรยาอย่างเลิ่กลั่ก เขารู้สึกงุนงงกับท่าทีของหงฟางซินยิ่งนัก เหตุใดก่อนหน้าจึงได้ตัดสัมพันธ์อย่างแล้งน้
Mga Comments